แยมกีวี
กีวีฟรุ๊ตลูกโตๆสุกๆบดเนื้อให้ละเอียดสักหน่อย(แต่คราวนี้ค่อนข้างสุกมาก ไม่ต้องทำอะไรแค่ใช้ช้อนบดไปเบาๆก็แหลกแล้ว)ใส่หม้อแล้วกวนไปเรื่อยๆ ไฟปานกลางก็พอค่ะเติมน้ำตาลทรายลงไปตามใจชอบหากไม่ชอบหวานจัดก็ไม่ต้องเยอะหากใส่เยอะมากๆจะกลายเป็นกีวีกวน :)เติม Jam setting หรือ ผงเจลาตินลงไปด้วยเพื่อให้เนื้อแยมเซ็ทตัวค่ะของเราใช้ไม่มาก เพราะชอบแบบที่เป็นเนื้อผลไม้มากกว่าที่จะเป็นแบบแยมกระเด้งๆเสร็จแล้วก็เตรียมภาชนะใส่ เนื่องจากเราไม่ใส่สารกันบูด ก็ควรต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษโดยเราต้มภาชนะที่จะใส่ก่อนปล่อยให้แห้ง แล้วค่อยเทกีวีที่กวนเสร็จได้ที่แล้วลงไปแล้วเราเอาภาชนะลงไปต้มอีกทีค่ะเพิ่มความมั่นใจ :)ทิ้งไว้ให้เย็น ก็ค่อยปิดฝา(ฝาก็ต้มน้ำร้อนฆ่าเชื้อโรคไว้แล้วเหมือนกัน)เย็บผ้ามาปิดทับซะหน่อยด้วยFinal touch จ๊ะ คราวนี้เราใช้กีวีฟรุ๊ต 5 ลูกน้ำตาลทรายประมาณ 1-2 ถ้วย (ไม่แน่ใจ เพราะใช้กะๆเอา ไม่ได้ตวงเป็นกิจจะลักษณะ)ผงเจลาติน 1 1/2 ช้อนชาทำได้ 1 กระปุก กับอีก 3 ถ้วยไปแจกเพื่อนๆจ๊ะ
~ my very first Thai tea cup cake ~
เคยทำแต่คัพเค้กกล้วยหอม และ บัตเตอร์ตัพเค้ก แบบธรรมดาๆไม่ใช่แบบแฟนซีคัพเค้ก หรือมีครีมแต่งหน้าว่าจะ.. ว่าจะ... เงื้อๆง่าๆ หลายครั้งก็ไม่ได้ทำสักทีหลังจากที่ได้เห็นคัพเค้กสวยๆจากหนังสือมั่ง จาก FB มั่ง หรือใน blog มั่งก็เลยคิดว่า เอาละ ลองดูซะทีละกันจ๊ะมีสูตรคัพเค้กชาเขียวอยู่แต่ที่บ้านไม่มีชาเขียวแบบผงเลยคิดว่าหากเราใช้ชาไทย ก็น่าจะได้นะเรามีชาไทย "ตรามือ" อยู่ถุงใหญ่ด้วยสูตรคัพเค้กชาเขียว ที่เราดัดแปลงมาเป็นคัพเค้กชาไทย เตรียมของตามนี้ค่ะ 1 แป้งเค้ก 200 กรัม อันนี้เราเปลี่ยนเป็น Self rising flour 200 กรัม2 ผงฟู อันนี้เราไม่ใช้ เพราะใช้แป้ง self rising3 ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ อันนี้เราเปลี่ยนเป็นชาไทย 3 ช้อนโต๊ะ4 น้ำตาลทราย 200 กรัม5 เนยสด 200 กรัม6 นมสด 2/3 ถ้วยตวง7 ไข่ไก่ 4 ฟองการที่เราเปลี่ยนผงชาเขียวสำเร็จรูป (แบบชงละลาย) มาเป็นผงชาไทยแบบไม่สำเร็จรูปเราก็ต้องไปทำให้มันกลายเป็นน้ำก่อนโดยใช้ coffee plunger ทำวิธีเตรียมส่วนผสมชา เทผงชาไทยลงในถ้วยเทน้ำร้อนลงไปประมาณ 1/2 ถ้วยตวงเทนมสดลงไปประมาณ 1 ถ้วยตวงคนๆให้ทั่วๆ แล้วใช้ plunger กดลงไป เหมือนเวลาทำกาแฟวิธีนี้จะได้น้ำชาไทยเข้มข้นเทแบ่งใส่ถ้วยไว้ให้ได้ 1 ถ้วยตวงแล้วเอาไปแช่ตู้เย็นให้เย็นๆส่วนผสมสำหรับหน้าคัพเค้ก ครีมสดน้ำตาลไอซิ่งสีผสมอาหารน้ำชา (ที่ทำไว้)วิธีทำคัพเค้ก (คราวนี้ไม่ได้ถ่ายรูปตอนทำไว้เลย)1 ตัดเนยเป็นชิ้นเล็ก ตีให้เนียนๆ2 ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีด้วยกัน จนขึ้นฟู3 ร่อนแป้ง แล้วค่อยๆใส่แป้งลงไปในส่วนผสมเนยน้ำตาล สลับกับไข่ไก่ทีละฟอง จนครบ 4 ฟอง4 เอาชาออกมาจากตู้เย็น แล้วเทลงไป 2/3 ถ้วย ตีให้เข้ากัน5 เทส่วนผสมลงในถ้วยกระดาษ อบที่ไฟ 170 C ประมาณ 10 นาทีก็สุกแล้ว6 เอาคัพเค้กออกมาวงาบนตะแกรง พักให้เย็นค่อยเอามาแต่งหน้าวิธีทำหน้าคัพเค้ก แบ่งเป็นส่วนๆละสี 1 เอาอ่างตีไปแช่ตู้เย็นไว้ให้เย็นๆก่อนก็ดีจ๊ะ แล้วเทครีมเย็นๆลงไปในอ่าง (ประมาณ 100 กรัม)2 ตีครีมให้ข้น3 เทชาไทยเย็นๆ 1/3 ลงไปตีด้วยให้เข้ากัน4 ใส่ไอซิ่งลงไปตีประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปตีด้วยความเร็วสูง จนครีมแข็งตั้งยอดก็เอาออกมาใส่เครื่องบีบแต่งหน้าคัพเค้กได้เลย*** อันนี้เราทำพลาด เพราะใส่ไอซิ่งเยอะเกินไป (ใส่ไป 3 ช้อน) ทำให้แยกตัว ไม่จับเป็นครีมเลยไม่ทำครีมรสชา แต่เปลี่ยนเป็นใส่สีผสมอาหารแทนดังนั้นข้อ 3 เราเปลี่ยนจาก น้ำชาไทย 1/3 ถ้วย เป็นเหยาะสีลงไปแทนนิดหน่อยออกมาสีสวยน่ารักมากๆที่สำคัญคือ อ่าง หัวตี ครีมต้องเย็นๆช่วยได้เยอะเลยค่ะ :)ใส่มาร์ชเมลโลด้วยอันนี้ถ้วยสุดท้าย ครีมเหลือเยอะ เลยบีบให้หมด เนื้อคัพเค้กฉ่ำเนย หอมกลิ่นชาไทย อร่อยมากๆยิ่งค้างไว้ 1 คืนจะยิ่งอร่อยแต่หน้าครีม เพราะความที่เป็นครีมสด ค้างคืนจะไม่อร่อยดังนั้นเราจะแต่งหน้าไว้เฉพาะส่วนที่จะกินเท่านั้นค่ะ
ขนมปังอีกแร้ว..แบบเดิมเลย
หลังจากที่ทำ ham & cheese roll ไปคราวก่อนด้วยความยากลำบากเพราะไม่ได้เอาเครื่องนวดแป้งมาจากเมืองไทยพอกลับไปคราวนี้เลยไม่ลืมที่จะหอบติดตัวมาด้วยไม่ผิดหวังจริงๆช่วยผ่อนแรงไปได้เยอะมากจากคราวก่อนนวดแป้งอย่างเดียวก้อ 2 ชั่วโมงเข้าไปแล้วคราวนี้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย...เย้ เย้นอกจากจะทำไส้แฮมชีส และ ขนมปังเนยสด เจ้าประจำแล้ววันนี้แถมไส้หมูหยองน้ำพริกเผาด้วยเพราะไปได้หมูหยองมาจากร้านขายของชำในโอ๊คแลนด์มาเหลือจากกินกะข้าวต้มมื้อเช้าพอดีจ๊ะขนมปังเนยสดร้อนๆนุ่มๆจากเตาสูตรขนมปังก็แบบเดิมเปี๊ยบ (อ้อ ไข่ไก่คราวนี้ใช้แค่ฟองเดียว)แค่ช่วงนวดแป้งเท่านั้นที่เราไม่ต้องลำบากใช้ hand mixer เหมือนคราวก่อนใช้เวลาน้อยกว่าเดิมเยอะ เบาแรงไปได้มาก จริงๆ (เน้นหน่อย เพราะปลื้มมาก)ส่วนผสมนวดแป้งสบายๆ ชอบที่สุด :)เนื้อเนียน ฟูใส่ไส้เยอะๆนี่ด้วยจับใส่พิมพ์อบแล้ว หอมฟุ้ง ก็เอาออกมาทาไข่แดงซะหน่อย จะได้สีสวยๆ มันแว่บๆแล้วอบต่ออีกนิดนึง... ทานได้แล้วจ้าไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจาก อันด้านล่างเพียงแต่รู้สึกดีที่ได้ทำขนมแบบสบายๆ ไม่ลำเค็ญเหมือนคราวก่อนน่ะค่ะ :)ฺBon appetite
