|
เธอคือทาสหัวใจของฉัน: Chapter 27 สิ่งที่เป็นไปได้และสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ PART II
เมื่อเดรโก มัลฟอยลงไปที่ห้องอาหารตามคำสั่งของพ่อ เด็กหนุ่มก็พบว่านายลูเซียสนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่แล้ว ใบหน้าแบบเดียวกับเดรโกหากแต่มีอายุมากกว่าซ่อนอยู่ด้านหลังหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ต และเมื่อเห็นว่าลูกชายของเขาเดินเข้ามาในห้องอาหาร นายมัลฟอยก็ลดหนังสือพิมพ์ในมือลง เขารอจนเด็กหนุ่มเดินมาถึงที่โต๊ะอาหารก่อนแล้วจึงพูดขึ้น
อรุณสวัสดิ์ แกเป็นยังไงบ้าง นายลูเซียสพูดพลางคนชาของตัวเองราวกับเขากำลังถามลูกชายว่าเมื่อคืนเด็กหนุ่มนอนหลับดีหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเดรโกก็รู้ดีว่าพ่อเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ได้เห็นสายตาของนายลูเซียสที่มองมาทางเขา
ผมสบายดีครับ ไม่เจ็บแผลเท่าไหร่แล้ว เด็กหนุ่มพูดขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้
งั้นก็ดี ชายผมบลอนด์กล่าวก่อนจะเริ่มหยิบมีดและส้อมขึ้นมา เซเวอร์รัสจะมาที่นี่ก่อนเก้าโมงเพื่อมาส่งแกเดินทาง แกเก็บของเสร็จเรียบร้อยหรือยัง เขาถาม
เรียบร้อยแล้วครับ เดรโกตอบก่อนจะเริ่มทานอาหารเงียบ ๆ
แล้วนังเลือดสีโคลนนั่นล่ะ แกสั่งให้มันเตรียมตัวแล้วใช่ไหม เสียงของนายลูเซียสฟังดูแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีเมื่อเขาพูดถึงเด็กสาวที่อยู่ในฐานะทาสของลูกชาย ใบหน้าขาวซีดของชายผมบลอนด์กระตุกอย่างรังเกียจราวกับเธอไม่มีค่าพอที่จะให้เขาใช้ริมฝีปากของเขาเอ่ยถึงเธอออกมา
เรียบร้อยแล้วครับ ผมหมายความว่าผมสั่งให้เธอเตรียมตัวแล้ว เด็กหนุ่มพูด เขาพยายามรักษาสีหน้าให้ดูปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะแน่ใจว่าพ่อของเขาจะไม่เห็นอะไรผิดปกติจนไม่ยอมให้เฮอร์ไมโอนี่เดินทางไปกับเขาด้วย
ฉันไม่ชอบความคิดนี้ของแกเลย เดรโก นายมัลฟอยพูดขึ้น ที่แกจะให้นังเลือดสีโคลนนั่นเดินทางไปด้วย เขากล่าวพลางเงยหน้าขึ้นมองลูกชาย
แต่พ่อก็อนุญาตให้ผมพาเธอไปรับใช้ไม่ใช่หรือครับ เด็กหนุ่มพูดเรียบ ๆ แต่พยายามเน้นถึงวัตถุประสงค์ในการเอาตัวเฮอร์ไมโอนี่ไปด้วยขณะที่สบตาบิดา ส่วนนายลูเซียสนั้นก็ขยับตัวอย่างอึดอัดอยู่บนเก้าอี้เพราะคำพูดของลูกชาย
ที่ฉันอนุญาตให้แกเอามันไปก็เพราะแกรบเร้าฉันเองต่างหากล่ะ แถมเซเวอร์รัสก็ยังช่วยแกพูดเรื่องมันอีกด้วย เขาพูดด้วยท่าทีโกรธ ๆ จนทำน้ำชากระฉอกออกจากถ้วยขณะที่เขายกมันขึ้นจิบ แต่เดรโกยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยอยู่
ผมรับรองครับพ่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่พ่อกลัวขึ้นอย่างแน่นอน พ่อก็น่าจะรู้นี่ครับว่านังเลือดสีโคลนนั่นไม่มีทางจะหนีผมไปไหนได้ เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม แม้ว่าเขาจะไม่ชอบที่จะต้องเรียกเฮอร์ไมโอนี่ว่า เลือดสีโคลน มากแค่ไหนก็ตาม แต่เดรโกก็รู้ดีว่าเขาจำเป็นจะต้องทุกอย่างเพื่อให้พ่อเชื่อว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่มีความสำคัญอะไรสำหรับเขาเลย นอกเสียจากเป็นทาสที่ต่ำต้อยซึ่งมีหน้าที่รับใช้และให้ความสุขแก่เด็กหนุ่มเท่านั้น แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่มัลฟอยคิดเมื่อเขาพบว่าพ่อของเขาหันมาจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยราวกับว่าเขากำลังแคลงใจในสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา
ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของแกหรอกนะเดรโก แต่ฉันแค่รู้สึกว่าแกดูจะปกป้องนักเด็กนั่นมากเกินไปหน่อย นายลูเซียสกล่าวด้วยน้ำเสียงคาดคั้น ขณะที่เดรโกรู้สึกว่าหัวใจของเขาแกว่งวูบ เด็กหนุ่มเกือบจะสำลักชาของเขาเพราะคำพูดของพ่อ แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาสีหน้าและท่าทีให้เป็นปกติ
พ่อหมายความว่ายังไงครับ เขาถามขึ้นอย่างเกรง ๆ และเมื่อจับได้ว่าน้ำเสียงของเขาสั่นยามพูดออกมาเดรโกก็ได้แต่ภาวนาให้พ่อมองไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ ทั้งในน้ำเสียงและสีหน้าของเขา
ฉันแค่สังเกตุว่าแกดูจะปกป้องนังเด็กนั่นมากเกินไป และการที่แกต้องการจะเอามันเดินทางไปด้วยแบบนี้...... ชายผมบลอนด์กล่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิดพลางวางมีดกับส้อมลง ขณะที่เด็กหนุ่มแทบจะกลั้นหายใจขณะที่รอฟังคำพูดต่อไปของพ่อ
ฉันคิดว่าแกไม่ได้มีจุดประสงค์จะพามันไปเพื่อรับใช้อย่างเดียวใช่ไหม เดรโก นายลูเซียสกล่าวออกมาในที่สุด ก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาของลูกชายราวกับจะบอกว่าเขารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ขณะที่ใบหน้าของเดรโกขาวซีดราวกับกระดาษ มือที่กำลังจับส้อมของเขากำแน่นจนข้อนิ้วของเขาขาวโพลน
