Group Blog
 
All Blogs
 
เธอคือทาสหัวใจของฉัน: Chapter 27 สิ่งที่เป็นไปได้และสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ PART I






เดรโก มัลฟอยตื่นขึ้นมาเนื่องจากแสงแดดยามเช้าที่ส่องรอดรอยแยกของผ้าม่านเข้ามาแยงตาของเขาพอดี เด็กหนุ่มกระพริบตาขึ้นอย่างง่วงงุน และภาพแรกที่เขาเห็นก็คือร่างบางที่กำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เฮอร์ไมโอนี่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเดรโก ใบหน้าของเด็กสาวซุกอยู่กับแผ่นอกของเด็กหนุ่ม ดวงตาคู่สวยซ่อนอยู่ภายใต้หนังตาที่ประดับไปด้วยแพขนตางาม ผมสีน้ำตาลของเธอดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยแต่มันก็ไม่ทำให้ความหลงใหลที่เดรโกมีต่อเธอลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเมื่อเขาว่าเห็นแขนข้างหนึ่งของเธอพาดอยู่บนร่างของเขาแล้ว เด็กหนุ่มก็รู้ทันทีว่าเด็กสาวเองก็นอนกอดเขามาแบบนี้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเหมือนกัน

และเมื่อเห็นเช่นนั้น เดรโกจึงก้มลงไปมองใบหน้ายามหลับของเฮอร์ไมโอนี่อย่างเอ็นดู เธอดูราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยในยามที่เธอหลับ ดวงตาของเด็กสาวหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นน้อย ๆ ราวกับเธอกำลังยิ้มอยู่ในความฝัน และเพราะใบหน้าที่เปี่ยมสุขของเฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้เองทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเพียงเพราะกลัวว่าเขาจะทำให้เธอตื่นขึ้นมา มือของเดรโกเลื่อนไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าของร่างบางออกอย่างแผ่วเบาก่อนจะก้มลงไปจูบที่เธอหน้าผาก

เด็กสาวขยับตัวเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากของเด็กหนุ่มแตะหน้าผาก แต่เธอก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาแต่อย่างใด และเมื่อเห็นเช่นนั้นเดรโกจึงเหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังห้อง มันบอกเวลาเกือบเจ็ดโมงตรงแล้ว แม้จะรู้ดีว่าวันนี้เขาจะต้องออกเดินทางไปไอซ์แลนด์แต่เช้า แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ต้องการจะปลุกเฮอร์ไมโอนี่ให้ตื่นขึ้นมาในตอนนี้เท่าไหร่นัก ยิ่งเมื่อเห็นว่าเธอกำลังหลับอย่างเป็นสุขแบบนี้แล้วเขาก็เลยตัดสินใจปล่อยให้เธอหลับต่อไปอีกซักหน่อย

เมื่อเป็นเช่นนั้นเดรโกจึงค่อย ๆ ยกศีรษะของเด็กสาวขึ้นจากร่างของเขาอย่างนุ่มนวลและวางมันลงบนหมอนอย่างแผ่วเบา แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะลุกขึ้นไปจากเตียง เขาก็ก้มลงไปจูบทาสสาวของเขาที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากบางของเดรโกสัมผัสปากอิ่มสีกุหลาบของเฮอร์ไมอนี่อย่างนุ่มนวลโดยที่เธอไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยว่าเธอถูกเด็กหนุ่มขโมยจูบไปในยามหลับแบบนี้ และหลังจากถอนริมฝีปากออกมาแล้วเดรโกก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกระซิบเข้ากับริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับอยู่ว่า

“ฉันรักเธอ เฮอร์ไมโอนี่” เด็กหนุ่มกระซิบขึ้นหลังจากที่เขาถอนริมฝีปากขึ้นมาพลางมองร่างบางที่กำลังหลับใหลนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยในความรักอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่นานนักเขาก็ละจากร่างไป มัลฟอยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนก่อนที่เขาจะเดินหายเข้าห้องน้ำไป

แต่เดรโกไม่มีโอกาสรู้เลยว่าขณะที่เขาจูบทาสสาวของเขาที่ริมฝีปากและกระซิบคำรักออกไปนั้นเฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่ได้หลับแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอตื่นตั้งแต่ตอนที่เขาจูบเธอที่หน้าผากแล้ว แต่เด็กสาวแกล้งทำเป็นหลับเท่านั้น และที่สำคัญก็คือเธอได้ยินทุกคำที่เขาพูดออกมาอย่างชัดเจน!
หลังจากได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลงแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็ลืมตาพลางลุกขึ้นจากเตียง ดวงตาสีน้ำตาลของเธอดูสับสบยิ่งนัก เด็กสาวยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของเธอที่เดรโกเพิ่งประทับรอยจูบของเขาไว้อย่างแผ่วเบาขณะที่ถ้อยคำที่เด็กหนุ่มได้พูดไว้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ

‘ ฉันรักเธอ เฮอร์ไมโอนี่ ’

……………………………………………………………

หลังจากออกมาจากห้องน้ำแล้วเดรโกก็พบว่าทาสสาวของเขายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แม้ว่าท่านอนของเธอจะเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่เล็กน้อยก็ตาม แต่ในสายตาของเขาแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง ขณะที่เด็กหนุ่มหลือบไปมองนาฬิกาซึ่งบัดนี้บอกเวลาเจ็ดโมงครึ่งก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนที่ร่างบางกำลังหลับอยู่

เมื่อเดินมาถึงเตียงและเห็นว่าหญิงสาวที่เขารักยังคงนอนหลับอยู่ เดรโกจึงเรียกชื่อของเธอเบา ๆ

