All Blog
ผ้าทอง
ผ้าทอง

เรื่องราวสะเทือนอารมณ์ของหญิงสาวที่ชื่ออุมา กับชีวิตครึ่งหนึ่งของเธอที่ผูกพันอยู่กับความลึกลับของผ้าทอง ผ้าที่งดงาม ซึ่งถ่ายทอดความประณีตและความรักจากหัวใจของอุมาเอง แต่ใครเลยจะยอมรับได้ว่าผ้านี้ไม่ได้นำมาซึ่งความวิบัติและความตายของผู้คน

----------------------------------------------------

ข้างบนเป็นคำโปรยของหนังสือเล่มนี้ พอดีอยู่ดีๆ ก็นึกอยากอ่านเรื่องนี้อย่างไม่มีเหตุผล ก็เลยไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาอ่าน พออ่านจบ ก็เลยอยากจะเขียนอะไรไว้ก่อนที่จะลืม feeling นี้ (spoil แน่นอน)

เรื่องนี้มีการใช่ Point of view แบบ limited omniscient ผ่านมุมมองของตัวละคร 2 ตัว แล้วก็มี flashback ไปๆ มาๆ ซึ่งผู้เขียนใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กัน ในช่วงที่ใช้ point of view ผ่านมุมมองของเข็มทอง ก็จะเป็นช่วงเวลาที่อุมามีอายุมากแล้วและกำลังมีปัญหากับคีรี และในช่วงที่ใช้ point of view ผ่านมุมมองของตัวอุมา ก็จะเป็นช่วงที่เป็นความเป็นมาของอุมา จนกระทั่งถึงตอนก่อนที่อุมาจะย้ายมาอยู่ที่ลำลูกกา

ความรู้สึกอึดอัด จะเกิดขึ้นตลอดเรื่องจนกระทั่งถึงตอนที่แม่ชีได้มาคุยกับอุมาเพื่อให้อุมายอมรับในความผิดและเปิดเผยสิ่งที่ตัวเองได้ทำขึ้น แม้ว่าเรื่องจะโยงกับผ้าทองตลอดเวลา แต่ว่าหลังจากที่อ่านจบแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวละครทั้งสิ้น แม้ว่าจะเราจะมองผ่านมุมมองของอุมาตลอด แต่ว่าเราก็ยังไม่สามารถเรียนรู้และเข้าใจอุมาได้อย่างถ่องแท้ เพราะอุมามีบุคลิกที่หลากหลายมาก เมื่อมองอุมาผ่านมุมมองคนอื่น มันก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เมื่อมองผ่านมุมมองอุมา ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกใจเลยที่ชีวิตครอบครัวจะมีปัญหา

จำได้ว่าเคยอ่าน Joy Luck Club มีการเปรียบเทียบผู้หญิงคนหนึ่งว่าเป็นเหมือนเสือลายพาดกลอน ลายสีเหลืองจะเด่นเป็นสง่า แต่เมื่อต้องการอำพรางตัว ลายสีดำก็จะกลมกลืนไปกับเงา รุ้งมีความรู้สึกนี้กับอุมา อุมาเป็นตัวละครที่เด่นที่สุดในเรื่อง ทั้งเรื่องพูดถึงช่วงชีวิตของอุมา บอกมุมมองของอุมา เพราะฉะนั้น ในมุมมองของรุ้งเอง ถ้าหากว่าคีรีไม่รักอุมาขนาดนี้ ไม่มีทางที่ชีวิตครอบครัวจะผ่านไปได้อย่างตลอดรอดฝั่งเลยเพราะ รุ้งรู้จักตัวตนของคีรีน้อยมาก แม้กระทั่งความสำคัญของผ้าทองยังมากกว่าตัวคีรี ดังนั้นแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าอุมาจะเลือกผ้าทองมากกว่าคีรี

คุณแม่ของอุมาเป็นตัวละครเบสิกที่จะพบได้บ่อยๆ เป็นตัวละครที่จะลอยตัวเหนืออยู่ทุกอย่าง จะเป็นคนเห็นปัญหากระจ่างชัด และเป็นคนที่ทำให้อุมาเกิด epiphany จะเห็นได้ชัดจากการที่หลังจากที่คุณแม่ได้มาคุยกุบอุมาให้สารภาพทุกอย่าง ความอึดอัดของเราหายไปทันที เหมือนกับอุมาได้สงบขึ้น รู้ตัวมากขึ้น การที่อุมาไปปฏิบัติธรรม ถือศีล หรือพยายามทำใจให้สงบเพียงใด มันไม่ได้ทำให้เกิดความสงบจริงๆ ในใจได้ แต่เมื่ออุมาปล่อยวาง ความสงบเกิดขึ้นทันที สิ่งเหล่านี้โชว์ให้คนอ่านได้รู้สึกทันที เพราะฉะนั้นต้องยกความดีให้คนเขียนจริงๆ ว่าเขียนได้ดีมาก

