Group Blog
 
All blogs
 

Cheese mashed potatoes



ใกล้เที่ยงแล้ว เปิดตู้เย็นเห็น มีมันฝรั่งตั้งเยอะ
มีมอสซาเรลล่าชีส 1 ก้อน
มี Sour cream เหลืออยู่ 1/2 กระป๋อง
งั้น เที่ยงนี้ กินมันฝรั่งอบชีสดีกว่า

เตรียมของก่อน

1. มันฝรั่ง 5 หัว (หนักประมาณ 800 กรัม)
2. มอสซาเรลล่าชีส 150 กรัม
3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
4. เนยสดชนิดเค็ม 80 กรัม
5. ซาวร์ครีม เหลืออยู่ 1/2 กระป๋อง (ลองชั่งดูแล้วหนัก 100 กรัม)

เริ่มจาก ล้างมันฝรั่ง ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ



เอาไปต้มให้นิ่ม ** ในน้ำเหยาะเกลือลงไปนิดนึงด้วย



พอสุก นิ่มแล้ว (ใช้เวลาราวๆ 15-20 นาที)
ก็เทน้ำออกให้หมด
สะบัดๆเคาะๆให้แห้ง อย่าให้น้ำเหลืออยู่



เทมันฝรั่งใส่ชาม
ใส่เนยลงไป แล้วบดๆๆๆมันฝรั่งกับเนย ให้เข้ากัน



ใส่ครีมเปรี้ยวลงไป แล้วก็คนๆให้เข้ากัน



ใส่มอสซาเรลล่าชีส ที่ขูดบางๆลงไปเล็กน้อย (ไม่ต้องมาก)
แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน



ใส่เกลือลงไป แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง ก็เสร็จแล้ว
เตรียมอบ



เอาฟอยล์มาหุ้มถาดไว้
ใช้ถาดทำบราวนี่ค่ะ เพราะเห็นขนาดมันกำลังดี



ตักมันฝรั่งบดลงไป แผ่ๆให้ทั่วๆถาด



เอาชีสที่ขูดๆไว้ โรยปิดหน้าให้หมด
ถ้าใครชอบทานชีสก็ใส่ได้เท่าที่ชอบ



อบไฟบน 170 - 180 C ประมาณ 15 นาที
หรือ คอยดูจนกว่าชีสจะละลาย และ เกรียมเล็กน้อย



ถ้าต้องการให้มีเนื้อมีหนังมากกว่านี้อาจใส่เห็ดลงไปด้วยได้
และ seasoning ด้วย ออริกาโน่ ใบไทม์ หรือ โรสแมรี่

สูตรทำ Mash potatoes มีมากมาย บางสูตรใส่ทั้งนมและเนย
บางสูตรก็ใส่ครีมชีส เชดด้าร์ชีส
บางสูตรใช้ พาร์มีซานชีส บางสูตรใช้ Goat cheese
คิดว่าคงแล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหน
อันนี้เผอิญมีมอสซาเลล่าชีสก็เลยใช้ตามของที่มีอยู่ค่ะ
นับเป็นเมนูที่ง่าย และ สะดวกดี
อร่อยด้วย












 

Create Date : 05 กันยายน 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2550 21:12:52 น.
Counter : 1317 Pageviews.  

Cookies with cashew nut & milk choccolate

ได้แรงบันดาลใจจากคุณ Triny และคุณ littlemonkii
ที่ทำ Double Choccolate chip cookies หน้าตาดีจนอดใจไม่ไหว
จนต้องไปดูว่าที่บ้านมีอะไรพอจะทำได้บ้าง

ก็พบว่ามีเม็ดมะม่วงหิมพานต์อยู่ประมาณนึง
มี Milk choccolate อยู่พอสมควร
ส่วนพวกส่วนผสมหลักๆ มีติดบ้านอยู่แล้ว
น่าจะทำได้ .... งั้นลองทำตามสูตรคุณตรีละกัน



เริ่มจากเตรียมส่วนผสม (ดัดแปลงนิดหน่อย ตามของที่มีอยู่นะคะ)

