|
แจ๊ค หม่า แห่ง Alibaba.com
ในวันที่ 23 ก.ย. 48 ที่ผ่านมา ณ ศาลามหาประชาคมเมืองหังโจว คราคร่ำไปด้วยผู้คนกว่า 3,200 คนที่สวมเสื้อยืดสกรีสัญลักษณ์ของอลิบาบา (alibaba.com) Web Ecommerce ชื่อดังของจีนที่มีถิ่นกำเนิดในหังโจว และยาฮูไชน่า โดยเป็นพนักงานของอลิบาบา ราว 2,500 คน และพนักงานจากยาฮู ซึ่งมีฐานในปักกิ่งอีก 700 คน การรวมตัวกันครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของคนจาก 2 เว็บชื่อดังมาเจอกันอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ยาฮูซื้อหุ้น 40% อันเป็นมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐของอลิบาบา บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความแช่มชื่น และทุกครั้งที่ หม่าหยุน หรือ แจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ อลิบาบา / Alibaba.com กล่าวถึงเป้าหมาย สายตาจากผู้คนข้างล่างก็จะเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและชื่นชม....
แจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba.com ซึ่งเป็น Website E-Commerce อันดับ 4 ของโลก (ณ วันที่ 17 ต.ค. 48)
จากเด็กเกเรสู่เศรษฐี 4,000 ล้าน ดูจากอดีตแล้ว อาจไม่เชื่อว่าคนอย่างหม่าหยุนจะผงาดขึ้นเป็นเศรษฐีพันล้านได้ เพราะในช่วงต้นของยุค 80 เขายังเป็นวัยรุ่นที่มีผลการเรียนย่ำแย่และเกเรมาก แต่โชคดีที่เขากลับตัว หันมาเอาจริงเอาจังกับการเรียนภาษาอังกฤษ และมุ่งมั่น กับการสอบเอนทรานซ์ สุดท้ายก็สามารถเข้าเรียนในวิทยาลัยครูแห่งหนึ่งในเมืองหังโจวได้ และเป็นบัณฑิตเพียงคนเดียวในรุ่น ที่กลายเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ในปี 1995 หม่าหยุนคนที่เชื่อกันว่าเป็นคนที่ มีภาษาอังกฤษดีที่สุดในหังโจว ก็ได้งานชิ้นหนึ่งที่ต้องเดินทางไปยังสหรัฐเมริกา โดยตำแหน่งแล้วเขา คือ ตัวแทนเจรจา แต่หน้าที่หลักคือ การไปขอเงินจากบริษัทในสหรัฐ หม่าหยุนรำลึกอดีตเล่าให้ฟังว่า ในช่วงแรกที่รับงานนั้นรู้สึกว่าเป็นงานไม่ยาก และได้รับการดูแลอย่างดีเมื่อถึงจุดหมาย แต่ทว่าเมื่ออยู่ไปได้ระยะหนึ่ง จึงตระหนักว่าตัวเองกำลังถูกควบคุมตัว และพบว่าบริษัทดังกล่าวมีเบื้องหน้าเบื้องหลังกับแก๊งมาเฟีย หลังจากนั้น เขายังโดนโกหกว่าจะพากลับหังโจว แต่ในที่สุดกลับถูกทิ้งให้อยู่ที่สนามบินโดยไม่มีสัมภาระใดๆ ติดตัวเลย ยังดีที่หม่าหยุนยังพอมีโชคอยู่บ้าง เพราะในกระเป๋ากางเกงของเขามีเงินจากการโยกสลอตแมชชีนที่ลาสเวกัสอยู่ 600 US$ จึงรีบใช้เงินนี้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปหาเพื่อนที่ซีแอตเติล และที่นี่เองที่หม่าหยุนได้พบกับอินเทอร์เน็ต (Internet) ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในแผ่นดินใหญ่น้อยคนนักจะรู้จักในตอนนั้น ผมให้เพื่อนช่วยหาคำว่า ประเทศจีน ก็ไม่มีผลอะไรออกมา ไหนจะคำว่า เบียร์ ก็มียี่ห้อต่างๆของทั้งสหรัฐฯ ของเยอรมนี แต่ว่าไม่มียี่ห้อของจีน ผมจึงรับรู้ได้ว่าจะต้องใช้ Internet เป็นเครื่องมือช่วยทำให้แบรนด์ของจีนให้เป็นที่รับรู้ให้ได้ เมื่อกลับมาถึงหังโจว หม่าหยุนรีบเชิญเพื่อนๆ มาประชุมที่บ้าน รวมสมาชิกวันนั้นได้ 24 คน เขาประกาศในที่ประชุม 2 เรื่อง คือ 1. จะลาออกจากงานที่ทำอยู่ และ 2. จะทำเว็บไซต์ โดยจะเริ่มต้นที่เว็บ Yellowpagesของจีน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า สมาชิกทั้ง 24 คนนั้นก็เห็นดีเห็นงามไปกับเขา และเดินตามเขามาจนวันนี้เข้าปีที่ 10 แล้ว
