|
เพลงพฤกษ์
เพลงพฤกษ์ บทนำ เมื่อมนุษย์กับธรรมชาติยังต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันแต่ใครจะสามารถรู้ได้ว่าหากธรรมชาติไม่ยินยอมให้เหล่ามนุษย์พึ่งพาเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้จนเกินไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
..!! เพลงพฤกษ์ บทที่ 1 เขตแดน มาธวี เขตโสภน ยืนมองดูชายหนุ่มผู้เดินตรงมายังเธอซึ่งใบหน้าบ่งบอกว่ากำลังอารมณ์เสียอย่างสุดๆเธอยิ้มแบบกวนๆเมื่ออีกคนพยายามข้ามรั้วเขตเเดนที่กั้นไว้แบบหลวมๆเพราะทั้งเขาและเธอต้องใช้ลำธารร่วมกันจึงต้องเทียวเข้าออกบ่อยๆตั้งแต่รุ่นปู่ทวดของเขาและตาทวดของเธอ นี้ยัยแตน
เธอไปกั้นเเนวน้ำใหม่ทำไม
รู้ๆอยู่ว่าทางฉันต้องใช้น้ำช่วงไหนบ้าง ดรุสัณฑ์ ชยุตพงศ์ตะคอกมาธวีอย่างหงุดหงิดเมื่อข้ามรั้วมาจนถึงจุดที่หญิงสาวยืนเท้าสะเอวยิ้มกวนๆเขาอยู่อย่างไม่เกรงกลัว อ้าว
.นายลืมไปแล้วเรอะว่าทางฉันต้องใช้น้ำช่วงเวลานี้
จู่ๆนายก็สั่งลูกน้องไปเบนทิศทางก่อนโดยไม่บอกหากฉันเจ้งมานายจะรับผิดชอบเปล่าหล่ะ!?ผึ้งหรือมาธวีสวนกลับอย่างอารมณ์เสียไม่แพ้กัน เธอ
ทำไม
ฉันต้องไปรับผิดชอบด้วย.. ดรุสัณฑ์หรือสัณฑ์ย้อนผึ้ง อ้าว
..พูดแบบนี้ก็ชวนปากมีสีสินายสันแข้ง ! ผึ้งถลกแขนเสื้อขึ้นตั้งท่าชกมวยทันทีแต่ทั้งสองคนต้องหันขวับกับเสียงแหลมปรี๊ดของใครบางคน ต๊าย
ตาย
ยัยรังแตนจะทำอะไรสุดที่รักคุณสัณฑ์ของฉันย่ะ ? วนศักดิ์หรืออีเกิ้งฉายาที่ผึ้งตั้งให้กับกะเทยประจำหมู่บ้าน โฮงคำ ผึ้งมองดูสัณฑ์ที่ทำท่าทางราวกับจะอ้วก เปล่า
.กำลังจะสอนลีลาให้กับนายนี้ไปใช้กับแกไงย่ะ ผึ้งยิ้มหวานกับชายหนุ่มอีกคนที่ตามวนศักดิ์มา ไงค่ะคุณเมฆสำรวจทั่วหรือยังค่ะ? โตยธร เตชธรรมมองดูเธอแบบขยาด ยังไม่ทั่วเลยฮะ
คงต้องรอคุณหมามุ่ยเฮ้ย
.คุณผึ้งเป็นไกด์พาทัวร์นะฮะ โตยธรหรือเมฆกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากเมื่อคิดถึงวีรกรรมที่ผึ้งพาเขาไปสร้างมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วทำเอาเขานอนจับไข้เกือบอาทิตย์เพราะเธอเล่นพาเขาไปสำรวจกลางใจกลางป่าในวันที่ฝนตกหนักเขาต้องวิ่งหนีน้ำป่าโดยมีฝูงช้างและสัตว์น้อยใหญ่อีกมากมายวิ่งไล่หลังมาภาพนั้นยังตามหลอกหลอนเขาจนถึงวันนี้ ต๊าย
.ตายนี้แกยังไม่เข็ดอีกเหรอ
คราวก่อนก็นอนจับไข้เกือบอาทิตย์
ขากับเท้าแกก็ใช้การไม่ได้อยู่นานไม่ใช่เหรอย่ะ
คราวนี้คงได้หามเข้าป่าช้ากระมั้งนายเมฆคงกลายเป็นเถ้าแทน! เวิ้งพูดประชดญาติผู้น้องที่ยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะกลัวอีกคนมากๆเกิ้งกระแซะสัณฑ์ที่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆยืนตัวแข็งทื่อจนผึ้งต้องแอบกลั้นหัวเราะไว้ เกิ้ง..คุณสัณฑ์เขาบ่นกับฉันอยู่ว่าคิดถึงแก
แกไม่ดีใจหรือ
.เขาแอบกระซิบฉันว่าอยากให้แกไปหาบ่อยๆด้วยหละ ผึ้งบอกเพื่อนเบา ๆทำให้สัณฑ์ตาลุกวาวที่เธอช่างแต่งเรื่องได้รวดเร็วเหลือเกิน เมื่อวนศักดิ์ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบลากดรุสัณฑ์ไปขึ้นรถทันทีโดยไม่ลืมกำชับผึ้งให้ดูแลเมฆดีๆทำให้เมฆอ้าปากค้างที่ญาติผู้พี่เห็นผู้ชายดีกว่าตนเมฆหันมามองผึ้งอย่างระแวงว่าเธอจะพาเขาไปผจญภัยอะไรอีกในวันนี้ โชคดีนะ
กันจะดูแลน้องนายเอง
..อย่าได้พะวงเลยเที่ยวให้สนุก นะ ผึ้งส่งจูบให้เพื่อนสาวที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลยันปริญญาโทแล้วหันมายิ้มหวานให้กับเมฆก่อนจะพาชายหนุ่มไปลุยหาสมุนไพรมาปรุงยาให้เหล่าสัตว์ป่าที่เธอไปไถ่ชีวิตมาจากนรกเมื่อเดือนที่แล้วเธอต้องรักษาพวกมันให้หายดีจนเอาตัวรอดได้ก่อนจึงปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ อะไรนะครับให้ผมแบกถุงพวกนี้นะเหรอครับคุณผึ้ง
!? โตยธรเอ่ยถามอีกคนเพื่อความมั่นใจเพราะถุงเหล่านั้นคือเสบียงอาหารที่สามารถกินได้เป็นอาทิตย์ๆ โตยธรมองดูหญิงสาวร่างบางๆที่ง่วนกับการจัดสิ่งของต่ออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องเอาข้าวของไปมากมายขนาดนี้ ค่ะ
ใช่ทั้งหมดเลยค่ะ
เราต้องเอาของพวกนี้ไปฝากไว้ตีนเขา
คงต้องค้างสักเกือบอาทิตย์หากคุณไม่เต็มใจไปก็จะไปส่งที่บ้านพัก ผึ้งจ้องตาของอีกคนเขม็งทำให้โตยธรต้องหลบสายตาของเธอที่กำลังจ้องมองราวกับอ่านใจเขาอยู่ผู้หญิงคนนี้ดูเผินๆเหมือนกับว่าเป็นคนง่ายๆไปทุกอย่างหากแต่เมื่อรู้จักเธอจริงๆช่างน่ากลัวกว่าที่เขาคาดคิดไว้ ผึ้งนะมันเก่ง
ตระกูลของมันฆ่ากันตายไม่ต่างไปจากคดีที่โด่งดังมากๆหรอก
กว่ามันจะมีวันนี้นะเมฆ
.พี่ลุ้นแทบแย่เลย วนศักดิ์เอ่ยถึงผึ้งที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องมาตั้งแต่เยาว์วัย หากแกอยากรู้เรื่องป่าถามมันได้เลยมันโตมากับป่าโดยแท้จริง โตยธรไม่ได้ยินที่ผึ้งกำลังพูดด้วยใบหน้าใครบางคนซ้อนทับกับใบหน้าผึ้งซึ่งเหมือนกันราวกับแกะกันมาหากแต่รายนั้นบอบบางเสียจนเขาต้องตัดสินใจให้อยู่ประจำที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งยังแดนไกลแม้ว่าญาติๆจะคัดค้าน พี่เมฆ
.ไมอยากอยู่ที่เมืองไทยไม่อยากไปอยู่ที่โน้นไมกลัว
ให้ไมอยู่ที่นี่นะ
พี่ ติยพรอ้อนวอนเขาแต่เขาจำใจต้องส่งน้องสาวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ไปไกลอกทั้งที่ห่วงมากมายเหลือเกิน ไม่
เธอต้องไปนี้เป็นคำสั่งของพี่ห้ามวอแว
ทุกปิดเทอมพี่จะไปเยี่ยม โตยธรเน้นเสียงจนอีกคนร้องไห้ที่ถูกขัดใจทุกครั้ง พี่ใจร้าย