“เกรนเจอร์” เขาเรียก แต่เมื่อเห็นว่าร่างบางยังคงนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง เด็กหนุ่มจึงเอื้อมมือไปแตะไหล่ของเธอเบา ๆ ซึ่งทำให้เด็กสาวลืมตาขึ้นมาในทันที

ดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่ไม่มีแววง่วงงุนอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามมันกลับดูสับสนมากกว่าอะไรทั้งหมด ดวงตาคู่สวยนั้นเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอเห็นภาพเจ้านายของเธอซึ่งบัดนี้ได้แต่งตัวอย่างเต็มยศยืนอยู่ตรงหน้า

“ได้เวลาตื่นแล้ว” เดรโกกล่าวขณะที่เด็กสาวยันกายขึ้นมาจากเตียงและมองมาทางเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน

“เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า เธอควรจะไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว” เด็กหนุ่มกล่าวพลางโบกไม้กายสิทธิ์ครั้งหนึ่งแล้วกระเป๋าที่มีลักษณะเหมือนกระเป๋าเดินทางแบบโบราณก็ปรากฏขึ้น และเมื่อเขาโบกไม้กายสิทธิ์เป็นครั้งที่สองเสื้อผ้าข้าวของเกือบทั้งหมดของเฮอร์ไมโอนี่ก็ลอยหวือออกจากตู้เสื้อผ้าพุ่งไปยังกระเป๋าใบนั้น ตั้งแต่เสื้อคลุมสีดำที่เธอใส่เป็นประจำ กางเกง รองเท้า รวมทั้งชุดชั้นในด้วย!

เด็กสาวมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึงก่อนจะประท้วงออกมา
“นายจะทำอะไรน่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องพลางรีบลุกขึ้นจากเตียง ขณะที่ข้าวของของเธอทั้งหมดลอยเข้าไปในกระเป๋าใบที่มัลฟอยเสกขึ้นมาก่อนที่กระเป๋าจะปิดตัวเองลงพร้อมเสียงดังฉับ

“ฉันก็ช่วยเธอจัดของน่ะสิ” เขาพูดหน้าตาเฉย “ฉันบอกแล้วไงว่าเราจะออกเดินทางกันแต่เช้า แล้วฉันก็ไม่มีเวลามารอเธอจัดกระเป๋าด้วยตัวเองด้วย” เด็กหนุ่มกล่าวพลางหมุนไม้กายสิทธิ์ในมือเล่นอย่างไม่ยี่หระ

“แต่นายไม่มีสิทธิ์......” ไม่ทันทีที่เด็กสาวจะพูดจบ เด็กหนุ่มก็ก้าวเข้ามาใกล้เธออีกสองก้าวพร้อมกับพูดขึ้น

“เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะกับของที่เป็นสมบัติของฉันโดยตรง” เดรโกกล่าวพลางมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาราวกับต้องการบอกว่าเธอเองก็เป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของเขาเช่นกัน ขณะที่เด็กสาวพยายามอย่างหนักที่จะหาเหตุผลมาโต้เถียงเขา ทั้งที่เธอเองก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจหาถ้อยคำใด ๆ มาเถียงมัลฟอยได้ในเมื่อสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้องทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องที่เธอเป็นสมบัติของเขาด้วย

ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าราวกับเธอเพิ่งนึกหาถ้อยคำมาโต้เถียงมัลฟอยได้และกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา เธอก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเสียงก่อนซึ่งมันทำให้ทั้งเด็กสาวและเจ้านายของเธอหันไปทางประตูห้องในทันที

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่เด็กหนุ่มจะพูดขึ้น
“เข้ามา” เดรโกพูด สิ้นเสียงของเขาประตูก็เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของเอลฟ์ประจำบ้านผู้มีนัยตาสีฟ้าเหมือนลูกบอลชายหาดเสียก่อน ดีน่านั่นเอง มันถือถาดที่บรรจุถ้วยยาเอาไว้

“ขออภัยที่ดีน่ามารบกวนนายน้อยกับคุณผู้หญิงเจ้าค่ะ แต่นายท่านสั่งให้ดีน่ามาปลุกนายน้อยแต่เช้า” เอลฟ์ร่างเล็กพูดเมื่อเห็นทั้งสอง

“แล้วฉันดูเหมือนกำลังนอนละเมออยู่หรือไง” เดรโกตอบออกไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ขณะที่ดีน่าส่ายหัวของมันอย่างแรงจนหูของมันกระพือ

“ไม่เจ้าค่ะ ดีน่าไม่ทราบมาก่อนว่านายน้อยจะตื่นนอนแล้ว ดีน่าขออภัยเจ้าค่ะ แต่นอกจากปลุกนายน้อยแล้วนายท่านได้สั่งดีน่าไว้อีกสองอย่าง คือให้เธอเอายามาให้นายน้อยดื่มเจ้าค่ะ และเธอต้องรอจนกว่านายน้อยจะดื่มจนหมดเพื่อเก็บถ้วยยากลับไปด้วยเจ้าค่ะ” เอลฟ์พูด ขณะที่มัลฟอยมีท่าทีรำคาญใจ แต่เขาก็ยอมหยิบยาในถ้วยมาดื่มจนหมดอยู่ดี

หลังจากดื่มยาจนหมดแล้วเดรโกก็วางถ้วยลงในถาดที่ดีน่ากำลังถืออยู่ตามเดิม แต่ถึงเด็กหนุ่มจะคืนถ้วยยาให้แล้วก็ตามแต่เอลฟ์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกจากห้องไปแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนั้นเดรโกจึงต้องถามขึ้น

