....ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ไหญ่ แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟ ที่สวยงาม ขอบรั้ว และริมทางเดิน ต้นหญ้าอยู่ ในสนาม ... บ้านนี้จะงามไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ.......
Group Blog
 
All Blogs
 
ข้าวเปลือก 1 เมล็ดกว่าจะได้เก็บเกี่ยว

อืม....เริ่มไม่ถูก เริ่มงัยดีนะหายหน้าไปซะนาน ไปซับหน้าตามามาหรือเปล่าเนี่ยะ





ไม่ได้มาทำบล็อคซะเกือบสี่เดือน ก็ง่วนๆกับกับงานประจำ และก็ยุ่งมากกับงานอดิเรก(ทำนา) อิอิ อยากจะอ๊วกอ่ะดิ
คราวที่แล้วทิ้งคำถามใว้ว่า ข้าวเปลือกหนึ่งถังมีกี่เมล็ด บางคนอ่านอาจคิดว่าตลกหรือเปล่าฟร๊ะ อะไรกัน ถึงขั้นต้องนับเมล็ดข้าวเปลือกกันเลยรึ อะไรจะขนาดนั้น อืม....
ที่จริงก็ไม่ถึงขนาดที่ต้องมานั่งนับเมล็ดข้าวเปลือกหรอกครับ แต่คนสมัยโบราณเขามีวิธีการ มีหลักการ ชั่งตวงวัด นะครับ แต่ว่าสมัยนี้ไม่เป็นที่นิยมแล้ว บางหน่วยก็ไม่ได้ใช้แล้วด้วย อ่ะ.. เฉลยละกัน........

มาตราตวงของประเพณีไทยโบราณ

150 เมล็ด = 1 หยิบมือ ( 150 )
4 หยิบมือ = 1 กำมือ ( 150 x 4 = 600 )
4 กำมือ = 1 ฟายมือ ( 600 x 4 = 2400 )
2 ฟายมือ = 1 กอบ ( 2400 x 2 = 4800 )
4 กอบ = 1 ทะนาน ( 4800 x 4 = 19200 )
20 ทะนาน = 1 ถัง ( 19200 x 20 = 384000 )
สรุบว่าข้าวเปลือก 1 ถังมี 384,000 เมล็ด
เห็นมั้ย คนรุ่นใหม่อยางเรา นึกไม่ถึงอ่ะดิ


คำถามที่ติดค้างจบไปล่ะ มาว่าเรื่องชาวนาคนสุดท้ายต่อดีกว่า ที่หายไปตั้งนานมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้าง
ต่อจากที่หว่านกล้าได้ยังไม่ถึงเดือน ก็โดนฝนเทลงมาน้ำท่วมต้นกล้าซะเกือบมิดยอด คิดดูซิ เขาต้อนรับชาวนามือใหม่กันอย่างนี้ ไม่เป็นไรฟร๊ะ ต้นกล้าคงไม่มีผลอะไรมากมาย เข้าข้างตัวเอง และก็จริงด้วย โดนไปสองวันน้ำก็หายไป ต้นกล้าของเราก็กลับมาเขียว งอกงามอีกครั้ง.......

แล้ววันหนึ่งก็ สู่อีกวันหนึ่ง ต้นกล้าก็ค่อยๆ โตขึ้น ชาวนามือใหม่ก็ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการปลูกนา โดยทั่วไปเขาต้องเตรียมน้ำเข้านา แต่นาของฉันต้องสูบน้ำออก เพราะว่าปีนี้ทางเหนือฝนตกมากมายซะเหลือเกิน น้ำอุดมสมบูรณ์มากเกินจริงๆ ประจวบกับตอนที่ปรับที่ขุดลึกไปหน่อย แหะๆ แล้วจะไปเหลืออะไร ก็ต้องคอยสูบน้ำออกจากนา ทั้งเครื่องเล็ก เครื่องใหญ่ เดินเครื่องกันระงม......เห็นมั้ยว่าลำบากขนาดไหน แต่ก็หนุกดีเปียกมอมแมมทั้งวัน ประมาณว่ามีรอยยิ้มบนคราบเหงื่อ ...อ๊วกอีกแล้ววววววว