อีตาพี่บ้า
.เอาพี่ฟ่านคืนมานะเพราะพี่คนเดียวพี่ฟ่านถึงได้ตาย
ติยพรโวยวายแล้วข้าวของต่างๆได้ลอยลิ่วออกมาจนเขาแทบหลบไม่ทัน นี้เพราะยัยฟ่านคนเดียวที่ทำให้น้องเสียคนได้ถึงขนาดนี้
.โตยธรบ่นโดยมีคนสวนเก่าแก่ช่วยซับเลือดที่ไหลอาบจากถูกแจกันกระแทกอย่างจัง อย่าไปว่าเธอเลยคุณเมฆ
.เธอทำได้ดีสุดแล้วกว่าคุณจะจบเธอก็พยายามต้านทุกๆด้านจนเธอล้าแล้ว
.. โตยธรได้แต่ถอนใจ เสียดายนักที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าน้องของผม
..ศพแล้วศพเล่านับแต่นายอัน..มายัยฟ่างแล้วก็ฟ่าน
ไมนะถึงไม่ตายก็เท่ากับตายทั้งเป็น! โตยธรพูดอย่างขมขื่นที่ต้องสูญเสียน้องๆไปทั้งที่แต่ละเหตุการณ์ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยในความเป็นจริง ลุง
เรื่องที่ไมจะไปช่วยปิดเป็นความลับด้วยนะ โตยธรย้ำกับคนเก่าแก่เมื่อส่งน้องสาวไปแล้วเขาพยายามปรึกษาแพทย์ที่เก่งที่สุดในโรคที่ไมกำลังเป็นอยู่จนเขาท้อแท้กับการรักษาน้องจนได้พบเพื่อนที่เป็นแพทย์ที่ซึ่งจบปริญญาเอกจากแดนไกล แกไม่ต้องส่งน้องแกไปไกลขนาดนั้นก็ได้
แค่แกหาบริเวณที่อากาศดีๆบรรยากาศสงบๆอาการน้องแกก็ดีขึ้นแล้ว เพื่อนกล่าวย้ำก่อนจะตามภรรยาสาวไปยังแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อดูแลกิจการของภรรยา แต่ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆทั้งหลาย
..ผมไม่เชื่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรอกนะ! เขากล่าวเน้นย้ำก่อนจากมายังที่นี่ คุณหนูต้องพยายามทำทุกอย่างโดยรอบคอบนะครับ
.ผมจะดูแลที่จนกว่าคุณหนูจะหาคนร้ายเจอผมสัญญา
ผมจะไม่ยอมตายก่อนได้เห็นหน้าคนที่ฆ่าคุณท่านของผมแน่นอน คนสวนเก่าแก่ให้คำสัญญา เนี่ย
คุณ..ๆขา
ผึ้งเรียกตั้งนานแล้ว ไม่เห็นขานตอบนึกว่าตกเนินไปซะแล้ว
พร้อมแล้วไปเถอะ ผึ้งดึงแขนชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าจวนจะมืดแล้ว เราต้องทำเวลาไปให้ถึงที่โน้นก่อนเที่ยงคืน
เพราะว่าหลังจากนั้นเสือป่ากับช้างป่าจะออกหากินมันอันตรายมากๆ.. ผึ้งบอกเมฆระหว่างรีบจ้ำเอาๆจนเขาต้องขอหยุดพักหลายต่อหลายรอบ ตอนพ่ออยู่พ่อมักพาผึ้งออกมาสำรวจป่าจนแม่ว่าปล่อยๆแต่ตอนนี้ผึ้งอยากขอบคุณพ่อที่ทำเช่นนั้นที่สุดเลยหล่ะ ผึ้งชวนเมฆคุยไปจนถึงจุดหมายที่ทำให้เมฆอ้าปากตาค้างเพราะจุดที่เธอบอกว่าเป็นที่พักคือบนต้นไม้ที่มีสิ่งคล้ายๆหิ้งพระดูไปเหมือนศาลพระภูมิมากกว่า ผมต้องนอนบนนั้นนะหรือผึ้ง เมฆเอ่ยถามผึ้งที่กำลังสนทนากับชายร่างใหญ่ที่ชี้ไปยังต้นไม้ใหญ่ที่มีสิ่งเดียวกันอยู่ คะ
.คุณนอนต้นนี้หล่ะ
ผึ้งจะไปต้นโน้นส่วนพรานคนนี้เขาจะนอนต้นนั่นจะได้ดูต้นทางให้เราคล้ายยามนั่นแหล่ะ ผึ้งพูดเเค่นั้นเธอได้หายไปพร้อมกับความมืดทิ้งเขานะจังงันกับที่นอนแบบใหม่ที่เขาเคยเจอแต่ในสารคดีที่เขาไปเรียนมาแต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาสัมผัสจริงๆและทั้งคืนเขานอนผวาไปกับเสียงสัตว์นานาชนิดที่วิ่งไปมาเพื่อหาอาหารโดยเฉพาะเสียงเสือคำรามแข่งกันทำให้เขาขนลุกซู่จนนอนไม่หลับเลย บทที่ 2 ต่างขั้ว คนธวัลย์ยืนมองผัลย์สุภาฝาแฝดที่ถูกอาสาวขอมาเลี้ยงตั้งแต่เยาว์วัยที่สาละวนกับการสับรางรถไฟที่เกือบมาชนกันเมื่อครู่ที่ผ่านไป นี้บัว
พี่จะไปแล้วนะเดี๋ยวจะไม่ทันรถ
ฝากบอกอาด้วยนะว่าอีกนานจึงจะมาหา คนธวัลย์หรือเถาคว้าเป้เก่าๆคู่ใจออกไปอย่างเบื่อๆกับการต้องเดินทางตั้งแต่จำความได้เธอต้องเดินทางไปกับบิดาที่เป็นช่างภาพอิสระที่ได้รับรางวัลมากมายเป็นว่าเล่นจนมารดาต้องขอแยกทางกับบิดาหลังจากเธอและน้องเกิดได้ไม่ถึงเดือนดีนั่นคือสิ่งที่ปู่ย่าลุงและอาที่เลี้ยงดูเธอมามักบ่นให้ฟังเสมอๆ แม่แกเป็นดาราดังมาก
ม้ากพ่อแกเป็นช่างภาพกระจอกๆมันเลยไปกันไม่รอดนะเถา
.แต่แกอย่าไปโกรธแม่แกเลยพ่อแกก็เจ้าชู้จนแม่แกน้ำตาตกในเสมอๆเลยลงท้ายแบบนี้ ลุงกับป้ามักเตือนเธอเวลาที่เธอโมโหให้มารดา พ่อขา..พ่อรักเถามากไหมคะ? คนธวัลย์ออดอ้อนบิดาเสมอเมื่อท่านกลับมาจากทำงานยังต่างแดน พ่อมีหนูเป็นยอดดวงใจเป็นดังลมหายใจนะลูก
เมื่อลูกจบป.6ลูกต้องไปทุกหนทุกแห่งกับพ่อ
เพราะพ่อคิดถึงลูกเหลือเกิน บิดาเธอพูดเช่นนั้นซึ่งเธอคิดว่าท่านพูดเล่นๆแต่เมื่อเธอจบป.6ท่านนำไปด้วยจริงๆแม้ว่าเหล่าญาติพี่น้องจะขัดขวางท่านก็ไม่ยอม งั้นแกเอาเถาไปแต่ยัยบัวพวกพ่อขอเถอะอย่าไปยุ่งกับเขาเลยรายนั้นเขารักเขาเลี้ยงของเขามาตั้งแต่แบเบาะเเล้ว ปู่ต่อว่าบิดาที่จะไปเอาน้องสาวฝาแฝดที่อาสาวเอาไปเลี้ยงตั้งแต่เกิด โธ่
พ่อยังไงก็ลูกผมทั้งสองคนทำไมต้องให้แกแยกกันด้วยหล่ะครับ! พ่อเธอแย้งแต่ปู่กับลุงเธอยังยืนยันคำเดิมซึ่งเธอยังจำได้จนถึงวันนี้เพราะในครั้งนั้นเองที่เธอรู้ว่ายังมีน้องสาวอีกคนเมื่อบิดาพาไปหาน้องเธอราวต้องมนต์สะกดที่หน้าตาเหมือนเธอราวกับพิมพ์เดียวกันแต่การเจอกันครั้งทำให้เธอทั้งคู่ต้องนั่งฟังบิดากับอาสาวทะเลาะกันแทบตายไปคนละข้างเมื่อบิดายืนยันจะเอาผัลย์สุภาหรือบัวไปอยู่ยังต่างแดนด้วยแต่น้องสาวของมารดาไม่ยินยอมเดือดร้อนปู่ต้องรีบดิ่งลงมาห้ามศึกบิดาจึงยอม เด็กคนนี้ฉันถือว่าเป็นเสมือนลูกฉันแท้ๆใครมาพรากแกไปตายสถานเดียวเท่านั้นจำไว้
.เราตกลงกันตั้งแต่พี่ฉันหย่ากับนายแล้วอย่าลืมสิ! ลดาชาติตาขวางขณะขวางผัลย์สุดาออกมาจากอ้อมกอดของบิดาของเธอที่โกรธจนหน้าเขียวคล้ำ พ่อ
..ว่างๆเราค่อยมาหาน้องก็ได้นะพ่อนะ เถาดึงพ่อที่พยายามกระชากบัวมาจากลดาชาติซึ่งบัวนั้นกอดลดาชาติแน่นร้องไห้จนตัวโยน ไม่
