Arrow Season 1 (2012)

Cast:

Stephen Amell  [Oliver Queen]
Katie Cassidy  [Dinah 'Laurel' Lance]
Colin Donnell  [Tommy Merlyn]
David Ramsey  [John Diggle]
Willa Holland  [Thea Queen]
Susanna Thompson [Moira Queen]
Paul Blackthorne  [Detective Quentin Lance]

Review:

เรื่องราวของ โอลิเวอร์ ควีนส์ (Stephen Amell) เพลย์บอยหนุ่มที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายตามใจตนเองโดยไม่สนเรื่องราวใดๆ แต่ชีวิตของเขาก็ต้องพบกับจุดเปลี่ยนจนได้ เมื่อเขาเดินทางล่องเรือไปเที่ยวในมหาสมุทรแปซิฟิคกับพ่อของเขาและเกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้พ่อของเขาและแฟนสาวของเขาเสียชีวิตในที่สุด ส่วนโอลิเวอร์หายสาบสูญไป ทุกคนคิดว่าโอลิเวอร์ตายไปในทะเลแล้วแต่หลังจากนั้น 5 ปี โอลิเวอร์กลับมาที่เมืองสตาร์ลิ่งซิตี้ บ้านเกิดของเขาอีกครั้ง พร้อมกับหน้าที่และความมุ่งมั่นที่จะทำให้เมืองนี้ดีขึ้น ดังนั้นเขาจึงเริ่มต่อสู้กับเหล่าร้ายโดยปิดบังตัวตนโดยใส่ฮู้ดสีเขียวและปราบเหล่าร้ายด้วยธนู พบกับการต่อสู้ปราบเหล่าร้ายในเมืองสตาร์ลิ่งซิตี้และค้นพบทัศนคติของ โอลิเวอร์ ควีนส์ ที่เอาตัวรอดจากเกาะที่เต็มไปด้วยอันตรายตลอดจนทักษะการใช้ธนูอันเป็นเลิศได้ใน Arrow ครับ

ผมห่างหายจากการเขียนรีวิวซีรีย์ไปนานมากเลยครับ แต่ผมก็ติดตามซีรีย์ฝั่งอเมริกาอย่างสม่ำเสมอนะครับ ก่อนอื่นที่ผมสนใจเรื่องนี้เพราะผมชอบตัวละครตัวหนึ่งในเรื่อง Smallville ครับ นั่นคือ Green Arrow นั่นเองครับ ผมแอบคิดว่าถ้ามีซีรีย์เดี่ยวๆของเขาคงดีครับ เหลือเชื่อมันดันมีจริงๆครับ ผมก็ไม่รอช้าที่จะหามาชมครับ ก็ขอบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆครับ

เข้าสู่เนื้อหาการรีวิวกันเลยนะครับ ผมเริ่มดูซีรีย์เรื่องนี้ด้วยความรู้สึกตั้งความหวังไว้พอควรครับ เนื่องด้วยเป็นตัวละครที่ชอบคือถ้าไม่ดีก็คงไม่ดูแน่ๆครับ เนื้อหาในตอนแรกแน่นอนครับเป็นการปูพื้นให้เรารู้จักกับตัวละครครับ ซึ่งตอนแรกเป็นเนื้อหาหลังจากโอลิเวอร์กลับมาจากติดเกาะมาเริ่มใช้ชีวิตหลังจากหายจากสังคมเมืองไป 5 ปี ถึงแม้ว่าเขาจะเสียการใช้ชีวิตของคนเมืองไปแต่สิ่งที่เขาได้มานั้นคือสัญชาติญาณในการต่อสู้และเอาตัวรอดที่เขาซ่อนมันเอาไว้ ซีรีย์เล่าเรื่องพวกนี้ได้ดีครับ แต่สิ่งที่ผมชอบสุดๆเลยคือการเล่าเรื่องครับตัวซีรีย์เล่าเรื่องตัดฉากครับระหว่างฉากปัจจุบันกับช่วงที่โอลิเวอร์ใช้ชีวิตในเกาะครับ ซึ่งแต่ละฉากที่ตัดไปมาเด็ดมากครับเพราะมันแสดงถึงวิธีคิดของโอลิเวอร์ได้เป็นอย่างดีครับ ผมอยากบอกว่าเนื้อหาการเล่าคล้ายๆ Batman Begin เลยนะครับ ด้วยการเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้เราเหมือนได้เรียนรู้ร่วมไปกับโอลิเวอร์ได้เป็นอย่างดีครับ ถือเป็นซีรีย์อีกเรื่องที่ขอแนะนำถ้าจะหามารับชมครับ

