Group Blog
 
All Blogs
 

ระหว่าง “อำนาจเก่า” กับ “อำนาจโบราณ”

ทุกวันนี้มีความพยายามเรียกรัฐบาลคุณทักษิณว่าเป็น “อำนาจเก่า” จากพวก คมช. รัฐบาลสุรยุทธ กลุ่มสื่อลูกกระจ๊อกทั้งหลาย ฯลฯ คำถามก็คือคำนี้เหมาะสมกับการเรียกคุณทักษิณหรือไม่? และจริง ๆ แล้วใครที่เป็น “อำนาจเก่า”หรืออาจจะเก่าและโรยรายิ่งกว่านั้นจนเรียกได้ว่าเป็น “อำนาจโบราณ”กันแน่

รัฐบาล ที่ผ่านมาก่อนยุคสมัยของคุณทักษิณแทบทุกรัฐบาล คือรัฐบาลที่ยึดมั่นกับองค์ประกอบที่ครอบงำประเทศมาหลายสิบปี เป็นองค์ประกอบของระบอบข้าราชการ พัฒนามาจากแนวความคิดเผด็จการสมบูรณ์แบบตั้งแต่ยุคของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่พัฒนามาอีกขั้นจากการนำเอาความคิดศูนย์กลางนิยมของการปฏิรูปการปกครอง สมัย ร. 5 และยกเลิกอำนาจภูมิภาคของนครรัฐต่าง ๆ ในอดีตมาใช้ การวางแนวทางทุกอย่างจากศูนย์อำนาจในกลุ่มข้าราชการ ชนชั้นสูงในกรุงเทพฯและหัวเมือง กลุ่มอิทธิพลในท้องถิ่นที่ได้ผลประโยชน์จากส่วนกลางเป็นหัวใจสำคัญของการ ปกครองระบอบ
นี้ รัฐบาลต่าง ๆ ที่แม้จะมาจากการเลือกตั้งต่างยอมสยบกับศูนย์อำนาจของระบบราชการ บริหารประเทศด้วยระบบนี้ รวมไปถึงการใช้นโยบายเศรษฐกิจที่กำหนดจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ตัวการสำคัญในการทำให้ประเทศไทยปกครองด้วยวิธีการอมาตยาธิปไตยอย่างเต็มที่ ภายใต้การชี้นำของมหาอำนาจตะวันตก คน ไทยจะไม่พบโอกาสอะไรเลยที่แตกต่างในการดำรงชีวิต และระบอบนี้ปกครองประเทศไทยมานานก่อนถึงยุคสมัยของท่านนายกทักษิณ นี่คือแนวความคิดของพวกอำนาจโบราณที่ไม่อาจพัฒนาไปได้อีกแล้ว เพราะโลกาภิวัตน์เป็นหนทางของโลกยุคนี้และยุคต่อไป ไม่ใช่ระบอบศูนย์กลางอำนาจนิยมที่นับวันจะสูญสลายไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

เมื่อ ถึงสมัยของท่านนายกทักษิณ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านต่าง ๆ ของประเทศ ไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ นั้น ก็คือการเปลี่ยนแปลงที่มาจากการแก้ไขแนวทางปรัชญาพื้นฐานของการปกครองของ เมืองไทย นั่นคือ แทนที่จะเอาผลประโยชน์ของอมาตยาธิปไตยมาเป็นหลัก ท่านนายกทักษิณเอาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก คน ไทยทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลง อนาคตที่ดีกว่า ความหวังของชีวิต ชัดเจนที่สุดในยุคสมัยของนายกทักษิณ ชินวัตร และเราไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างอะไรอีก ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ได้ผลประโยชน์จากรัฐบาลทักษิณคือผู้ตอบคำถาม ที่ชัดเจนที
่สุด รวมไปถึงคนชั้นกลาง คนรุ่นใหม่ คนที่ก้าวทันโลกทั้งหลายรู้ดีว่านี่คือแนวทางที่ถูกต้องของประเทศไทยและของโลก

การตอบโต้ของพวก “อำนาจโบราณ” กระทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอดปีสองปีที่ผ่านมานั้น เพราะพวกเขาสูญเสียผลประโยชน์ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรหรือพวกรับจ้าง 400 ล้าน ก็ดี การออกมากล่าวร้ายนายกทักษิณของกลุ่มต่าง ๆ ก็ดี พวกเราเคยสังเกตไหมว่า ส่วนใหญ่พวกที่สนับสนุนและแสดงออกเปิดเผยทั้งหลายเป็นพวกกลุ่มชนชั้นสูงใน ประเทศทั้ง
สิ้น เช่น กลุ่มราชนิกูลปลายแถว กลุ่มอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬา กลุ่มอธิการบดีธรรมศาสตร์ กลุ่มข้าราชการตุลาการในศาลฎีกา ฯลฯ กลุ่มพันธมิตรเองก็ถูกชี้นำชัดเจนโดยคนอย่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ จำลอง ศรีเมือง แต่ถ้าสาวไปให้ลึกแล้วคนที่วางแผนหรืออยู่เบื้องหลัง เช่น เปรม สุรยุทธ สะพรั่ง ฯลฯ นั้น ยังมีคนอย่าง ประเวศ ปีย์ อานันท์ สุลักษณ์ ไพบูลย์ ฯลฯ สนับสนุนอยู่อีกชั้น คนพวกนี้หน้าฉากแสดงตนว่าเป็นคนรักประชาธิปไตย แต่เบื้องหลังคือพวกเขามีการรวมกลุ่มชนชั้นสูงที่อ้างตัวเองเป็นเพื่อน อานันท์ บ้าง กลุ่มปัญญาชน NGO ฯลฯ บ้าง เคลื่อนไหวในฉากหน้าที่เป็นประชาธิปไตย แต่เบื้องหลังรับการสนับสนุนจากพวกอนุรักษ์นิยมต่างประเทศ แสร้งทำตัวเป็นคนรักความถูกต้องเป็นธรรมเพื่อให้สามารถแทรกแซงขบวนการ ประชาชนมาตลอด เพราะพบว่าการทำตัวอนุรักษ์นิยมขวาจัดแบบสมัยสงครามเย็นทำไม่ได้อีกแล้ว เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว และนโยบายแบบนั้น เก่าเกินไปแล้วที่จะมาเคลื่อนไหวประชาชน