.ไม่
ฮือๆๆ
บัวจะอยู่กับแม่
.บัวไม่ไปไหนบัวไม่ไป
แงๆๆ ในครั้งนั้นทำให้เธอรู้ว่ามารดาของเธอหน้าตางดงามราวกับนางฟ้าจริงๆเมื่อเธอมาพร้อมใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก ปล่อยเดี๋ยวนะ
นายชุค
ฉันบอกให้ปล่อยลูกฉันไง
ก่อนหย่าเธอกับฉันตกลงกันจนรู้เรื่องเเล้วนะว่าใครควรได้เด็กคนไหนไป! ศุภาถลาไปอุ้มเด็กน้อยต่อจากน้องสาว อย่าร้องคนดี
.ป้าอยู่นี้แล้วอย่ากลัวไปเลย ศุภาปลอบโยนบุตรสาวที่น้องสาวหัดให้เรียกเธอว่าป้ามาตั้งแต่แกจำความได้ โอเค
.ลูก
ใช่แล้วตามที่ศุภาว่าเรากลับเถอะชุค ปู่ลากพ่อกับเธอขึ้นรถขณะที่ตะลึงงันอยู่ พี่เถา
.เดี๋ยวอย่าเพิ่งไปรอบัวเเป๊บ
.เดี๋ยวเดียวนะ บัวหายไปครู่ใหญ่แล้วออกมาพร้อมกล่องเล็กจิ๋วพลางหอมแก้วเถาเบาๆ สุขสันต์วันเกิดเช่นกันจ๊ะ..ขอบใจมากสำหรับจี้เมื่อคืน
.เดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะพี่สาว ผัลย์ศุภาโบกไม่โบกมือให้คนธวัลย์จนเถามองเห็นอยู่ลิบๆเพราะมัวแต่หันหลังดูน้องสาวทำให้เธอเกือบถูกรถที่ขับมาจอดชนเอา นี้คุณมองดูข้างหน้าบ้างนะผมไม่อยากชนตนตาย กันทรลงมาจากรถแล้วต่อว่าหญิงสาวที่ตกใจไม่แพ้กันที่จู่ๆรถคันงามมาจอดห่างจากเธอไม่ถึงคืบเต่เมื่อเขาหน้าเธอชัดเจนเขาอุทานอย่างหัวเสียเข้าไปอีก เธออีกแล้วยัยหมามุ่ย
.ทำไมฉันซวยแบบนี้เนี่ย!
คราวก่อนเธอก็เจาะยางรถฉันคราวนี้จะหาเรื่องอะไรอีกหล่ะครับเเม่ตัวป่วน! กันทรโวยวายเมื่อคนธวัลย์ตั้งสติได้เธอจวกใส่กันทรชนิดไม่ยั้งก่อนชกหน้าเข้าที่เบ้าตาเขาเมื่อเขามาเขย่าตัวเธอเพราะโมโหก่อนกระโดดขึ้นรถโดยสารประจำทางไปอย่างรวดเร็วทิ้งกันทรโอดครวญก่อนกุมเบ้าตาไปหาแพทย์แล้วกลับมาสะสางกับผัลย์ศุภาที่บ้านต่อแต่เขากลับต้องโดนห้ามไปส่งโรงพยาบาลเมื่อแฟนคนล่าสุดมาพบเข้าขณะที่เขากำลังทะเลาะกับบัวอยู่เดือดร้อนยชญ์เพื่อนสนิทต้องมานอนเฝ้าพร้อมกับการห้ามศึกดังกล่าว โอ๊ย
ทำไมแกต้องไปหาเเต่เรื่องยัยเด็กบัวว่ะ
.คราวก่อนหากคุณก้านไม่อยู่แกคงเป็นขันทีไปแล้ว
.คราวกลายเป็นมัมมี่ไปเลย ยชญ์บ่นแล้วก็บ่นขณะโทรศัพท์บอกแฟนสาวของกันทรมาดูแลต่อจากเขาซึ่งต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการด่วนตามที่ถูกเรียกตัว นายรอยัยเพียวนะกันต้องไปงานด่วน
ยชญ์บอกเพื่อนที่นอนทำตาพริบๆเพราะมีเพียงลูกตาเท่านั้นที่กลอกไปมาได้ยชญ์มองดูเพื่อนแล้วส่ายหัวอย่างปลงๆ เดี๋ยวหมอจะมาดูอาการนาย
เออคู่กรณีจะมาดูด้วย
โชคดีนะเพื่อนกันต้องรีบไปจริงๆหากไม่มีคำสั่งสายฟ้าเเลบมากันต้องอยู่ดูแลนายแน่นอน ยชญ์บอกลาครั้งสุดท้ายก่อนเดินออกไปพอดีกับแฟนสาวของกันทรมาถึงแต่คงเป็นโชคร้ายสองชั้นเมื่อกิ๊กอีกรายของกันทรดันมาเยี่ยมเช่นกัน
.ยชญ์ได้ยินแต่เสียงด่าทอกันของสองสาวตามด้วยเสียงข้าวของตกแตก อ้าว
คุณกันไปแล้วเหรอคะ
ผัลย์ศุภาถามขณะที่ยชญ์มองเธอด้วยเเววตาเย็นชาที่แฟนหนุ่มโอบกอดเธอไว้หลวมๆ ครับ
ผมต้องไปงานราชการด่วน..ฝากดูนายทรด้วยนะครับท่าทางจะแย่แล้ว ยชญ์เอ่ยเท่านั้นก่อนจากไปทำให้ผัลย์ศุภางงมากแต่เมื่อเข้าไปเยี่ยมกันทรทำให้เธอเข้าใจทันทีเมื่อแฟนเธอเข้าไปห้ามสองสาวที่กำลังตบตีกันอย่างเมามันส์แล้วเจอลูกหลงเข้าจนสลบเหมือดไปอีกราย
..! เธอมองดูกันทรที่นอนทำตาพริบๆที่ไม่คาดคิดสาวๆที่เขาคบพร้อมๆกันจะมาเยี่ยมเขาจนเกิดเรื่องราวขึ้น นี้หล่ะหนาเจ้าพวกจับปลาสองมือ
เอสำหรับนายนะเรียกว่าจับปลาหลายทางเลยเกิดเรื่องผัลย์ศุภาชายหางตามองดูกันทรขณะรอยามมาจัดการต่อ เอาเลยคะจับโยนไปข้างล่างเลยคะคุณยามขวางหูขวางตาจริงๆ เธอเอ่ยเมื่อยามเข้ามาหลายๆคนจนสองสาวหยุดทะเลาะกันโดยปริยาย นี้พวกคุณ
พี่ชายฉันต้องการพักผ่อนไม่ใช่มาดูหมอลำผสมลิเกกับมวยไทยนะ..!เชิญพวกคุณกลับไปได้เเล้ว ผัลย์ศุภาย้ำจนสองสาวรีบแย่งจนออกจากห้องดัง
Create Date : 11 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 11 กันยายน 2551 17:49:59 น. |
Counter : 257 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เพลงพฤกษ์
เพลงพฤกษ์ บทนำ เมื่อมนุษย์กับธรรมชาติยังต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันแต่ใครจะสามารถรู้ได้ว่าหากธรรมชาติไม่ยินยอมให้เหล่ามนุษย์พึ่งพาเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้จนเกินไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
..!! เพลงพฤกษ์ บทที่ 1 เขตแดน มาธวี เขตโสภน ยืนมองดูชายหนุ่มผู้เดินตรงมายังเธอซึ่งใบหน้าบ่งบอกว่ากำลังอารมณ์เสียอย่างสุดๆเธอยิ้มแบบกวนๆเมื่ออีกคนพยายามข้ามรั้วเขตเเดนที่กั้นไว้แบบหลวมๆเพราะทั้งเขาและเธอต้องใช้ลำธารร่วมกันจึงต้องเทียวเข้าออกบ่อยๆตั้งแต่รุ่นปู่ทวดของเขาและตาทวดของเธอ นี้ยัยแตน
เธอไปกั้นเเนวน้ำใหม่ทำไม
รู้ๆอยู่ว่าทางฉันต้องใช้น้ำช่วงไหนบ้าง ดรุสัณฑ์ ชยุตพงศ์ตะคอกมาธวีอย่างหงุดหงิดเมื่อข้ามรั้วมาจนถึงจุดที่หญิงสาวยืนเท้าสะเอวยิ้มกวนๆเขาอยู่อย่างไม่เกรงกลัว อ้าว
.นายลืมไปแล้วเรอะว่าทางฉันต้องใช้น้ำช่วงเวลานี้
จู่ๆนายก็สั่งลูกน้องไปเบนทิศทางก่อนโดยไม่บอกหากฉันเจ้งมานายจะรับผิดชอบเปล่าหล่ะ!?ผึ้งหรือมาธวีสวนกลับอย่างอารมณ์เสียไม่แพ้กัน เธอ
ทำไม
ฉันต้องไปรับผิดชอบด้วย.. ดรุสัณฑ์หรือสัณฑ์ย้อนผึ้ง อ้าว
..พูดแบบนี้ก็ชวนปากมีสีสินายสันแข้ง ! ผึ้งถลกแขนเสื้อขึ้นตั้งท่าชกมวยทันทีแต่ทั้งสองคนต้องหันขวับกับเสียงแหลมปรี๊ดของใครบางคน ต๊าย