อีกอย่างที่ต้องเตรียมคือ การหลกกล้า กับการดำนา ไม่เคยทำนา ทำไม่เป็น ทำงัยดีหว่า..... ก็ต้องไปฝึกซ้อมอ่ะดิ พอดีที่หมู่บ้านยังมีชาวนาที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง เลยไปขออาสาช่วยเขาหลกกล้า เปล่าหรอกที่จริงไปฝึกซ้อมต่างหาก อิอิ
การหลกกล้า ดูเหมือนง่าย พอไปทดลองทำจริงๆ ก้มๆ เงยๆ คว่ำมือ หงายมือ โยกซ้าย โยกขวา แล้วก็ฟาดหน้าแข้ง โอ้ว....ทำมัยมันไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลยว่ะ นึกว่าหมูๆ มันอธิบายไม่ออก บอกไม่ถูกต้องมาลองเองถึงจะรู้ซึ้ง จำสมัยเด็กๆกันได้มั้ยอะไรเอ่ย หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน อ่ะ ลองสังเกตุดูมืออาชีพเขาได้เป็น 20 มัด แต่ตัวเราได้แค่ 3-4 มัด โอ้ว..จาเป็นลม แถมโดนคมเม็ดข้าวบาดที่หลังมืออีก เลือดซิบ ตามตำราที่อ่านมาแป๊ะเลย จะไหวมั้ยเนี๊ยะ...ไม่เหนื่อยแต่ทำไม่ค่อยเป็น อิอิอิ
ถึงตรงนี้ อยากบอกว่าฝึกโยคะ ช่วยในการหลกกล้ามากๆ ใครจะหัดทำนาต้องไปซ้อมโยคะมาก่อนนะ 555

27 สิงหาคม 49 หลังจากฝึกซ้อมไม่นาน ก็ได้ดำนาของตัวเองแล้ว นาของตัวเอง นาครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้น ตื่นเต้น

ที่ไหนได้ หลังจากปลูกเสร็จไปได้แค่สามวัน สามวันจริงๆฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งกลางวันกลางคืน วันก็แล้ว สองวันก็แล้ว จนเป็นอาทิตย์ มีรึที่ ที่ราบลุ่มสารภีสองฝั่งแม่น้ำจะรอด น้ำท่วมมากกว่าเดือนที่แล้วอีก มากจนหน้ากลัวเลย ท่วมบ้าน ท่วมสวน ท่วมนา....
อยากรู้มั้ยเกิดอะไรกับต้นกล้าน้อยๆที่เพิ่งปลูกไป
ไปดูนา มองไม่เห็นอะไรเลย มีแต่สายน้ำความรู้สึกขณะนั้นอยากจะร้องให้จริงๆ และน้ำก็ท่วมอยู่อย่างนี้เป็นเวลาที่นานมาก ครึ่งเดือนเห็นจะได้ ตอนนั้นตีค่านาแปลงนี้เป็น Total Loss ไปแล้ว ไม่ได้กินข้าวฝีมือตัวเองแล้ว
พอน้ำลงก็เริ่มเห็นใบ แต่เป็นสภาพที่สบักสบอมมาก แต่มันยังไม่ยอมตาย รากลอยหมดแล้ว มันอึดจริงๆ
ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ เลยไปซื้อปุ๋ยมาบำรุง 1 กระสอบ ใส่สองครั้ง แล้วมันก็แตกกอใหม่ ต้นเขียว เติบโตขึ้นมา จนกระทั้วตั้งท้อง และล่วงเลยมาถึงฤดูการเก็บเกี่ยว
ไม่น่าเชื่อเลยว่าปีนี้จะได้ผลผลิต
ข้าวหอม ดอกมะลิ 105


2 ธันวาคม 49 วันเก็บเกี่ยวผลผลิต สนุกและสุขใจมากๆ ได้ไม่มาก พออยู่พอกินสำหรับปีแน่นอน อย่างน้อยที่สุดต่อไปนี้เราก็ไม่ต้องซื้อข้าวกิน อีกแล้ว



และจากนี้จะปรับปรุงที่นาอีกเล็กน้อย จะทดลองปลูกข้าวนาปรังบ้าง เป็นข้าวเหนียว สันป่าตอง1(เขี้ยวงูสันป่าตอง)
ก็น้ำมันอยากดีนักนิ
ขอบคุณที่ติดตามครับ




Create Date : 02 ธันวาคม 2549
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 20:32:06 น. 9 comments
Counter : 3920 Pageviews.

