without
you(x), ∀x ∈ Ф-Space
, my life would never be completed
Begining Space
Love Space (กลุ่มนี้สำหรับบาง x ใน ฟาย-space)
Dhamma Space (แบบมือสมัครเล่น)
Photo Space
จาก 8 เทพอสูรมังกรฟ้า
การล้างบาปตามวิถีพุทธ
สาหร่ายใต้น้ำที่ได้แสงแบบรำไร
การล้างบาปตามวิถีพุทธ
ในพระพุทธศาสนานั้น มีวิธีการแก้ไขบาปอกุศลที่เคยพลาดพลั้งกระทำไป อย่างมีเหตุผลดังนี้
สมมุติว่าเราใส่เกลือช้อนหนึ่งลงในน้ำ 1 แก้ว เมื่อคนให้ละลาย แล้วลองชิมดู ผลจะเป็นอย่างไร "ก็เค็ม"
ถ้าเติมน้ำลงไปอีก 1 ถัง ชิมดูเป็นอย่างไร "ก็แค่กร่อย ๆ"
ถ้าเติมน้ำลงไปอีก 1 แทงค์ใหญ่ ชิมดูเป็นอย่างไร "ก็จืดสนิท"
"เกลือหายไปไหนหรือเปล่า????"
"เปล่า ยังอยู่ครบถ้วนตามเดิม"
"แล้วทำไมไม่เค็ม????"
"ก็เพราะน้ำ 1 แทงค์มีปริมาณมาก มากจนสามารถเจือจางรสเค็มของเกลือจนกระทั่งหมดฤทธิ์ เราจึงไม่รู้สึกถึงความเค็ม"
ภาษาพระท่านเรียก
อัพโพหาริก
หมายความว่า
มีหมือนไม่มี
คือเกลือนั้นยังมีอยู่ แต่ว่าหมดฤทธิ์เสียแล้ว ถือได้ว่าไม่มี
เช่นกัน
วิธีแก้ไขบาปในพระพุทธศาสนาก็คือ การหยุดทำบาป แล้วตั้งใจทำความดีสั่งสมบุญให้มากเข้าไว้ ให้ผลบุญกุศลนั้นมาทำให้ผลบาปทุเลาลงไป
การทำบุญเหมือนการเติมน้ำ การทำบาปเหมือนการเติมเกลือ
เมื่อเราทำบาป บาปนั้นก็ติดตัวเราไปเหมือนเกลือที่ยังคงอยู่ในน้ำ ที่สำคัญไม่มีใครไถ่บาปแทนเราได้ ดังพระพุทธวจนะที่ว่า "นาญโญ อัฏฐะ วิโสธะเย - ผู้ใดจะไถ่บาปให้ผู้อื่นบริสุทธิ์ไม่ได้"
หนทางแก้ไขก็คือการเติมน้ำเพื่อเจือจางความเค็ม นั่นคือ เราต้องหมั่นสร้างบุญกุศลให้มากเพื่อมาทำให้บาปมีฤทธิ์น้อยลงหรือให้หมดฤทธิ์ลงไปให้ได้
จะเติมน้ำหรือเติมเกลือ พวกเราทั้งหลายคงต้องเลือกเอง
ขอยกพระพุทธวจนะเกี่ยวกับการเกิดบาปมา ณ ที่นี้ว่า
"นัตถิ ปาปัง อกุพพะโต - บาปย่อมไม่เกิดแก่ผู้ไม่ทำบาป"
"อัตตะนา วะ กะตัง ปาปัง อัตตะนา สังกิลิสสะติ - ผู้ใดทำบาป ผู้นั้นก็เศร้าหมองเอง"
"อัตตะนา อะกะตัง ปาปัง อัตตะนา วะ วิสุชฌะติ - ผู้ใดไม่ทำบาป ผู้นั้นก็บริสุทธิ์"
เอกสารอ้างอิง:
ธรรมะสว่างใจ
ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๑๘๕, พฤศจิกายน-ธันวาคม ๒๕๔๘, วัดสังฆทาน, Bermingham.
Create Date : 24 มิถุนายน 2549
Last Update : 24 มิถุนายน 2549 3:40:58 น.
4 comments
Counter : 357 Pageviews.
Share
Tweet
อืมม ก็จริงเนอะ
โดย:
ตะวันสีชมพู
วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:3:46:02 น.
กรรมเก่าล่วงไป เร่งสร้างกรรมใหม่ที่เป็นกุศลกรรม แบบนี้ชิมิครับ
โดย:
ดำรงเฮฮา
วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:18:41:29 น.
แม่นแล้วค่ะ
โดย:
PhiSpace
วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:22:19:59 น.
เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ เพลงประกอบเพราะจังเลยนะคะ
โดย:
maynie
วันที่: 12 กรกฎาคม 2549 เวลา:6:13:32 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
PhiSpace
Location :
Durham, United Kingdom
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
"The real end of science is the honor of the human mind"
: Curl Gustav Jacob Jacobi 1804-1851
ป้ามด
Love U forever.
grippini
ราตริมณิ
Webmaster - BlogGang
[Add PhiSpace's blog to your web]
KMITT = KMUTT
Srinakharinwirot University
Durham University
Bloggang.com