ผม....... เด็กหนุ่มพูดได้เพียงเท่านั้นก่อนจะเงียบไป และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อาจหาข้ออ้างอะไรมาโกหกพ่ออีกต่อไปได้
ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็เถอะ แต่ฉันก็เข้าใจแกอยู่บ้างในเรื่องนี้ อย่างน้อยฉันก็เป็นผู้ชายเหมือนกับแก นายลูเซียสพูดออกมาสั้น ๆ ขณะที่เดรโกมองพ่อของเขาอย่างแปลกใจ
พ่อว่าอะไรนะครับ เด็กหนุ่มถามออกทันที พ่อคิดว่าเหตุผลที่เขาต้องการให้เฮอร์ไมโอนี่เดินทางไปด้วยเป็นเพราะเขาขาดผู้หญิงไม่ได้อย่างนั้นหรือ แน่นอนว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเดรโกไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เด็กหนุ่มก็รู้สึกโล่งอกไม่น้อยที่พ่อยังไม่ล่วงรู้ความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อเฮอร์ไมโอนี่
ผม........ ก่อนที่เดรโกจะสารภาพออกไปว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่พ่อของเขาคิด นายลูเซียสก็ชิงพูดขึ้นก่อน
อันที่จริงฉันก็ไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้กับแกเท่าไหร่หรอกนะ น้ำเสียงของชายผมบลอนด์บ่งบอกได้ว่าเขาเองก็อึดอัดไม่น้อยที่จะต้องมาพูดเรื่องนี้กับลูกชาย ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกต้องการเก็บนังเลือดสีโคลนนั่นไว้เพื่อแก้แค้น แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าแกแก้แค้นมันด้วยวิธีไหนหลังจากที่เอลฟ์บอกฉันว่าระยะหลังมานี่แกแทบไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องของแกเลย เด็กหนุ่มรู้สึกชาไปทั่วร่างราวกับคำพูดของพ่อเป็นน้ำเย็นจัดที่สาดใส่ร่างกายของเขา
พ่อ! เขาพูดออกมาอย่างตกใจ แต่นายลูเซียสกลับทำท่าทางให้เขาเงียบหลังจากนั้น
ฉันรู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นในบ้านของฉันบ้าง เดรโก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับลูกชายของฉัน ชายผมบลอนด์พูดพลางมองเด็กหนุ่มด้วยแววตาคมกริบซึ่งเป็นแววตาแบบมัลฟอยของแท้ ขณะที่ลูกชายของเขากลืนน้ำลายอย่างกดดัน
แต่ฉันก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่แกจะแก้แค้นนังเลือดสีโคลนนั่นด้วยวิธีที่เจ็บปวดที่สุด เขาพูดราวกับเขาไม่รู้สึกรู้สาในสิ่งที่ลูกชายได้ทำไว้กับเฮอร์ไมโอนี่ ตราบเท่าที่เดรโกทำมันลงไปเพราะเขามีจุดประสงค์เพื่อแก้แค้นเธอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ฉันเคยบอกแกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามันเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร เขาถามพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของลูกชาย ขณะที่เด็กหนุ่มพยายามตอบเขาออกมาด้วยท่าทีที่ปกติมากที่สุด
ครับ
แล้วแกได้ป้องกันไว้แล้วใช่ไหม เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะเรียกได้ว่าคาดคั้น และคราวนี้เดรโกก็ตอบด้วยท่าทีที่มั่นใจมากกว่าเดิม
ครับ ผมให้เธอดื่มยา แต่เธอไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยาอะไร ผมให้เอลฟ์ผสมมันลงในยาบำรุง เขาตอบออกมา รู้สึกอับอายไม่น้อยที่ต้องมาคุยเรื่องแบบนี้กับพ่อของตัวเอง แต่นายลูเซียสกลับมีท่าทีเรียบเฉย
อันที่จริงฉันมีอีกเรื่องที่จะเตือนแก ชายผมบลอนด์พูดพลางมองลูกชายด้วยแววตาที่จริงจังมากกว่าเดิมราวกับเรื่องที่เขากำลังจะพูดนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริง ๆ
ฉันรู้ว่าแกตั้งใจเก็บนังเด็กนั่นไว้เพื่อแก้แค้น แต่ฉันอยากให้แกจำเอาไว้ว่าเหตุผลเดียวที่ฉันยอมให้แกเก็บมันไว้ก็เพราะนายท่านต้องการใช้มันเป็นเหยื่อล่อ รวมทั้งแกก็ได้ทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์กับมันลงไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันก็ไม่อยากให้แกไปใกล้ชิดกับมันมากจนเกินไป เขาพูด ขณะที่เดรโกดูงุนงงไม่น้อยในสิ่งที่พ่อของเขาพูดออกมา แน่นอนว่านายลูเซียสรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มกับเฮอร์ไมโอนี่นั้นดำเนินไปจนถึงขั้นไหนแล้ว แล้วทำไมพ่อยังจะต้องกังวลเรื่องความใกล้ชิดระหว่างเขากับทาสของเขาอีกล่ะ
แต่เมื่อได้สบตาของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง เด็กหนุ่มก็เข้าใจถึงสิ่งที่นายมัลฟอยพูดทันที เพราะว่าสิ่งที่ทำให้พ่อกังวลระหว่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่นั่นไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่เป็นความสัมพันธ์ทางจิตใจ แม้นายลูเซียสจะรู้ว่าลูกชายเคร่งครัดในเรื่องสายเลือดบริสุทธิ์มากเกินกว่าจะยอมให้เลือดของเขาแปดเปื้อนเพียงเพราะทาสเลือดสีโคลนเพียงคนเดียวก็ตาม แต่ลึก ๆ แล้วชายผมบลอนด์ก็ยังกังวลอยู่ไม่น้อยว่าหากปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ต่อไป ซักวันนึงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองจะก้าวข้ามขอบเขตที่เดรโกรวมทั้งตัวนายมัลฟอยเองได้กำหนดเอาไว้