มาที่เรื่องนักแสดงกันบ้างนะครับ ขอเริ่มที่พระเอกของเรื่องเลยนะครับ สตีเฟ่น แอมเมลล์ ผมขอสารภาพว่าไม่รู้จักเขามาก่อน เห็นครั้งแรกก็เรื่องนี้เลยครับ ส่วนตัวผมว่าเขาแสดงได้ดีนะครับบทโอลิเวอร์ ควีนส์ ที่ต้องแสดงความรู้สึกขัดแย้งในการกระทำและการแสดงออกทางแววตาผมว่าเขาทำได้ดีเลยครับ และอีกอย่างคือร่างกายครับพระเอกเรากล้ามสวยมากแสดงว่าก่อนมาเล่นบทนี้คงฟิตมาหนักครับ อีกคนหนึ่งที่ผมจะพูดถึงคือ เคธี่ แคสซิดี้ ถ้าใครเป็นแฟนซีรีย์ฝั่งอเมริกาน่าจะคุ้นกับเธอบ้างนะครับ ผมเคยชมผลงานเธอมา 2 เรื่องนะครับคือ Supernatural กับ Melrose Place มาเล่นเรื่องนี้เป็นนางเอกเต็มตัวเลยครับ เรื่องการแสดงทำได้ดีกว่าที่ผมคิดนะครับ ลืมภาพเซ็กซี่ของเธอที่เคยแสดงก่อนนี้ไปหมดเลยครับ ในเรื่องเธอเล่นไปอัยการสาวที่ดูฉลาดและมีแนวคิดที่ดีในการทำงานครับ ต้องมาลุนกันว่าสุดท้ายแล้วจะลงเอยกับพระเอกยังไงครับ

ภาพรวมเป็นซีรีย์ที่ดีและมีแนวทางน่าติดตามครับแนะนำว่าควรหามาลองชมกันครับ




Create Date : 19 ธันวาคม 2555
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2558 14:17:44 น.
Counter : 6838 Pageviews.

0 comment
Heroes Season 1 (2006)


Heroes Season 1

Cast
Milo Ventimiglia [Peter Petrelli]
Hayden Panettiere [Claire Bennet]
Sendhil Ramamurthy [Mohinder Suresh]
Jack Coleman [Noah Bennet]
Masi Oka [Hiro Nakamura]
Adrian Pasdar [Nathan Petrelli]
Greg Grunberg [Matt Parkman]
Ali Larter [Niki Sanders]
Zachary Quinto [Sylar]
Santiago Cabrera [Isaac Mendez]

Review

เรื่องราวของตนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นๆ คนเหล่านี้มีพลังพิเศษซึ่งพลังของพวกเขานั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็รู้ตัวบางคนก็อาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีพลังพิเศษ แต่บางคนก็ยังไม่รู้ตัวทำให้การใช้ชีวิตของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปด้วย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างคนที่มีพลังพิเศษเหล่านั้นกลับถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และมีหน้าที่หยุดสิ่งร้ายที่จะเกิดกับโลกซึ่งมันจะเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล ติดตามความสามารถของคนพิเศษแต่ละคน การนำไปใช้ตามแบบของแต่ละคน ตลอดจนทัศนคติของคนที่ใช้พลังพิเศษได้ใน Heroes



แนะนำตัวละคร


Peter Petrelli
พระเอกของเรื่อง ปีเตอร์ เพทเทรี่ ด้วยจิตใจที่อ่อนโยนและมีเมตตาทำให้เขาเลือกที่จะประกอบอาชีพบุรุษพยาบาล เขาเป็นคนดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือคน วันหนึ่งพบว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษแต่ไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้ จึงพยายามหาคำตอบแห่งพลังของตนเอง แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้โดยง่าย โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นได้ครอบครองพลังพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่กับตัว พลังของปีเตอร์คือการซึมซับพลังพิเศษของคนอื่นๆ พูดง่ายๆคือ ปีเตอร์ไม่มีพลังที่เป็นของตัวเอง แต่เมื่อใกล้ชิดกับคนที่มีพลังพิเศษ เขาจะซึมซับพลังนั้นไว้โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวและทำให้เขาสามารถใช้พลังพิเศษของทุกคนที่เขาพบได้ตลอดไป ถือเป็นพรสวรรคต์ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ข้อเสียคงมีอย่างเดียวถ้าชีวิตปีเตอร์ไม่เจอคนที่มีพลังพิเศษเขาก็จะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น