1. แป้งว่าว 170 กรัม
2. เนยสด ตามสูตรบอกว่า 1 ถ้วย กะไม่ถูกว่าเนย 1 ถ้วยนี่เป็นอย่างไร เลยใช้ 125 กรัม
3. ผงโซดา 1/4 ช้อนชา
4. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
5. น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
6. เกลือ 1/2 ช้อนชา
7. วานิลลา (มีแต่ชนิดผง) 1 ช้อนชา
8. เม็ดมะม่วง 1 ถ้วย
9. นมสดคาร์เนชั่น (ตามสูตรชนิด extra ใช้ 2 ช้อนโต๊ะ / มีแต่แบบธรรมดา เลยใช้ 4 ช้อนโต๊ะ)
9. Milk choccolate ประมาณ 10 อันเล็กๆ

หมายเหตุ- ชอบคุ้กกี้เนยขาวๆ มากกว่าชอคโกแลต เลยไม่ใส่ส่วนผสมผงโกโก้ลงในแป้งค่ะ

ได้เวลาลุย

1. ร่อนน้ำตาลทรายแดง



2. หั่นเนยเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วตีพอให้เนื้อเนียนๆ



3. ใส่น้ำตาลทราย และ น้ำตาลทรายแดง ลงไปในเนย แล้วตีให้เข้ากัน



4. ใส่ไข่ไก่เย็นๆ 1 ฟอง แล้วคนให้เข้ากัน



5. ร่อนแป้ง + เกลือ + ผงโซดา + ผงวานิลลา แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วน
6. ใส่แป้งส่วนที่ 1 ลงไปในชามผสม
7. เติมนมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ แล้วตะล่อมให้เข้ากัน
8. ใส่แป้งส่วนที่ 2 + นมข้นจืดอีก 2 ช้อนโต๊ะ แล้วตะล่อมให้เข้ากัน
9. เติมแป้งส่วนที่ 3 แล้วตะล่อมให้เข้ากัน



10. ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (ที่เอาไปอบให้กรอบๆหน่อยแล้ว)



11. ใส่ ชอคโกแลตที่หักเป็นชิ้นเล็ก



คนทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วเอาไปแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมง
ตักส่วนผสมเป็นก้อนๆ วางในถาดอบ
อบด้วยไฟ 175 C เป็นเวลาประมาณ 20 นาที



หน้าตาอาจไม่สวยงามนัก
แต่รสชาดถูกใจอีกแล้ว








** ขอบคุณ คุณ Triny และ คุณ littlemonkii
สำหรับสูตร และ แรงบันดาลใจค่ะ










 

Create Date : 02 กันยายน 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2550 21:09:29 น.
Counter : 623 Pageviews.  

accessories

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนม บางชิ้นก็ซื้อเก็บไว้ตั้งชาตินึง
เพราะมีความหวังว่าวันนึงจะทำอาหารได้ จะทำขนมเป็น
มาวันนี้ความหวังเริ่มเรืองรองขึ้นมารำไร รำไรแล้ว
จึงมีการขุดกรุออกมาล้างทำความสะอาดและเอามาใช้ได้เสียที
เมื่อเริ่มทำๆไปก็จะพบว่า อุปกรณ์บางชิ้นยังขาดอยู่
เลยค่อยๆซื้อเพิ่ม



1. ถ้วยตวงของเหลว ถ้วยตวงของแห้ง ช้อนตวง



2. ตาชั่ง - ซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ที่พาหุรัด
ซื้อไม่เป็น เขาถามว่าจะเอาแบบ 1 กก. หรือ 2 กก.
ก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้แบบไหน
แต่เห็นเขาบอกว่ามีสีชมพู ก็เลยโอเค สีสวยดี สรุปว่าเอาแบบ 2 กก.ละกัน



3. ที่ร่อนแป้ง ซื้อจากร้าน 100 เยนที่ญี่ปุ่นราคาไม่ถึง 30 บาท ใช้คุ้มจริงๆ
ที่ตีไข่มือ กะ พายยาง ซื้อที่ Warehouse ปีที่แล้ว เพราะชอบสีสันมากๆ