พ่อกังวลว่าผมจะ.....ใจอ่อนให้กับยายเลือดสีโคลนนั่นอย่างนั้นหรือครับ เดรโกถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวั่น ๆ เด็กหนุ่มตั้งใจที่จะไม่เลือกใช้คำว่า รัก ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อเฮอร์ไมโอนี่ออกไป เพราะเขาคิดว่าพ่อคงไม่พอใจมากแน่ ๆ ถ้าหากเขาพูดว่าเขาอาจจะรักเลือดสีโคลนซึ่งอยู่ในฐานะทาสของเขาออกมา
ฉันแค่ต้องการแน่ใจเท่านั้นว่าลูกชายของฉันจะไม่ไปหลงมารยานังเด็กเลือดสกปรกนั่น ไม่ว่ามันจะพยายามล่อลวงแกด้วยวิธีไหนก็ตาม นายลูเซียสพูดพลางทำสีหน้าขยะแขยงราวกับเขากำลังนึกภาพเฮอร์ไมโอนี่ยั่วยวนเดรโกอยู่ ขณะที่ลูกชายของเขาเองกลับรู้สึกรังเกียจคำพูดที่พ่อของเขาใช้กับเด็กสาวที่เขารัก เพราะเดรโกรู้ดีว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่พ่อพูดเลย ที่ผ่านมาหากไม่นับคืนที่เธอพยายามขโมยไม้กายสิทธิ์ไปจากเขาแล้ว เธอก็ไม่เคยใช้ความเป็นผู้หญิงของเธอมายั่วยวนเขาเลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็สามารถทำให้เด็กหนุ่มต้องการเธออย่างที่เขาไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนมาก่อนได้
อันที่จริงหล่อนเคยไม่ทำแบบนั้นกับผมหรอกครับ ตรงกันข้ามนังเลือดสีโคลนนั่นดูเหมือนจะกลัวผมมากกว่า เขาพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่สุดที่มัลฟอยจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่หวาดกลัว ขณะที่นายลูเซียสมีท่าทีแปลกใจกับคำพูดของลูกชาย แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา ตรงกันข้ามเขากลับดูพอใจกับคำพูดของเดรโกด้วยซ้ำ
งั้นก็ดีแล้ว ฉันพอใจที่ได้ยินแบบนี้ เพราะแกก็รู้ว่าสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการจะให้เกิดขึ้นก็คือการที่แกไปหลงนังเด็กเลือดโสโครกนั่น เขาพูดก่อนจะลงมือทานอาหารต่อ ไม่ใช่ว่าฉันจะตั้งข้อสงสัยในความซื่อสัตย์ต่อเลือดของแกหรอกนะ แต่แกก็รู้ว่ายังไงนังเด็กนั่นมันก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี ชายผมบลอนด์กัดริมฝีปากในประโยคสุดท้ายพร้อมกับทำสีหน้าเดียดฉันท์ราวกับเขากำลังนึกภาพลูกชายของเขาเองไปหลงเสน่ห์ทาสเลือดสีโคลนอย่างเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมา ซึ่งมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการจะให้เกิดขึ้น แต่นายมัลฟอยไม่มีทางรู้เลยว่าความจริงแล้วสิ่งที่เขากลัวนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับความจริงที่ลูกชายของเขากำลังปิดบังเขาอยู่ในตอนนี้ เพราะว่าเดรโกนั้นไม่ได้แค่หลงเสน่ห์เฮอร์ไมโอนี่เท่านั้น แต่เขากลับหลงรักเธออย่างหมดหัวใจ และแน่นอนเด็กหนุ่มรู้ดีว่าเขาจำเป็นต้องเก็บความลับนี้ไว้อย่างดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้หญิงที่เขารักรวมทั้งตัวของเขาเองด้วย และเมื่อคิดได้เช่นนั้นเดรโกจึงตัดสินใจที่จะโกหกพ่อของเขาออกไปอีกครั้งเพื่อเป็นการแน่ใจว่าพ่อจะไม่สงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่อีก
เรื่องแบบนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นหรอกครับ เพราะผมไม่มีทางไปหลงเสน่ห์นังเลือดสีโคลนนั่นอย่างแน่นอน ที่ผมทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นมันเท่านั้น เดรโกพูดประโยคนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงออกถึงความรังเกียจเดียดฉันท์ ราวกับเขาไม่เห็นทาสสาวของเขามีค่ามากไปกว่าเศษฝุ่นบนรองเท้าของเขาเท่านั้น ขณะที่นายลูเซียสมองสีหน้าแบบมัลฟอยของลูกชายอย่างพอใจก่อนจะพูดออกมา
ฉันพอใจที่ได้ยินแกพูดแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แกก็รู้ว่าฉันไม่ค่อยสบายใจอยู่ดีในการที่มีเลือดสีโคลนมาอยู่ในบ้าน ชายผมบลอนด์กล่าว ขณะที่เด็กหนุ่มมองพ่อของเขาอย่างแปลกใจ
แน่นอนว่าฉันจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของแกเหมือนอย่างที่ฉันได้เคยพูดไว้ นายมัลฟอยเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของลูกชาย
ฉันแค่จะแนะนำแกเท่านั้น อันที่จริงแกก็น่าจะรู้ว่าแกไม่สามารถเก็บนังเลือดสีโคลนนั่นไว้ได้ตลอดไปใช่ไหม เดรโก อย่างน้อยแกก็คงเก็บมันไว้เป็นทาสของแกจนถึงแกแต่งงานไม่ได้ อีกอย่างจอมมารก็ตั้งใจจะฆ่านังเลือดสีโคลนนั่นทิ้งทันทีหลังจากที่ท่านได้ตัวพอตเตอร์แล้ว อันที่จริงนายท่านตั้งใจจะฆ่ามันทิ้งต่อหน้าพอตเตอร์เลยด้วยซ้ำ ไม่แน่ถ้านายท่านเกิดพอใจเรื่องที่แกทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์กับมันขึ้นมา
ท่านอาจจะอนุญาตให้แกลงมือปลิดชีวิตมันด้วยตัวแกเองก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นแกก็จะได้แก้แค้นมันจริง ๆ เสียที