“แกมีอะไรอีกดีน่า” เด็กหนุ่มกล่าวเรียบ ๆ ขณะที่เอลฟ์จึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพูดเสียงดังฟังชัดว่า

“นอกจากมาปลุกนายน้อยและนำยามาให้นายน้อยทานแล้ว ดีน่ายังได้รับคำสั่งจากนายท่านให้มาแจ้งนายน้อยว่านายท่านจะรับประทานอาหารเช้ากับนายน้อยในเวลาแปดโมงตรงเจ้าค่ะ เพื่อที่นายน้อยจะได้ออกเดินทางในตอนเก้าโมงตรงได้เจ้าค่ะ” เอลฟ์กล่าวด้วยน้ำเสียงฉะฉาน ขณะที่เด็กหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิด

“คนที่จะทานอาหารเช้าที่นี่มีแค่พ่อกับฉันเท่านั้นหรือ แล้วศาสตราจารย์สเนปล่ะ” เดรโกถาม และเขาก็สังเกตุได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสนใจมากขึ้นเมื่อเขาเอ่ยชื่ออดีตอาจารย์วิชาปรุงยาขึ้นมา แน่นอนเด็กหนุ่มรู้ดีว่าเด็กสาวอยากรู้เรื่องบาดแผลและอาการบาดเจ็บของเขาอยู่ไม่น้อย และเขาเองก็ไม่ต้องการจะปิดบังเธอในเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เพียงแต่ในตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาสะดวกจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังเท่านั้น

“นายท่านบอกให้ห้องครัวจัดอาหารสำหรับสองที่เท่านั้นเจ้าค่ะ ดีน่าคิดว่าคงไม่มีแขกมารับประทานอาหารกับนายท่านและนายน้อยในวันนี้” เอลฟ์ตอบ ขณะที่มัลฟอยพยักหน้าเบา ๆ อย่างเข้าใจ ถึงแม้ว่าสเนปจะไม่มาทานอาหารกับเขาและพ่อในวันนี้ก็ตาม แต่เด็กหนุ่มก็แน่ใจว่าเขาจะต้องมาที่คฤหาสน์ในเช้าวันนี้อย่างแน่นอน เพราะเขาได้รับปากเอาไว้แล้วว่าเขาจะปรุงยาจำนวนหนึ่งมาให้เดรโก รวมทั้งจะมาส่งเขาเพื่อเดินทางไปไอซ์แลนด์อีกด้วย

และเพราะเหตุผลบางอย่างที่เด็กหนุ่มไม่อาจเข้าใจได้ เขาพบว่าเขากลับรู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้นที่สเนปจะมาส่งเขารวมทั้งปรุงยามาให้ในวันนี้ แม้ว่ายาที่อดีตอาจารย์วิชาปรุงยาปรุงมานั้นจะไม่สามารถรักษาเขาให้หายจากการเป็นมนุษย์หมาป่าได้ก็ตาม แต่เขาก็รู้สึกดีไม่น้อยที่รู้ว่ามีคนที่เป็นห่วงและพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยเหลือเขาจากชะตากรรมที่เลวร้ายนอกจากพ่อของเขาแบบนี้

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเดรโกก็พูดขึ้นหลังจากที่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“ฉันจะลงไปที่ห้องอาหารเดี๋ยวนี้แหละ ส่วนแกก็ไปจัดอาหารเช้าสำหรับเกรนเจอร์มาให้เธอที่ห้องนี้ แล้วพอใกล้ ๆ เก้าโมงแกก็พาเกรนเจอร์ลงไปที่ห้องโถงพร้อมกับสัมภาระของเธอ อ้อ อย่าลืมให้เอลฟ์ตัวอื่นไปเอากระเป๋าเดินทางของฉันที่อยู่ในห้องนอนลงมาด้วยล่ะ” เด็กหนุ่มสั่ง และเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้านายสั่งอย่างชัดเจนดีแล้ว ดีน่าก็รับคำอย่างกระตือรือร้น

“เจ้าค่ะ ดีน่าจะทำตามที่นายน้อยสั่งเจ้าค่ะ” เอลฟ์พูดพร้อมกับก้มศีรษะลงต่ำจนจมูกของมันจรดพื้นก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับเสียงดังป็อป
หลังจากที่เอลฟ์หายตัวไปแล้วเดรโกก็หันมาทางเฮอร์ไมโอนี่แทน มือใหญ่ของเขาเลื่อนมาวางที่บ่าของเด็กสาวเบา ๆ เธอสะดุ้งกับการกระทำนั้น

“เธอไปอาบน้ำแต่งตัวซะ เดี๋ยวดีน่าคงเอาอาหารมาให้เธอ หลังทานอาหารเสร็จก็ให้เธอรออยู่ในห้องนี้จนกว่าดีน่าจะมาพาเธอลงไปหาฉันที่ห้องโถง เข้าใจไหม” เขากล่าวเรียบ ๆ พลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่เพื่อบอกว่าเขากำลังรอเธอคำตอบจากเธออยู่ ขณะที่เด็กสาวซึ่งไม่มีทางขัดขืนคำสั่งของเขาได้ตอบตกลงออกไปเบา ๆ

“ฉันเข้าใจ มัลฟอย”

“ดีมาก” เดรโกซึ่งมีท่าทีพอใจกับการเชื่อฟังคำสั่งของเฮอร์ไมโอนี่พึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะโน้มศีรษะเข้าไปจูบทาสสาวของเขาที่ริมฝีปากอย่างนุ่มนวล เด็กสาวกลั้นหายใจเพราะการกระทำนั้นพร้อมกับหลับตาลงเมื่อริมฝีปากของมัลฟอยสัมผัสปากอิ่มของเธอ และเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นก็คือดวงตาสีเงินของเดรโกที่มองมาทางเธออย่างลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความรัก แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามองเธอด้วยสายตาแบบนี้ก็ตาม แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีทางเคยชินกับสายตานี้ของเขาได้เลย เพราะทุกครั้งที่เธอสบสายตาแบบนี้ของเขาเข้าเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกราวกับหัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหยุดเต้นทุกครั้งไป

