กว่าจะเป็นนักเรียนทุน ตอนที่ 2 : สอบสัมภาษณ์และวันประกาศผล
ความเดิมตอนที่แล้วเล่าไปถึงตอนสอบผ่านข้อเขียนแล้ว ต่อไปก็จะเป็นสอบสัมภาษณ์ครับ

สอบสัมภาษณ์

ช่วงนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยพลาดทุนนึงมาก่อนหน้านี้แล้ว ช่วงก่อนหน้าที่จะไปสอบสัมภาษณ์ก็ลองเอาชื่อของอีก 4 คนไปค้นดูใน Google ก่อนว่าเป็นใครมาจากไหน (อารมณ์ประมาณรู้เขารู้เรา) ก็พบว่าบางคนก็ประวัติค่อนข้างโหดอยู่เหมือนกัน แต่ก็นึกในใจว่า "เฮ่ย เราก็มีดีเหมือนกันละน่า..." ปลุกใจตัวเองครับ นอกจากเรื่องคู่แข่งแล้วอีกอย่างที่ทำการบ้านมาด้วยก็คือข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานเจ้าของทุน (ของผมเป็นนาโนเทค) ครับ เผื่อกรรมการถามจะได้ตอบได้

การสอบสัมภาษณ์ของทุนกระทรวงวิทย์ในปี 2558 นั้นจัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตช่วงปลายเดือนพฤษภาคมครับ ซึ่งจะแบ่งเป็นรอบ ๆ ตามหมายเลขหน่วยทุนที่ตัวเองสอบได้ ก็ต้องจำหมายเลขหน่วยทุนกันหน่อยละครับ ของผมไปตกเอารอบเช้าก็เลยต้องแหกขี้ตากันหน่อย วันไปสอบก็เอา portfolio ของผมอันเดียวกันกับที่เตรียมสอบทุนก่อนหน้านี้ (แล้วก็ไม่ผ่าน T^T) ไปด้วยพร้อมกับกระเป๋าส่วนตัวที่ใส่อะไรจำเป็น ๆ สำหรับการดำรงชีวิตแต่ละวันของผมไปด้วยครับ

portfolio ของผมจะมี CV transcript ใบประกาศตอนที่ไปฝึกวิจัยสองเดือนที่อังกฤษ แล้วก็รูปภาพตัวเองตอนทำกิจกรรม (หาเอาจากเฟสบุ๊ก) ครับ แต่ของแต่ละคนอาจจะมีอะไรมากกว่านี้ก็ได้ (ซึ่งเผอิญว่าของผมมันแค่นี้แหละครับ)

พอไปถึงสถานที่ที่ใช้จัดสอบแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้ไปลงชื่อตามหน่วยทุนของตัวเองก่อนจะให้เข้าไปในห้องสอบซึ่งจัดแบ่งเป็นสองห้อง ในแต่ละห้องก็มีผู้เข้าสอบประมาณห้าสิบคนได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษาปีสุดท้าย (ผมก็เช่นกัน) พอได้เวลาแล้วก็เริ่มสอบข้อเขียนภาคสอง (อันนี้ผมตั้งชื่อเอง ไม่รู้ที่จริงเขาเรียกยังงี้หรือเปล่า) ครับ ซึ่งจะมีเวลาให้ 1 ชั่วโมง จะถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว เกรดเฉลี่ย รายวิชาที่เคยลงเรียน project ที่กำลังทำอยู่ ฯลฯ ซึ่งตอนสอบนั้นเปิดดูใน portfolio ได้ (transcript ก็มีประโยชน์ตอนนี้ละครับ) แล้วก็มีให้เขียนเรียงความสองเรื่อง เรื่องนึงให้บอกจุดเด่นของตัวเองว่ามีดีอะไรที่จะได้รับทุนนี้ ส่วนอีกเรื่องนั้นถามความเห็นเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนแบบ STEM และ STEAM ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ตรงนี้ต้องแนะนำว่าแบ่งเวลาดี ๆ ครับ เพราะผมเอาเวลาไปลงกับเรื่อง STEM/STEAM จนกลับมาเขียนเรื่องแรกไม่ทัน (กรรม T^T)

เมื่อสอบข้อเขียนภาคสองเสร็จแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกชื่อผู้เข้าสอบไปนั่งรอหน้าห้องสัมภาษณ์ ระหว่างที่รอก็จะมีเจ้าหน้าที่จาก สวทช. ที่ดูแลนักเรียนทุนกระทรวงวิทย์มาพูดคุยคร่าว ๆ เกี่ยวกับทุน การปฏิบัติตัว ฯลฯ จำได้ว่าตอนนึงพี่เขาพูดว่า

"แต่ขั้นแรกก็ต้องสอบให้ผ่านก่อน"

ฉึก!