นายลูเซียสพูดอย่างไม่ยี่หระราวกับเขากำลังพูดเรื่องลมฟ้าอากาศกับลูกชายอยู่ ขณะที่เดรโกรู้สึกราวกับเลือดของเขาแข็งตั;เพราะคำพูดนั้นของพ่อ ใบหน้าของเด็กหนุ่มขาวซีดราวกับกระดาษ ขณะที่ดวงตาสีเงินของเขาฉายแววหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน แต่โชคดีที่พ่อของเขาไม่มีโอกาสได้เห็นมันเพราะชายผมบลอนด์ได้กลับไปสนใจเดลี่พรอเฟ็ตอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันเดรโกก็รู้ดีว่าเขาไม่อาจนิ่งเฉยและไม่ตอบอะไรพ่อออกไปเลยได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อหาคำพูดที่ดูเหมาะสมมาตอบพ่อออกไป
ผม......ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นครับ เขาตอบออกมาเพียงเท่านั้น ก่อนที่นายมัลฟอยจะเงยหน้าขึ้นมองลูกชาย ดวงตาสีเงินของเขาจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างพิจารณาขณะเดรโกจะพูดออกมา อีกอย่าง คนที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ได้น่าจะเป็นนายท่านใช่ไหมครับ เขาพูดออกไปเท่าที่คิดออก และดูเหมือนคราวนี้พ่อของเขาจะไม่ติดใจในคำพูดของลูกชายเท่าไหร่นัก
มันก็จริง ฉันคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่แกจะต้องมาคิดเรื่องนี้หรอก เพราะตอนนี้เราควรจะกังวลเรื่องการรักษาแกมากกว่า นายลูเซียสพูด ดวงตาสีเงินของเขาฉายแววเป็นห่วงออกมาแวบหนึ่งขณะที่เขามองลูกชาย ก่อนที่สายตาของเขาจะเลื่อนกลับไปที่หนังสือพิมพ์ตามเดิม
และเมื่อเห็นว่าพ่อไม่มีท่าทีจะคุยกับเขาต่อแล้ว เดรโกจึงหันไปสนใจอาหารตรงหน้าของเขาแทน แต่เมื่อพบว่าความอยากอาหารที่มีเพียงน้อยนิดของเขาได้หายไปเพราะบทสนทนาของเขากับพ่อเมื่อครู่เสียแล้ว เด็กหนุ่มจึงรวบมีดและส้อมลง แม้ว่าจะเหลืออาหารในจานอยู่จำนวนมากก็ตาม และขณะที่เขากำลังจิบชาอยู่นั้น เอลฟ์ตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเสียงดังป็อป
นายท่านขอรับ คุณสเนปมาขอพบนายท่านกับนายน้อยขอรับ เอลฟ์ตัวจ้อยนามว่าวิงเธอร์กล่าวขึ้น ขณะที่ชายผมบลอนด์เลิกสนใจหนังสือพิมพ์แล้วหันไปพูดกับมันว่า
ให้เขาไปรอที่ห้องรับแขกก่อน เดี๋ยวฉันกับเดรโกจะไปหาเขาเอง นายมัลฟอยสั่ง และหลังจากที่วิงเธอร์หายตัวไปพร้อมกับเสียงดังป็อปแล้ว เขาจึงหันมาพูดกับลูกชาย
แกอิ่มหรือยัง
อิ่มแล้วครับ เด็กหนุ่มตอบพลางเช็ดปากด้วยผ้าสำหรับเช็ดปาก ขณะที่พ่อของเขาเหลือบไปมองนาฬิกาซึ่งมันบอกเวลาแปดโมงสี่สิบห้านาที
ดี งั้นก็ไปกันเถอะ นายมัลฟอยกล่าวพลางเขาเช็ดปากด้วยผ้าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องอาหารไปโดยที่มีเดรโกเดินตามเขาไปติด ๆ
ไม่นานนักสองพ่อลูกมาถึงห้องรับแขกของคฤหาสน์มัลฟอยซึ่งถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้มและวอลเปเปอร์สีเขียวเหมือนกับส่วนอื่นของคฤหาสน์ ภายในห้องรับแขกนั้นร่างสูงของชายผมดำผู้สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทกำลังยืนอยู่หน้าเตาผิงใกล้กับโซฟารับแขก และเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูที่เปิดออกพร้อมกับเสียงฝีเท้าดังขึ้นร่างสูงนั้นก็หันกลับไปทางประตูทันที
เซเวอร์รัส ชายร่างสูงผู้มีผมสีบลอนด์กล่าวขึ้นพลางเดินเข้าไปหาเพื่อนผู้เสพความตายของเขาขณะที่ชายผมดำทักเขากลับอย่างสุภาพ
อรุณสวัสดิ์ ลูเซียส สเนปกล่าวเมื่อนายลูเซียสเดินมาถึงตัวเขา
ขอบคุณที่คุณมา ผมว่าเรานั่งลงคุยกันดีไหม คุณอยากดื่มอะไรหรือเปล่า นายมัลฟอยถาม ก่อนจะพาเพื่อนสนิทและลูกชายของเขาไปยังชุดรับแขก
ไม่ดีกว่า ขอบคุณ ชายผมดำปฏิเสธอย่างสุภาพก่อนจะมองไปยังเดรโกที่เพิ่งนั่งลงบนโซฟา เธอเป็นยังไงบ้างเดรโก
ผมสบายดีครับ ไม่ค่อยเจ็บแผลเท่าไหร่แล้ว เด็กหนุ่มตอบเมื่อนั่งลงบนโซฟาแล้ว
ฉันปรุงยามาให้เธอด้วย มันเป็นยาสำหรับระงับอาการบาดเจ็บ แล้วก็มียาสำหรับเหตุฉุกเฉินสองสามอย่าง สเนปพูดขณะที่เขาวางหีบที่ทำด้วยไม้ขนาดเท่ากับหนังสือเล่มใหญ่ ๆ แต่มีความสูงราวหนึ่งฟุตลงบนโต๊ะรับแขกก่อนจะเปิดมันออก เผยให้ทุกคนเห็นว่าข้างในนั้นมีคนโทใส่ยาขนาดกลางที่ถูกปิดจุกอย่างแน่นหนาสองอันพร้อมฉลากกำกับที่ข้างขวด และขวดยาเล็ก ๆ อีกราว ๆ สี่ห้าขวดที่มีฉลากกำกับเช่นกัน
ฉันคิดว่าเธอน่าจะต้องใช้มันระหว่างเดินทาง และฉันก็เห็นว่าเธอควรจะทานยาตามที่ฉันสั่งอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าบาดแผลของเธอเกือบจะหายดีแล้วก็ตาม เธอได้ทานยาในตอนเช้ามาหรือเปล่า อดีตอาจารย์วิชาปรุงยาถามถึงยารักษาอาการบาดเจ็บที่เขาสั่งให้เดรโกทานก่อนอาหารเป็นประจำ
ผมทานมาแล้วครับ เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบ อดีตอาจารย์ของเขามีสีหน้าพอใจกับคำตอบนั้นขณะที่เขาปิดกล่องไม้ตรงหน้าลงพร้อม ๆ กับที่เดรโกพูดขึ้น
คือ ผมสงสัยว่า ผมจะเอายาพวกนี้ไปด้วยยังไง ผมหมายความว่ามันอาจจะแตกหรือเสียหายระหว่างการเดินทางได้น่ะครับ เขาถามออกมาขณะที่ชายผมดำมองลูกศิษย์ของเขาด้วยท่าทีสุขุม
เธอไม่ต้องห่วงในเรื่องนั้น ฉันได้เสกคาถาสำหรับป้องกันไว้ที่หีบนี่แล้ว แรงกระแทกภายนอกจะไม่มีทางทำให้ของข้างในแตกได้ถ้าหากหีบยังปิดสนิทอยู่ ส่วนเรื่องการเอามันติดตัวไปกับเธอด้วยนั้นฉันว่าเธอน่าจะถามพ่อของเธอดีกว่านะ สเนปกล่าวพลางมองไปยังเพื่อนเก่าแก่ของเขาขณะที่นายลูเซียสที่นั่งอยู่บนโซฟาติดกับลูกชายตะโกนเรียกเอลฟ์ประจำบ้าน