และสิ่งต่อมาที่เด็กสาวรู้สึกได้ก็คือน้ำหนักบริเวณไหล่ที่ผ่อนลง เมื่อเจ้านายละจากร่างของเธอพร้อมกับเดินไปทางประตู แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินออกจากห้องนอนเขาก็หันมาพูดกับเธออีกครั้ง

“อ้อ แล้วเธอก็ควรใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ด้วยล่ะ ช่วงนี้อากาศข้างนอกเย็นทีเดียว เดี๋ยวเธอจะไม่สบายเอา” เขาพูดพลางมองข้ามไหล่ของเด็กสาวเลยไปยังหน้าต่าง แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ถึงฤดูหนาวก็ตาม แต่อากาศในช่วงนี้ก็เริ่มเย็นขึ้นมามากจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าธรรมดาโดยไม่สวมเสื้อกันหนาวออกไปข้างนอกได้แล้ว

เฮอร์ไมโอนี่ไม่แน่ใจว่าเธอควรจะแปลกใจดีหรือไม่ที่เดรโก มัลฟอยพูดออกมาดัง ๆ ว่าเขาเป็นห่วงเธอแบบนี้ เธอจึงทำได้แค่เพียงนิ่งเฉยเท่านั้น ส่วนทางด้านเด็กหนุ่มเมื่อเห็นว่าเด็กสาวดูเหมือนจะเข้าใจที่เขาพูดแล้วแม้ว่าเธอจะไม่ได้ตอบอะไรออกมาก็ตามเขาก็เดินออกจากห้องไป

หลังจากที่มัลฟอยเดินออกจากห้องไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็ทรุดตัวลงบนเตียง เธอยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ ดวงตาสีน้ำตาลดูสับสนมากกกว่าทุกครั้งที่มันเคยเป็นขณะที่เสียงกระซิบที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะได้ยินยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอ

‘ ฉันรักเธอ เฮอร์ไมโอนี่ ’

‘ สิ่งที่เธอได้ยินเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ เขารักเธอจริง ๆ อย่างนั้นหรือ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ! ’ เด็กสาวคิดอย่างสับสน แต่เมื่อลองทบทวนดูให้ดีแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อาจจะหาเหตุผลใดมาโต้แย้งในสิ่งที่เธอเพิ่งค้นพบได้ ตรงกันข้ามเธอกลับพบแต่สิ่งที่จะมาสนับสนุนให้เธอเชื่อมันเสียมากกว่า เพราะอย่างน้อย ๆ เด็กสาวก็ค้นพบแล้วว่าถ้อยคำสารภาพรักที่เดรโกเพิ่งบอกกับเธอเมื่อครู่นั้นไม่ใช่คำโกหกแต่อย่างใด เพราะเด็กหนุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังตื่นอยู่เมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาจูบเธอพร้อมกับกระซิบคำรักที่ริมฝีปาก แถมเขาก็ยังไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องแกล้งทำว่าเขารักเธออีกต่อไป ในเมื่อเธอตกเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว มัลฟอยไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาแกล้งทำเป็นรักเธอเพื่อหลอกให้เธออยู่กับเขาอีกต่อไปแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้มือของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังสัมผัสรอยจูบของเดรโกบนริมฝีปากของเธอเองก็ชะงักในทันที ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอค้นพบความจริงอันน่าตกใจที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเชื่อมันมาโดยตลอด

‘ หรือว่าเขาจะไม่เคยโกหกเธอเรื่องที่เขารักเธอ หรือว่าเขาจะรักเธอมาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะหนีจากเขาไป! ’

ความคิดนั้นผุดขึ้นในหัวพร้อมกับความรู้สึกวาวหวิบในช่องท้อง เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับเธอตกจากที่สูงเมื่อได้ค้นพบความจริงที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้แบบนี้

แม้ว่าสิ่งที่เด็กสาวได้ค้นพบนี้จะไม่น่าเชื่อมากเพียงใดก็ตาม แต่มันก็สามารถอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างมัลฟอยกับเธอได้ทุกอย่าง เพราะเมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าเดรโกไม่มีเหตุผลที่จะมาหลอกว่าเขารักเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะได้รับคำสั่งจากพ่อให้คอยเฝ้าเธอไว้อย่าให้หนีไปได้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องถึงกับแกล้งทำเป็นรักเธอนี่นา เพราะถึงอย่างไรเด็กหนุ่มก็มีไม้กายสิทธิ์ เขาสามารถร่ายคาถาเพื่อกักขังเธอไว้ในห้องหรือทำได้แม้กระทั่งล่ามเธอด้วยโซ่เวทย์มนต์เพื่อที่เธอจะไม่โอกาสหนีออกไปจากที่นี่ได้ในสภาพที่ไร้ไม้กายสิทธิ์แบบนี้ และถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วทำไมคนที่รังเกียจพวกเลือดสีโคลนรวมทั้งเย่อหยิ่งและถือตัวอย่างมัลฟอยจะต้องลดตัวลงมาหลอกว่าเขารักเธอเพียงเพราะต้องการให้เธออยู่ที่นี่กับเขาตลอดไปด้วยล่ะ ในเมื่อมันมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่า และไม่ต้องเสี่ยงต่อการเสียเกียรติของเขาแบบนี้ แถมมันยังให้ผลในแบบที่พ่อของเขาต้องการไม่ต่างกันเลย