Claire Bennet
สาวน้อยเชียร์ลีดเดอร์ผู้น่ารักและมีความสามารถ แคลร์ เบนเน็ท ชีวิตวัยรุ่นของเธอดูเหมือนว่าจะสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องเรียนและเรื่องความสามารถตลอดจนครอบครัวที่อบอุ่น แต่วันหนึ่งเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอแตกต่างจากคนอื่นๆนั่นคือ เธอพบว่าร่างกายของเธอสามารถรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะบาดเจ็บหนักขนาดไหนก็ตาม แคลร์พยายามทดลองพลังพิเศษของตัวเองด้วยการทำร้ายตัวเองหลายครั้งแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอบาดเจ็บได้เลย แครล์เป้นคนรักความยุติธรรมมักจะทำอะไรด้วยความถูกต้องเสมอ แครล์ถือเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นเงื่อนไขสำคัญของเรื่องนี้ เหตุผลเพราะพลังการรักษาตัวของเธอนั่นเอง



Mohinder Suresh
โมฮินเดอร์ ซูเรซ เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มีความสามารถด้านพันธุกรรมศาสตร์เช่นเดียวกับพ่อของเขา จันทรา ซูเรซ โมฮินเดอร์นั้นไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรแต่ที่เขาเข้ามายุ่งกับกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษเพราะต้องการหาความจริงเรื่องการตายของพ่อเขาโดยโมฮินเดอร์เชื่อว่าพ่อเขาโดนฆ่าตายเพราะงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผู้มีพลังพิเศษทั้งหลาย โมฮินเดอร์จึงเดินทางมาที่นิวยอร์คเพื่อสืบหาความจริง โมฮินเดอร์ถือได้ว่าเป็นคนดีมากๆคนหนึ่งเข็มทิศทางศีลธรรมของเขานั้นถือว่าตรงและไม่มีอะไรมาเปลี่ยนศีลธรรมในใจเขาได้เลย ความสามารถด้านพันธุกรรมของเขานั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญของเรื่องเลยทีเดียว



Noah Bennet
โนอาห์ เบนเน็ท เป็นผู้จัดการฝ่ายขายบริษัทกระดาษธรรมดาๆ โนอาห์นั้นเป็นอีกคนที่ไม่มีพลังพิเศษอะไรหรือบางทีพลังพิเศษของเขาอาจจะเป็นหน้ากากและบทบาทที่เขาสวมได้อย่างแนบเนียนไม่ว่าจะเป็นในฐานะพ่อที่แสนดีของแครล์และหัวหน้าทีมไล่ล่าคนผู้มีพลังพิเศษจากทั่วโลก ตัวละครตัวนี้ถือเป็นอีกตัวละครที่คาดเดาได้ยากในช่วงแรกของเรื่องว่าการกระทำของเขามีนัยยะอย่างไรบ้าง โนอาห์เป็นคนอย่างไรยังไม่อาจรู้ได้แน่แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมาอย่างสม่ำเสมอคือรักครอบครัวมากกว่าอะไรทั้งหมดนั่นรวมถึงแครล์ด้วย



Hiro Nakamura
พนักงานในบริษัทเอกชนของญี่ปุ่น ฮิโร่ นากามูระ เขารู้สึกเบื่อๆกับชีวิตการทำงานของเขาในแต่ละวันที่มันแสนจะซ้ำซากและน่าเบื่อจนวันหนึ่งเขาพบว่าตนเองนั้นสามารถย่นเวลาได้ ซึ่งฮิโร่เองรู้สึกชื่นชอบจึงลองใช้และพัฒนาพลังของตนเองจนถึงขั้นหยุดเวลาและสามารถควบคุมเวลาได้โดยสมบูรณ์ทำให้เขาสามารถท่องไปในโลกแห่งการเวลาได้อย่างอิสระทั้งอดีตและอนาคตได้ตามใจแต่บางครั้งก็อาจพลาดบ้างเหมือนกัน วันหนึ่งฮิโร่ย่นเวลไปที่อเมริกาและพบเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ทำให้เขารู้ว่านี่คืออนาคตที่จะเกิดขึ้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะใช้พลังพิเศษของเขาในการช่วยโลก ฮิโร่เป็นคนร่าเริงบางครั้งอาจดูเหมือนเด็กแต่ความมุ่งมั่นในการรักษาคุณธรรมและช่วยเหลือผู้คนนั้นเต็มเปี่ยมในตัวเขาพลังของฮิโร่ถือว่ามีบทบาทอย่างมากในการช่วยโลกให้ปลอดภัย