สิ้นเสียงของชายผมบลอนด์ เอลฟ์ตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น มันโค้งคำนับนายมัลฟอยตามธรรมเนียมก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงแหลมเล็ก
นายท่านมีอะไรให้วิงเธอร์รับใช้ขอรับ เอลฟ์นามวิงเธอร์กล่าวอย่างนอบน้อม
ไปเอาของที่ฉันเตรียมไว้สำหรับนายน้อยมาที่นี่เดี๋ยวนี้ สิ้นเสียงของนายลูเซียส เอลฟ์ร่างเล็กก็รับคำก่อนจะหายตัวไปพร้อมเสียงดังป็อป และไม่กี่อึดใจต่อมามันก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับข้าวของหลายชิ้นซึ่งมันต้องใช้เวลาหายตัวไปกลับถึงสามรอบกว่าจะนำของที่นายมัลฟอยสั่งมาได้ทั้งหมด
ของที่วิงเธอร์นำมาด้วยนั้นประกอบด้วย หีบไม้ขนาดพอ ๆ กับหีบที่สเนปนำมาหนึ่งใบ ถุงกำมะหยี่สีมรกตที่บรรจุเหรียญทองแกลเลียนไว้เต็มขนาดใหญ่และขนาดเล็กอย่างละหนึ่งถุง กล่องไม้ขัดมันที่มีขนาดใหญ่กว่ากล่องปากกาเล็กน้อยหนึ่งกล่อง และกระเป๋าหนังสีดำขนาดไม่ใหญ่นักหนึ่งใบ เมื่อเอลฟ์วางของทั้งหมดลงบนโต๊ะรับแขกเสร็จแล้วนายลูเซียสก็พูดขึ้น
แกไปได้แล้ว ชายผมบลอนด์สั่งสั้น ๆ และเมื่อวิงเธอร์หายตัวไปแล้ว เขาก็หันมาทางลูกชาย
นี่เป็นของที่ฉันเตรียมไว้ให้แกสำหรับเดินทาง เขาพูดก่อนจะลงมือเปิดหีบไม้ก่อนเป็นอันแรก และเมื่อพ่อของเขาทำเช่นนั้นเดรโกก็พบว่าข้างในนั้นบรรจุกล่องไม้ขนาดกลางอันหนึ่งเอาไว้ พร้อมกับสิ่งของศาสตร์มืดที่เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นมาก่อนอีกสองชิ้น แต่ดูเหมือนนายลูเซียสจะไม่มีท่าทีสนใจสิ่งของศาสตร์มืดสองชิ้นนั้นเลยแม้แต่น้อยเมื่อเขาเลือกเปิดกล่องไม้ขนาดกลางขึ้นก่อนซึ่งเด็กหนุ่มเดาว่ามันคงบรรจุลูกแก้วเตือนภัยเอาไว้ และก็เป็นจริงอย่างที่เขาคิด เพราะสิ่งเดรโกเห็นหลังจากที่พ่อของเขาเปิดกล่องใบที่สองออกก็คือลูกแก้วเตือนภัยลูกหนุ่มที่นอนสงบนิ่งอยู่ภายในกล่องซึ่งบุด้วยผ้าสำหรับกันแรงกระแทกอย่างดี
หลังจากแน่ใจว่าลูกชายทราบแล้วว่าภายในหีบไม้นั้นบรรจุอะไรไว้ นายมัลฟอยก็ปิดหีบนั้นลงก่อนจะหยิบถุงที่บรรจุทองแกลเลียนถุงใหญ่ขึ้นมา ในนี้มีอยู่พันแกลเลียน ฉันเตรียมไว้ให้แกเผื่อว่าเฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์นั่นจะไม่ต้องการเพียงแค่ของพวกนี้เป็นของแลกเปลี่ยนขึ้นมา ส่วนถุงเล็กนั่น เขาพูดพลางวางถุงทองถุงใหญ่นั้นลงบนโต๊ะแล้วจึงพูดต่อ
เป็นค่าเดินทางสำหรับให้แกเอาไว้ใช้ ฉันใส่ไว้ให้สองร้อยแกลเลียน ชายผมบลอนด์พูด และเดรโกก็กล่าวขอบคุณพ่อของเขาหลังจากที่เขาพูดจบ แน่นอนว่าเงินที่พ่อเตรียมให้เขาสำหรับติดตัวไปนั้นมีจำนวนมากกว่าที่จำเป็นมากนัก แต่เด็กหนุ่มก็ไม่รู้สึกแปลกใจในเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อของเขาไม่เคยมีปัญหาในเรื่องการสนับสนุนเงินทองหรือวัตถุภายนอกแก่เขาเลย มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่นายลูเซียสไม่สามารถจัดหามาให้ลูกชายของเขาได้อย่างเพียงพอเหมือนกับเงินทองที่เขาสนับสนุนเดรโกอย่างเต็มที่มาโดยตลอด นั่นก็คือความรัก แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็รู้สึกขอบคุณไม่น้อยที่พ่อพยายามช่วยเหลือเขาถึงเพียงนี้
แล้วนั่นคืออะไรครับ เดรโกถามขึ้นพลางชี้ไปยังกระเป๋าหนังสีดำขนาดไม่ใหญ่นักที่วางอยู่ถัดจากถุงทองสองถุง ก่อนที่พ่อของเขาจะหยิบมันขึ้นมา
กระเป๋านี่เป็นสมบัติประจำตระกูลของเรา มันถูกเสกคาถาขยายพื้นที่แบบตรวจจับไม่ได้เอาไว้ รวมทั้งคาถาป้องกันขโมยและการโจรกรรมทุกรูปแบบด้วย แกเอาสามารถของแทบจะทุกอย่างใส่ลงไปในกระเป๋านี่ได้อย่างไม่มีจำกัด โดยน้ำหนักของมันจะไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่นิดเดียว แล้วมันก็ยังปลอดภัยจากการโดนล้วงกระเป๋าและการขโมยทุกรูปแบบด้วย ฉันจะให้แกเอามันไปใช้ระหว่างเดินทาง ชายผมบลอนด์อธิบาย ขณะที่ลูกชายของเขามีสีหน้าทึ่ง ๆ เพราะเดรโกไม่เคยรู้มาก่อนว่าพวกเขามีกระเป๋าแบบนี้เป็นสมบัติตกทอดประจำตระกูลด้วย
งั้นก็ดีเลยครับ เด็กหนุ่มพูดพลางหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา และร่ายคาถาให้ข้าวของทั้งหมดลอยเข้าไปในกระเป๋าหนังสีดำใบนั้น ยกเว้นเพียงแค่ถุงเงินอันเล็กที่บรรจุเงินสองร้อยแกลเลียนไว้ซึ่งเดรโกคิดว่าเขาจะพกมันไว้ในเสื้อคลุมแทน และกล่องไม้ขัดมันที่พ่อของเขายังไม่ได้เปิดออกแต่เดรโกเดาเอาว่ามันน่าจะบรรจุกุญแจนำทางไว้ และหลังจากที่จัดการกับข้าวของเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มก็หันมาหาพ่อของเขา
แกพร้อมหรือยัง นายลูเซียสถาม พลางมองลูกชายด้วยแววตาสีเงินที่ดูกังวลระคนหนักใจ ขณะที่เดรโกกลืนน้ำลายก่อนจะตอบออกมา