แน่นอนว่าไม่ เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดว่าคนอย่างเดรโก มัลฟอยจะยอมลดตัวเองลงมาแกล้งทำเป็นรักเลือดสีโคลนอย่างเธอเพียงเพราะต้องการจะหลอกให้เธออยู่ที่นี่กับเขาถามที่พ่อของเขาต้องการเท่านั้น ดังนั้นถ้าเขาไม่ได้แกล้งทำเป็นว่าเขารักเธอก่อนหน้านี้ก็หมายความว่าเขารักเธอจริง ๆ อย่างที่เขาบอกเธออย่างนั้นหรือ เขารักเธอเพราะว่าเธอเป็นคนเดียวที่ปลอยโยนเขาเมื่อเธอได้รับรู้อดีตที่โหดร้ายของเขา เขารักเธอเพราะว่าเธอเป็นคนเดียวที่ให้ความอบอุ่นเขายามที่เขาไม่มีใคร และเขาก็รักเธอเพราะว่าเธอสัญญาว่าเธอจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปโดยไม่จากเขาไปไหนอย่างนั้นหรือ

ลมหายใจของเฮอร์ไมโอนี่กระตุกเมื่อเธอนึกไปถึงสัญญาที่เธอเคยให้ไว้กับเดรโกหลังจากที่เขาบอกรักเธอเป็นครั้งแรก เธอสัญญากับเขาว่าเธอจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปแม้ว่าเธอจะไม่ได้รักเขาก็ตาม แลกเปลี่ยนกับการที่เขาให้สัญญาว่าเขาจะไม่ล่วงเกินเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจอีก แต่เธอก็ไม่สามารถรักษาสัญญาที่เธอให้ไว้กับเขาได้ แถมเธอยังเธอหนีเขาไปในวันเดียวกับที่เธอได้ให้สัญญานั้นไว้กับเขาอีกต่างหาก และเมื่อเป็นเช่นนั้นเดรโกจึงไม่เลือกที่จะรักษาสัญญาที่เขามีต่อเธอเช่นเดียวกัน

เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นขึ้นมาในทันทีที่ความคิดของเธอนำไปสู่เรื่องราวอันโหดร้ายที่เดรโกได้ทำไว้กับเธอจนเด็กสาวต้องยกมือแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดตัวเอง แม้จะรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงถึงสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้ความทรงจำนั้นน่ารื่นรมย์ขึ้นเลยแม้แต่น้อย

‘ ถึงเขาจะบอกว่ารักฉันก็ตาม แต่เขาก็ได้ทำเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ลงไปอยู่ดี แล้วนั่นก็ไม่ใช่การกระทำของคนที่รักกัน ’ เฮอร์ไมโอนี่คิด แม้ว่าเด็กสาวจะยอมรับความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อเดรโก มัลฟอยนั้นรักเธอมาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะพยายามหนีไปจากเขาแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจทำให้เธออภัยกับสิ่งที่เขาทำลงไปได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาใช้กำลังบังคับขืนใจเธอรวมทั้งเรื่องที่เขาทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์เพื่อกักขังเธอไว้เป็นทาสของเขาตลอดไปด้วย

‘ ใช่ เธออาจจะอภัยให้เขาไม่ได้ แต่ทำไมไม่ลองคิดดูล่ะว่าเขาเองก็ไม่อาจให้อภัยที่เธอทรยศเขาได้เหมือนกัน เธอหลอกเขาว่าเธอรักเขาเพื่อหาโอกาสขโมยไม้กายสิทธิ์ของเขาแล้วหนีไป เธอเป็นฝ่ายทำผิดสัญญาที่เธอให้ไว้กับเขาก่อนนี่นา แล้วเธอจะสามารถไปโทษอะไรเขาได้ ในเมื่อเธอเป็นคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนี่เริ่มต้นขึ้นเอง ’ เสียงเล็ก ๆ ในหัวกระซิบขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ แม้ว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นจะโหดร้ายมากสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ แต่เด็กสาวก็ไม่อาจหาเหตุผลใดมาโต้เถียงในสิ่งที่มันพูดออกมาได้เลย เพราะถึงแม้ว่าสิ่งที่เดรโกทำกับเธอนั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้มากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าเธอเป็นคนทำให้มันเริ่มต้นขึ้นเอง เพราะว่าเธอเป็นคนผิดสัญญาและหนีไปจากเขาก่อน เด็กหนุ่มถึงได้เคียดแค้นเธอมากจนเขาสามารถทำเรื่องที่เลวร้ายที่สุดลงไปกับเธอได้

‘ เธอหลอกลวงฉัน! เธอผิดสัญญาที่ให้ไว้กับฉัน! เธอแกล้งพูดว่ารักฉันเพื่อให้ฉันตายใจ เพียงเพราะเธอต้องการหาโอกาสขโมยไม้กายสิทธิ์ของฉันแล้วหนีไป นี่ยังไม่เรียกว่าทรยศอีกงั้นเหรอ ’

คำพูดของมัลฟอยในตอนที่เขาจับเธอกลับมาได้ดังก้องอยู่ในหัวของเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวยังคงจำได้ดีถึงแววตาที่ดูเกรี้ยวกราดหากแต่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดของเขาในค่ำคืนนั้น แววตานั้นของเดรโกดูราวกับเขากำลังมองผู้หญิงที่เขาเกลียดมากที่สุดหากแต่เธอก็เป็นคนที่เขารักมากที่สุดด้วยเช่นกัน และเฮอร์ไมโอนี่ก็ยังจำได้ดีว่า เพราะแววตาของเด็กหนุ่มนั้นเองที่ทำให้เธอนึกสงสัยไปว่าสิ่งที่เดรโกพูดก่อนหน้านั้นว่าเขารักเธอมาโดยตลอดอาจจะเป็นความจริงก็ได้ และในตอนนี้เด็กสาวก็ต้องตกใจที่ได้พบว่าสิ่งที่เธอปฏิเสธที่จะเชื่อมาตลอดนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างที่ไม่อาจสงสัยได้