Nathan Petrelli
ผู้เข้าชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาและเป็นตัวเต็งที่มีโอกาสเข้าสู่ทำเนียบขาว เนธาน เพทเทรี่ พี่ชายแท้ๆของปีเตอร์ เนธานมีความสามารถพิเศษคือการบินสามารถบินไปที่ไหนก็ได้ตามใจชอบเนธานนั้นรู้ว่าตัวเองสามารถบินได้มานานแล้วแต่ปกปิดทุกคนเอาไว้โดยเฉพาะปีเตอร์ เนธานนั้นเป็นคนตั้งใจทำงานและเป็นคนยึดติดกับแบบแผนอาจเนื่องมาจากคนที่เป็นนักการเมืองทำอะไรย่อมต้องถูกวางไว้ก่อนแล้ว หลายๆครั้งเราจะได้เห็นเนธานต้องเลือกระหว่างความถูกต้องและหน้าที่อยู่เป็นประจำศีลธรรมของเนธานโดยมากจะออกมาในลักษณะหน้าที่เป็นหลักแต่อย่างไรก็ดีคนที่เขาแคร์มากที่สุดกับเป็นน้องชายของเขาปีเตอร์ พลังของเนธานอาจจะไม่มีประโยชน์กับการช่วยโลกเท่าไรนักแต่การตัดสินใจของเขาต่างหากที่จะช่วยโลกเอาไว้



Matt Parkman
ตำรวจธรรมดาๆคนหนึ่งที่ทำงานเพื่อหาเลี้ยงภรรยาไปวันๆอย่าง แมตต์ พาร์คแมน ชีวิตของเขานั้นทำงานตามหน้าที่ไปวันๆไม่มีความก้าวหน้าใดๆจนกระทั้งวันหนึ่งอยู่ดีๆเขาก็ได้ยินเสียงในหัวของตนเองแต่เขาไม่รู้ส่ามันเป็นเสียงอะไร เขาพยายามหาที่มาจนพบว่าเขานั้นสามารถอ่านความคิดของคนที่เขาต้องการได้ และด้วยความสามารถนี้ทำให้แมตต์เข้าไปช่วยงานที่เอฟบีไอทำให้หน้าที่การงานดีขึ้นอย่างทันตาเห็น แมตต์ถือเป็นต้นแบบของคนธรรมดาคนหนึ่งที่บังเอิญมีพลังและพยายามใช้พลังนั้นเพื่อทำสิ่งดีๆแต่ไม่ถึงกับต้องการที่จะเป็นฮีโร่ พลังการอ่านใจของแมตต์นั้นแน่นอนว่าทำให้เขามองเข้าไปถึงจิตใตของคนอื่นๆได้แต่บางครั้งความจริงต่างๆมันก็ทำให้เราเจ็บปวดได้เหมือนกัน พลังพิเศษของแมตต์ตั้งคำถามได้ดีว่ามนุษย์สมควรต้องล่วงรู้จิตใจของคนอื่นๆทุกเรื่องหรือไม่



Niki Sanders
แม่บ้านสาวสวยธรรมดาคนหนึ่งผู้มีหน้าที่ดูแลลูกอย่าง นิกกี้ แซนเดอร์ ชีวิตของเธอก็อาจจะดูเหมือนแม่บ้านธรรมดาทั่วไปแต่นอกจากจะเป็นแม่บ้านธรรมดาแล้วเธอยังมีอาชีพเสริมคือ การเป็นนางแบบโชว์คลิปวาบหวิวทางอินเตอร์เน็ตซึ่งนี่เป้นความลับของเธอที่ไม่มีใครรู้ นิกกี้เป็นคนธรรมดาทั่วไปใช้ชีวิตเพื่อลูกของเธออย่างแท้จริง แต่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับตัวเธอเองคือพลังพิเศษของเธอนั่นเอง เธอมีพลังพิเศษคือการสร้างอีกบุคลิกขึ้นภายในตัวเอง อธิบายง่ายๆคือหนึ่งคนแต่สองพฤติกรรมโดยเมื่ออีกบุคลิกหนึ่งออกมานิกกี้จะจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรบ้าง อีกบุคลิกของนิกกี้มีชื่อว่าเจสสิก้ามีพลังมหาสารและเป็นนักฆ่าที่เลือดเย็น จะว่าไปในจำนวนคนที่มีพลังพิเศษมากมายนิกกี้น่าสงสารที่สุดเพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สำหรับนิกกี้แล้วสิ่งนี้เธอเรียกว่าคำสาปแต่บ่อยครั้งที่เจสสิก้าช่วยนิกกี้ไว้ ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นนิกกี้สู้กับบุคลิกขงเธออย่างต่อเนื่อง



