ฟอสซิลหัวใจ ระยะ ที่ 2. เริ่มระแวง สงสัย
(ต่อ) แรกๆ ก็เหมือนว่า..คนนอกไปยุยงส่งเสริม เธอก็ถามผู้ชาย..ผู้ชายก็จะโวยวายหรือปฏิเสธแบบรำคาญค่ะ ... เลยจบไป...คือ ไม่อยากรำคาญให้มีปัญหา ...ว่าแบบนั้น ฟันธงว่ามีเมียน้อย แต่ ผช. ปฏิเสธ ภรรยาบอกว่าเธอเคยออกติดตาม สืบหา แต่เขารู้ตัวเลยจอดรถข้างทาง นิ่งๆ แบบนั้นนานมาก จนในที่สุด เธอก็ละความพยายามเพราะเธอต้องทำงานเลี้ยงตัวน่ะคะ

หลังจากภรรยาเริ่มสงสัย จากเสียงคนรอบข้าง จากอาการห่างเหินของสามี เธอเริ่มสงสัยในพฤติกรรม เธอเองก็มีเหตุสะดุดเรื่องการทำงาน ไม่ชอบมาพากลจากที่ทำงานคือ ถูกเจ้านายชีกอลวนลาม ภรรยาเขาเป็นคนหน้าตาสวยค่ะ เสียแต่ตอนนั้นเธออ้วนไปหน่อย ส่วนเจ้านายเป็นคนแก่ กว่า 60 มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาอาวุโสในหน่วยงานของเธอ เมือฝ่ายหญิงเขาไม่เล่นด้วย เธอก็โดนกลั่นแกล้งสารพัด ใส่ร้ายป้ายสี ขัดขวางการทำงานทุกชนิด

เธอนั้นมีความเครียดกับชีวิตส่วนตัว บอกใครไม่ได้ ความสุภาพ ความเข้มแข็ง ความเป็นผู้นำที่เคยมี ความชื่นชมที่เธอเคยมีให้กับสามีเธอ (นายคนนี้เป็น รศ.ดร. เชียวนะคะ) ทำให้เธอไม่กล้าโวยวาย เมื่อเธอโดนทำให้อึดอัดจากการทำงาน เธอจึงมาปรึกษาสามี (ที่ดิฉันกล่าวหาว่า นายคนนี้นอกใจภรรยาไปแล้ว) บอกเขาว่าเธอเจอเหตุการแบบนี้ เธอเล่าว่า เธอตาฝาดแน่ๆเลย เธอเห็นสีหน้าแววตาสามีเธอเหมือนจะยิ้มๆ ที่เธอโดนแบบนั้น ไม่มีการหึงหวงหรือแนะนำอะไรดีกว่านี้ นอกจากคำตอบรับสั้นๆว่า เหรอ??? (ในความคิดดิฉันว่า เป็นกูหน่อยไม่ได้แหละ...ไม่รู้สึกรู้สา มันจะสวยด้วยสีแดง) 