‘ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาจะเสียใจแค่ไหนนะ ’ นั่นเป็นสิ่งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่คิดได้หลังจากที่เธอยอมรับแล้วว่าเดรโก มัลฟอยหลงรักเธอมาตลอด และเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาจะโกรธและเสียใจมากแค่ไหนนะที่เธอทรยศต่อความรักของเขาและหนีไปแบบนั้น

และขณะที่กำลังจินตนาการถึงความรู้สึกของเดรโกหลังจากที่เธอทิ้งเขาไปอยู่นั้น จู่ ๆ ถ้อยคำที่เด็กหนุ่มเคยพูดไว้กับเด็กสาวก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ

‘ ฉันรักเธอนะเฮอร์ไมโอนี่ เธอจะรักฉันได้ไหม ’

‘ ถ้าเธอบอกว่ารักฉันสักคำ ฉันก็พร้อมจะทำเพื่อเธอทุกอย่าง แค่รู้ว่าเธอรักฉันบ้าง ฉันก็พร้อมที่จะละทิ้งทุกอย่าง....เพื่อเธอ ’

เสียงของมัลฟอยในวันที่ทั้งสองออกไปเดินเล่นกันนอกคฤหาสน์ดังก้องอยู่ในหัวของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับเขาเพิ่งพูดถ้อยคำนั้นกับเธอเมื่อครู่ เธอยังคงจำได้ถึงน้ำเสียงที่หนักแน่นของเด็กหนุ่มยามที่เขาสารภาพกับเธอว่าเขาจะยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอ แม้ว่าในตอนนั้นเด็กสาวจะไม่เข้าใจถึงสิ่งที่มัลฟอยพยายามจะบอกเธอก็ตาม แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วเธอกลับเข้าใจมันอย่างชัดเจน หลังจากที่เธอรู้แล้วว่าเขารักเธออย่างแท้จริง ทั้งที่เขาเองก็รู้ดีว่าโวลเดอมอร์ต้องการใช้เธอเป็นเหยื่อล่อให้แฮร์รี่มาติดกับ และหลังจากที่งานสำเร็จลงแล้วจอมมารก็จะฆ่าเธอทิ้งไม่ต่างจากมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น!

แน่นอนว่าเดรโกรู้เรื่องราวเหล่านั้นดีแต่เขาก็พยายามปิดบังมันจากเธอ เพราะว่าเขาหลงรักเธอ! เขารักเด็กสาวอย่างแท้จริง และไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงให้เธออยู่กับเขาเพื่อทำให้แผนของจอมมารสำเร็จเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามถ้าหากว่าเฮอร์ไมโอนี่เดาไม่ผิดล่ะก็ จากถ้อยคำที่เดรโกได้พูดไว้ว่าเขาจะยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอ

มันอาจจะหมายความว่าเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเธอ เพราะเด็กหนุ่มไม่ต้องการให้จอมมารสังหารผู้หญิงที่เขารัก ดังนั้นเขาจึงจะพยายามหาทางช่วยเหลือเธอ แต่เขาในขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา ว่าเธอจะรู้สึกแบบเดียวกับเขาหรือเปล่า เดรโกจึงพูดออกมาว่า ‘ แค่รู้ว่าเธอรักฉันบ้าง ฉันก็พร้อมที่จะละทิ้งทุกอย่าง....เพื่อเธอ ’

แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนสำหรับมัลฟอย เพราะเมื่อเด็กสาวได้อ่านจดหมายที่นายลูเซียสส่งมาให้ลูกชายของเขาแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็เข้าใจผิดไปว่าเดรโกหลอกลวงเธอ จนเธอต้องหาทางหนีไปจากเขาเพื่อความปลอดภัยของเพื่อนรัก แม้ว่ามันจะเป็นการผิดต่อสัญญาที่เธอได้ให้ไว้กับเด็กหนุ่มก็ตาม และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารักทรยศต่อความรักของเขารวมทั้งผิดสัญญาที่เธอได้ให้ไว้กับเขาแบบนี้ มันจึงทำให้เดรโกเจ็บแค้นเธอมากพอที่จะทำเรื่องที่เลวร้ายขนาดนั้นลงไปกับเธอได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้เด็กสาวก็รู้สึกถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่ไหลอาบแก้ม เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาสองสามครั้งและพยายามจะหยุดตัวเองไม่ให้ร้องไห้ แต่ผลกลับกลายเป็นว่ามีน้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยของเด็กสาวจนเธอต้องยกมือขึ้นปิดหน้าและร้องไห้สะอึกสะอื้น ราวกับว่าเรื่องราวที่เธอเพิ่งค้นพบนั้นมันหนักหนาเกินกว่าที่เธอจะรับไหว

เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขารักเธอ ไม่ใช่สิ เธอรู้มาก่อนว่าเดรโกรักเธอ แต่มันกลับมีเหตุผลอื่นมาทำให้เธอไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เขาบอกเธอได้ บวกกับความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มรักเธอนั้นก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออยู่แล้วด้วย เด็กสาวจึงปฏิเสธที่จะเชื่อมัน และการที่เธอมองข้ามความรักของเขาในครั้งนี้ มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ได้รับบทเรียนที่มีราคาสูงยิ่งนัก

