A Little Thing Called Love : สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก (2010)







Cast

มาริโอ้ เมาเร่อ (พี่โชน)
พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (น้ำ)
ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ (ครูอิน)
พีรวัชร์ เหราบัตย์ (ครูพล)
พิจิตรา สิริเวชพันธ์ (ครูอร)
อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล (ท็อป)
กชามาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร (ปิ่น)

Review

เรื่องราวของน้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) สาวน้อยชั่น ม.1 ที่หน้าตาไม่ค่อยจะสวยเท่าไรนัก ที่บังเอิญได้พบกับโชน (มาริโอ เมาเร่อ) รุ่นพี่ ม.4 ที่โรงเรียนเดียวกันและเกิดอาการปลื้มอย่างแรง น้ำจึงพยายามทุกทางที่จะทำให้ตนเองอยู่ในสายตาของโชนให้ได้ แต่สิ่งที่ยากคือโชนเองเป็นหนุ่มฮอตหมายเลขหนึ่งของโรงเรียนหน้าตาหล่อขั้นเทพ เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน และที่สำคัญนิสัยดีมากๆจึงไม่แปลกเลยที่ใครจะหลงชอบโชนในขณะที่น้ำเองเป็นสาวน้อย ม.1 หน้าตาไม่ค่อยดีและน้ำจะทำอะไรก็ดูจะยากไปเสียหมด แต่ด้วยความรักที่มีน้ำและเพื่อนจึงพยายามวางแผนและทำสารพัดวิธีให้น้ำดูดีขึ้นและหาโอกาสให้โชนมาสนใจน้ำให้ได้ ติดตามวิธีการน่ารักๆในแบบที่คุณอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าคุณเคยทำมาก่อน ตลอดจนบทสรุปความรักของน้ำว่าจะเป็นอย่างไรโชนจะหันมาชอบคนหน้าตาธรรมดาอย่างน้ำได้หรือไม่ใน สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักครับ

ผมขอยอมรับก่อนเลยนะครับว่าผมไม่เคยคิดอยากดูหนังเรื่องนี้เท่าไรนัก ถ้าจำไม่ผิดผมเห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ ผมคิดว่าหนังไทยกำลังนำเสนอหนังสูตรสำเร็จมาอีกเรื่องแล้ว และจากเนื้อเรื่องย่อที่ได้อ่านผมว่ามันก็ธรรมดานะครับในสายตาผม แต่กระแสของหนังเรื่องนี้เมื่อเข้าฉายกับสร้างความชื่นชมให้หลายๆคนรอบข้างผมมาก แต่ผมก็ไม่ได้ไปดูเพราะคิดว่ามันคงเป็นกระแสเหมือนทั่วๆไป แต่เมื่อตะกี้นี้เองผมได้แผ่นดีวีดีของหนังเรื่องนี้มาครับ ก็เลยใช้เวลาช่วงเช้านั่งดูโดยมีความคิดว่าขอดูการนำเสนอหน่อยแล้วกันจะแตกต่างไหม หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง ผมกลับรู้สึกว่ามันดีขนาดนี้เลยหรอเนี่ย พร้อมคราบน้ำตาของตัวเองที่ไหลมาตอนไหนก็ไม่รู้...
เข้าสู่เนื้อหาของการรีวิวกันเลยดีกว่าครับ ผมเริ่มดูหนังเรื่องนี้โดยจับตาดูนางเอกเป็นหลักนะครับ เพราะมีกระแสมากว่าใช่คนเดียวกันไหมคำตอบ คือ ใช่ล้านเปอร์เซ็นนะครับ ต้องยกความดีให้ทีมแต่งหน้าจริงๆครับ หนังนั้นบอกเล่าเรื่องราวความรักของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่มีความรักในแบบรักแรกพบได้เป็นอย่างดีนะครับ ทำให้เราหลายๆคนนึกถึงช่วงเวลาที่เราตกหลุมรักครั้งแรกว่าตอนนั้นเราทำอะไรไปบ้าง บางทีอาจจะทำมากกว่าน้ำก็เป็นได้นะครับ เรื่องพัฒนาการของตัวละครในเรื่องผมถือว่าผ่านสบายนะครับ ตัวนางเอกเองก็พยายามทำตัวเองให้สวยขึ้นมากจริงๆ บางคนบอกว่าสวยขนาดนี้ 2 ปีไม่นาพอเผลอๆต้องไปเกาหลี เอาน่าครับจุดนี้อาจจะเกินไปบ้างครับ 

