Group Blog
 
All Blogs
 
ความรู้ ความเข้าใจของประชาธิปไตย ในยุค รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

ผมจำได้ นับตั้งแต่ผมเป็นเด็ก จนเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมไม่เคยสนใจการเมือง ไม่เคยสนใจเลยจริง ๆ เวลาดูหนังสือพิมพ์ ผมจะดูอะไรรู้หรือไม่ ดูโปรแกมหนัง เพราะผมชอบดูหนัง และก็ข่าวกีฬา เล็กน้อย และที่ชอบดู ข่าวก็เป็นข่าวอาชญากรรม ใครฆ่าใคร ใครยิงใคร แต่การเมือง ผมไม่เคยสนใจเลย
เวลาแถวบ้านผม ชนบทนะครับ มีการเลือกตั้งในรัฐบาลยุคก่อน ๆ ที่ผ่านมา บ้านลุงผม จะเป็นหัวคะแนน จะมีคนมาบ้านลุงผมถามว่า พรรคนั้นให้หัวเท่าไร พรรคนี้ให้หัวเท่าไร เคยได้ยินคำว่า คืนมาหอนไหมครับ ก่อนการเลือกตั้ง ๑ วัน เงินจะสะพัด ประชาชน ชาวบ้าน จะมีเงิน กัน ซึ่งก็ไม่มาก หัวละ ๑๐๐ หรือ ๒๐๐ บาท ก็จะยิ้มกริ่มกันไปทั่วหน้า เพราะอะไรชาวบ้านถึงทำอย่างนั้น เพราะเขาจน เพราะเขาไม่มีเงิน เขาจะพูดกันว่า รัฐบาลช่วยอะไรเขาไม่ได้
และ สาธารณะสุขขั้นพื้นฐาน เขาไม่มี เขาไม่ได้รับ และส่วนมากขาดความรู้ ความเข้าใจ
ในสมัยนั้น ต่อให้มีประชาสัมพันธ์ ต่อให้มีการประกาศว่าอย่าได้ซื้อเสียงหรือขายเสียง มันก็คงยังมีอยู่ เพราะความคิดความอ่านชาวบ้าน ถ้าฉันไม่ขายเสียง ชีวิตฉันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ฉันขายเสียง ชีวิตฉัน ก็เหมือนเดิม สู้ฉันเอาตังค์ก่อนไม่ดีหรือ อย่างน้อยฉันก็ได้ตังค์ ๑๐๐ หรือ ๒๐๐ บาท ก็ได้ตังค์ เพราะโดยพื้นฐานของมนุษย์แล้ว ปัจจัย สี่ เป็นความจำเป็น
ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค
ท่านนายกทักษิณ ชินวัตร ประกาศตั้งพรรคไทยรักไทย แล้วชูนโยบาย เป็นประชานิยม ไม่ว่าจะเป็น ๓๐ บาทรักษาทุกโรค , กองทุนหมู่บ้าน , บ้านเอื้ออาทร ให้รัฐบาลออมสินออกเงินกู้ให้คนหาเช้ากินคำ่ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล บางคนสามารถกู้เงินออมสิน ไปซื้อรถมาขายของได้ , เปิดร้านเล็ก ๆได้ ๆ ฯลฯ
นโยบายของพรรคไทยรักไทย มันไปตรงกับปัจจัยขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ของชาวบ้าน คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และก็นำนโยบายมาทำเป็นรูปธรรมจริง ๆได้ประโยชน์กันทั่วหน้า
เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งประเทศ เห็นว่า นายกคนนี้ ได้ทำให้เขาลืมตาอ้าปากได้ แน่นอน เขาย่อมรัก เพราะได้ให้ชีวิตเขาดีขึ้น
ตอนนี้ ประชาชนก็เริ่มจะสนใจการเมือง รวมทั้งผมด้วย ผมเอง ถามว่า ได้ประโยชน์อะไรจากรัฐบาลบ้าง ตอบเลยว่า ไม่ได้ บัตรทอง๓๐ บาทรักษาทุกโรคก็ยังไม่มี แต่ผมก็ไม่ได้เดือดร้อน เงินทองก็ยังพอมีใช้จ่าย ไม่ขัดสน เพราะผมพอจะมีความรู้เปิดสำนักงานกฎหมายเล็ก ๆ
แต่ถึงแม้ผมจะไม่เดือดร้อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรวยอะไรมากมายนัก อยู่กินทุกวันนี้ ใช้คำสอนของในหลวง คือเศรษฐกิจ พอเพียง มีเท่าใด ก็ใช้เท่านั้น ถ้ามีมากก็จะเก็บไว้เผื่อเป็นทุนในอนาคต แต่เราต้องคำนึกถึงพี่น้องเพื่อนร่วมชาติ ส่วนรวมก่อน ค่อยมาส่วนตัว
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ กำลังได้รับความเดือดร้อน เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องของความยากจน เรื่องของสาธารณะสุขขั้นพื้นฐาน รัฐบาลนี้ได้ทำ และทำจริง ๆ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆมา ไม่มีการซื้อเสียง ทุกคนเลือกพรรคไทยรักไทยด้วยใจ ต้องการให้นายกคนนี้ กลับมาเป็นนายกอีก เพราะ เขาได้รับปัจจัยขั้นพื้นฐาน คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และได้รับจริง ๆ
ผมยกตัวอย่างง่าย ๆ มีพระองค์หนึ่งทำผิดศีล อาจจะกินข้าวเย็น แล้วบังเอิญพระองค์นี้ ไปเจอคนคนหนึ่งซึ่งกำลังจะตาย ชื่อว่านายประเทศไทย แล้ว พระองค์สามารถช่วย นายประเทศไทยคนนี้ได้ คือทำให้ไม่ต้องตายและรอดชีวิตได้ อย่างพวกพันธมาร
จากพฤติกรรมที่แสดงออก ทุกวันนี้จนเขาเอือมระอา
ถ้ามัน เป็นนายประเทศไทย มันคงจะไม่ยอมให้พระที่ทำผิดศีลองค์นี้ รักษา คงจะพูดว่า ข้า ฯยอมตาย ที่จะให้พระองค์นี้มารักษา เพราะทำผิดศีล ไม่มีจริยธรรม และศีลธรรม

จากคุณ : ชอบคนไทย - [ 13 ก.ย. 49 14:42:59 ]


Create Date : 14 กันยายน 2549
Last Update : 14 กันยายน 2549 4:44:30 น. 0 comments
Counter : 407 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

my-op
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add my-op's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.