Sylar [Grabriel Gray]
ช่างซ่อมนาฬิกาผู้ไร้ซึ่งชีวิตชีวาคนหนึ่ง เกเบรียว เกรย์ ชีวิตเขาต้องพบการเปลี่ยนแปลงเมื่อ จันทรา ซูเรซ พ่อของโมฮินเดอร์เดินทางมาพบเขาและเล่าเรื่องงานวิจัยของตนเองให้เกเบรียวฟังและคิดว่าเกเบรียวเป็นคนมีพลังพิเศษ จากนั้นจึงทำการทดสอบเพื่อหาว่าเกเบรียวมีความสามารถอะไร แต่ก็ไม่พบจนถอดใจและสร้างความผิดหวังให้เกเบรียวเป็นอย่างมาก เกเบรียวเชื่อว่าตนเองมีพลังจึงออกตามหาผู้มีพลังคนอื่นๆและฆ่าคนมีพลังเหล่านั้นและกินสมองของคนมีพลังพวกนั้น มันทำให้เกเบรียวได้ความสามารถของคนนั้นๆมา จากนั้นเพื่อเป็นการปิดปากเขาจึงฆ่า จันทรา ซูเรซ และใช้ชื่อไซล่า ในการตามล่าผู้มีพลังพิเศษเพื่อนำพลังมาเป็นของตัวเอง ไซล่าถือเป็นตัวละครที่มีความชั่วร้ายอย่างมากและไม่มีใครสามารถสู้กับเขาได้นอกจากปีเตอร์เท่านั้น ความอยู่รอดของโลกนี้จึงขึ้นกับการตัดสินระหว่างไซล่าและปีเตอร์



Isaac Mendez
จิตรกรอัจฉริยะผู้มีความสามารถในการวาดภาพได้ดั่งใจนึก ไอแซ็ค เมนเดส วันหนึ่งการวาดภาพของเขาก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงเมื่อเขาสามารถวาดภาพบางอย่างขึ้นมาได้โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าวาดมันขึ้นมาได้อย่างไร เขาวาดมันขึ้นมาได้แบบไม่จำกัด แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อสิ่งที่ไอแซ็ควาดขึ้นมามันกลายเป็นความจริงในภายหลังและเกิดขึ้นจริงเสมอ นั่นเพราะสิ่งที่ไอแซ็ควาดขึ้นมานั่นคืออนาคตนั่นเอง และรูปที่ใหญ่ที่สุดที่เขาวาดขึ้นมาคือภาพการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์เดียวกับที่ฮิโร่ไปเห็นมาในอนาคต ไอแซคเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงตามแบบศิลปินทั่วไป เขาต้องการพิสูจน์สิ่งที่ตัวเองวาดและต้องการหยุดระเบิดที่จะเกิดขึ้นจึงร่วมมือกับคนอื่นๆเพื่อช่วยโลก



สำหรับซีรีย์ชุดนี้นั้นตัวแสดงเยอะมากครับ ผมขอคัดมาแค่คนที่มีบทบาทมากๆในปี 1 เท่านั้นนะครับ เข้าสู่เนื้อหาการรีวิวกันเลยครับ ตอนแรกผมชมซีรีย์ชุดนี้ด้วยความคิดเดียวว่ามันน่าจะเป็นซีรีย์คล้ายๆ X - Men หรือ Mutant X คือประมาณว่าคนมีพลังพิเศษแล้วช่วยโลกอะไรประมาณนั้น แต่พอมาดู Heroes ต้องบอกว่าผมคิดผิดถนัดครับนักเขียนอย่าง Tim Kring เขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดีชนิดที่เรียกว่าซับซ้อนซ่อนปมได้อย่างน่าติดตาม ช่วงแรกนั้นปูเนื้อเรื่องตัวละครได้อย่างกว้างจนดูไม่น่าเชื่อว่าจะนำมาเกี่ยวพันกันและให้ผลลัพธ์อย่างเหลือเชื่อ เรื่องพัฒนาการของตัวละครทำออกมาได้ดีมากครับทำให้ผมเองรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้พลังของตัวละครไปด้วยครับ แต่ที่ผมชอบมากที่สุดคงเป็นประเด็นที่ซีรีย์ชุดนี้ตั้งคำถามกับผู้ชมครับว่า คนแบบไหนที่สมควรจะเป็นฮีโร่กันแน่ในชีวิตจริง เราจะเห็นตัวละครที่เป็นคนดีๆหลายคนแต่ใครล่ะคือฮีโร่ ปีเตอร์ ที่เป็นตัวละครที่เหมาะสมที่สุดทั้งความสามารถและเห็นใจผู้คนพยายามช่วยเหลือคนแต่ก็ด้วยความพยายามของเขาบางครั้งก็ทำให้สถานการณ์แย่ลงก็มี ผมดูจบแล้วผมยังตอบไม่ได้เลยว่าใครคือฮีโร่ แต่สิ่งที่ช่วยโลกไว้คือความร่วมมือของทุกคน


เป็นซีรีย์ที่ดีมีการผูกเรื่องที่แน่นและการหักมุมของเนื้อเรื่องบ่อยแนะนำว่าควรหามาชมครับ




Create Date : 23 กรกฎาคม 2552
Last Update : 5 สิงหาคม 2554 15:27:45 น.
Counter : 1431 Pageviews.