สัญลักษณ์ของเรื่องที่ใช้ ก็แน่นอน คือ ผ้าทอง ที่หลายๆ คนรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่นำโชคร้ายมา แต่เท่าที่อ่านๆ ผ้าทอง ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามีผลกับตัวเรื่องเท่าไหร่ ตามปกติเวลาอ่านหนังสือที่มันใช้สัญลักษณ์เด่นๆ มักจะทำให้รู้สึกอินกับตัวเนื้อเรื่องกับสัญลักษณ์นั้นๆ แต่เรื่องนี้ไม่มี feel นี้เท่าไหร่ เหมือนกับ key ของมันก็อยู่ที่ตรง clisis ของเรืองก็คือตอนที่ คีรีได้ค้นพบว่าอุมามีส่วนในการตายของพี่ชาย เพราะอุมาจงใจส่งผ้าทองไปให้เขาใช้ในงานแต่ง ซึ่งผลร้ายของผ้าทองในตอนแรกๆ ก็คือการปูพื้นให้คนรับรู้ว่าผ้าทองมันอาถรรพ์เท่านันเอง เพราะงั้นความคงอยู่ของผ้าทอง ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่ามีอะไรมากมายเท่าที่คาดไว้ในตอนแรก

สรุปละกัน เรื่องนี้ สนุกมาก คนเขียนเขียนดีมาก มีการใช้เทคนิคที่ดึงความรู้สึกคนได้ดี ให้เทียบกับเรื่องอื่นๆ ของคนเขียน ถือว่าเรื่องนี้เด่นทีเดียว สรุปว่าชอบค่ะ ^^



Create Date : 06 มกราคม 2552
Last Update : 6 มกราคม 2552 2:10:13 น.
Counter : 6190 Pageviews.

7 comments
  
เอ เรื่องนี้เคยทำเป็นละครด้วยป่ะคะ คุ้นๆจังเลยเนอะ เหมือน จินตหราจะเล่น


Image Hosted by ImageShack.us
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:2:24:31 น.
  
อยากอ่านนานแล้ว และก็อยู่ในลิสต์ อิอิ
โดย: Boyne Byron วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:11:08:23 น.
  
อ่านแล้วค่ะ ชอบมาก ๆ เลยสำหรับเรื่องนี้
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:12:46:40 น.
  
อ่านแล้วค่ะ ชอบมาก ๆ เลยสำหรับเรื่องนี้
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:12:46:44 น.
  
เรื่องนี้เป็นงานของแก้วเก้าที่เราอ่านทีไรก็เครียด อึดอัด และเศร้ามากทุกครั้งค่ะ

เราชอบตัวละครอุมานะ เธอให้ภาพพจน์เหมือนพระจันทร์ เยือกเย็น สง่า ห่างไกลจนเข้าใกล้และเข้าใจยาก ตัวอุมาในเรื่องคล้ายจะมีบุคคลิกหลายแบบ ส่วนนึงเป็น "นักเลง" ตามอิทธิพลที่ได้มาจากพ่อ อีกส่วนเป็นสตรีชาววังที่ลุ่มหลงในโลกศิลปะ
... สรุปคือ ถ้าอุมาเกิดเป็นชายสืบทอดกิจการจากพ่อไปเลย หรือเป็นสาวโสดนั่งทอผ้าเป็นสาวชาววังต่อไป (หรือไม่ก็อย่าเข้าวังแต่แรก โตแบบสาวชาวบ้าน) ชีวิตน่าจะสงบสุขกว่านี้

ทีนี้ คีรีเป็นตัวแปรไง พอสองคนนี้ตกร่องปล่องชิ้นกันแล้ว ไอ้รักก็คงรักหรอก แต่มันคลิกกันไม่สนิท ไม่ได้รู้จักกันดีขึ้นเลย เราคิดว่าอุมายังอดรู้สึกไม่ได้ว่าสามีนั้น 'หยาบ' กว่าเธอ ซึ่งเธอก็พยายามทำตัวเป็นมนุษย์เดินดินเต็มที่แล้ว แต่จริตที่แท้จริงของเธอมันเป็นแบบศิลปินชาววังน่ะ สมควรอยู่ในวงสังคมละเอียดละเมียดละไมอีกแบบมากกว่า

ยิ่งพอโดนลูบคมจากพี่ชายพระเอก เรื่องเลยยิ่งยุ่ง (ซึ่งจริงๆ มันก็แค่การแสดงเจตนาร้าย ไม่ใช่ว่าป้ายยาพิษลงบนผ้าเสียหน่อย) อุมาแอบรู้สึกผิด เป็นวัวสันหลังหวะ ฝ่ายคีรีก็เก๊กซิมแอนด์เซ็ง จูนกับเมียไม่ติดเต็มร้อยเสียที ไพล่ไปมีกิ๊กแทน เรื่องเลยยุ่งคูณสอง เพราะอุมาไม่ยอม 'ลง' ให้สามีมากกว่านี้แล้ว
(เราไม่ชอบคีรีตรงเรื่องกิ๊กนะ ตอนแรกมันแต่งเมียเพราะเห็นสวยสง่า ยืนคู่แล้วดูเป็นผู้ดีมีตระกูลแค่นั้นรึเปล่าเนี่ย?)