แม้เด็กสาวจะไม่แน่ใจก็ตามว่าในตอนนี้เธอรู้สึกกับเด็กหนุ่มที่ชื่อเดรโก มัลฟอยอย่างไร เธอเกลียดชังเขา หวาดกลัวเขา หรือว่าสงสารเขากันแน่ แต่เท่าที่เฮอร์ไมโอนี่คิดได้ในตอนนี้คือเธอเสียใจเหลือเกินที่โชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตของเธอและเขาถึงเพียงนี้ เพราะถ้าหากเธอรู้มาก่อนว่าเขารักเธออย่างแท้จริง ถ้าหากเธอยอมเชื่อในคำพูดของเขาหรือเธอกล้าพอที่จะถามเขาเรื่องจดหมายที่เขาได้รับมาจากนายลูเซียส เธอก็อาจจะไม่ต้องทำผิดสัญญาที่ได้ให้ไว้กับเขา ซึ่งมันทำให้เกิดผลร้ายอันมหาศาลทั้งกับตัวเธอและเขาแบบนี้

บางทีถ้าหากว่าเธอรู้ความรู้สึกที่แท้จริงที่มัลฟอยมีต่อเธอสักนิด ถ้าหากเธอรู้ว่าเขาจะยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอล่ะก็ เธอก็คงไม่ต้องตกเป็นทาสของเขาแบบนี้ เพราะถ้าถึงตอนที่ชีวิตของเฮอร์ไมโอนี่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เดรโกที่รักเธออย่างแท้จริงคงจะยอมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือเธอ เขาอาจจะยอมทำแม้กระทั่งพาเธอหนีออกไปจากที่นี่ก็เป็นได้

ถ้าหากเธอสามารถย้อนเวลากลับไปได้ล่ะก็ ถ้าหากเธอไม่จำเป็นจะต้องทรยศเดรโกและเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ ถ้าหากเขารักเธอมากจนถึงกับยอมช่วยให้เธอหนีไปจากที่นี่ ถ้าหากเขายอมทำเพื่อเธอมากขนาดนั้นแล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งเธออาจจะสามารถตอบแทนความรักของเขาที่มีต่อเธอด้วยสิ่งเดียวกันก็เป็นได้

เมื่อคิดถึงตรงนั้นเด็กสาวกลับร้องไห้หนักขึ้น น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย เพราะเธอรู้ดีว่าไม่ว่าเธอจะหวังที่จะกลับไปแก้ไขทุกอย่างมากเพียงใด เธอก็ไม่อาจทำได้ เธอไม่อาจลบล้างอดีตที่เกิดขึ้นได้ พอ ๆ กับที่เธอไม่อาจลบล้างสัญญาทาสชั่วนิรันดร์ที่เดรโกได้ทำไว้กับเธอได้ แม้ว่าเด็กสาวจะปรารถนาให้โชคชะตาปราณีเธอกับเขามากกว่านี้ก็ตาม แต่ดูเหมือนความหวังของเธอจะกลายเป็นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ไปเสียแล้ว เมื่อเธอพบว่าการค้นพบความจริงที่ว่าเดรโกรักเธอนั้นไม่สามารถนำประโยชน์ใด ๆ มาให้เธอในตอนนี้ได้เลย

เพราะมันสายเกินกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสียแล้ว เพราะไม่ว่ามัลฟอยจะรักเธอมากแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่มีทางลบล้างความจริงที่ว่าเขาเคยใช้กำลังขืนใจเธอได้ พอ ๆ กับที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอก็ไม่อาจทำใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้ชายที่เคยทำเรื่องโหดร้ายขนาดนั้นไว้กับเธอได้ ยังไม่รวมที่เขาเป็นผู้เสพความตาย และเป็นลูกชายของคนที่ฆ่าสังหารพ่อแม่ของเด็กสาวอีกด้วย! และแม้ว่าเธอจะปรารถนามากเพียงใดก็ตาม เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจจะย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้เลยแต่ถ้าหากเธอสามารถทำได้ล่ะก็ เด็กสาวก็ไม่ลังเลเลยที่จะเชื่อในสิ่งที่มัลฟอยบอกกับเธอว่าเขารักเธอ และถ้าหากเขารักเธอมากถึงขนาดยอมทรยศพ่อของเขาและฝ่ายผู้เสพความตายเพื่อช่วยเธอล่ะก็ เมื่อถึงตอนนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็จะไม่ลังเลที่จะมอบความรักของเธอให้เขาเป็นสิ่งตอบแทนที่เขารักเธอมากขนาดนี้

แต่ถึงกระนั้นเด็กสาวก็รู้ดีว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นไม่สามารถเป็นไปไม่ได้เลยแม้แต้น้อย!