1 comment
Prison Break The Final Break : แผนลับแหกคุกครั้งสุดท้าย (2009)


Cast

Wenworth Miller [Michael Scofield]
Dominic Purcell [Lincoln Burrows]
Robert Kneeper [Theodore Bagwell]
Amaury Nolasco [Fernando Sucre]
Sarah Wayne Callies [Dr.Sara Tancredi]
William Fichtner [Alexander Mahone]
Jodi Lyn O'keefe [Gretchen Morgan]

Review

กลับมาอีกครั้งครับกับไมเคิ่ล สกอฟิลล์และทีมงานหลังจากที่เราได้ดูเนื่อเรื่องในปี 4 จบแล้วนั้นหลายๆคนยังคงสงสัยในหลายประเด็นอยู่ ดังนั้นทางผู้ผลิตจึงได้ออกภาคพิเศษที่ชื่อว่า The Final Break ถ้าแปลกันตรงๆเลยคือ การแหกคุกครั้งสุดท้ายครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เนื้อเรื่องในภาคนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากที่พวกไมเคิ่ลจัดการกับเดอะคัมพานีได้แล้วและทุกคนได้รับการอภัยโทษหมดแล้วในความผิดที่ผ่านมา แต่มีอยู่ 1 คนที่ทำความผิดใหม่ๆ (ทำในภาคที่ 4) นั่นคือ ดร.ซาร่า เทนเครดี ทำให้โดนหมายจับและโดนขังคุก แน่นอนว่าพระเอกของเราย่อมไม่ยอมให้คนรักของเขาที่กำลังตั้งท้องลูกของเขานั้นไปลำบากในคุกแน่นอน ดังนั้นไมเคิ่ลและทีมงานจึงมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อวางแผนในการช่วยซาร่าออกจากคุก ติดตามการแหกคุกครั้งสุดท้ายของไมเคิ่ล สกอฟิลล์ ที่แสนจะยากลำบากและกดดันมากที่สุดครั้งหนึ่งตลอดจนตอนจบที่จะเรียกน้ำตาแฟนๆซีรีย์ชุดนี้อีกครั้งครับ

แรกเริ่มเลยตอนผมดูปี 4 จบผมบอกตัวเองเลยว่าสนุกนะแต่รับไม่ได้อะทำไมมันต้องจบแบบนี้ด้วยวะ ผมอาจจะอินมากไปหน่อยยอมรับว่าเป็นซีรีย์ที่ผมคาดหวังไว้มากแต่จบแบบปี 4 นี่รับไม่ค่อยได้ แต่พอมี The Final Break ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยอยากดูเพราะเรารู้จุดจบของเรื่องดีอยู่แล้ว แต่สุดท้ายผมก็ดูครับแต่พอดีแล้วสิ่งที่ผมชอบมากๆในซีรีย์ชุดนี้ก็ยังคงอยู่ครับคือ วิธีการคิดและการอ่านเกมส์ตามแบบฉบับของสกอฟิลล์ สิ่งที่ผมเห็นมาตลอดคือการอ่านเกมส์แบบข้ามช็อตของพระเอกของเรามันอาจจะหายไปบ้างในปี 4 แต่ในภาคพิเศษนี้มันกลับมาโดยเฉพาะการหักมุมแทบทุกนาทีมาอีกแล้วครับ จะว่าไปซีรีย์ชุดนี้มันชือ Prison Break มันก็ต้องแหกคุกครับ ไปวิ่งไล่จับกันข้างนอกมันก็สนุกแต่มันก็ไม่เท่าในคุกครับ

สำหรับผมแล้วถือเป็นภาคพิเศษที่โอเคมากๆนะครับ เพราะทุกอย่างเริ่มที่คุกและก็ต้องมาจบที่คุกครับ มันเป็นการปิดตำนานที่สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยผมเองพอชมตอนพิเศษนี้จบก็บอกตัวเองได้ครับว่าทำไมตอนจบต้องเป็นแบบนี้มันเหมาะสมดีแล้วครับกับคำว่าตำนานแบบไมเคิ่ล สกอฟิลล์ สำหรับแฟนๆซีรีย์เรื่องนี้แนะนำว่าควรจะหามาชมเพื่อจะได้เข้าใจและปิดซีรีย์นี้ไว้ในดวงใจของทุกคนตลอดไปครับ



Create Date : 22 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2558 15:21:15 น.
Counter : 7439 Pageviews.