ตาย
ยัยรังแตนจะทำอะไรสุดที่รักคุณสัณฑ์ของฉันย่ะ ? วนศักดิ์หรืออีเกิ้งฉายาที่ผึ้งตั้งให้กับกะเทยประจำหมู่บ้าน โฮงคำ ผึ้งมองดูสัณฑ์ที่ทำท่าทางราวกับจะอ้วก เปล่า
.กำลังจะสอนลีลาให้กับนายนี้ไปใช้กับแกไงย่ะ ผึ้งยิ้มหวานกับชายหนุ่มอีกคนที่ตามวนศักดิ์มา ไงค่ะคุณเมฆสำรวจทั่วหรือยังค่ะ? โตยธร เตชธรรมมองดูเธอแบบขยาด ยังไม่ทั่วเลยฮะ
คงต้องรอคุณหมามุ่ยเฮ้ย
.คุณผึ้งเป็นไกด์พาทัวร์นะฮะ โตยธรหรือเมฆกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากเมื่อคิดถึงวีรกรรมที่ผึ้งพาเขาไปสร้างมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วทำเอาเขานอนจับไข้เกือบอาทิตย์เพราะเธอเล่นพาเขาไปสำรวจกลางใจกลางป่าในวันที่ฝนตกหนักเขาต้องวิ่งหนีน้ำป่าโดยมีฝูงช้างและสัตว์น้อยใหญ่อีกมากมายวิ่งไล่หลังมาภาพนั้นยังตามหลอกหลอนเขาจนถึงวันนี้ ต๊าย
.ตายนี้แกยังไม่เข็ดอีกเหรอ
คราวก่อนก็นอนจับไข้เกือบอาทิตย์
ขากับเท้าแกก็ใช้การไม่ได้อยู่นานไม่ใช่เหรอย่ะ
คราวนี้คงได้หามเข้าป่าช้ากระมั้งนายเมฆคงกลายเป็นเถ้าแทน! เวิ้งพูดประชดญาติผู้น้องที่ยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะกลัวอีกคนมากๆเกิ้งกระแซะสัณฑ์ที่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆยืนตัวแข็งทื่อจนผึ้งต้องแอบกลั้นหัวเราะไว้ เกิ้ง..คุณสัณฑ์เขาบ่นกับฉันอยู่ว่าคิดถึงแก
แกไม่ดีใจหรือ
.เขาแอบกระซิบฉันว่าอยากให้แกไปหาบ่อยๆด้วยหละ ผึ้งบอกเพื่อนเบา ๆทำให้สัณฑ์ตาลุกวาวที่เธอช่างแต่งเรื่องได้รวดเร็วเหลือเกิน เมื่อวนศักดิ์ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบลากดรุสัณฑ์ไปขึ้นรถทันทีโดยไม่ลืมกำชับผึ้งให้ดูแลเมฆดีๆทำให้เมฆอ้าปากค้างที่ญาติผู้พี่เห็นผู้ชายดีกว่าตนเมฆหันมามองผึ้งอย่างระแวงว่าเธอจะพาเขาไปผจญภัยอะไรอีกในวันนี้ โชคดีนะ
กันจะดูแลน้องนายเอง
..อย่าได้พะวงเลยเที่ยวให้สนุก นะ ผึ้งส่งจูบให้เพื่อนสาวที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลยันปริญญาโทแล้วหันมายิ้มหวานให้กับเมฆก่อนจะพาชายหนุ่มไปลุยหาสมุนไพรมาปรุงยาให้เหล่าสัตว์ป่าที่เธอไปไถ่ชีวิตมาจากนรกเมื่อเดือนที่แล้วเธอต้องรักษาพวกมันให้หายดีจนเอาตัวรอดได้ก่อนจึงปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ อะไรนะครับให้ผมแบกถุงพวกนี้นะเหรอครับคุณผึ้ง
!? โตยธรเอ่ยถามอีกคนเพื่อความมั่นใจเพราะถุงเหล่านั้นคือเสบียงอาหารที่สามารถกินได้เป็นอาทิตย์ๆ โตยธรมองดูหญิงสาวร่างบางๆที่ง่วนกับการจัดสิ่งของต่ออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องเอาข้าวของไปมากมายขนาดนี้ ค่ะ
ใช่ทั้งหมดเลยค่ะ
เราต้องเอาของพวกนี้ไปฝากไว้ตีนเขา
คงต้องค้างสักเกือบอาทิตย์หากคุณไม่เต็มใจไปก็จะไปส่งที่บ้านพัก ผึ้งจ้องตาของอีกคนเขม็งทำให้โตยธรต้องหลบสายตาของเธอที่กำลังจ้องมองราวกับอ่านใจเขาอยู่ผู้หญิงคนนี้ดูเผินๆเหมือนกับว่าเป็นคนง่ายๆไปทุกอย่างหากแต่เมื่อรู้จักเธอจริงๆช่างน่ากลัวกว่าที่เขาคาดคิดไว้ ผึ้งนะมันเก่ง
ตระกูลของมันฆ่ากันตายไม่ต่างไปจากคดีที่โด่งดังมากๆหรอก
กว่ามันจะมีวันนี้นะเมฆ
.พี่ลุ้นแทบแย่เลย วนศักดิ์เอ่ยถึงผึ้งที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องมาตั้งแต่เยาว์วัย หากแกอยากรู้เรื่องป่าถามมันได้เลยมันโตมากับป่าโดยแท้จริง โตยธรไม่ได้ยินที่ผึ้งกำลังพูดด้วยใบหน้าใครบางคนซ้อนทับกับใบหน้าผึ้งซึ่งเหมือนกันราวกับแกะกันมาหากแต่รายนั้นบอบบางเสียจนเขาต้องตัดสินใจให้อยู่ประจำที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งยังแดนไกลแม้ว่าญาติๆจะคัดค้าน พี่เมฆ
.ไมอยากอยู่ที่เมืองไทยไม่อยากไปอยู่ที่โน้นไมกลัว
ให้ไมอยู่ที่นี่นะ
พี่ ติยพรอ้อนวอนเขาแต่เขาจำใจต้องส่งน้องสาวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ไปไกลอกทั้งที่ห่วงมากมายเหลือเกิน ไม่
เธอต้องไปนี้เป็นคำสั่งของพี่ห้ามวอแว
ทุกปิดเทอมพี่จะไปเยี่ยม โตยธรเน้นเสียงจนอีกคนร้องไห้ที่ถูกขัดใจทุกครั้ง พี่ใจร้าย
อีตาพี่บ้า
.เอาพี่ฟ่านคืนมานะเพราะพี่คนเดียวพี่ฟ่านถึงได้ตาย
ติยพรโวยวายแล้วข้าวของต่างๆได้ลอยลิ่วออกมาจนเขาแทบหลบไม่ทัน นี้เพราะยัยฟ่านคนเดียวที่ทำให้น้องเสียคนได้ถึงขนาดนี้
.โตยธรบ่นโดยมีคนสวนเก่าแก่ช่วยซับเลือดที่ไหลอาบจากถูกแจกันกระแทกอย่างจัง อย่าไปว่าเธอเลยคุณเมฆ
.เธอทำได้ดีสุดแล้วกว่าคุณจะจบเธอก็พยายามต้านทุกๆด้านจนเธอล้าแล้ว
.. โตยธรได้แต่ถอนใจ เสียดายนักที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าน้องของผม
..ศพแล้วศพเล่านับแต่นายอัน..มายัยฟ่างแล้วก็ฟ่าน
ไมนะถึงไม่ตายก็เท่ากับตายทั้งเป็น! โตยธรพูดอย่างขมขื่นที่ต้องสูญเสียน้องๆไปทั้งที่แต่ละเหตุการณ์ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยในความเป็นจริง ลุง
เรื่องที่ไมจะไปช่วยปิดเป็นความลับด้วยนะ โตยธรย้ำกับคนเก่าแก่เมื่อส่งน้องสาวไปแล้วเขาพยายามปรึกษาแพทย์ที่เก่งที่สุดในโรคที่ไมกำลังเป็นอยู่จนเขาท้อแท้กับการรักษาน้องจนได้พบเพื่อนที่เป็นแพทย์ที่ซึ่งจบปริญญาเอกจากแดนไกล แกไม่ต้องส่งน้องแกไปไกลขนาดนั้นก็ได้
แค่แกหาบริเวณที่อากาศดีๆบรรยากาศสงบๆอาการน้องแกก็ดีขึ้นแล้ว เพื่อนกล่าวย้ำก่อนจะตามภรรยาสาวไปยังแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อดูแลกิจการของภรรยา แต่ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆทั้งหลาย