 
...ข้าวในนาแลเหลียวชูช่อน้อยคอยเคียว คอยเคียว
มาเกี่ยวเก็บไป
....

เย้ๆๆๆ ยินดีด้วยเจ้าค่ะ

น่าชื่นใจจังค่ะ

แอบอิจฉาคนไม่ได้ซื้อข้าวกินด้วยหล่ะ






โดย: สาวสวยฯ IP: 222.123.78.252 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:20:51:26 น.  

 
ยอดเยี่ยมที่สุด ขออนุญาต add ครับ


โดย: น้าโหด วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:9:08:06 น.  

 
โหย โหย

นุชว่าพี่ขาดทำฟาร์มไปนะ

ฟาร์มหมู ฟาร์มวัวนม

จะได้ครบวงจรเลย

เก่งๆๆๆ ชอบทุ่งหญ้า สวยดี สวยกว่าสนามหญ้าบ้านนุชอีก อยากจะเอาหญ้ามาปลูกแทนสนามหญ้า


โดย: นุชค้าบ (เจ้าหญิงจอมแก่น ) วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:18:15:16 น.  

 
สุดยอดดดดดดดดดดดดดด

ในที่สุด ก็ประสบความสำเร็จ

แต่ เบี้ยว สันป่าเกี๊ยะ ทำมายยยยยยยย


โดย: ปร๋าพีร์ IP: 222.123.33.14 วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:21:31:27 น.  

 
ชอบภาพบรรยากาศแบบนี้มาก ธรรมชาติดี


โดย: ต่อตระกูล วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:9:13:00 น.  

 
ยอดเยี่ยมมากครับ

ขอชื่นชมในความอุตสาหะพยายาม

น่าปลื้มจริงๆ ที่ได้ทานข้าวที่ปลูกมากับมือตัวเอง


โดย: กะได วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:11:19:46 น.  

 
ข้าวเปลือก พันธุ์พิษณุโลก 2 (ข้าวนาปรัง) จำนวน 12,900 เมล็ด (จากการนับ) ชั่งน้ำหนักได้ 328 กรัม คิดเป็นกิโลกรัมละ 39,329 เมล็ด และ 1 ถังมี 10 กิโลกรัมโดยประมาณ ก็จะได้เป็นถังละ 393,290 เมล็ด ซึ่งใกล้เคียงกับมาตราตวงของไทยโบราณมาก และในสมัยนั้น คงจะเป็นข้าวนาปี ซี่งเมล็ดใหญ่กว่าเล็กน้อย จีงได้ว่า 1 ถัง มี 384,000 เมล็ด(ตามมาตราตวงโบราณของกระทู้ข้างบน) สรุปได้ว่า อย่าดูหมิ่นคนโบราณ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่


โดย: สมคิด IP: 114.128.61.140 วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:21:24:42 น.  

 
ปลูกข้าวในกรถางติดตั้งสปริงเกอร์ กระขนาด 10 *10 นี้ไร่ละ250000 ใบ กระถางละ 10 เมล็ดเกี่ยวข้าวได้ 2 กระถาง/กก.จะได้ข้าว12.5 ตัน ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิจะเป็นเงินเท่าไร???


โดย: ทวี 2244 IP: 61.7.137.7 วันที่: 31 กรกฎาคม 2556 เวลา:17:08:13 น.  

 
แก้ไขความผิดพลาด
1.10*10 นิ้ว
2.25,000 ใบ


โดย: ทวี2244 IP: 61.7.137.7 วันที่: 31 กรกฎาคม 2556 เวลา:17:12:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BongKoch
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





View Larger Map
Friends' blogs
[Add BongKoch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.