……………………………………………………………

หลังจากจมอยู่กับห้วงความคิดของตนเองอยู่นานพอควรเฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงป็อปที่ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของดีน่า เอลฟ์ประจำบ้านถือถาดอาหารสีเงินที่บรรจุอาหารมากเกินกว่าที่เด็กสาวจะทานไหวไว้
“ดีน่าเอาอาหารเช้ามาให้คุณผู้หญิงแล้วเจ้าค่ะ” ดีน่าพูดก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหารขนาดเล็กภายในห้องนอนของเด็กสาว และหลังจากที่มันเอาอาหารวางไว้บนโต๊ะแล้วเอลฟ์ก็หันมาทางเฮอร์ไมโอนี่ ดวงตาสีฟ้าของดีน่าเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อมันเห็นว่าเด็กสาวกำลังร้องไห้

“คุณผู้หญิงเป็นอะไรเจ้าคะ!” เอลฟ์ร้องเสียงแหลมพลางรีบเข้ามาดูอาการของเฮอร์ไมโอนี่ขณะที่เด็กสาวรีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ ดีน่า ฉันไม่เป็นไร” เธอบอกขณะที่พยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติ แต่ดูเหมือนว่าเอลฟ์จะไม่เชื่อเธอแม้แต่น้อย ขณะที่มันขยับเข้ามาใกล้ร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงอีกก้าว ดวงตาสีฟ้าคู่โตของมันมองมาทางเธออย่างเป็นห่วง

“คุณผู้หญิงอย่าปิดบังดีน่าเลยเจ้าค่ะ เธอเห็นอยู่ว่าคุณผู้หญิงกำลังร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณผู้หญิงหรือเจ้าคะ” มันถามขณะที่เด็กสาวมีสีหน้าลำบากใจ เธอจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะมันตอบออกมา

“มันก็แค่.......เรื่อง.....นายน้อยของเธอน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบแบบนั้นออกไปเพราะเธอไม่สามารถหาคำตอบอื่นมาบอกดีน่าได้ และเธอก็คิดว่าถ้าหากดีน่ารู้ว่าต้นเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้นั้นเป็นนายน้อยของมัน เอลฟ์ก็คงจะไม่ถามอะไรเธอต่อ แต่เด็กสาวก็ต้องพบว่าเธอคิดผิด

“นายน้อยทำอะไรคุณผู้หญิงหรือเจ้าคะ” มันถามออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิม และเมื่อเป็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ที่จนปัญญาจะหาคำตอบมาให้มันจึงหลบตาเอลฟ์แล้วหันไปมองทางอื่นแทน เมื่อเห็นว่าเด็กสาวไม่มีท่าทีจะตอบคำถามของมัน ดีน่าจึงวางมือผอม ๆ ของมันลงบนเข่าของเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะพูดขึ้น

“ดีน่ารู้ว่าคุณผู้หญิงอาจจะไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ดีน่าอยากให้คุณผู้หญิงรู้ว่านายน้อยเป็นห่วงคุณผู้หญิงมากนะเจ้าคะ ดีน่ารับใช้นายน้อยมานาน แล้วเธอก็ไม่เคยเห็นนายน้อยเป็นห่วงใครเท่าคุณผู้หญิงเลยค่ะ” เอลฟ์พูด และเมื่อดูจากแววตาของดีน่าที่มองมาทางเธอแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ว่ามันไม่ได้โกหกแต่อย่างใด

“เขาอาจจะไม่เคยมีทาสอย่างฉันมาอยู่ที่คฤหาสน์มาก่อนก็ได้” เธอตอบเลี่ยง ๆ แต่ดีน่ากลับส่ายหน้าอย่างแรง

“ไม่ใช่นะเจ้าค่ะ ไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้นหรอกเจ้าค่ะ ดีน่ารู้ว่านายน้อยเป็นห่วงคุณจริง ๆ นะเจ้าคะ นายน้อย…………..” ไม่ทันที่เอลฟ์จะพูดจบเฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดบทพูดขึ้นก่อน

“ฉันหิวแล้วดีน่า ขอบใจนะที่เอาอาหารมาให้” เธอเอ่ยเรียบ ๆ เด็กสาวรู้ดีอยู่แล้วในสิ่งที่ดีน่ากำลังพูดต่อ และเธอก็ไม่ต้องการให้มันมาตอกย้ำความรู้สึกของมัลฟอยที่มีต่อเธอในตอนนี้ด้วย ขณะที่เอลฟ์สาวรู้ว่าคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่นั้นเป็นการบอกมันอ้อม ๆ ว่าเด็กสาวไม่ต้องการให้บทสนทนาระหว่างเธอกับดีน่ายืดยาวออกไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่เธอก็สุภาพเกินกว่าจะออกปากไล่มันออกไปจากห้อง

และเมื่อเป็นเช่นนั้นดีน่าจึงพูดขึ้นมาเบา ๆ
“เจ้าค่ะ ดีน่าจะไม่รบกวนคุณผู้หญิงแล้วเจ้าค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงทานเสร็จแล้วก็เรียกดีน่ามาเก็บสำรับนะเจ้าคะ” เอลฟ์กล่าวพลางก้มศีรษะลงต่ำในเชิงทำความเคารพก่อนที่มันจะหายตัวไปพร้อมเสียงดังป็อปโดยทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ให้อยู่ภายในห้องเพียงลำพังกับความสับสนภายในจิตใจของเธอเอง

………………………
……………………………………





Create Date : 02 กรกฎาคม 2555
Last Update : 23 กรกฎาคม 2555 16:29:34 น. 4 comments
Counter : 3979 Pageviews.

 

อยากเห็นเธอตอนจบจัง โชคชะตาไม่เล่นตลก มันคงเล่นบทเศร้ามากกว่า


โดย: failhin123 IP: 182.52.44.90 วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:10:35 น.  

 
ในที่สุดเฮอร์ก็รู้ความจริง
เศร้าจังตอนนี้TT


โดย: BB IP: 192.168.190.244, 183.88.249.206 วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:12:26 น.  

 
สงสารน้องเฮอร์อะ


โดย: kwan IP: 125.27.130.3 วันที่: 17 ธันวาคม 2557 เวลา:13:11:26 น.  

 
เฮอร์คิดเยอะไปป่าว5555


โดย: Nutthatrp IP: 101.51.67.91 วันที่: 29 มิถุนายน 2558 เวลา:15:39:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

piksi
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]




สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
Friends' blogs
[Add piksi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.