อยากให้เราพิจารณากันให้ ชัดเจนโดยไม่ต้องชี้นำ แต่ขอให้ใช้ประสบการณ์ห้าปีในยุคของนายกทักษิณเป็นตัวตัดสินว่า ที่จริงแล้วใครกันแน่คือ “อำนาจเก่า” ในสังคมไทย และกลุ่ม “อำนาจเก่า” ที่แท้จริงนั้นเป็นกลุ่มไหนกันแน่ พวกเขาเป็นอำนาจเก่ากะโหลกกะลาที่อยู่ในสังคมไทยมานับศตวรรษ ยึดมั่นมาตลอดกับการอยู่เหนือกว่า เป็นชนชั้นสูง เป็นผู้ดีเก่า ฯลฯ แต่ความจริงก็คือคนพวกนี้เป็นระบอบ “อำนาจโบราณ” ที่พ้นยุคสมัยไปแล้ว แต่พยายามจะกลับมาแย่งยื้อระบอบที่เคยอำนวยประโยชน์ของพวกตัวเองกลับมาเท่า นั้น เมื่อพวกเขาพบว่าสังคมและประชาชนไม่เล่นด้วย เช่น ชัยชนะถล่มทะลายของพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้ง ที่ชี้ชัดความต้องการของประชาชน พวกเขาจึงหน้ามืดตามัวจนถึงขนาดทำการรัฐประหาร ก่อนที่จะพบว่าขนาดที่ใช้ไม้สุดท้ายคือการยึดอำนาจรัฐแล้ว ก็ยังไม่สามารถสยบประชาชนลงได้ เพราะการต่อต้านทุกรูปแบบที่เขาพบตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันนี้นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด เมื่อก่อนรัฐประหารแล้วก็หยุดได้ทุกอย่าง ใช้อำนาจได้ตามใจ แต่วันนี้ขนาดเอาปืนจ่อหัวประชาชนแล้ว ประชาชนก็ยังสู้และรุกหนักจนพวกเขาถอยกรูดไปติดมุมโดนตามถล่มแบบติดต่อด้วย หมัดชุดจน
แทบจะยืนไม่อยู่กันแล้ว และประชาชนมีรูปแบบหลากหลายขึ้นในการต่อสู้จนพวกเขารับไม่ทัน
และกำลังจะถึงขั้นรับไม่ไหวในเร็ว ๆ นี้

ตอนนี้เขาพยายามใช้รัฐธรรมนูญโจรกดหัวพวกเราใหม่ ถ้าอ่านดูหลายอย่างชี้ชัดถึงการต้องการรักษา “อำนาจโบราณ” ของ พวกเขา ไว้ให้ได้เท่านั้น เรื่องวุฒิสภาก็ดี กลุ่มอำนาจอิสระ 7 กลุ่มที่ล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้ก็ดี ที่มาของกลุ่มอำนาจเหล่านั้นก็ดี แม้กระทั่งระบบการแบ่งเขตเลือกตั้งและจำนวน ส.ส.ก็ดี ฯลฯ ทุกอย่างจัดทำขึ้นเพื่อพิทักษ์รักษา “อำนาจโบราณ” และสยบ “อำนาจประชาชน” ทั้งนั้น

เรา ต้องใช้วิจารณญานในการต่อสู้ ดึงเอาสิ่งที่พวกเขาพยายามหมกเม็ดซ่อนไว้ในรัฐธรรมนูญโจรฉบับนี้ออกมาให้หมด ต่อสู้ไม่ให้นำมันมาใช้งานในทุกวิถีทาง เพราะถ้าเรายอมก็คือการยอมให้ “อำนาจโบราณ” กดหัวประชาชนต่อไปอีกนาน และประชาชนจะไม่ได้เป็นศูนย์กลางของปรัชญาการบริหารประเทศอีก เหมือนอย่างที่นายกทักษิณเคยทำไว้และได้ใจของประชาชนอย่างเราเราท่านท่านไป เต็มเปี่ย
ม เราต้องไม่ยอมให้ “อำนาจโบราณ” มีอำนาจเหนือประเทศนี้ในทุกวิถีทาง

ระหว่าง “อำนาจเก่า”กับ “อำนาจโบราณ” เราเลือก “อำนาจเก่า” เพราะมันไม่ได้ตกยุคอย่างพวกหัวโบราณที่แก่แล้วแต่ตัณหากลับ อยากเป็นใหญ่ไม่มีวันพอเพียง ทั้งที่อ้างความพอเพียงกันเป็นคาถาขึ้นใจ




 

Create Date : 30 เมษายน 2550    
Last Update : 30 เมษายน 2550 22:02:14 น.
Counter : 329 Pageviews.  


my-op
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add my-op's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.