4. ชามใส่ส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้ก็ซื้อมาราว 6-7 ปีได้ นานๆทีก็ใช้เป็นชามสลัด เดี๋ยวนี้ได้ใช้ทำขนมทุกวันเลย



5. ที่ตัดเนย และ ที่ปาดครีมแต่งหน้าเค้ก ซื้อจากร้าน 100 เยนเหมือนกัน
ที่ขูดชีส ได้มาจากร้านขายของเก่าที่ทาวรองก้า อันละ 15 บาท ใช้ขูดเนยแข็งออกมาเป็นแผ่นๆสะดวกดี



6. Hand mixer ซื้อจากวีรสุตั้ง 2-3 ปีแล้ว เพิ่งจะได้ใช้



7. พิมพ์พาย พิมพ์ซิลิโคน และ อื่นๆ





8. ที่คีบถาด แปรงทาเนย 2 ชิ้นนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าซื้อมาเกือบ 10 ปี พร้อมเครื่องมือทำครัวอื่นๆ แล้วก็เก็บใส่กล่องไว้สนิทไม่เคยหยิบออกมาใช้เลย
จนกระทั่งเมื่อย้ายเครื่องครัวต่างๆมาบ้านใหม่ จึงค่อยๆแกะกล่องออกมา พบว่า (บ้า) ซื้ออุปกรณ์ครัวมาเยอะจริงๆ เช่นที่เปิดกระป๋อง หลากหลายสี ที่บดกระเทียม ที่คีมถาด ที่ปอกเปลือกผลไม้ ที่กรองชา ฯลฯ
ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็จะซื้อๆ แล้วก็เก็บๆ เฮ้อ...



9. แผ่นรองแบ่งเค้ก มีดตัดเค้ก (ที่ตักเค้กด้ามสีม่วง เป็น 1 ในกรุ อายุ 10 ปี...เพิ่งจะได้ออกมาปฎิบัติหน้าที่)



10. ตะแกรงพักขนม



11. ถุงมือต่างๆ จำเป็นมาก เพราะมือพองไปหลายหนแล้ว
ซิลิโคนสีชมพูเป็นอันโปรดเพราะใช้กันความร้อนได้ดีจริงๆ



12. แผ่นรองพิมพ์ อันนี้เห็นคุณตรี ใช้ เลยไปซื้อมามั่งจากเทสโก้ โลตัส สะดวกดีจริงๆ
ส่วนไม้คลึงแป้ง ได้จากร้าน 100 เยนอีกแล้ว
ยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลย ไม่แน่ใจว่าจะมีแรงส่งดีหรือไม่
เพราะขนาดค่อนข้างเล็ก



13. ส่วนผสม วัตถุดิบต่างๆ จะแบ่งใส่กล่องแล้วพิมพ์ฉลากติดไว้ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร



14. เตาอบจากวีรสุ ซื้อมาพร้อม Hand mixer (รูปจาก web ของวีรสุ)
ซื้อมาสัก 2-3 ปี เห็นจะได้



อยากทำอันนี้จัง
จาก web ของ Martha Stewart



มีงานอดิเรกทำตั้งเยอะแยะไปหมด
ยิ่งพักหลังๆอายุมากขึ้น ทำงานน้อยลง ก็ยิ่งต้องหาอะไรทำไม่ให้เหงา
ตอนนี้พบว่า การทำขนม เป็นงานอดิเรกที่เพลิดเพลิน คลายเครียด แก้เหงาได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้จะต้องแลกกับน้ำหนักที่ขึ้นพรวดพราด
ก็ยังคุ้ม...








 

Create Date : 01 กันยายน 2550    
Last Update : 7 กันยายน 2550 12:27:12 น.
Counter : 6100 Pageviews.  