ผมพร้อมแล้วครับ เหลือแค่เอาสัมภาระ.........ทั้งหมดใส่ลงในกระเป๋าใบนี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ เขาพยายามเลี่ยงที่จะพูดคำว่าสัมภาระของเขาและของเฮอร์ไมโอนี่ออกมา เพราะการเอ่ยชื่อทาสสาวของเขาต่อหน้าพ่อนั้นไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนนายมัลฟอยจะไม่ได้ติดใจในคำพูดของลูกชายเท่าไหร่นักเมื่อเขาวางมือลงบนบ่าของเดรโก ใบหน้าของชายผมบลอนด์แสดงถึงความเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจน
ฟังฉันนะ เดรโก ถ้าหากว่าแกได้พบเฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์คนนั้น และหล่อนไม่ยอมรักษาให้แก ฉันหมายถึงถ้าหากของที่ฉันเตรียมไปให้มันยังไม่เพียงพอกับที่หล่อนต้องการหรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ให้แกเขียนจดหมายมาถึงฉันทันทีเข้าใจไหม แกพกกระดาษกับปากกาไปด้วยใช่ไหม เขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ขณะที่เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะตอบพ่อของเขาออกไปเบา ๆ ว่าเขาพกกระดาษกับปากกาไปด้วย และเขาจะเขียนถึงพ่อทันทีถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่อีกใจหนึ่งเดรโกก็นึกสงสัยไม่น้อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากพ่อได้รับจดหมายจากเขาว่าเฟรย่าไม่ยอมให้การรักษาเขา พ่อของเขาจะตามไปที่ไอซ์แลนด์เพื่อบังคับให้เธอรักษาเขาอย่างนั้นหรือ
และจากกการที่เดรโกรู้จักนิสัยพ่อของเขาเป็นอย่างดี เด็กหนุ่มก็คิดว่าพ่อคงต้องทำอย่างที่เขาคิดอย่างแน่นอน
ฉันจะสั่งให้นกฮูกของแกไปรอแกที่ไอซ์แลนด์ ที่เกาะนั่น มันคงจะไปถึงช้ากว่าแกประมาณหนึ่งวัน แต่มันก็จะสะดวกกว่าแกพกมันเดินทางไปด้วย ชายผมบลอนด์กล่าว พลางมองลูกชายของเขาด้วยแววตาที่อ่อนลงราวกับว่าเขาไม่ได้เป็นผู้เสพความตายกระหายเลือดแต่อย่างใด แต่เขาเป็นแค่พ่อคนหนึ่งที่ห่วงใยลูกชายของตัวเองเท่านั้น
ครับ ขอบคุณครับพ่อ เด็กหนุ่มพูด นี่เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกขอบคุณพ่อจากใจจริงในสิ่งที่พ่อพยายามทำเพื่อช่วยเขาจากชะตากรรมที่เลวร้าย เธอพร้อมสำหรับเดินทางหรือยัง เดรโก เซเวอร์รัส สเนปพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน ขณะที่เดรโกหันมามองอดีตอาจารย์สอนวิชาปรุงยาของเขาก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
ผมพร้อมแล้วครับ เขาตอบ และเมื่อเป็นเช่นนั้นพ่อของเด็กหนุ่มก็หยิบกล่องไม้ขัดมันที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาและส่งให้ลูกชาย และเมื่อเขาเปิดมันออกเขาก็พบว่ามันบรรจุไปป์อันหนึ่งที่ดูเหมือนไม่ใช่ของใหม่เอาไว้ และเดรโกก็รู้ทันทีโดยที่พ่อของเขาไม่ต้องบอกว่ามันคือกุญแจนำทาง หลังจากได้รับกุญแจนำทางสำหรับเดินทางไปยังไอซ์แลนด์มาแล้ว เด็กหนุ่มก็กล่าวขอบคุณพ่อของเขาเบา ๆ ก่อนจะปิดกล่องนั้นลง และหันไปทางอดีตอาจารย์วิชาปรุงยเเมื่อเขาพูดขึ้น
ผมว่าน่าจะให้เขาออกเดินทางเลยดีไหม ลูเซียส ในตอนนี้ก็สายแล้ว ชายผมดำหันไปพูดกับเพื่อนเก่าแก่ของเขา และชายผมบลอนด์ก็พยักหน้าเบา ๆ พลางบีบไหล่ของลูกชายแน่น ใบหน้าของเขาแลดูกดดันและทุกข์ทรมานขณะที่เขาหันไปพูดกับเดรโก
แกควรออกเดินทางได้แล้ว แกเอาสัมภาระของแกไว้ที่ไหน ชายผมบลอนด์ถาม เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากก่อนจะตอบออกมา
ผมให้เอลฟ์เอาสัมภาระทั้งหมดลงมาให้ที่ห้องโถงครับ เขาตอบ ขณะที่พ่อของเขาพยักหน้าอย่างรับรู้
ดี งั้นฉันกับเซเวอร์รัสจะเดินไปส่งแกที่นั่น นายลูเซียสพูด พลางลุกขึ้นจากโซฟา ขณะที่เดรโกหยิบกระเป๋าหนังที่บรรจุสัมภาระเกือบทั้งหมดเอาไว้และเขาก็พบว่ามันเบาหวิวอย่างที่พ่อของเขาบอกจริง ๆ และหลังจากเด็กหนุ่มแน่ใจแล้วว่าเขาได้เอาของที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการเดินทางไปด้วยโดยไม่ลืมอะไรแล้ว เดรโกก็พยักหน้าเบา ๆ เพื่อบอกพ่อว่าเขาพร้อมแล้ว และหลังจากนั้นร่างทั้งสามก็เดินออกจากห้องรับแขกไปยังห้องโถง
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ยืนอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์มัลฟอยมาเป็นเวลากว่าสิบห้านาทีแล้ว หลังจากที่ดีน่าพาเธอมาที่ห้องโถงก่อนเวลาเก้าโมงตามคำสั่งของเดรโกพร้อมกับกระเป๋าใส่สัมภาระของเธอซึ่งบัดนี้วางอยู่ใกล้ ๆ กับกระเป๋าเดินทางของเด็กหนุ่มที่เอลฟ์อีกตัวหนึ่งขนลงมาจากห้องนอนของเขา
ระหว่างที่รอเดรโกมานั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็มองสำรวจห้องโถงของคฤหาสน์ไปพลาง ๆ และเด็กสาวก็พบว่ามันไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่เธอเห็นมันครั้งล่าสุดเลย แม้ว่าเธอจะถูกขังให้อยู่แต่ในห้องนอนเวลาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วก็ตาม เพราะห้องโถงแห่งนี้ยังคงมีบรรยากาศที่ทึบทึมเหมือนกับที่เธอเคยเห็นมันในครั้งก่อนตอนที่เธอเพิ่งถูกจับมาที่คฤหาสน์หลังนี้อยู่ดี แน่นอนว่าทุกส่วนของคฤหาสน์มัลฟอยนั้นถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนที่มีราคาแพงแต่มันกลับไม่ทำให้คฤหาสน์หลังนี้ดูน่าอยู่ขึ้นแม้แต่น้อย
