ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยประสบปัญหาเรื่องการมอบหมายงานพนักงานในบังคับบัญชาของตนเอง บางคนโทษว่าเป็นเพราะลูกน้องของตัวเองนั้นไม่มีทักษะที่ดีพอ เรียนรู้ช้า หรือเหมารวมไปเลยว่ามันไม่เหมาะกับงานในตำแหน่งงานนั้น ผมเคยได้รับการสอบถามว่าทำไมพนักงานที่เลือกมาอย่างดีโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล ถึงทำงานไม่ได้ตามความคาดหวังเลย ดังนั้นผมจึงลองตรวจสอบที่มาที่ไปโดยละเอียดจนพบว่าปัญหาอยู่ที่ความเข้าใจในงานที่รับไปทำ หรือพูดง่ายๆไม่เข้าใจประเด็นและเป้าหมายในงานที่รับไปทำนั่นเอง 

จากเหตุการณ์นี้ผมจึงให้คำแนะนำหลักการมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพไว้ 3 ข้อดังนี้

1. งานนั้นต้องใช้ความรู้ความสามารถอะไรในการทำ 

2. วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และความสำคัญของงานนนั้นเป็นเช่นไร

3. งานนั้นต้องเสร็จเมื่อไร (Dead Line) โดยบอกให้ชัดเป็นรูปธรรมว่าวันไหน ไม่ใช่เร็วที่สุดที่ได้หรือก่อนสิ้นเดือน

อย่าลืมว่าถ้าอยากให้คนอื่นทำได้แบบคุณ เขาต้องมีองค์ความรู้และวิธีคิดดุจเดียวกับคุณ และเมื่อเป็นเช่นนั้นประสิทธิภาพที่คาดหวังคงไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้

ผมทำงานด้านคัดเลือกบุคลากรมานานเกือบ 10 ปี ผมพบว่าเหตุผลในการเลือกงานของคนทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก เช่น เงินดี งานดีมีหน้าตา ได้พัฒนาตัวเอง ใกล้บ้าน ฯลฯ

มันก็เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะหาความสะดวกให้กับตัวเอง แต่ความชอบในสายงานล่ะ มันหายไปไหนแล้ว? เวลาผมสัมภาษณ์คนมาทำงานเริ่มรู้สึกว่า ไม่ได้ยินคนมาสัมภาษณ์ตอบว่าเลือกงานนี้เพราะชอบตัวงานหรือมีแรงบันดาลใจเกี่ยวกับงานมานานมากแล้ว ความชอบนั้นทำให้เราพัฒนาตัวเอง ความชอบทำให้เราอยู่กับสิ่งนั้นได้นานๆ ผมว่า 1 วัน เราใช้เวลาในการทำงานมากกว่าใช้ชีวิตเราเองเสียอีก ดังนั้นถ้าไม่ลำบากเกินไปเลือกทำงานที่ตัวเองอยากทำเถอะครับ

ชีวิตเรานั้นสั้นอย่าใช้มันไปกับสิ่งที่เราไม่ชอบครับ