..ผมไม่เชื่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรอกนะ! เขากล่าวเน้นย้ำก่อนจากมายังที่นี่ คุณหนูต้องพยายามทำทุกอย่างโดยรอบคอบนะครับ
.ผมจะดูแลที่จนกว่าคุณหนูจะหาคนร้ายเจอผมสัญญา
ผมจะไม่ยอมตายก่อนได้เห็นหน้าคนที่ฆ่าคุณท่านของผมแน่นอน คนสวนเก่าแก่ให้คำสัญญา เนี่ย
คุณ..ๆขา
ผึ้งเรียกตั้งนานแล้ว ไม่เห็นขานตอบนึกว่าตกเนินไปซะแล้ว
พร้อมแล้วไปเถอะ ผึ้งดึงแขนชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าจวนจะมืดแล้ว เราต้องทำเวลาไปให้ถึงที่โน้นก่อนเที่ยงคืน
เพราะว่าหลังจากนั้นเสือป่ากับช้างป่าจะออกหากินมันอันตรายมากๆ.. ผึ้งบอกเมฆระหว่างรีบจ้ำเอาๆจนเขาต้องขอหยุดพักหลายต่อหลายรอบ ตอนพ่ออยู่พ่อมักพาผึ้งออกมาสำรวจป่าจนแม่ว่าปล่อยๆแต่ตอนนี้ผึ้งอยากขอบคุณพ่อที่ทำเช่นนั้นที่สุดเลยหล่ะ ผึ้งชวนเมฆคุยไปจนถึงจุดหมายที่ทำให้เมฆอ้าปากตาค้างเพราะจุดที่เธอบอกว่าเป็นที่พักคือบนต้นไม้ที่มีสิ่งคล้ายๆหิ้งพระดูไปเหมือนศาลพระภูมิมากกว่า ผมต้องนอนบนนั้นนะหรือผึ้ง เมฆเอ่ยถามผึ้งที่กำลังสนทนากับชายร่างใหญ่ที่ชี้ไปยังต้นไม้ใหญ่ที่มีสิ่งเดียวกันอยู่ คะ
.คุณนอนต้นนี้หล่ะ
ผึ้งจะไปต้นโน้นส่วนพรานคนนี้เขาจะนอนต้นนั่นจะได้ดูต้นทางให้เราคล้ายยามนั่นแหล่ะ ผึ้งพูดเเค่นั้นเธอได้หายไปพร้อมกับความมืดทิ้งเขานะจังงันกับที่นอนแบบใหม่ที่เขาเคยเจอแต่ในสารคดีที่เขาไปเรียนมาแต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาสัมผัสจริงๆและทั้งคืนเขานอนผวาไปกับเสียงสัตว์นานาชนิดที่วิ่งไปมาเพื่อหาอาหารโดยเฉพาะเสียงเสือคำรามแข่งกันทำให้เขาขนลุกซู่จนนอนไม่หลับเลย บทที่ 2 ต่างขั้ว คนธวัลย์ยืนมองผัลย์สุภาฝาแฝดที่ถูกอาสาวขอมาเลี้ยงตั้งแต่เยาว์วัยที่สาละวนกับการสับรางรถไฟที่เกือบมาชนกันเมื่อครู่ที่ผ่านไป นี้บัว
พี่จะไปแล้วนะเดี๋ยวจะไม่ทันรถ
ฝากบอกอาด้วยนะว่าอีกนานจึงจะมาหา คนธวัลย์หรือเถาคว้าเป้เก่าๆคู่ใจออกไปอย่างเบื่อๆกับการต้องเดินทางตั้งแต่จำความได้เธอต้องเดินทางไปกับบิดาที่เป็นช่างภาพอิสระที่ได้รับรางวัลมากมายเป็นว่าเล่นจนมารดาต้องขอแยกทางกับบิดาหลังจากเธอและน้องเกิดได้ไม่ถึงเดือนดีนั่นคือสิ่งที่ปู่ย่าลุงและอาที่เลี้ยงดูเธอมามักบ่นให้ฟังเสมอๆ แม่แกเป็นดาราดังมาก
ม้ากพ่อแกเป็นช่างภาพกระจอกๆมันเลยไปกันไม่รอดนะเถา
.แต่แกอย่าไปโกรธแม่แกเลยพ่อแกก็เจ้าชู้จนแม่แกน้ำตาตกในเสมอๆเลยลงท้ายแบบนี้ ลุงกับป้ามักเตือนเธอเวลาที่เธอโมโหให้มารดา พ่อขา..พ่อรักเถามากไหมคะ? คนธวัลย์ออดอ้อนบิดาเสมอเมื่อท่านกลับมาจากทำงานยังต่างแดน พ่อมีหนูเป็นยอดดวงใจเป็นดังลมหายใจนะลูก
เมื่อลูกจบป.6ลูกต้องไปทุกหนทุกแห่งกับพ่อ
เพราะพ่อคิดถึงลูกเหลือเกิน บิดาเธอพูดเช่นนั้นซึ่งเธอคิดว่าท่านพูดเล่นๆแต่เมื่อเธอจบป.6ท่านนำไปด้วยจริงๆแม้ว่าเหล่าญาติพี่น้องจะขัดขวางท่านก็ไม่ยอม งั้นแกเอาเถาไปแต่ยัยบัวพวกพ่อขอเถอะอย่าไปยุ่งกับเขาเลยรายนั้นเขารักเขาเลี้ยงของเขามาตั้งแต่แบเบาะเเล้ว ปู่ต่อว่าบิดาที่จะไปเอาน้องสาวฝาแฝดที่อาสาวเอาไปเลี้ยงตั้งแต่เกิด โธ่
พ่อยังไงก็ลูกผมทั้งสองคนทำไมต้องให้แกแยกกันด้วยหล่ะครับ! พ่อเธอแย้งแต่ปู่กับลุงเธอยังยืนยันคำเดิมซึ่งเธอยังจำได้จนถึงวันนี้เพราะในครั้งนั้นเองที่เธอรู้ว่ายังมีน้องสาวอีกคนเมื่อบิดาพาไปหาน้องเธอราวต้องมนต์สะกดที่หน้าตาเหมือนเธอราวกับพิมพ์เดียวกันแต่การเจอกันครั้งทำให้เธอทั้งคู่ต้องนั่งฟังบิดากับอาสาวทะเลาะกันแทบตายไปคนละข้างเมื่อบิดายืนยันจะเอาผัลย์สุภาหรือบัวไปอยู่ยังต่างแดนด้วยแต่น้องสาวของมารดาไม่ยินยอมเดือดร้อนปู่ต้องรีบดิ่งลงมาห้ามศึกบิดาจึงยอม เด็กคนนี้ฉันถือว่าเป็นเสมือนลูกฉันแท้ๆใครมาพรากแกไปตายสถานเดียวเท่านั้นจำไว้
.เราตกลงกันตั้งแต่พี่ฉันหย่ากับนายแล้วอย่าลืมสิ! ลดาชาติตาขวางขณะขวางผัลย์สุดาออกมาจากอ้อมกอดของบิดาของเธอที่โกรธจนหน้าเขียวคล้ำ พ่อ
..ว่างๆเราค่อยมาหาน้องก็ได้นะพ่อนะ เถาดึงพ่อที่พยายามกระชากบัวมาจากลดาชาติซึ่งบัวนั้นกอดลดาชาติแน่นร้องไห้จนตัวโยน ไม่
.ไม่
ฮือๆๆ
บัวจะอยู่กับแม่
.บัวไม่ไปไหนบัวไม่ไป
แงๆๆ ในครั้งนั้นทำให้เธอรู้ว่ามารดาของเธอหน้าตางดงามราวกับนางฟ้าจริงๆเมื่อเธอมาพร้อมใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก ปล่อยเดี๋ยวนะ
นายชุค
ฉันบอกให้ปล่อยลูกฉันไง
ก่อนหย่าเธอกับฉันตกลงกันจนรู้เรื่องเเล้วนะว่าใครควรได้เด็กคนไหนไป! ศุภาถลาไปอุ้มเด็กน้อยต่อจากน้องสาว อย่าร้องคนดี
.ป้าอยู่นี้แล้วอย่ากลัวไปเลย ศุภาปลอบโยนบุตรสาวที่น้องสาวหัดให้เรียกเธอว่าป้ามาตั้งแต่แกจำความได้ โอเค
.ลูก
ใช่แล้วตามที่ศุภาว่าเรากลับเถอะชุค ปู่ลากพ่อกับเธอขึ้นรถขณะที่ตะลึงงันอยู่ พี่เถา
.เดี๋ยวอย่าเพิ่งไปรอบัวเเป๊บ
.เดี๋ยวเดียวนะ บัวหายไปครู่ใหญ่แล้วออกมาพร้อมกล่องเล็กจิ๋วพลางหอมแก้วเถาเบาๆ สุขสันต์วันเกิดเช่นกันจ๊ะ..ขอบใจมากสำหรับจี้เมื่อคืน
.เดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะพี่สาว ผัลย์ศุภาโบกไม่โบกมือให้คนธวัลย์จนเถามองเห็นอยู่ลิบๆเพราะมัวแต่หันหลังดูน้องสาวทำให้เธอเกือบถูกรถที่ขับมาจอดชนเอา นี้คุณมองดูข้างหน้าบ้างนะผมไม่อยากชนตนตาย กันทรลงมาจากรถแล้วต่อว่าหญิงสาวที่ตกใจไม่แพ้กันที่จู่ๆรถคันงามมาจอดห่างจากเธอไม่ถึงคืบเต่เมื่อเขาหน้าเธอชัดเจนเขาอุทานอย่างหัวเสียเข้าไปอีก เธออีกแล้วยัยหมามุ่ย
.ทำไมฉันซวยแบบนี้เนี่ย!