หลังจากนั้นก็ถึงตาของผมครับ เจ้าหน้าที่จะพาผู้เข้าสอบที่ถึงคิวแล้วขึ้นลิฟต์จากชั้น 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องสอบข้อเขียนภาคสองไปยังชั้น 5 แล้วก็ให้ไปรอที่หน้าห้องสอบ (อารมณ์คล้าย ๆ นั่งรอหมอเรียกตรวจโรคยังไงยังงั้น) ซึ่งชื่อของผมอยู่ที่ชื่อที่ 5 เลย แต่มีคนสละสิทธิ์ (ไม่เข้าสอบ) 2 คน ทำให้คิวของผมเลยร่นเข้าไปเป็นคิวที่ 3 ครับ ซึ่งตอนนั้นคนแรกกำลังสัมภาษณ์อยู่พอดี ส่วนคนที่สองรออยู่หน้าห้อง ตอนที่ไปรอที่หน้าห้องสอบนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้เอกสาร (ซึ่งก็คือข้อสอบข้อเขียนภาคสองเมื่อเช้านั่นแหละ) ไว้กับตัวด้วยครับ ระหว่างนั้นก็ทำสมาธิไปพลาง ๆ ไม่ให้ตื่นเต้นเกินไป

สักครู่นึงคนแรกก็ออกมา เห็นขนาด portfolio ของพี่แกแล้วถึงกับสติหลุดไปชั่วขณะ เพราะว่าเขามาพร้อมกับแฟ้มขนาดใหญ่สองแฟ้ม ในใจนี่คิดว่าคนนี้ได้แหง ๆ ไม่ได้การละ ดึงสติ ๆ กลับเข้าสมาธิอีกรอบนึง

หลังจากที่นั่งทำสมาธิอยู่หน้าห้องสอบไปได้สักครู่ใหญ่ ๆ ก็ถึงคิวของผมครับ

สิ่งที่เห็นตรงหน้าหลังจากเปิดประตูห้องสอบเข้าไปก็คือโต๊ะสี่ตัวที่ถูกจัดวางเป็นตัวยูกว้าง ๆ โอบล้อมโต๊ะเล็ก ๆ อีกตัว โต๊ะสี่ตัวนั้นมีกรรมการประจำอยู่โต๊ะละหนึ่งคน ส่วนโต๊ะเล็กนั้นเป็นโต๊ะของผู้เข้าสอบครับ รายละเอียดการสอบคงจะเขียนไปตามเท่าที่จำได้ เพราะว่ามันก็ผ่านมาได้ประมาณสามเดือนแล้วอาจจะไม่แม่นครับ