ในวันแรกที่ธุรกิจของเขาเริ่มต้น อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ก็คือ การสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้ารู้ว่าเขาไม่ใช่คนหลอกลวง ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Internet อยู่จริง หลังจากนั้นในปี 1999 ขณะที่หม่าหยุนมีอายุได้เพียง 34 ปี เขาก็ได้ก่อตั้งเว็บไซต์อลิบาบาขึ้นจนบัดนี้เว็บดังกล่าวก็มีอายุได้ 6 ปีแล้ว (ณ ปี 2548) นิตยสารฟอร์บส์เชื่อว่า หม่าหยุนคนนี้มีแผนส่งออกผลิตภัณฑ์เมดอินไชน่าผ่านเว็บไซต์อลิบาบาไปยังทั่วโลก ปัจจุบัน อลิบาบาเป็น Website E-commerce แห่งโลกไซเบอร์ ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างผู้ประกอบการกว่า 7 ล้านแห่ง จาก 200 ประเทศ กับผู้ประกอบการจีนอีก 2 ล้านราย ทุกวันร่วมกันดำเนินธุรกิจค้าขายกันบนโลกออนไลน์ จากการประเมินพบว่า มูลค่าทางตลาดของ Alibaba หลังจากร่วมมือกับยาฮู(Yahoo.com) แล้ว ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,250 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับยักษ์ใหญ์เว็บไซต์ของจีน อีก 2 ราย คือ shanda.com กับ netease.com และเมื่อมีการจัดอันดับเศรษฐีแดนมังกรของหูรุ่นรีพอร์ท ก็ได้ประเมินให้หม่าหยุนเป็นผู้ที่มีสินทรัพย์ทั้งสิ้นมากกว่า 4,000 ล้านหยวน เจรจาธุรกิจ 82 ล้านเหรียญในห้องน้ำ หม่าหยุน เป็นคนที่มีวาทศิลป์ดี เขามีความสามารถทำให้คนที่ฟังเขาพูดเห็นดีเห็นงามไปกับเหตุผลที่เขายกขึ้นมาประกอบ ตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งก็คือ เมื่อเขาพบกับไช่จงซิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) คนก่อนของอลิบาบา ที่มาเจรจาในฐานะของตัวแทนบริษัทร่วมลงทุน แต่ในที่สุดกลับถูกชวนมาทำงานให้กับอลิบาบาแทน หรืออีกครั้ง เมื่อปี 1999 ที่หม่าเพิ่งประกาศว่าจะก่อตั้งบริษัท E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีน้อยคนนักที่เชื่อในคำพูดนี้ แต่ทว่าต้องยกเว้น " มาซาโยชิ ซัน " นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่มีหุ้นใหญ่ในยาฮู เพราะหม่าหยุนใช้เวลาเพียง 6 นาทีก็โน้มน้าวให้ซันยินดีลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Alibaba ของเขาได้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หม่าหยุนและทีมพบกับความสำเร็จในวันนี้ นั่นก็คือ พวกเขาเป็นกลุ่มกล้าฝันและทำให้ฝันนั้นเป็นจริง นอกจากนั้น ยังเป็นคนรักษาคำพูด ดังที่ในช่วงปี 2001 ธุรกิจเว็บไซต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหา ซันถึงกับออกปากกับหม่าว่า ในบรรดา CEO แต่ละบริษัทที่เขาเจอ วาจาของแต่ละคนแตกต่างจากวันแรกที่เคยเชิญชวนให้ซันไปร่วมลงทุนด้วย เหลือแต่เพียงหม่าเท่านั้นที่ยังพูดคำไหนคำนั้นเหมือนเดิม
ความเชื่อถือในตัวหม่าที่เกิดขึ้นในยามยากครั้งนั้นของซัน มีผลต่อเนื่องมาจนถึงปี 2003 เมื่อหม่าหยุนมีความคิดจะตั้งเว็บไซต์ประมูลสิ่งของขึ้นมาแข่งกับอีเบย์ ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่มีคนบอกว่า ความคิดของเขาเป็นไปไม่ได้ มีก็แต่ มาซาโยชิ ซัน คนนี้ ที่ยินดีลงเงิน 82 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับหม่า และไม่น่าเชื่อว่าเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ เขาสองคนกลับเจรจากันอย่างง่ายๆ ในห้องน้ำ