19 comment
Prison Break Season 4 : แผนลับแหกคุกนรก ปี 4 (2008)

Cast

Wenworth Miller [Michael Scofield]
Dominic Purcell [Lincoln Burrows]
Robert Kneeper [Theodore Bagwell]
Amaury Nolasco [Fernando Sucre]
Wade williams [Bradley Bellick]
Sarah Wayne Callies [Dr.Sara Tancredi]
William Fichtner [Alexander Mahone]
Jodi Lyn O'keefe [Gretchen Morgan]

Review

หลังจากหลบหนีออกมาจากคุกโซน่าได้สำเร็จ ไมเคิ่ล สกอฟิลล์ และพรรคพวกได้รับข้อเสนอให้จัดการกับ The Company เพื่อแลกกับอิสระภาพของพวกเขา เพื่อการนั้นสกอฟิลล์จะต้องร่วมมือกับพวกเพื่อนๆทีมงานแหกคุกฟ๊อกซ์ริเวอร์อีกครั้งเพื่อหาแผ่นการ์ดที่มีข้อมูลลับของ The Company อยู่ข้างในที่เรียกว่า "ซิลล่า" ซึ่งซิลล่าแต่ละชิ้นนั้นกระจายอยู่กับสมาชิกคนสำคัญขององค์กร ติดตามการไล่ล่าซิลล่าด้วยวิธีการอันชาญฉลาดตามแบบของไมเคิ่ล สกอฟิลล์และพรรคพวกได้ในปีสุดท้ายของซีรีย์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่ง

เนื้อเรื่องดำเนินมาถึงปีสุดท้ายแล้วครับกับ Prison Break ในปีนี้นั้นไมเคิ่ลและกลุ่มเพื่อนเก่าๆกลับมารวมกันทำงานใหญ่อีกครั้ง นั่นคือการล้มองค์กรอย่าง The Company การจะล้มองค์กรนี้ได้จำเป็นที่จะต้องได้การ์ดที่เรียกว่า ซิลล่า พวกของสกอฟิลล์จำเป็นที่จะต้องรวบรวมซิลล่าให้ครบเพื่อเปิดดูข้อมูลความลับเหล่านั้นซึ่งจะนำมาสู่การล่มสลายขององค์กรอย่างถาวร

ในปีสุดท้ายนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดมากๆอย่างหนึ่งคือพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัว บทของตัวละครแต่ละคนแสดงออกถึงมุมมองในแต่ละเรื่องที่เปลี่ยนไป ในระหว่างการตามหาซิลล่านั้นเราจะได้เห็นเรื่องพวกนี้อย่างชัดเจน ไม่เว้นแม้กระทั่งแบ็คเวลบางครั้งเราอาจจะได้เห็นแบ็คเวลในอีกมุมมองก็ได้ในปีนี้ครับ เนื้อเรื่องในภาคสุดท้ายนี้ยังคงมีการหักมุมให้เห็นอยู่บ้างครับ แต่ผมบอกตามตรงเลยครับมันยังหักไม่เท่าที่ผ่านๆมาครับ คือสามารถเดาได้ในหลายครั้งครับ เรื่องของตัวละครที่เพิ่มขึ้นนั้นแน่นอนว่าเพิ่มขึ้นมาพอสมควรครับแต่จะมีผลกับเนื้อเรื่องบ้างแค่บางคนเท่านั้นครับ

ส่วนตัวผมแล้วภาคนี้ถือเป็นตอนจบที่ผมคิดว่าแค่พอใช้นะครับเนื้อเรื่องมันยังคงอารมณ์เดิมๆไว้ได้ แต่ท้ายสุดแล้วเหตุการณ์กลับจบลงง่ายๆได้เหมือนกัน และยิ่งมาพบกับฉากจบที่กระชากอารมณ์ด้วยแล้วก็เลยอดบ่นไม่ได้น่ะครับ แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังรักซีรีย์เรื่องนี้อยู่ดีล่ะครับ



Create Date : 20 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2558 15:17:43 น.
Counter : 4116 Pageviews.

2 comment
Prison Break Season 3 : แผนลับแหกคุกนรก ปี 3 (2007)

Cast

Wenworth Miller [Michael Scofield]
Dominic Purcell [Lincoln Burrows]
Robert Kneeper [Theodore Bagwell]
Amaury Nolasco [Fernando Sucre]
Wade williams [Bradley Bellick]
Sarah Wayne Callies [Dr.Sara Tancredi]
William Fichtner [Alexander Mahone]
Dania Garcia [Sofia Lugo]
Jodi Lyn O'keefe [Gretchen Morgan]