White Chocolate Brownie

หัดทำ Brownie ครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน
ตอนที่ลูกไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์
Host family มักจะทำ Brownie ใส่กล่องอาหารกลางวันให้ลูกไปกินเป็นขนมหวานเสมอๆ
แม่บ้านทำบราวนี่อร่อยมาก
จนกลายเป็นขนมโปรดของลูกไปเลย



พอใกล้วันเกิดลูก แม่ก็อยากทำให้ลูกประทับใจ
เลยไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วซื้อแป้งทำบราวนี่สำเร็จรูปมาหัดทำบ้าง
(ทำครั้งแรก...เจน ลูกสาวของแครอล ที่แม่ไปพักอยู่ด้วย
เป็นคนช่วยเหลือ ให้คำแนะนำทุกอย่าง
ก็แม่ไม่เคยทำเลยจริงๆ)



ทำออกมาแล้วหน้าตา + รสชาดอร่อยดี (เพราะเป็นแบบสำเร็จรูป)
แม่ก็เลยซื้อกลับมาเมืองไทยหลายกล่องเลย เป็นของ Betty Crocker

ตอนนี้เมื่อมาหัดทำขนมก็เลยอยากจะลองผสมแป้งเองบ้าง
ทำครั้งแรกได้สูตรมาจากโรงเรียนทำขนม
เนื้อขนมออกมาเป็นเค้กเกินไป ไม่เหนียวหนึบอย่างที่ต้องการ
......
ต่อมาก็ทำตามหนังสืออะไรสักอย่าง
ปรากฎว่าขมมาก เพราะใช้ชอคโกแลตแบบ superblack เลย
แล้วก้อใส่น้ำตาลน้อยมาก
ก็เลยแก้ปัญหาโดยการกวนชอคโกแลตสูตรชอคโกแลตหน้านิ่ม แล้วราดลงไปบนบราวนี่ ก็พอกินได้บ้างนิดหน่อย
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจโยนทิ้งไปทั้งหมด
......
ต่อมาก็ทำตามสูตรของ คุณอ้วนดำปึ๊ดปื๋อ
แต่ด้วยความไม่รู้ ก็ไปใช้แป้งพัดโบก ซึ่งเป็นแป้งที่เหมาะกับการทำเค้ก
แถมซ้ำยังร่อนแป้งซะตั้งหลายครั้ง
ผลออกมา เนื้อก็เลยไม่หนึบอย่างที่ต้องการอีก...
......
ลองมาอีก 1-2 ครั้งก็ยังไม่ได้อย่างที่ต้องการ
จนในที่สุด ก็ลองทำตามสูตรคุณ Triny
ปรากฎว่า .... ใช่เลย... แบบนี้เลย

ส่วนผสม
(ดัดแปลงไปจากสูตรคุณ Triny อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง)



1. แป้งตราว่าว 1/3 ถ้วยตวง
2. แอบเพิ่มแป้งกวนไส้ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
3. เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม
4. น้ำตาลททราย 3/4 ถ้วยตวง
5. แอบเพิ่มน้ำตาลไอซิ่ง ไปอีก 1/4 ถ้วยตวง (ชอบหวาน)
6. แอบเพิ่มน้ำตาลทรายแดง ไปอีก 1/4 ถ้วยตวง (ชอบหวานจริงๆค่ะ)
7. ผงวานิลลา 1/4 ช้อนชา
8. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
9. ไข่ไก่ 2 ฟอง
10. ผงโกโก้ / ชอคโกแลต 6 ช้อนโต๊ะ
11. White Chocolate ขูดๆ