คราวก่อนเธอก็เจาะยางรถฉันคราวนี้จะหาเรื่องอะไรอีกหล่ะครับเเม่ตัวป่วน! กันทรโวยวายเมื่อคนธวัลย์ตั้งสติได้เธอจวกใส่กันทรชนิดไม่ยั้งก่อนชกหน้าเข้าที่เบ้าตาเขาเมื่อเขามาเขย่าตัวเธอเพราะโมโหก่อนกระโดดขึ้นรถโดยสารประจำทางไปอย่างรวดเร็วทิ้งกันทรโอดครวญก่อนกุมเบ้าตาไปหาแพทย์แล้วกลับมาสะสางกับผัลย์ศุภาที่บ้านต่อแต่เขากลับต้องโดนห้ามไปส่งโรงพยาบาลเมื่อแฟนคนล่าสุดมาพบเข้าขณะที่เขากำลังทะเลาะกับบัวอยู่เดือดร้อนยชญ์เพื่อนสนิทต้องมานอนเฝ้าพร้อมกับการห้ามศึกดังกล่าว โอ๊ย
ทำไมแกต้องไปหาเเต่เรื่องยัยเด็กบัวว่ะ
.คราวก่อนหากคุณก้านไม่อยู่แกคงเป็นขันทีไปแล้ว
.คราวกลายเป็นมัมมี่ไปเลย ยชญ์บ่นแล้วก็บ่นขณะโทรศัพท์บอกแฟนสาวของกันทรมาดูแลต่อจากเขาซึ่งต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการด่วนตามที่ถูกเรียกตัว นายรอยัยเพียวนะกันต้องไปงานด่วน
ยชญ์บอกเพื่อนที่นอนทำตาพริบๆเพราะมีเพียงลูกตาเท่านั้นที่กลอกไปมาได้ยชญ์มองดูเพื่อนแล้วส่ายหัวอย่างปลงๆ เดี๋ยวหมอจะมาดูอาการนาย
เออคู่กรณีจะมาดูด้วย
โชคดีนะเพื่อนกันต้องรีบไปจริงๆหากไม่มีคำสั่งสายฟ้าเเลบมากันต้องอยู่ดูแลนายแน่นอน ยชญ์บอกลาครั้งสุดท้ายก่อนเดินออกไปพอดีกับแฟนสาวของกันทรมาถึงแต่คงเป็นโชคร้ายสองชั้นเมื่อกิ๊กอีกรายของกันทรดันมาเยี่ยมเช่นกัน
.ยชญ์ได้ยินแต่เสียงด่าทอกันของสองสาวตามด้วยเสียงข้าวของตกแตก อ้าว
คุณกันไปแล้วเหรอคะ
ผัลย์ศุภาถามขณะที่ยชญ์มองเธอด้วยเเววตาเย็นชาที่แฟนหนุ่มโอบกอดเธอไว้หลวมๆ ครับ
ผมต้องไปงานราชการด่วน..ฝากดูนายทรด้วยนะครับท่าทางจะแย่แล้ว ยชญ์เอ่ยเท่านั้นก่อนจากไปทำให้ผัลย์ศุภางงมากแต่เมื่อเข้าไปเยี่ยมกันทรทำให้เธอเข้าใจทันทีเมื่อแฟนเธอเข้าไปห้ามสองสาวที่กำลังตบตีกันอย่างเมามันส์แล้วเจอลูกหลงเข้าจนสลบเหมือดไปอีกราย
..! เธอมองดูกันทรที่นอนทำตาพริบๆที่ไม่คาดคิดสาวๆที่เขาคบพร้อมๆกันจะมาเยี่ยมเขาจนเกิดเรื่องราวขึ้น นี้หล่ะหนาเจ้าพวกจับปลาสองมือ
เอสำหรับนายนะเรียกว่าจับปลาหลายทางเลยเกิดเรื่องผัลย์ศุภาชายหางตามองดูกันทรขณะรอยามมาจัดการต่อ เอาเลยคะจับโยนไปข้างล่างเลยคะคุณยามขวางหูขวางตาจริงๆ เธอเอ่ยเมื่อยามเข้ามาหลายๆคนจนสองสาวหยุดทะเลาะกันโดยปริยาย นี้พวกคุณ
พี่ชายฉันต้องการพักผ่อนไม่ใช่มาดูหมอลำผสมลิเกกับมวยไทยนะ..!เชิญพวกคุณกลับไปได้เเล้ว ผัลย์ศุภาย้ำจนสองสาวรีบแย่งจนออกจากห้องดัง
Create Date : 11 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 11 กันยายน 2551 17:49:16 น. |
Counter : 207 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ม่านมรกต
แนะนำ ม่านมรกต เมื่อคำสาปแช่งเมื่อ 2000 ปีได้ยังผลมาสู่ผู้สืบสายเลือดระหว่างผู้สาปแช่งกับผู้ถูกสาปแช่งในปัจจุบันกาลพวกเขาที่มาพบกันราวกับต้องมนต์มารจักหลุดพ้นจาคำสาปที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้นได้หรือไม่...... ม่านมรกต บทที่ 1 ลางลิขิต ข้าสัญญาไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติข้าจะตามหาท่านให้พบเพื่อสายเลือดของข้าที่ท่านพาไปด้วย หญิงสาวผู้มีสีของร่างกายเขียวสดใสยืนมองดูเมืองทั้งเมืองที่กำลังจมลงสู่ทะเลผู้คนทั้งหลายในเมืองต่างหลับใหลคล้ายถูกร่ายมนต์สะกดให้หลับชั่วนิจนิรันดร์ เรามาช้าไป.....อีกหนึ่งถูกพสุธาสูบอาบไปด้วยเลือดหากอีกกลับราวต้องมนต์สะกด ร่างของนางเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีน้ำทะเลก่อนเลือนหายไปพร้อมสายลมที่พัดมา ข้าจะตามหาท่านทุกๆภพชาติ.....สายเลือดของท่านจักต้องคำสาปที่ไม่มีวันลบได้เลย...... เสียงของนางเยือกเย็นหากแต่เศร้าสร้อยยิ่งนัก ตอนที่ 2 : ร่าง ' ทำไมในถ้ำลมแรงจัง ' เด็กน้อยวัย 5ปีพูดกับตัวเองพลางเดินตามหามิอายาวิสที่หายไปนานเกินปกติเด็กน้อยมองดูภายในถ้ำอย่างหวาดกลัวเมื่อหาคนทั้งสองไม่เจอน้ำตาเอ่อไหลมาออกมาย่างรวดเร็ว ' ต้องไม่กลัวต้องไม่กลัว....' เด็กน้อยย้ำเตือนตัวเองเมื่อเธอเดินสะดุดกับบางอย่างเข้าแทนที่จะกรีดร้องแฉกเด็กในวัยเดียวกันเธอกลับนิ่งเงียบและสัมผัสดูว่าสิ่งนั้นคืออะไรก่อนร่างกายเธอจะแปรเปลี่ยนไปภายในพริบตาร่างที่ยลสะดุดเริ่มลืมตาขึ้นและยลกับร่างนั้นต่างตะลุมบอนกันยลกระโดดหลบหลีกไวราวกับสายลมร่างนั้นคำรามเสียงก้องราวกับมันโมโหสุดขีด ยาวิส มิอา และคนที่อยู่นอกถ้ำต่างห่วงเด็กน้อยที่กำลังต่อสู้อยู่ภายในถ้ำ มิอาทนไม่ได้รีบถลาเข้าไปในถ้ำแต่ยาวิสดึงไว้ก่อน ' หากเด็กคนนี้เป็นผู้ถูกลิขิตมาเขาต้องทำได้พวกเราต้องเชื่อมั่นในตัวแก ' เมื่อยาวิส หยุดพูดมิอาจึงเริ่มคิดได้ ' ผมขอโทษ ' มิอาเอ่ยขอโทษยาวิสทันที ตอนที่ 3 : สายเลือด ร่างที่ถูกตรึงไว้ในโลงแก้วที่ปิดผนึกแน่นหนาซึ่งจมอยู่ใต้ทะเลลึกมีประกายเเสงสีเเดงเจิดจ้าออกมาจากร่างแล้วพุ่งไปยังเบื้องบนทำให้ร่างโปร่งแสงที่ลอยไปมาอยู่บนพื้นน้ำต้องดิ่งลงมายังห้องที่โลงแก้วอยู่ ' ท่านต้องการบอกสิ่งใดเล่าข้ามิอาจเข้าใจได้ ' ร่างนั้นเอ่ยมองดูดาบที่วางอยู่ข้างกายและโล่ทองต่างทอแสงเจิดจ้าแข่งกันก่อนโลงแก้วจะแตกเป็นเสี่ยงๆดาบและโล่ทองพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วร่างโปร่งแสงมองดูอย่างตะลึงรีบหันกลับไปดูชุดเกราะทองคำที่อยู่ในโลงแก้วที่อยู่ด้านหลังตนทันทีแน่นอนว่ามันลอยลิ่วตามสิ่งสองสิ่งนั้นไปเช่นกัน ร่างโปร่งแสงเข้าไปคุกเข่าดูร่างที่ถูกตรึงไว้ซึ่งน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดก่อนโลงแก้วที่เเตกละเอียดกลับมาคงสภาพเดิม ' ท่านกำลังจะบอกสิ่งใดต่อข้า....' ร่างโปร่งแสงเอ่ยกับร่างในโลงแก้วนั่นพลันลำแสงสีเเดงสดพุ่งเป็นลำไปยังทิศที่ร่างโปร่งแสงอุทานขึ้นต่างตกใจ ' เมืองหล' ร่างโปร่งแสงก้มลงกราบร่างในโลงแก้วอยู่นานราวกับขอพรบางอย่างก่อนพุ่งตามลำแสงนั้นไปอย่างกระชั้นชิด ตอนที่ 4 : คืออะไร ' เจ้าเป็นผู้ครองเมืองเเต่เจ้ากลับไม่มีวาจาสัตย์....ผิดกฎแห่งเมืองเพื่อหญิงเพียงคนเดียวเจ้าทำให้ชาวเมืองมารับกรรมแทน.....ด้วยคำสาปแห่งข้าผู้ให้กำเนิดเมืองนี้ข้าขอสาปแช่งสายเลือดอันเกิดจากเจ้าให้ต้องคำสาปจนกว่าผู้ปลดปล่อยจะมาเพื่อถอนคำสาปแห่งข้า!! ' นาถอ่านหนังสือที่สลักเป็นภาษาบาลีที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวดจนถึงเขาอย่างไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรคำสาปอะไรสาปไว้ว่าอย่างไรกัน นั่นคือคำถามที่เขาเฝ้าถามตัวเองมาตลอดนับตั้งเเต่ปู่ทวดจากไป ' มันหมายถึงอะไรนะ......แล้วทำไมปู่ถึงพร่ำถึงแต่ม่านมรกตก่อนสิ้นลม' นาถสงสัยเหลือเกินว่าม่านมรกตคืออะไร เหตุใดทั้งลุงและอาจึงมีอาการตกใจหนักหนาเมื่อเขาถามอีกยังมารดาของเขาอีกเขาต้องรู้ให้ได้เขาสัญญากับตนเองนับตั้งแต่ย่า ยายและป้าหายสาปสูญไปเมื่อ 20 ปีก่อน เสียงกริ่งดังไม่หยุดทำให้เขาต้องขมวดคิ้วทันทียิ่งเมื่อกริ่งดังขึ้นติดๆกันทำให้เขาเกิดอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาทันที ' อะไรกันทำไมกดไม่เลิกเด็กพวกนี้ ' เขาสถบเบาๆก่อนรีบเดินมาเปิดประตูบ้านเพื่อจัดการกับผู้ที่มากดกริ่งเล่นเขาคิดว่าเป็นเด็กๆที่เคยมากดเล่นประจำชายหน่มอ้าปากจะด่าเเต่เมื่อเห็นคนแต่งกายมอซอมายืนจ้องเขาตาเเป๋วแทนจะเป็นเด็กที่เขาคาดโทษเอาไว้ทำให้ เขารีบบอกปัดไปทันทีว่าไม่มีสิ่งของจะทำทานให้ก่อนหันหลังไปปิดประตูแต่เขาต้องชะงักงันทันทีเมื่อได้ยินทำนองที่ผู้มาเยือนเอ่ยขึ้นมาเขาหันควับมาแทบทันทีเขาจ้องใบหน้าที่เอาหมวกมอๆนั้นออกซึ่งแหงนมองเขาอยู่เเววตาดำขลับสดใสหากแต่ดูสงบนิ่งจนเขารู้สึกยำเกรงขึ้นมาไม่รู้ตัวพลันเขารู้สึกว่าแววตานั้นเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดใสเมื่อหญิงสาวยิ้มบางๆให้เขาก่อนเธอถอดสร้อยออกมายื่นให้นาถที่มองดูสร้อยดังกล่าวด้วยแววตาตื่นตระหนกอย่างยิ่ง ' คุณพ่อ....' นาถมองสร้อยอีกเส้นที่เธอล้วงออกมาจากย่ามยื่นให้เขาอีกเส้นนาถรับมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน ' คุณย่า......' เขามองดูหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจที่เธอมีสร้อยสองเส้นนี้ได้อย่างไรเธอเอาแต่ยิ้มแล้วลูบท้องปรอยๆทำให้เขาเข้าใจว่าเธอหิวข้าวจึงรีบพาเธอเข้าบ้าน ตอนที่ 5 : ห่วง ' ขอให้ข้าตามยลไปเถอะนะยาวิส.....ข้าไม่เคยขออะไรเจ้าเลย...ให้ข้าตามยลไปเทอด' มิอาอ้อนว้อนให้ยาวิสคลายมนต์ที่สะกดตนไว้นับตั้งแต่ยลได้ออกเดินทางไปยังแดนไกลมิอาเฝ้าอ้อนวอน ยาวิสแฝดผู้น้องที่ดูเหมือนไม่สนใจเขานอกจากนั่งสมาธิเข้าฌานนิ่งนับตั้งแต่วันที่ยลไปเช่นกัน ' อายาเจ้าได้ยินข้าไหม...มาช่วยข้าที ' มิอาส่งกระแสจิตถึงอายาผู้ดูแลยลที่อยู่อีกมิติหนึ่งทำให้ยาวิสลืมตาขึ้นแทบทันทีก่อนรีบไปปิดรอยต่อระหว่างมิติที่กำลังเปิดกว้างจากกระเเสจิตของแฝดผู้พี่หากแต่ช้าเกินไปร่างจิตของผู้ที่ถูกเรียกนามผ่านประตูมิติออกมาแล้ว ' มิอา.....ยาวิสเกิดอะไรขึ้นจึงเรียกข้ามา....แล้วยลหายไปไหนนางหายไปไหนอีก!!!' น้ำเสียงของนางคล้ายจะกรีดร้องเมื่อนางไม่เห็นยล ' เจ้า....พวกเจ้าปล่อยให้นางหนีไปอีกแล้วรึ...มิอา....ยาวิส...บอกข้ามานะทำไมเอาแต่เงียบ!!!!' ร่างจิตนั้นเริ่มมีเเสงสีแฉดต่างๆเข้มขึ้นสลับกันไปมาราวกับโกรธอะไรสักอย่าง ' ยะ....หยุดก่อนอายาขอร้องว่าหยุดก่อนก่อนที่อีกมิติจะพังสลายจากพลังของเจ้า!!!' ยาวิสเอ่ยเสียงเข้มส่วนมิอาเอาแต่เงียบเพราะรู้ว่าหากอายาแฝดคนที่3โกรธมักจะรุนแรงจนยาวิสไม่สามารถต้านได้มีเพียงคนเดียวที่จักต้านนางได้แต่คนๆนั้นไม่อยู่ที่นี่เสียแล้ว ' เกิดอะไรขึ้นใครแผลงฤทธิ์อะไรอีก....เรากำลังร่ายมนต์อยู่เลยล้มไม่เป็น่าเลย...' ร่างจิตอีกหนึ่งเดินออกมาจากประตูมิติอีกมิติหนึ่งท่าทางหงุดหงิดมากจนยาวิสต้องหันขวับมาดูตามสายตาของมิอาที่มีแววตกใจอยู่มิน้อย ' จิล...เจ้า...