Review

ปีที่ 3 Prison Break ในปีนี้เรื่องราวยังคงเข้มข้นเช่นเดิม เมื่อความผิดพลาดเล็กน้อยในภาคที่แล้วและแผนการของ The Company ทำให้ ไมเคิ่ล สกอฟิลล์ ต้องติดคุกที่สุดโหดที่หนึ่งในโลกคือ คุกโซน่าในประเทศปานามาซึ่งเป็นคุกไร้ซึ่งผู้คุมเป็นแหล่งรวมของเดนทรชนอย่างแท้จริง ในคุกนั้นสกอฟิลล์ได้รับการติดต่อจาก The Company ให้นำตัวคนๆหนึ่งแหกคุกออกมาด้วย ซึ่งคนๆนี้กุมความลับบางอย่างขององค์กรเอาไว้ เพื่อแลกกับความปลอดภัยของซาร่าและแอลเจ สกอฟิลล์จึงต้องใช้ความพยายามยิ่งกว่าที่ผ่านมาในการแหกคุก ติดตามการแหกคุกครั้งที่ 2 ของ ไมเคิ่ล สกอฟิลล์ที่แสนจะยากลำบากและประสบปัญหามากมาย เพราะทุกอย่างเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การทำตามแผนเช่นเคยอีกต่อไป แล้ว สกอฟิลล์จะแก้ปัญหาและเอาตัวรอดจากสถานการณ์และแหกคุกที่โหดสุดๆแบบนี้ได้ หรือไม่ติดตามทั้งหมดได้ในปีที่ 3 กับ Prison Break

หลังจากการหนีเอาตัวรอดอย่างสุดความสามารถในปีที่ 2 กลับมาในปีที่ 3 สกอฟิลล์ติดคุกอีกแล้วครับแต่คุกคราวนี้ความเป็นอยู่ไม่ดีเหมือนฟ๊อกซ์ริเวอร์นะครับ เพราะคุกโซน่าเป็นคุกที่สกปรกประมาณว่าอยู่กันตามมีตามเกิดและไม่มีผู้คุมทำให้ในคุกผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ในคุกโซน่านั้นนอกจากสกอฟิลล์แล้วยังมีเพื่อนเก่าของเขามาติดด้วย 3 คนได้แก่ แบ็คเวล มาโฮน และ เบลิค เมื่อเขาไปในคุกได้ไม่นานสกอฟิลล์ได้รับการติดต่อจากเกรทเช่น มอร์แกน (Jodi Lyn O'keefe) ให้ช่วยคนๆหนึ่งออกจากโซน่า ซึ่งคนๆนี้กุมความลับสำคัญเอาไว้

คุกโซน่าเป็นคุกที่สุดโหดไม่มีใครเคยแหกได้มาก่อน กฎอย่างหนึ่งของคุกนี้คือฆ่าก่อนถามทีหลัง การจะหนีอกจากที่นี่เป็นเรื่องที่ว่ากันว่าเป็นไปไม่ได้ สกอฟิลล์จึงจำเป็นต้องวางแผนและหาทางออกจากโซน่าแต่ครั้งนี้ยากมากๆ เพราะสถานการณ์ค่อนข้างสดมากและปัจจัยต่างๆควบคุมได้ยาก สกอฟิลล์ต้องพยายามรวมตัวกับพวกเพื่อนเก่าเพื่อหาทางออกจากโซน่าด้วยวิธีการที่แสนชาญฉลาดอีกเช่นเคย พร้อมกับต้องพยายามทำตามเงื่อนไขเพื่อความปลอดภัยของซาร่าและแอลเจ

สำหรับภาคนี้ผมว่าบทของหนังแสดงความเป็นอยู่ของคนในโซน่าได้ดีครับ ตลอดจนการปรับตัวเพื่อการเอาตัวรอดของตัวละครหลักแต่ละคนที่ต้องไปอยู่ในโซน่า คนแบบไหนจะใช้ชีวิตในโซน่าได้ดีกว่ากันในการเอาตัวรอด สิ่งที่ผมชอบในภาคนี้คือความสดของสถานการณ์ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมากและยากแก่การควบคุมรวมถึงความกดดันที่โถมเข้ามาทำให้สกอฟิลล์ต้องคิดภายใต้แรงกดดันที่มาก ตรงนี้ผมอยากให้หลายๆคนที่ชมลองดูงุฒิภาวะของสกอฟิลล์ให้ดีๆนะครับสุดยอดจริงๆ ลองดูการคิดภายใต้เงื่อนไขและความกดดันดูครับ

เป็นอีกปีที่ทำออกมาได้ไม่ยาวมากแต่เนื้อเรื่องออกมาได้ดีตามมาตรฐานครับ ควรหามาชมดูครับ




Create Date : 20 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2558 15:13:34 น.
Counter : 1588 Pageviews.

1 comment
1  2  

Peach Silencer
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]