ปล่าวค่ะ! ภรรยาเธอก็งงแน่นิ่งไปเลย ... สามีเธอไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับเธอเลย ปกติรายได้เธอเป็นหลักใหญ่ เขาเป็นหลักรอง เธอจึงหารือสามีว่าต่อไปนี้เขาจะเป็นฝ่ายดูแลเธอได้หรือไม่ สามีทำใจดีสู้เสือบอกว่า ก็เอาสิ ก็ลองอยู่ๆไปก่อน...เขาไม่แสดงอาการอะไรเลย ไม่คิดต่อว่าต่อไปนี้นะ บ้านหลังใหญ่ใครจะผ่อนส่ง รถ-3-4 คัน ใครจะดูแล เธอขายรถไปเหลือ 2 คัน ลาออกมาเริ่มทำงานตัวเอง เปิดบริษัท ให้สามีช่วยมาดูแล ... ตกแต่งออฟฟิศ เริ่มทำงานไป จัดการหาคนเข้ามาทำ ให้น้องชายมาช่วย แต่หลักความรู้ เนื้องานคือ ตัวสามี แต่เธอก็พบว่าวันๆ ไม่รู้เขาหายไปไหน ดึกดื่นเหมือนเดิม เธอไม่มีเงินเขาไม่ได้ดูแลและไม่สนใจว่าเธอจะมีกินมีใช้ผ่านไป 3 เดือน เธอเล่าว่าสามีเธอเฉยเมยมาก สามีเธอไม่ใส่ใจเลยและเมื่อเธอไม่ทำงานก็รู้เลยว่า เขาหายไปมากกว่าที่เธอคิดเยอะ เธอเริ่มเครียดตั้งแต่พิสูจน์กันคราวนี้ เธอมาสารภาพทีหลังว่า ตัดใจกัดฟัน ตั้งใจลดรายได้ของตัวเองของครอบครัว ในเมื่อไม่มี เธอก็ไม่ต้องดิ้นรนจ่าย เธอบอกว่าทะเลาะกันเพราะเขามาขอเงิน คือ สิ้นเดือนให้ภรรยา 2 หมื่น แต่พอผ่านไป 3-5 วัน ก็มาขอ ก่อนนี้ด้วยความยุ่งเหยิงเธอไม่เคยเช็ค ระยะหลังๆ เธอจดไว้ในโทรศัพท์ จึงได้ทราบว่า เขาขอไป 3000 อีก 2 วันมาเอาอีก 6  พัน น้ำมันเติมด้วยบัตรเครดิต เธอเป็นคนขำระ ไปไหนๆ บัตรเครดิต เธอตามชำระ ดังนั้นเริ่มฝืดเคือง เธอจึงตัดใจไปหางานทำใหม่ คราวนี้เป็นงานเอกชน รง. แถวระยอง เธอต้องขับรถออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 ตอนเช้าไประยอง และบางครั้งก็ค้างที่ระยอง เธอว่าเธอเห็นท่าทาง สามีดีใจมาก เอาใจยิ้มแย้มกับเธอลุกขึ้นมาส่งเธอตั้งแต่ตี 5 ทุกเช้า ให้เธอขับรถ (ไปตายๆซะ เธอเล่าขำๆ แบบนี้ ในใจไม่รู้ขำจริงหรือเปล่า) ดูดีมากที่สามีลุกมาส่งขึ้นรถตัวเอง ขับเอง ไประยองไปทำงานไกล ๆ .... กลับมาบ้านก็มานอนพังพาบรอสามีเหมือนเดิม ...

จากการทะเลาะกัน เธอเริ่มเคืองสามี ทำใมใช้เงินเยอะแยะแบบนี้ ... สามีจะตื่นมาหาอาหารทาน ทำอาหารเองคือให้คนใช้ทำ (เคี่ยวเข็ญคนใช้ ลุกมาทำแต่เช้า) ทานจุบจิบๆ คนเดียว พอภรรยาเดินมา เมื่อแต่งตัวเสร็จ จะออกไปทำงาน กำลังหย่อนก้นนั่ง สามีเธอลุกค่ะ เขาทานเสร็จแล้ว ... ภรรยาเล่าว่า อ้าปากเหวอ ... คอตีบทันควัน เลยไม่เคยคิดทานเช้ากับเขาหากไม่จำเป็นตั้งแต่นั่นมา แม้กาแฟก็ให้คนใช้จัดใส่รถ ซดไปขับรถไป เธอเล่าว่ารถคือวิมานของเธอ ร้องให้ก็ได้ ร้องเพลงก็ได้ นอนพักก็ได้ อยากด่า อยากกรี๊ด ทำได้ในรถของเธอ .... 

สามีก็เริ่มรู้ตัวว่า ภรรยาเริ่มเช็คเงิน จากที่อิสระเหนื่ออื่นใด สามีเริ่มหงุดหงิด ... แต่พฤติกรรมอื่นๆ เหมือนเดิม ...



Create Date : 13 สิงหาคม 2556
Last Update : 16 สิงหาคม 2556 16:10:36 น.
Counter : 386 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Changixmas
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



คนเรามี 2 ถูก คือ ถูกต้องและถูกใจ
ในการใช้ชีวิตมันมี 2 ถูกนี้เสมอ ถ้ามันทั้งถูกต้องและถูกใจ ดีสุด แต่ยามใดมันสองแพร่ง ระหว่างถูกต้อง กับถูกใจ นี่จะโคตรกระอักกระอ่วนเลย และมันมักอยู่ในลำดับถูกใจ แล้วไปหา ความถูกต้อง
ถ้าเรามองหาความถูกต้อง มักจะอดถูกใจ




New Comments
MY VIP Friends