หลังจากผ่านการรอคอยสิบห้านาทีแรกไปแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มเบื่อหน่ายที่ต้องยืนอยู่เฉย ๆ แบบนี้ แต่เด็กสาวก็ไม่กล้าพอที่จะเดินไปรอบ ๆ ห้องโถง หรือนั่งลงบนโซฟาที่มีลักษณะหรูหราซึ่งตั้งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เพราะเธอรู้ดีว่าหากเดรโก หรือร้ายไปกว่านั้นพ่อของเขามาเห็นตอนเธอกำลังเดินสำรวจคฤหาสน์หรือกำลังนั่งบนโซฟาราคาแพงของเขาเข้าล่ะก็เธอคงต้องเดือดร้อนมากแน่ ๆ
ขณะที่กำลังรอคอยการมาของเด็กหนุ่มด้วยความเบื่อหน่ายอยู่นั้น เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังก้องมาตามทางเดิน เพราะเสียงนั้นเองเธอจึงรีบกลับไปยืนใกล้ ๆ บริเวณที่กระเป๋าเดินทางสองใบวางอยู่ทันที เพื่อรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าของฝีเท้า
ไม่นานนักเสียงฝีเท้าก็เริ่มดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของร่างสามร่างบริเวณทางเดินตรงข้ามกับจุดที่เฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงผู้มีผมสีบลอนด์ ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเดรโกซึ่งอยู่ในฐานะเจ้านายของเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนร่างอีกสองร่างนั้นเป็นชายวัยกลางคนร่างสูงสองคนที่มีผมสีบลอนด์และผมสีดำ
ดวงตาสีน้ำตาลของเด็กสาวเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเธอเห็นการปรากฏตัวลูเซียส มัลฟอย และเซเวอร์รัส สเนป แม้ว่าจะคาดเอาไว้ก่อนแล้วก็ตามว่านายลูเซียสจะต้องมาส่งลูกชายเดินทางในวันนี้ แต่การได้เห็นเขาอีกครั้งทำให้ความทรงจำอันเลวร้ายที่เขาเคยได้ทำไว้กับเธอผุดขึ้นมาในสมองของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับภาพฉาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาฆ่าสังหารพ่อแม่ของเด็กสาวอย่างโหดเหี้ยม หรือเรื่องที่เขาทรมานเธออย่างเลือดเย็นเพราะว่าเธอบังอาจไปยุ่งเกี่ยวกับลูกชายของเขา
ในขณะเดียวกันนั้นเอง นายลูเซียสที่สังเกตุเห็นเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งอยู่ฐานะทาสของลูกชายก็ชะงักฝีเท้าลงเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าเดรโกจะเอาเด็กสาวไปรับใช้ระหว่างเดินทางด้วยก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรที่เห็นเธอยืนรอคอยเดรโกอยู่แบบนี้ได้ ดวงตาสีเงินของนายมัลฟอยมองเด็กสาวอย่างเดียดฉันท์พลางเบ้หน้าราวกับเธอเป็นขยะกองใหญ่ที่ส่งกำลังกลิ่นเหม็นอย่างร้ายกาจ ขณะที่เดรโกซึ่งไม่สนใจท่าทีของพ่อที่มีต่อเฮอร์ไมโอนี่นั้นเดินเข้าไปใกล้ทาสสาวของเขาอีกสองก้าว เด็กหนุ่มสบดวงตาคู่สวยของเธอด้วยแววตาที่เรีนยบเฉยก่อนจะโบกไม้กายสิทธิ์เบา ๆ และกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบก็ลอยหวือเข้าไปในกระเป๋าหนังที่อยู่ในมือของเขาทันที
เด็กสาวมีท่าทีแปลกใจไม่น้อยกับสิ่งที่เห็น แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยชินกับมันเสียเลย อันที่จริงเธอก็มีกระเป๋าที่ถูกร่ายคาถาแบบเดียวกับใบที่เดรโกใช้นี้เหมือนกัน โดยเฮอร์ไมโอนี่ตั้งใจจะใช้มันบรรจุข้าวของของเธอและเพื่อนรักเวลาที่พวกเขาออกไปตามหาฮอครักซ์ด้วยกัน แต่เธอกลับไม่มีโอกาสได้ใช้งานมันเลย เพราะว่าเธอถูกลูเซียส มัลฟอยจับตัวมาเสียก่อน และเด็กสาวก็คิดว่าตอนนี้กระเป๋าใบนั้นคงจะยังนอนสงบนิ่งอยู่ในลิ้นชักภายในห้องนอนของเธอเป็นแน่
เธอพร้อมหรือยัง เสียงของเดรโกที่ดังขึ้นปลุกเฮอร์ไมโอนี่ให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิด เธอจึงหันทางเด็กหนุ่ม และพบว่าเขากำลังจ้องมองมาทางเธอด้วยแววตาที่เรียบเฉย ขณะที่พ่อของเขากำลังมองทั้งสองมาจากด้านหลังด้วยสายตาวิเคราะห์ ก่อนที่จะเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเบา ๆ เด็กสาวรู้สึกว่าเธอตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อได้เห็นสายตาทิ่มแทงของนายลูเซียสที่จ้องมองมาทางเธอ
ส่วนทางเดรโกเมื่อเห็นว่าทาสสาวของเขาพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว เด็กหนุ่มจึงหันไปหาพ่อและอดีตอาจารย์ของเขาที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
ผมไปนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง เขาพูดพลางมองไปยังพ่อของเขาและสเนปราวกับต้องการให้ทั้งสองรู้ว่าเขาขอบคุณชายทั้งสองเป็นอย่างมากที่พยายามช่วยเหลือเขาอย่างสุดความสามารถแบบนี้ ทางด้านสเนปนั้นไม่ตอบอะไรออกมานอกจากพยักหน้าให้เดรโกเบา ๆ ขณะที่นายลูเซียสพูดขึ้น
อย่าลืม เดรโก ทำตามที่ฉันบอกทุกอย่าง เข้าใจไหม ชายผมบลอนด์ย้ำกับลูกชาย ขณะเด็กหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ
ครับ ผมไปนะครับ เดรโกบอกพ่อของเขาเรียบ ๆ ก่อนจะหยิบกล่องบรรจุกุญแจนำทางที่พ่อให้มา และเปิดมันออกพลางออกคำสั่งกับเฮอร์ไมโอนี่