แจ๊คหม่า กับ มาซาโยชิ ซัน หุ้นส่วนใหญ่ของ Yahoo และ Mr. Mark Schwartz อดีตประธานโกลด์แมน แซคช์ (เอเชีย) แล้วความจริงก็พิสูจน์ได้ว่าเงินลงทุนของเศรษฐีญี่ปุ่นไม่ได้สูญเปล่าเลย เมื่อหม่าหยุนตั้งเว็บไซต์เถาเป่า (taobao.com) ให้ขึ้นมาเป็นคู่แข่งของอีเบย์ได้จริง และสำหรับ Alibaba ตอนนี้ก็ได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นweb E-commerce ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากยาฮู อะเมซอน และอีเบย์ หม่าหยุนยังบอกว่า ในปีนี้ (พ.ศ.2548) Alibaba จะมีสำนักงานย่อยในยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ ซึ่งก็ต้องจ้างพนักงานอีกหลายร้อยอัตรา แต่อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังไม่ใช่โครงการที่ใหญ่ที่สุด เพราะโครงการที่ต้องให้น้ำหนักมากที่สุดในอนาคต คือ การแสวงหารูปแบบใหม่ของการค้า เพราะถึงวันนี้แล้ว การจะเป็น บริษัทที่ยิ่งใหญ่ของหม่า หยุนยังคงมีภาพไม่ชัดนัก ตอนนี้เหมือนพวกเรากำลังสร้างตึกขึ้นมา 1 หลัง วันนี้ติดตั้งก๊อกน้ำ พรุ่งนี้ติดตั้งชักโครก เรื่องทุกเรื่องปนเปกันไปหมด นอกจากนั้นยังแก้ไปแก้มา ตอนนี้เรามีแค่ภาพโครงร่างคร่าวๆ ผมคิดว่าปี 2009 ทุกคนคงจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ของ Alibaba ในทัศนะของหม่าหยุน เขามองว่าเมื่อความคิดต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจ E-Commerce กลายเป็นจริง เมื่อนั้น Alibaba ก็จะไม่เป็นเพียงธุรกิจของคนเพียงจำนวนหลักหมื่น เขาหวังว่า E-Commerce จะกลายเป็นสิ่งที่สะดวก เหมือนกับน้ำประปา แค่บิดก๊อกก็ได้ใช้ ทั้งนี้ หม่าหยุน สรุปชีวิตการทำงานของตัวเองเป็น 3 ช่วง ในช่วงแรก คือปี 1995 ที่เขายังเป็นอาจารย์สอนภาษา อังกฤษในวิทยาลัยคอมพิวเตอร์เมืองหังโจว ที่คาดว่าจะมีอนาคตเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาต่างประเทศ ช่วงที่ 2 คือ ปี 1995 ถึงปี 1999 หม่าหยุนเริ่มต้นทำเว็บไซต์ Yellow Pages ร่วมกับการสื่อสารเมืองหังโจว จากนั้นก็ได้ไปแสวงหาลู่ทางในปักกิ่ง แต่แล้วในคืนหนึ่งของปี 1999 ที่มีหิมะโปรยปราย เขาและเพื่อนที่ไปด้วยกันก็เดินทางกลับมายังหังโจวด้วยความเศร้า ช่วงที่ 3 คือ ปี 1999 - 2004 หม่าหยุนประสบความสำเร็จในการทำเว็บไซต์ E-Commerce แบบ Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ, การ จำหน่ายสินค้า, การจ่ายเงินออนไลน์ และในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อได้ร่วมมือกับยาฮูไชน่าแล้ว แม้จะมองอนาคตไม่ได้ชัดเจนนัก แต่หม่าหยุนบอกว่า จะต้องพยายามให้ Alibaba เป็นเว็บ E-Commerceในฝันให้ได้
***ขอขอบคุณ (Thank You) ที่มาของข้อมูล, บทความและภาพประกอบ
- ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 17 ต.ค 48 - China Economic Net
Create Date : 29 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 29 มิถุนายน 2550 14:57:30 น. |
Counter : 1111 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|