Bloggang.com : weblog for you and your gang
a lot like love เพราะความรู้สึกดีดีมีรอบตัว
patmania
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ไม่เรื่องมาก ไม่เลือกมาก อารมณ์ติสต์แตก ต้องบิ้วอารมณ์กว่าจะเขียนงานได้ บางเวลาก็เอ๋อ เบลอ ๆ งง ๆ แต่บางเวลาก็ไฮเบอร์แบบฉุดไม่อยู่
Group Blog
Group ตัวอย่าง
ทำมะในใจ
เที่ยวไปใจเพลิน
All Blogs
ร่วมด้วยช่วยลุงยา รักษาลูกสาว เป็นหนี้โรงพยาบาลจนถูกไล่ที่
แรงกายวินมอเตอร์ไซต์ น้ำใจเหมือนน้อยนิด แต่อิ่มใจมหาศาล
กริ่งจำเป็น
วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งไป วิ่งไป
วันแรกของการเปิดบล็อกจากความรู้สึกดีดีมีอยู่รอบตัว
Friends' blogs
fluffyboy101
close2heaven
โสดในซอย
BaLL182
KOok_k
mooky mookie
หมาเลี้ยงแกะ
Webmaster - BlogGang
[Add patmania's blog to your web]
Links
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
คนชายขอบ
BlogGang.com
ร่วมด้วยช่วยลุงยา รักษาลูกสาว เป็นหนี้โรงพยาบาลจนถูกไล่ที่
ลุงยา พึ่งม่วง อายุ 50 ปี เป็นพนักงานชั่วคราวของมหาวิทยาลัยนเรศวร ฐานะค่อนข้างยากจน ปัจจุบันกำลังถูกโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลกฟ้องขับไล่ที่ เนื่องจากทางโรงพยาบาลบอกให้ลุงยาทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับโรงพยาบาล เพื่อนำมาใช้แทนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลูกสาวที่ได้รับอุบัติเหตุรถกระบะตัดหน้า นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังบอกให้ลุงยาทำสัญญาเงินกู้จำนวน 154,567 บาท ทั้ง ๆ ที่ลุงยาไม่เคยได้เงินที่กู้ส่วนนี้เลย
ลุงยาและลูกสาวหรือน้องหยาดพิรุณได้เข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคขอความช่วยเหลือ เพื่อหาทางเอาที่ดินคืน เพราะลุงยาไม่มีที่ที่พักอาศัยที่อื่น นอกจากบ้านที่อยู่ในปัจจุบัน
ลุงยาเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวถูกรถกระบะตัดหน้าจนประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2549 หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็มารับตัวลูกสาวไปส่งที่โรงพยาบาลเอกชน ทั้ง ๆ ที่โรงพยาบาลรัฐที่ลุงยามีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายได้ตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเอกชนเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกลับอ้างว่า รถติดเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้ได้รับบาดเจ็บจึงพามาส่งที่โรงพยาบาล
พอมาถึงโรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็บอกให้ลุงเซ็นเอกสารยินยอมให้รับการรักษา โดยไม่ได้อธิบายให้ลุงฟังว่า ลุงมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่อ้างว่า ถ้าลุงไม่เซ็นลูกสาวลุงก็ไม่ได้รับการรักษา ด้วยภาวะขับขันลุงจึงยอมเซ็นเอกสารดังกล่าว โดยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นภายหลัง แต่เนื่องจากลูกสาวของลุงเป็นผู้มีสิทธิบัตรทอง จึงขอให้สิทธิฉุกเฉินทันที
ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ลุงยารู้ว่าค่ารักษาแพง ตนเองไม่มีเงินจ่าย จึงทำเรื่องย้ายตัวผู้ป่วยรไปรักษาที่โรงพยาบาลต้นสังกัด คือ โรงพยาบาลพุทธชินราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิของนางสาวหยาดพิรุณ แต่ได้รับการปฏิเสธจากทางโรงพยาบาลเอกชน โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าย้ายออกต้องจ่ายค่ารักษาทั้งหมด
