บรรดานักข่าวที่ตอนแรกหาข้อมูลสืบเรื่องราวเพราะหัวหน้าบก.ใหม่ส่งโปรเจคมาให้ แต่ยิ่งทำยิ่งสาวลึกถึงต้นตอ ศรัทธาที่เคยมีให้คริสตจักรยิ่งพังทลาย จน 2 ใน 4 คน ไม่อาจจะเชื่อมั่นในศาสนาได้อีก

และยิ่งสืบ ก็พบว่าตั้งแต่ระดับคาร์ดินัลลอว์ คาร์ดินัลประจำรัฐ จนกระทั่งทั้งเมืองไม่ยี่หระกับข่าวอันน่าตกตะลึงขนาดนี้ กระทั่งทนายความฝีมือดีก็รู้เห็นเป็นใจ และอำนาจที่วาติกันเเผ่มาถึงเข้าไปในแม้ในห้องเก็บเอกสารลับที่ไม่สามารถเผยต่อสาธารณชนได้ ทีมงานทำงานได้ยากลำบากมากขึ้นๆเพราะแหล่งข่าวสำคัญปิดปากเงียบ และความเครียดกดดันจากเอกสารและการประสบเรื่องเล่าของบรรดาเหยื่อทำให้งานสะดุด จากรายชื่อนักแสดงธรรมข่มขืน 13 รายขยายเป็น 87 ราย ยิ่งทำให้ทั้งทีมต้องหาหลักฐานชิ้นเอกที่ต้องหยุดไม่เพียงระดับบาทหลวงท้องถิ่น

แต่ต้องกระชากหน้ากากวาติกันออกให้ได้

คะแนน 9.5/10 ค่ะ

นักแสดงที่โดดเด่นที่สุดคือสแตนลี ทุคชี ที่รับแกราบิเดียน ทนายที่ว่าความให้เหยื่อข่มขืนจาก'ชาวอ้อมกอดพ่อคืออ้อมกอดพระเจ้า' ที่โผล่น้อยต่อยหนัก ปล่อยของที ชนะ! สวยๆตามมาด้วยไมเคิลคีตัน หัวหน้าทีมสปอตไลท์ กับ มาร์ค รัฟฟาโล นักข่าวที่บุกทะลุทะลวงเพื่อข้อมูล(ที่ถูกต้องและสื่อให้ตรงความจริง) โดยเฉพาะคนหลังเปลี่ยนบทได้อินไม่เหลือสำเนียงยานๆมากับเรื่องนี้อีกเลย นักแสดงเรื่องนี้ใช้คุ้ม ได้บทไม่ด้อยไปกว่ากันเสริมเรื่องได้ดี

ตอนจบมีขึ้นเครดิต ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไหนบนโลกอีกบ้าง มี 3 หน้า หน้าละไม่ต่ำกว่าร้อยที่และที่สยดสยองที่สุด...

คารดินัลลอว์ที่ปกปิดเรื่องบาทหลวง 87 คน ได้เลื่อนตำแหน่ง...ไปเป็นคาร์ดินัลแห่งแคนเทอเบอรี่

สรุป...ไปก่อความขวาดต่อที่อังกฤษต่อค่ะ 

ปล. จำได้ว่าเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา โป๊ปคนปัจจุบันได้กล่าวขอขอโทษต่อสาธารณชนเรื่องที่บาทหลวงไปชำเราเด็กผู้ชายเหมือนกัน ดูเหมือนว่าแม้ทีมนี้จะสามารถเขย่าบัลลังค์วาติกันได้จริง แต่ปลาเน่าก็ยังคอยโชยส่งกลิ่นมาจากทุกมุมอยู่นั่นเอง