เริ่มต้นกรรมการก็ให้ผมแนะนำตัวก่อน บรรยากาศการสอบสัมภาษณ์โดยรวมนั้นสบาย ๆ กว่าที่คิดเยอะเลยครับ เหมือนนั่งคุยกันเฉย ๆ มากกว่า (หลังจากที่ทุนก่อนหน้าค่อนข้างกดดัน) อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นการสัมภาษณ์ภาษาไทยด้วย การสื่อความคิดก็เลยออกมาลื่นไหลได้ดีกว่าสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ สิ่งที่จำได้ว่าคณะกรรมการถามตอนที่สอบสัมภาษณ์แน่ ๆ ก็คือ
  • ทำไมถึงเลือกสมัครทุนนี้ - ทุนที่ผมสมัครนั้นให้ไปเรียนเกี่ยวกับ Nanomaterials เน้น Organic Synthesis ผมก็เลยตอบไปตามความคิดตอนที่ตัดสินใจเลือกทุนหน่วยนี้ว่าสนใจเกี่ยวกับ Organic Synthesis ก็เลยเลือกทุนหน่วยนี้
  • คิดว่าตัวเองมีอะไรที่ทำให้คณะกรรมการตัดสินใจเลือกคุณ - เพราะเชื่อว่าตัวเองรู้เรื่องการสังเคราะห์ทางเคมีอินทรีย์ลึกกว่าคนอื่นทั่วไป เนื่องจากการสังเคราะห์นั้นไม่ใช่แค่รู้และจำปฏิกิริยาเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจกลไกการเกิดปฏิกิริยานั้น ๆ ด้วยว่าทำให้เกิดผลิตภัณฑ์แบบไหนมากกว่ากัน (จริง ๆ ผมไม่ค่อยชอบนำเสนอตัวเองนะครับ แต่ในสถานการณ์แบบนี้เป็นสิ่งจำเป็น ต้องแสดงความมั่นใจให้มากที่สุด)
  • มีประเทศที่คิดไว้ในใจหรือยัง - ตอบไปว่าเป็นอังกฤษครับ เพราะเคยไปฝึกวิจัยระยะสั้นสองเดือนที่นั่นแล้วรู้สึกติดใจบรรยากาศที่นั่น (กรรมการก็เลยให้เล่าเรื่องที่ไปฝึกวิจัยระยะสั้นว่าทำอะไรไปบ้าง)
  • ถ้าให้ไปเรียนที่ประเทศอื่นจะยินดีไหม - ตรงนี้ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ก็ยอมรับว่าหลายประเทศที่กรรมการเสนอมาเป็นประเทศที่มีจุดแข็งด้านวิชาการเหมือนกัน
  • คิดว่าตัวเองจะไปอยู่ได้ไหม - ตรงนี้ค่อนข้างมั่นใจครับ เพราะว่าเคยไปอยู่สองเดือนก็เคยไปอยู่มาแล้ว
เท่าที่จำได้ก็น่าจะประมาณนี้ครับ เทคนิคที่อยากจะบอกมีแค่ว่าตอบไปตามความเป็นตัวเองและแสดงความมั่นใจออกมาให้มากที่สุด

วันประกาศผล และรายงานตัว

ถึงตอนสอบจะค่อนข้างมั่นใจก็จริง แต่ก็ยังกังวลอยู่ดีว่าจะสอบผ่านหรือเปล่า โดยเฉพาะช่วงใกล้วันประกาศผลนี่ยิ่งตื่นเต้นหนักครับ นับวันนับเวลารอให้ผลสอบออกมาเร็ว ๆ จะได้รู้กันไปว่าผ่านหรือไม่ผ่าน (ผลสอบสัมภาษณ์จะออกช่วงกลางมิถุนายน) ตอนนั้นก็สมัครปริญญาโทที่คณะวิทย์ฯ เผื่อไว้ด้วยเลยในกรณีที่ไม่ผ่านครับ แต่สุดท้ายผลก็ออกมาว่าสอบผ่านแล้วครับ สิ่งแรกที่ทำคือโทรบอกคนที่บ้านก่อนเลย ไม่นานข่าวก็เริ่มกระจายไปทั่วภาควิชาครับ เริ่มเขินนิดหน่อยตอนที่มีอาจารย์และเพื่อน ๆ มาแสดงความยินดี

จากนั้นหนึ่งอาทิตย์ต่อมาก็ต้องไปรายงานตัวที่สำนักงาน ก.พ. นนทบุรีครับ ซึ่งวันที่ไปรายงานตัวนั้นต้องเตรียมรูปถ่ายขนาด 1 นิ้วไปด้วย 5 รูป เมื่อไปถึงที่สำนักงาน ก.พ. แล้วก็ต้องเซ็นชื่อเพื่อยืนยันว่าไม่สละสิทธิ์แน่นอน แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะแจกเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพพร้อมกับข้อมูลโรงพยาบาลที่สำนักงาน ก.พ. รับรองว่ามีที่ไหนบ้าง แล้วก็แบบฟอร์มข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนทุนกระทรวงวิทย์ฯ ด้วย สรุปสั้น ๆ คือให้แบบฟอร์มอะไรมาก็กรอกไปครับ

รายละเอียดการตรวจสุขภาพทั้งด้านร่างกายและด้านจิตเวชจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปนะครับ



Create Date : 12 สิงหาคม 2558
Last Update : 22 สิงหาคม 2558 10:47:00 น.
Counter : 1273 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตะกั่ว-หนึ่งสี่ศูนย์
Location :
ฉะเชิงเทรา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



นักศึกษาเคมีที่กำลังจะกลายเป็นนักเรียนทุน สนใจเคมีพอ ๆ กับอนิเมะ ยินดีต้อนรับครับ