วิธีทำ

1. ละลายเนยในไมโครเวฟ



2. เตรียมผงโกโก้ แล้ว เทเนยละลายลงไปในผงโกโก้ คนให้เข้ากัน





3. เติมน้ำตาล แล้วคนให้เข้ากัน



4. ใสไข่ 2 ฟอง



5. ใส่แป้ง + เกลือ + วานิลลา แล้วก็คนๆๆๆกวนๆๆๆให้เข้ากันเหมือนกัน



** * ขั้นตอนใส่แป้ง เกิดผิดพลาดอย่างแรง คือ แทนที่จะใส่แป้งแค่ 1/3 ถ้วย
ดันไปใช้ถ้วยตวงขนาด 1 ถ้วยตวง
มารู้สึกตัวก็ตอนเทแป้งลงไปในชามผสม แล้วสะดุดใจว่าทำไมแป้งเยอะจัง
เท่ากับว่าใส่แป้งเกินไปเป็น 3 เท่า (1/3 + 1/3 + 1/3)
ก็เลยต้องย้อนกลับมาเพิ่มทุกอย่างเป็น 3 เท่าหมด
เช่น เนยเพิ่มอีก 100 กรัม (เป็น 150 กรัม)
ก็เลยได้ส่วนผสมเต็มๆชามเลย ก็ดีเหมือนกัน ***

6. ใส่ White Chocolate ของ Cadbury ลงไป
ตอนแรกใช้ที่ขูด Cheese ขูดๆ choc เป็นแผ่นๆ
แต่ ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้ที่ขูดอันนี้แทน ขูดง่ายกว่า แต่อาจจะเป็นชิ้นบาง+เล็กไปหน่อย



7. ใช้ Baking paper ** รองในถาด แล้วทาเนยไปด้วยนิดนึง
ความจริงไม่ต้องทาก็ได้มั๊ง แต่คิดว่าทาไปนิดหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นไร



8. เทส่วนผสมลงถาดได้เต็มๆเลย



9. เข้าอบใช้ไฟบน + ล่าง 170 C ประมาณ 20-25 นาที



10. สุกแล้ว กลิ่นหอมมากๆ เอาออกมาวางทิ้งไว้ให้เย็นสักพัก



อร่อยมากๆๆๆ







 

Create Date : 28 สิงหาคม 2550    
Last Update : 7 กันยายน 2550 12:38:34 น.
Counter : 1708 Pageviews.  

Blueberry cheese Oreo crust

Blueberry ยังเหลืออีกเยอะ ก็เลยเอามาทำ Blueberry cheese pie
โดยเอา Oreo มาทำเป็นตัว Crust
(ได้แรงบันดาลใจจากคุณ Triny)
ส่วนตัว Cheese ก็เปิดตำราทำ

ส่วนผสม Crust

1. OREO 2 ห่อ (เอาไส้ครีมออก) บดหยาบๆ



2. ชอบหวาน เลยเพิ่มไอซิ่งร่อน 1 ครั้ง 1/2 ถ้วยตวง



3. เอา OREO คนรวมๆกับไอซิ่ง



4. ละลายเนย 1 ถ้วย เทไปผสมกับ OREO + ไอซิ่ง แล้วกรุลงในพิมพ์
** อันนี้มีปัญหา คือตามสูตรในหนังสือ ใช้ขนมปังกรอบ ABC แล้วใส่เนยละลาย 1 ถ้วย แต่พอเราพบว่ามันมากเกินไป ทำให้แฉะมาก ต้องเทออก
ตามสูตรคุณ TRiny ไม่ใส่เนยเลย
คราวหน้าคงจะไม่ใส่แล้ว



5. เอาไปอบไฟ 175 C ปะมาณ 10 นาที เสร็จแล้วเอาไปแช่ตู้เย็น (ประมาณ 30 นาที)


ส่วนผสมครีมชีส

1. ครีมชีส 1 ก้อนตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วตีให้เหลวๆฟูๆ



2. เติมนมข้น 3/4 ถ้วย ตีให้เข้ากัน



3. เติมวิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย ตีให้เข้ากัน



4. เติมน้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ แล้วตีส่วนผสมจนเนียน ปิดเครื่อง



5. เอามาราดลงบน Crust แล้วแช่เย็น (เราแช่ไว้ 1 คืนเลย)



ส่วนผสมอยู่ตัวดีแล้ว ก็ราดบลูเบอรี่ (ประมาณ 1/2 กระป๋อง)





รสชาดถูกใจจริงๆ











 

Create Date : 23 สิงหาคม 2550    
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 21:24:16 น.
Counter : 1604 Pageviews.  

1  2  3  4  

parachute
Location :
Tauranga New Zealand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




Friends' blogs
[Add parachute's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.