ตอนแรกผมปักธงว่านี่คือหนังสูตรสำเร็จ ผมจึงมองไปที่ตัวละครและดูพัฒนาการเท่านั้น แต่พอดูไปเรื่อยๆผมกลับถูกบทของหนังเรื่องนี้และการนำเสนอดึงเข้าไปโดยที่ไม่รู้ตัว ผมรู้อยู่แล้วว่านางเอกสวยขึ้นและทุ่มเทขนาดนี้พระเอกต้องชอบแน่ๆ แต่ไม่นึกว่าหนังเรื่องนี้จะนำเสนอด้วยมุมมองที่ใหม่และเลิศเลอขนาดนี้ ผมขอขยายคำว่ามุมมองหน่อยนะครับ มุมมอง คือ สิ้งที่เรามองเรื่องๆเดียวกันด้วยวิธีคิดที่ต่างกันออกไปครับ ยกตัวอย่างง่ายๆครับ หนังฝรั่งมีหนังรักโรแมนติคมาจะร้อยปีแล้วนะครับ แต่สิ่งที่ทำให้หนังรักโรแมนติคของต่างชาติเขาดีและน่าติดตามคือมุมมองใหม่ๆครับ ไม่ใช่ตบตี สะดุดล้มทับกันแล้วรักแบบละครไทยครับ หนังไทยหลายๆเรื่องในช่วงหลังๆต้องบอกว่ามุมมองแทบจะมาแบบเดียวกันเลยนะครับ มุมมองความรักในหนังเรื่องนี้สำหรับผมเป็นมุมมองใหม่ๆนะครับ ทำให้เชื่อได้ว่าความรักบางทีมันก็เริ่มจากสิ่งเล็กที่ๆเราแทบจะมองข้ามมันไปแบบนี้ล่ะครับ หนังทำให้เราเข้าใจตามไปว่าความรักบางครั้งมันก็คือ การได้พบกันและเรียนรู้กันโดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงว่าเราดีพอสำหรับเขาไหม เพราะบางทีเวลาที่เราดีพอ เขาอาจจะไม่อยู่ฟังเราแล้วก็ได้นะครับ และอีกความรู้สึกที่ผมชอบสำหรับหนังเรื่องนี้คือ "ถ้าคุณคิดว่าการแอบรักใครสักคนมันยากแล้ว การที่เราไม่อาจบอกรักคนที่รักเรานั้นยากกว่ามาก" อันนี้ผมชอบสุดๆเลยล่ะครับ ไม่รู้ว่าหลายๆคนดูแล้วจะได้อารมณ์นี้ไหมนะครับ ยังไงลองดูนะครับ 

มาที่เรื่องของนักแสดงกันบ้างนะครับ แน่นอนคนแรกผมคงต้องขอพูดไปที่นางเอกของเรื่องนะครับ น้องใบเฟิร์นต้องบอกว่าแสดงออกมาได้ดีนะครับถ่ายทอดอารมณ์ของแต่ละช่วงวัยออกมาได้ดีมากๆครับ ผมชอบตอนที่น้องเขายังเป็นสาวปลวกๆนะครับดูน่ารักในเรื่องพฤติกรรมการแสดงออกดีมากๆเลย ส่วนตอนที่สวยแล้วบทก็ตามมาจรฐานครับแต่โดยภาพรวมถือว่าเยี่ยมครับ มาที่พระเอกบ้างครับ มาริโอ้ หลายๆคนชอบบอกว่าเรื่องนี้เอามาริโอ้มาขายเฉยๆและฉายภาพเทพของมาริโอ้ให้นางเอกฝันไว้บทดูธรรมดา ผมว่าคนที่พูดแบบนี้ไปหามาดูก่อนเถอะครับ บทตอนแรกของมาริโอ้นั้นตอนแรกออกแนวขวัญใจมหาชนมากครับดีทุกอย่าง แต่พอดูๆไปมันเหมือนกับว่าแววตาและท่าทางของเขากำลังจะใบ้อะไรบางอย่างออกมาให้คนดูคอยคิดนะครับและพอติดตามไปจนจบผมเองขอบอกว่าผมกลับชอบมาริโอ้มากกว่านางเอกอีกนะครับ ทั้งในเรื่องของบทและการแสดงนะครับ ผมว่าความรู้สึกของฝ่ายชายนั้นแสดงยากนะครับ แต่มาริโอ้ทำให้ผมเชื่อไปได้แบบนั้นจริงๆครับ นักแสดงนั้นผมขอพูดถึงเท่านี้นะครับ ภาพรวมของหนังผมถือว่าทำได้ดีค่อนข้างมากถึงมากที่สุดถ้าเทียบกับมาตรฐานหนังไทยช่วงหลังๆนะครับ  ผมอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มของยุคเรเนซองค์ของหนังรักเมืองไทยนะครับ คือ นำเสนอมุมมองใหม่ๆมากกว่าวิธีการแบบใหม่ และนั่นคือการสร้างความแตกต่างครับ เรื่องเพลงประกอบผมชอบแต่ละเพลงแม้จะไม่ใช่เพลงที่ใหม่หรือแต่งมาเพื่อหนังเรื่องนี้ แต่หยิบมาได้ถูกเวลาและเนื้อหามากครับ ขึ้นเพลงมาแต่ละครั้งนี่โดนอย่างแรงครับ เรื่องฉากต่างๆในหนังนั้นทำได้สมจริงและมีความรู้สึกว่าได้เห็นภาพและกลิ่นของโรงเรียนได้ดีมากๆเลยครับ และสุดท้ายผมชอบข้อคิดดีๆที่หนังรักหลายๆเรื่องไม่ค่อยมีแต่เรื่องนี้มีครับคือ "ความรักนั้นเมื่อมันเกิดกับเราแล้วบางครั้งเราทำอะไรไปทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่เราเลือกได้ครับว่าจะให้ความรักผลักดันเราไปสู่ด้านที่ดีหรือด้านที่ไม่ดี" นางเอกในเรื่องใช้ความรักผลักดันตัวเองจนประสบความสำเร็จในชีวิต ผมอยากให้ทุกคนที่จะมีความรักอย่าลืมข้อคิดเล็กๆนี้นะครับ และรักอย่างสร้างสรรค์ครับ ผมขอปิดท้ายว่าหนังเรื่องนี้สมควรอย่างมากที่ควรจะต้องหามาดูครับ 

ขออภัยหากรีวิวฉบับนี้ไม่ดีเท่าคุณภาพหนังนะครับ



Create Date : 01 ธันวาคม 2553
Last Update : 21 มีนาคม 2559 18:14:24 น.
Counter : 946 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Peach Silencer
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]