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเอกชนตั้งแต่วันเกิดเหตุ คือ 14 เมษายน 15 พฤษภาคม รวมเป็นเวลา 32 วัน มีค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาล 293,587 บาท เป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างประจำอย่างลุงยา
ลุงยาบอกว่า ได้แจ้งไปทางโรงพยาบาลเอกชนตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนแล้วว่าขอย้าย แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่ามีเหตุขัดข้องไม่สามารถย้ายออกไปได้ จนค่ารักษาพยาบาลได้บานปลายเป็นจำนวนมาก
จนกระทั่งในวันที่ 15 พฤษภาคม 2549 เป็นวันที่ครบกำหนดรักษาตัวลูกสาวและต้องออกจากโรงพยาบาล ลุงยาและครอบครัวไม่มีเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาล จึงทำให้ลุงยาไม่สามารถนำตัวลูกสาวออกมาได้ ตามกำหนด อีกทั้งทางโรงพยาบาลทราบว่า ลุงยามีที่ดิน 1 แปลงจำนวน 4 ไร่ 32.1 ตารางวา แต่ติดจำนองอยู่ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โรงพยาบาลจึงยอมให้ลุงยายืนเงินจำนวน 61,000 บาท รวมทั้งค่าโอนให้กับลุงยาเพื่อไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 41123
ทางโรงพยาบาลบอกลุงยาว่า หลังจากที่ได้ที่ดินกลับมาจากการไถ่จำนองแล้ว ให้เอาที่ดินผืนนี้ขายให้กับโรงพยาบาลก่อน และเมื่อลุงยาชำระค่ารักษาพยาบาลครบแล้วทางโรงพยาบาลจะคืนที่ดินให้ภายหลัง และในวันเดียวกันโรงพยาบาลยังให้ลุงยา ทำสัญญากู้เงินจำนวน 154,567 บาท พร้อมทำสัญญาซื้อขายที่ดิน ไม่รวมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ให้โรงพยาบาล
โดยมีราคาขาย ณ สำนักงานที่ดินในราคา 200,000 บาท ทั้งนี้ราคาประเมินที่ดินผืนดังกล่าวตามสำนักงานที่ดินประเมินไว้วันที่ 8 พฤษภาคม 2549 อยู่ที่ 163,210 บาท
หลังการทำสัญญาซื้อขายที่ดินแล้วเสร็จ ลุงยาได้ขอเจรจาที่ดินคืน เนื่องจากเข้าใจว่าตนเองถูกหลอก
ลุงยาได้เข้าร้องทุกข์ต้องสภาทนายความจังหวัดพิษณุโลก แต่ทนายความกลับเกลี่ยกล่อมให้ลุงยาตัดสินใจไม่ดำเนินคดี โดยอ้างว่าสู้ต่อไปอย่างไรก็แพ้ และด้วยความไม่ทันเลห์กล ลุงยาจึงยินยอมเซ็นเอกสารไม่ติดใจเอาความ
ทุกวันนี้ลุงยาต้องแบกรับภาระหนี้สินจากโรงพยาบาลทั้งหมด 315,567 บาทที่เกิดจากการรักษาพยาบาลลูกสาว ทั้งนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกจะนัดไกล่เกลี่ยอีกทีในวันที่ 9 พฤษจิกายน
ร่วมเป็นกำลังใจให้ลุงยาและหาทางออกให้ลุงยาด้วยนะครับ
ทั้งนี้ลุงยาไม่ได้เต็มใจแต่จำเป็นต้องทำเพื่อนำเอาตัวลูกสาวออกจากโรงพยาบาลเท่านั้น และด้วยหัวอกความเป็นพ่อจึงต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้หายจากอาการเจ็บป่วย
หมายเหตุ
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
Create Date : 13 กันยายน 2550
Last Update : 13 กันยายน 2550 22:40:16 น.
2 comments
Counter : 467 Pageviews.
Share
Tweet
น่าสงสารลุงจัง...
โดย: -นู๋จอย- (
LomaJoy
) วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:23:47:08 น.
ในฐานะคนที่ได้รับฟังเรื่องนี้น่าเศร้าใจมากๆเลยครับ อยากให้มีทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย
แต่บอกตรงๆในฐานะคนที่พอรู้กฎหมายอยู่บ้างคงต้องตกลงกันนั่นล่ะครับ
โดย:
pilok
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:23:38 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.