Group Blog
 
All Blogs
 
ผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่า "เติมน้ำ หรือ อาหาร" ให้กับผิว




Create Date : 28 ตุลาคม 2548
Last Update : 28 ตุลาคม 2548 20:00:37 น. 14 comments
Counter : 419 Pageviews.

 
พักหลังๆเห็นมีพูดถึงกันบ่อยๆเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ “เติมน้ำให้ผิว หรือไม่ก็ อาหารผิว” ผมอยากจะมาแสดงความเห็นส่วนตัว เพื่อนๆเห็นอย่างไรก็ใช้วิจารณญานกันดูเองนะครับ

*****************

ผลิตภัณฑ์ที่ โฆษณาว่า “เติมน้ำให้ผิว และ อาหารผิว” :

ความชุ่มชื่นของผิวคนเรา มาได้จากแหล่งเดียวนะครับ นั่นก็คือ “น้ำ” ที่เราดื่มเป็นประจำนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในร่างกาย และจำเป็นมากๆสำหรับร่างกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวของเรา ลองสังเกตดูสิครับว่าถ้าเราดื้มน้ำน้อย ผิวพรรณของเราจะดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่ถ้าเราดื่มน้ำเพียงพอ ผิวพรรณก็จะดูเปร่งปรั่ง และสดใสขึ้น, น้ำยังช่วยให้ร่างกายผลักดันของเสียผ่านปัสสาวะได้อีกด้วย

ทีนี้ หลายๆคนที่มีปัญหาผิวแห้ง มักจะคิดเสมอว่าว่าเป็นเพราะผิวขาดน้ำ อันนี้ใช่ครับ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าดื่มน้ำน้อยเกินไป ก่อนที่คิดจะหาผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นอะไร ก็ลองดื่มน้ำมากๆสัก 1 อาทิตย์ดูก่อน แล้วรอดูความเปลี่ยนแปลง ดื่มน้ำมากนี่ก็คือประมาณ 8-10 แก้วต่อวันนะครับ (250 cc) หรือจนกว่าแน่ใจว่าปัสสาวะจะเป็นสีขาวบริสุทธิ์.

พวกผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเติมน้ำให้ผิว ความเห็นผมนั้นไม่เป็นความจริง เพราะว่าแค่ครีมธรรมดาๆ มันจะมาเติมน้ำให้ผิวได้อย่างไรกัน ลองนึกภาพดูสิครับ ถ้าอยู่ดีดีเราเอาน้ำ ไปทาบนกระดาษ สักพักมันก็ระเหยไปหมด ไม่เหลือความชุ่มชื่นแม้แต่น้อย หรือต้นไม้ใหญ่ๆในหน้าหนาว มักจะสูญเสียใบไม้เพราะว่าป้องกันลำต้นสูญเสียน้ำจนเกินไป เพราะว่าอะไร .. ? เพราะว่าน้ำ มันก็ระเหยออกไปนะสิครับ

มาถึงจุดนี้น่าจะเข้าใจแล้วว่า ที่จริงแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ไม่ได้เติมน้ำให้ผิวของเราแม้แต่น้อย แต่กลไลที่แท้จริงของมันก็คือ “ช่วยป้องกันความชุ่มชื่นระเหยออกจากผิว” ต่างหาก นี่คือสิ่งที่มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื่นกำลังทำกับผิวของเราอยู่ แหล่งความชุ่มชื่นของผิวจริงๆนั้นมาจากน้ำที่เราดื่มแบบที่บอกไปแล้วข้างต้น ไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์แม้แต่น้อย, พวกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในปัจจุบันนั้น หน้าที่ของมันก็คือ การป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื่น (น้ำ) ระเหยออกจากผิวของเราไป โดยการใส่สารที่ป้องกันการระเหยของความชุ่มชื่น เช่นพวกน้ำมัน หรือพวกสารโพลีเมอร์เป็นต้น จากนั้นก็จะใส่สารที่ให้ความนุ่มนวลแก่ผิว (emollient) เพื่อให้ผิวชั้นนอกรู้สึกนุ่มนวล ไม่แห้งกร้าน รู้สึกเหมือนผิวได้รับความชุ่มชื่น เหมือนผิวได้ดื่มน้ำตามแต่ที่เค้าจะโฆษณากันไป

ซึ่งที่จริงแล้วทั้งหมดเป็นผลมาจาก 1. สารที่ช่วยป้องกันการระเหยของความชุ่มชื่นภายในผิว + 2. สารที่เพิ่มความนุ่มนวลให้กับผิวชั้นนอก ต่างหาก ไม่ได้มาจากการเติมน้ำจากผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์อย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าหากว่าผลิตภัณฑ์ใดโฆษณาว่าช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว นั่นก็พอยอมรับได้ครับ ว่าเป็นความจริง แต่ถ้าโฆษณาว่าเติมน้ำให้ผิว ก็เลิกเชื่อไปได้เลยครับ เพราะว่าความชุ่มชื่นของผิวจริงๆ มันมาจากน้ำที่เราดื่มเท่านั้นครับ ไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างแน่นอนนะ

และผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีนั้น ไม่จำเป็นว่าพอทาแล้ว จะต้องรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรมาเคลือบๆผิวไว้อยู่ ยิ่งมันจะยิ่งแสดงว่าผิวชุ่มชื่น มันไม่ใช่นะ เพราะอันนั้นมันแล้วแต่สาร emollient ที่เค้าใส่ไว้ต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวกับความชุ่มชื่นที่แท้จริงของผิวเลย, การที่จะรู้ได้ว่าผิวได้รับความชุ่มชื่นพอหรือยัง สังเกตได้โดยลองทำปากตามอักษร A E I O U ถ้ารู้สึกธรรมดาๆแล้ว ไม่ตึง ไม่รู้เกร็งๆ, ผิวไม่ลอก, หลังล้างหน้าก็ไม่มีอาการคัน (ต้องเลือกตัวล้างหน้าให้เหมาะสมด้วยนะ) ผิวหน้ารู้สึกสบาย นุ่มนวลกำลังดี นั่นก็หมายความว่าผิวได้รับความชุ่มชื่นพียงพอแล้วละครับ ดังนั้นหันมาดื่มน้ำให้เพียงพอดีกว่า นอกจากจะช่วยประหยัดเงินเรื่องผิวแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปรกติอีกด้วย ประโยชน์หลายต่อเลยละครับ

*****************

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็น “อาหารผิว” นั้น ก็ใช้เหตุผลเดียวกับข้างบนครับ นั่นคือ อาหารของผิว มาจากแหล่งเดียว นั่นคือมาจาก “เลือด” ที่หล่อเลี้ยงร่างกายเรานั่นเอง ดังนั้นเราทานอะไรเข้าไป มันก็จะส่งผลกับร่างกายและผิวของเราแบบนั้น, ถ้าทานพืชผักผลไม้เยอะๆ ผิวก็จะดูนวลเนียน สว่างสดใส แต่ถ้าไปทานเนื้อสัตว์มากเกินไป ผิวก็จะดูแย่ตามไปด้วย เพราะว่าเนื้อสัตว์มันอุดมไปด้วยอันตรายครับ ดังนั้นถ้าอยากผิวสวย ก็ทานผักผลไม้มากๆ ลดเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อวัว เนื้อหมู พวกสัตว์ใหญ่ๆ หันมาทานพวกสัตว์ทะเลหรือไก่แทน

ผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็นอาหารผิว ดังนั้นก็ไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน เพราะว่าส่วนผสมหลักๆในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อย่างมากก็ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น มีความต้านทานมากขึ้น ต่อต้านอนุมูลผิสระ เช่นพวกสารสกัดจากโสม เป็นต้น แต่นั่นไม่ใช่อาหารผิวแน่นอน เป็นแค่การบำรุงเสริมเท่านั้นเอง ดังนั้นอาหารของผิว มีอยู่ตัวเดียว นั่นก็คือเลือดนั่นเองครับผม


โดย: Start now วันที่: 28 ตุลาคม 2548 เวลา:19:55:53 น.  

 
รับทราบค่ะ



วันหลังมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

ชอบฟังค่ะ


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 28 ตุลาคม 2548 เวลา:20:19:06 น.  

 
อยากรู้ พวกดาราเค้ากิน ไรกันบ้าง หน้าถึงเด้ง ไม่เหมือนคนธรรมดาอย่างนั้น


โดย: Mehndi Laga Ke Rakhna วันที่: 28 ตุลาคม 2548 เวลา:21:16:47 น.  

 
จริงหรอเนี่ย ดีหล่ะจะได้ไม่เสียกะตังค์ซื้อ


โดย: คุณย่า วันที่: 28 ตุลาคม 2548 เวลา:22:50:18 น.  

 
อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วค่ะ


โดย: ameagari วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:6:46:15 น.  

 
เคยหลงทางไปพักนึง ตอนนี้กินน้ำเยอะแล้ว ผิวดีขึ้นจริงๆคะ


โดย: เห็นด้วยคะ IP: 203.151.140.120 วันที่: 30 ตุลาคม 2548 เวลา:9:01:38 น.  

 
ขอบคุณมากคับ มีประโยชน์จริงๆ

อันที่จริงแล้วไม่ต้องไปหาครีมบำรุงราคาแพงๆ เลยเน้ออ ..


โดย: เด็กชายหัวหอม (เพราะสระผมทุกวัน) IP: 58.8.248.92 วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:22:29:23 น.  

 
เข้ามาเติมอาหารไห้สมองค่ะ


โดย: ตำนัว IP: 219.88.2.220 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:50:45 น.  

 
เข้ามา update ความรู้ค่ะ


โดย: iampum วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:21:58 น.  

 
ดาราก็แต่งหน้าทั้งนั้นล่ะครับ ลบเครื่องสำอางออกบางคนดูไม่ได้เลย ถ้าให้เราไปแต่งอย่างดาราในทีวีก็สวยก็หล่อกันทุกคน...


โดย: นุก IP: 58.9.2.113 วันที่: 10 มกราคม 2549 เวลา:18:15:42 น.  

 
ใช่เล้ยคร้าบ


โดย: หมอจังเด่น IP: 124.120.25.50 วันที่: 10 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:12:43 น.  

 
แวะมาเยี่ยม


โดย: supertarokung วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:41:18 น.  

 
แวะมาเยี่ยม


โดย: supertarokung วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:41:19 น.  

 
อ๋า.. เข้าใจแล้วค่ะ ง่าวอยู่ตั้งนาน


โดย: noo IP: 58.136.68.19 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:17:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Start now
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สบายๆครับ รักธรรมชาติ รักชีวิต รักความถูกต้อง..

ความสุข คือ
1. การมองเห็นความสุขในตัวผู้อื่น
2. การมองเห็นความสุขในตัวเอง

แค่นี้ก็มีความสุขแล้วนะ....














Friends' blogs
[Add Start now's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.