ออกมาทำไมใครเรียกหาเจ้ารึ ' มิอาอุทานอย่างตกใจสุดขีดที่แฝดคนสุดท้องออกมาจากมิติที่เธออยู่โดยไม่มีใครรับเชิญ!!ทำให้ร่างจิตนั้นมองตาขวางมายังผู้ที่เอ่ยตาเขม็งก่อนร่างมิอาจะลุกเป็นไฟ ' อย่านะจิล....' ยาวิสห้ามไม่ทันเขาจึงเรียกน้ำมาเทโครมลงบนตัว มิอาทำเอามิอาสำลักน้ำจนหน้าเขียวส่วนอายาดูเหมือนจะเริ่มควบคุมอารมณ์ได้เธอมองดูยาวิสกำลังปะทะคารมกับจารวิญอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนจะฆ่ากันให้ตายไปอีกข้างให้ได้แล้วหันมามองมิอาที่อ้าปากหวออย่างทำอะไรไม่ได้เพราะถูกตรึงด้วยมาต์คาถาของยาวิสอยู่อายาเรียกลมมาทำให้มิอาตัวแห้งก่อนคลายมนต์ให้แต่ไม่ทันที่มิอาจะเข้าไปห้ามยาวิสกับจารวิญอายาทรุดฮวบลงทันทีเธออุทานอย่างทรมาน ' ไม่นะ...ไม่....ข้าไม่ยอมเด็ดขาด ' อายามองดูดาบทองที่เปล่งแสงเจิดจ้าอีกยังโล่และชุดเกราะที่กำลังมีเเสงเรื่อๆสีแดงสดเปล่งประกายออกมาราวกับจะเเข่งกัน ' เด็กคนนั้นเป็นของข้าท่านไม่มีสิทธิ์เเม้เเต่จะมาพาเด็กนั่นไปข้าไม่ยอม...ไม่ยอม....พี่มิอาช่วยน้องด้วย....เขาจะมาพรากลูกของน้องไป....!!!' อายากุมหน้าอกราวกับทรมานสุดเเสนนางคล้ายกับพยายามฝืนร่างกายจะเข้าไปทำลายของทั้งสามสิ่งนั้นให้ได้มิอามองดูลำแสงสีแดงสดที่พุ่งออกมาของทั้งสามอย่างตกใจที่มันพุ่งไปรวมกันเเล้วเกิดเป็นร่างจิตของชายผู้หนึ่งเสียงดังออกมาชัดเจนจนยาวิสและ จารวิญต้องหยุดทะเลาะกันแล้วหันมามองอย่างสนใจทันทีร่างเรืองแสงสีแดงสดใสค่อยๆเดินตรงไปยังอายาที่กุมหน้าอกอย่างเจ็บปวดอยู่ร่างนั้นทรุดนั่งเบื้องหน้าอายา ' เจ้าลืมเเล้วรึเจ้าลืมรึไงเล่าว่าบุตรเเห่งเจ้านั้นสิ้นชีพตั้งแต่วันนั้นเเล้ววันที่เจ้าตรึงข้าไว้ไงอายา...เจ้าลืมรึไงเล่า ' ดวงหน้างดงามนั้นมองดูอายาอย่างเจ็บปวดอายาเงยหน้าขึ้นจ้องลึกเข้าไปในเเววตาคู่นั้นอย่างเจ็บปวดไม่เเพ้กัน ' ข้าไม่มีวันลืมหรอกหนา....ท่านว่าท่านโหดร้ายแค่ไหนแม้แต่ชายาแห่งท่านท่านยังปลิดชีพนางได้อย่างเลือดเย็น....แล้วบุตรแห่งท่านเล่าจักรอดได้เช่นไรกัน ' อายาเน้นทุกคำช้าๆราวกับจะยำให้ร่างจิตนั้นรับรู้ ' เจ้า....เจ้าไม่รู้จริงเจ้าเอ่ยเช่นนั้นไม่ได้หรอกอายา' ใบหน้างดงามราวอิสตรีเพศนั้นเอ่ยเบาๆก่อนน้ำตาจะเอ่อล้นเบ้าตาออกมา ' เจ้าไม่มีวันรู้เจ้าไม่มีวันเข้าใจข้าหรอกอายาแม้แต่นางผู้เป็นเจ้าดวงใจแห่งข้านางจักไม่เข้าใจเช่นกัน....สักวันเจ้าจักเข้าใจในสิ่งที่ข้าทำลงไป ' ร่างนั้นค่อยๆเลือนหายไปแสงสีแดงสดเริ่มอ่อนพลังลงจนไม่มีสีแดงสดเหลืออยู่มีเพียงสีทองอร่ามที่ทอประกายเจิดจ้าแทนส่วนอายาดูเหมือนจะหายจากอาการดังกล่าวนางเดินเข้าไปสัมผัสของทั้งสามอย่างก่อนนั่งลงร้องไห้อย่างไม่อายใคร ' ข้าขอโทษข้าไม่เข้าใจว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ข้าไม่เข้าใจ....ตอบข้ามาที ' อายาคร่ำครวญทำให้มิอา ยาวิสและจารวิญค่อยๆเดินไปโอบกอดอายาไว้ ' ข้าห่วงยล.....พวกเจ้าก็รู้ในกายนางไม่เป็นเช่นพวกเราหากนางไปสู่เมืองมนุษย์นั่นนางจักต้องทรมานเพียงใดข้าห่วงนางเหลืเกิน.....' น้ำตาของอายาหยดลงบนดาบทอง โล่และเกราะทองราวกับพวกมันจะรับรู้สิ่งที่อายาเอ่ยเอื้อนอยู่สิ่งของทั้งสามหลอมรวมเป็นจี้หกเหลี่ยมก่อนหายวับไปในพริบตาทั้งสี่คนมองดูอย่างตะลึง ' พวกมันห่วงนายมันดูสิรีบไปหาทั้งที่นายมิได้เพรียกหาเลย!!!!' จารวิญเอ่ยเบาๆไม่เพียงแต่ทั้งสามคนหรอกที่ห่วงยลเธอก็ห่วงเด็กน้อยนั่นอยู่ไม่น้อยหากแต่นิ่งเงียบเฉยๆ ' ยลข้าหวังว่าเจ้าคงควบคุมพลังของเจ้าได้นะยล' อายาเอ่ยราวกับบอกยลผ่านสายลมที่พัดมาเบาๆไปมิอามองดูยาวิสที่มีสีหน้าไม่สู้ดี ' ข้าจะตามยลไปแล้วเจ้าหละยาวิส ' มิอาเอ่ยขึ้น ' ยังหรอกมิอาข้าจักต้องนำสิ่งหนึ่งไปให้ยลสิ่งหนึ่งที่จักมาในคืนเพ็ญที่จะถึงนี้ข้าไม่ไหนไม่ได้หรอก ' ยาวิสแหงนหน้ามองดูพระจันทร์ด้วยแววตาที่มุ่งมั่น ' มิน่าเจ้าจึงตรึงข้าไว้....' มิอาเข้าใจถึงเหตุผลที่ยาวิสทำในที่สุด ' ไม่มีอะไรแล้วข้ากลับนะ' อายาและจารวิญเอ่ยพร้อมๆกันก่อนหายวับไปทันที ' ตื่นแล้วรึลาล่า...เสียใจด้วยนะยลนายของเจ้าไม่อยู่ ' ยาวิสเอ่ยกับลาล่าสัตว์ประหลาดที่ถูกยลจัดการจนอยู่หมัดเมื่อตอนยลอายุได้เพียง 5 ขวบ ณ ถ้ำมังกรเก้าเศียรเมื่อ 15 ปีที่แล้วเมื่อได้ยินเช่นนั้นทำให้ร่างนั้นชูคอที่ดูคล้ายมังกรผสมพญานาคทั้ง 9 หัวส่ายหัวไปมาสอดส่ายสายตาหาผู้เป็นนายราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยบอกเเววตาของหัวทั้ง 9 หัวมีท่าทางเหงาหงอยขึ้นมาทันทีก่อนหมอบลงอย่างเบื่อๆแล้วหลับไปอีกรอบทำให้มิอายาวิสมองดู อย่างขำๆ โดย : ปทิตตา | email : patt_9999@hotmail.com | update ล่าสุด : 09 มิ.ย. 2551 22:25:21
Create Date : 11 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 11 กันยายน 2551 17:43:57 น. |
Counter : 183 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|