สรุปคือ สองคนนี้ต่างกันเกินไป อุมามีแง่มุม(ค่อนข้างสุดขั้ว)มากไป ในขณะที่คีรีนิสัยซื่อ ๆ ง่าย ๆ แบบผู้ชายมากไป มันไม่เชิงว่าใครผิด เพราะถ้าเข้าใจตัวละครแล้ว ก็จะรู้สึกว่าเขาเป็นของเขาแบบเนี้ยะ มันช่วยไม่ได้นี่นา

อีกจุดที่เรื่องที่เราชอบคืออาถรรพ์ผ้าทอง พอนึกว่างานศิลปะที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาจนสวยงาม ใครเห็นก็ชื่นชมฝีมือ แต่กลับไม่สามารถนำงานนั้นออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้เลย แถมมันยังนำโชคร้ายมาให้ผู้รับเสียอีก
.... ถ้าเราเป็นคนสร้าง มันคงเศร้านะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:18:50:45 น.
  
เคยทำเป็นละครด้วยหรือเปล่าคะ? คุ้นๆ

เหมือนอ่านบางตอน แต่ไม่ได้อ่านทั้งเล่ม (อาจจะอ่านตอนทยอยลงนิตยสารหรือเปล่าหว่า?)

น่าสนใจ ต้องลองหามาอ่านเสียแล้ว
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:9:24:04 น.
  
ลืมตอบ ^^"

แซลลี่ - - - - - ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะเคยทำเป็นละครจริงๆ ด้วย แต่ไม่เคยดูเลย นานมากๆ แล้วล่ะมั้ง

Boyne Byron - - - - - ลองอ่านดูเลยค่ะ แนะนำสุดๆ (แต่คำเตือน อ่านแล้วจะอึดอัดพอสมควรนะคะ ต้องเป็นช่วงอารมณ์โอเคๆ ไปอ่าน จะกำลังดี ช่วงที่อารมณ์แปรปรวน อ่านแล้วอาจจะอินเกิน)

หวานเย็นผสมโซดา - - - - - ชอบเหมือนกันเลย ^^

ยาคูลท์ - - - - - โอ้โห ยาวมาก ดีใจมาก เพราะอ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้ discuss กัน คุณยาคูลล์เปรียบอุมาได้เห็นภาพจริงๆ รุ้งอ่านแล้วก็มักจะมีความรู้สึกว่าอุมาเหมือนมองเห็นได้ แต่จับต้องไม่ได้ คือรุ้งไม่สามารถจะทำความเข้าใจ เข้าไปสัมผัสอุมาได้เลย she is untouchable 5555 แต่คีรีสำหรับรุ้ง เป็นมนุษย์จริงๆ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีความเข้มแข็งและอ่อนแอ รุ้งชอบคีรีที่สู้ในเรื่องบางเรื่อง เช่นแนวทางในการดำเนินชีวิต คีรีเลือกทางเองตลอด (อาจจะเพราะการสนับสนุนของพี่ชายด้วย) เป็นสิ่งที่อุมาไม่สามารถจะทำได้ แต่ว่าความอ่อนแอของคีรีก็เยอะมากเช่นกัน เป็นตัวละครที่ round มากๆ แม้ว่าจะมองในสายตาคนอื่นก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้คีรีเด่นน้อยลงเลย อุมาซะอีกที่รุ้งเห็นได้เลือนๆ ลางๆ ส่วนเรื่องผ้าทองทำแล้วเฮี้ยน ทำไมอุมาไม่ใช้สีอื่นหว่า (ก็รู้แหละว่าชอบสีทองแต่ถ้าอยากทำผ้าไม่เฮี้ยน ใช้สีอื่นก็ไม่เฮี้ยนแล้วนิ) ^^"

สาวไกด์ใจซื่อ - - - - - ถ้ายังไม่เคยอ่านก็แนะนำให้อ่านค่า ถ้าไม่กลัวความอึดอัด ^^"
โดย: peiNing วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:0:54:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peiNing
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]



เป็นเด็กกรุงเทพแท้ๆ แต่อยู่บ้านนอกของกรุงเทพน่ะนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษนอกจากแกล้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน นั่นคือนกฮู้ผู้มีอายุ 10 ปีได้ (นกแก่มีหนวด) (แต่ตอนนี้ในที่สุดนกฮู้ก็จากไปอย่างสงบ ไม่รู้อายุรวมเท่าไรแต่มาอยู่ที่บ้านได้ 11 ปี ขอไว้อาลัยปู่ฮู้ ขอให้ไปสู่สุขคตินะ T^T)

ขอชี้แจงอีกอย่าง ชื่อ peiNing นี้ เป็นชื่อที่พี่กะน้องใช้ร่วมกันสองคน ดังนั้นอย่างงว่าเดี๋ยวก็แทนตัวว่ารุ้งบ้างหนิงบ้าง ก็มันคนละคนนิ (รุ้งน่ะคนพี่ หนิงน่ะคนน้อง)

FB สำหรับคนชอบงานเขียน peiNing ค่ะ

FB สำหรับคนชอบบทความสอนห้องเรียนนิยายค่ะ

  •  Bloggang.com