จับเสื้อคลุมของฉันไว้ดี ๆ เขากล่าว พยายามรักษาท่าทีให้ดูเรียบเฉยที่สุด ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเด็กหนุ่มต้องการคว้าตัวเด็กสาวเข้ามากอดไว้อย่างแน่นหนาด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าพ่อของเขากำลังมองทั้งสองอยู่ และเดรโกก็ฉลาดพอที่จะไม่ทำเช่นนั้นต่อหน้าพ่อของเขา ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าให้เขาและทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย และเมื่อแน่ใจว่าเด็กสาวเกาะเสื้อคลุมของเขาไว้เป็นอย่างดีแล้ว มัลฟอยก็สั่งให้เธอแตะกุญแจนำทางพร้อมกับเขา โดยที่เขานับถอยหลังถึงสาม
และในวินาทีที่นิ้วของทั้งสองแตะกุญแจนำทางก็เกิดแรงดูดมหาศาลที่ดูดร่างของเด็กทั้งสองเข้าไปยังกุญแจนั้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นเมื่อรู้สึกว่าร่างของเธอกำลังถูกดันผ่านท่อขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วจนเธอได้ยินเสียงหวีดหวิวของอากาศที่วิ่งผ่านร่างกาย มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วเด็กสาวก็ไม่อาจบอกได้ แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่พบว่าเท้าของเธอสัมผัสพื้นอีกครั้ง เด็กสาวก็ลืมตาขึ้นและพบว่าเธอกำลังยืนอยู่กลางเนินขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีลมพัดแรงโดยมีเดรโก มัลฟอยกอดร่างของเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา
ที่นี่ที่ไหน เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองมายืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคงแล้ว ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเทาหม่นที่ดูราวกับกำลังจะเกิดพายุได้ทุกเมื่อ ขณะที่เดรโกคลายวงแขนที่รัดร่างของเธอออกแต่ยังคงจับแขนขอบเด็กสาวไว้
ฉันว่าเราน่าจะอยู่ในเมืองดัลวิกแถบชายฝั่งทะเลไอซ์แลนด์น่ะ มาเถอะเราต้องรีบไปที่ท่าเรือก่อนที่พายุจะมา เด็กหนุ่มพูดก่อนจะร่ายคาถาบอกทาง และเมื่อไม้กายสิทธิ์ของเขาชี้ไปทางซ้ายมือซึ่งเป็นทางที่น่าจะนำทั้งสองลงจากเนินลูกนี้ลงไปสู่ที่ทุ่งราบสีเขียวขจี เดรโกก็เลื่อนมือของเขามากุมมือของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ก่อนจะพาเด็กสาวเดินลงเนินไปพร้อมกับเขา
*************************************************
คุยกันหลังอ่านนะคะ
ตอนนี้อาจจะไม่หวานเท่าที่เคยบอกไว้นะคะ เพราะใส่ฉากหวานเข้าไปไม่ทัน [อีกแล้ว] แต่ตอนหน้ารับรองว่าหวานจนมดขึ้นคอมแน่นอนค่ะ เอามาลงไม่นานเกินรอค่ะ [อันที่จริงที่พิกใช้เวลาเขียนตอนนี้ช้าเพราะว่ามันมีฉากเดร/เฮอร์น้อยด้วยแหละค่ะ เพราะพิกชอบเขียนฉากของคู่พระนางมาก แล้วก็เขียนง่ายกว่าฉากอื่นๆ เยอะเลย] สุดท้าย อ่านแล้วมีความคิดเห็นยังไง อย่าลืมเม้นบอกกันนะคะ ทุกเม้นของคนอ่านคือกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ตามนั้น ^^
Create Date : 02 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2555 16:20:44 น. |
|
13 comments
|
Counter : 2206 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nummon IP: 125.26.212.3 วันที่: 2 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:58:00 น. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 202.151.7.24 วันที่: 3 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:06:09 น. |
|
|
|
โดย: หมูกระต่าย IP: 223.206.226.171 วันที่: 4 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:26:05 น. |
|
|
|
โดย: Alice IP: 192.168.49.236, 110.168.195.197 วันที่: 4 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:47:11 น. |
|
|
|
โดย: PearyHermione IP: 202.12.73.1 วันที่: 5 กรกฎาคม 2555 เวลา:2:15:04 น. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 202.151.7.24 วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:52:34 น. |
|
|
|
โดย: failhin123 IP: 182.52.44.90 วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:42:40 น. |
|
|
|
โดย: ฺิBB IP: 192.168.190.244, 183.88.249.206 วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:31:02 น. |
|
|
|
โดย: failhin123 IP: 202.29.192.47 วันที่: 12 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:32:52 น. |
|
|
|
โดย: jax the rab IP: 49.49.150.178 วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:23:10:38 น. |
|
|
|
โดย: nan IP: 110.77.201.76 วันที่: 23 ตุลาคม 2555 เวลา:15:02:43 น. |
|
|
|
โดย: nutt IP: 124.120.170.75 วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:19:39:32 น. |
|
|
|
โดย: Nutthatrp IP: 101.51.86.19 วันที่: 29 มิถุนายน 2558 เวลา:16:02:37 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
|
|
|
|
|
|
|
|
มาอัพบ่อยๆน้าจะรอค่าา -////-