ham & cheese roll : version 2
ไม่ได้อบขนมปังมาสักพักใหญ่ๆเพราะขนมปังที่นี่หาซื้อง่ายและมีให้เลือกมากมายแต่วันนี้ลูกขอเป็นกรณีพิเศษ(นานๆทีจะขอให้แม่ทำอะไรให้ เลยตื่นเต้น รีบทำให้สักหน่อย)เพราะเขาจะไปงานเลี้ยงส่งเพื่อนสนิทชาวฮ่องกงที่จบ year 13 แล้วจัดงานกันที่บ้านเพื่อน แบบ Potluck party ให้แต่ละคนเอาอาหารมาแชร์ๆกันลูกเลยขอให้แม่ทำ Ham & Cheese roll ให้ปัญหามีอยู่ตรงที่แม่ไม่มีเครื่องนวดแป้งนะซิ มีแต่ที่ตีไข่หัวตะกร้อแบบมือถืออันเล็กๆปกติเอาไว้ใช้ทำมัฟฟิน หรือเค้กแต่รุ่นนี้แล้ว ไม่มีย่อท้อ (รุ่นบึกบึน) เลยลุกขึ้นมานวดแป้งตั้งแต่ 9 โมงเช้า ด้วยสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก :)~ ส่วนผสม ~ (ดัดแปลงจากสูตรที่เคยทำมาก่อนนิดหน่อย)แป้ง Hi grade flour 480 กรัม + แบบธรรมดาอีก 120 กรัมยีสต์แห้ง 1 ซอง 8 กรัมไข่ไก่ 1 ฟอง และ ไข่แดงอย่างเดียวอีก 1 ฟองน้ำตาลทราย 150 กรัมเกลือ 1 ช้อนชาเนยสด 90 กรัมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงของเหลว (หากส่วนผสมแห้งไปค่อยเติมเพิ่มทีละนิด แต่ไม่เริ่มด้วยใช้เยอะๆ เพราะมันจะเหลวไป)~ วิธีทำ ~ 1 เริ่มด้วยการเทยีสต์ลงชาม ใส่น้ำอุ่นจัดๆลงไปหน่อยนึง เติมน้ำตาลลงไป 1 ชช ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆให้ยีสต์ขึ้น2 ร่อนแป้ง 2 ทีให้แป้งเบาๆโปร่งๆ3 ละลายน้ำตาล เกลือ ในน้ำ แล้วใส่ไข่ลงไป คนๆให้พอเข้ากัน4 ค่อยๆเทส่วนผสมของเหลวลงในโถแป้ง คนๆให้เข้ากัน5 เทยีสต์ที่ขึ้นแล้วตามลงไป คนๆให้เข้ากัน6 ตามด้วยเนยสด (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆด้วย จะได้ละลายง่ายๆ)7 ทีนี้ก็ใช้พายคนไปเรื่อยๆ พอส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็นวดเลยหากมีเครื่องนวดก็ง่ายหน่อยแต่เราไม่มีก็ใช้มือแหละนวดไปเรื่อยๆ เมื่อยๆก็พักบ้างใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเห็นว่าแป้งเริ่มได้ดี (ยังหนืดๆอยู่บ้าง แต่ก็พอใช้ได้แล้ว)** 2 ชั่วโมงที่ว่านี่ ก็นวดๆหยุดๆบ้าง ไม่ใช่นวดอยู่ตลอดเวลาจ๊ะ8 เอาผ้าขาวบางชุบน้ำ คลุมชามแป้งไว้ แล้วเอาไปวางบนโต๊ะใกล้ๆหน้าต่างแบบให้โดนแดดหน่อยๆ เพื่อให้แป้งขึ้นฟู9 ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง แป้งขึ้นฟูเต็มชามเลย (สัก 2-3 เท่า)10 ก็เอามาตัดเป็นก้อนเล็กๆ ใส่ไส้แฮม และ ชีสที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ11 เอาเรียงใส่พิมพ์ แล้วเอาผ้าคลุมไว้อีก อาจไปวางไว้ในที่อบๆหน่อยก็ได้ ให้แป้งขึ้นฟูอีกหน่อย12 ระหว่างนั้นก็เปิดเตาอบรอไว้เลย ตั้งไฟที่ 180 C13 ราวๆครึ่งชั่วโมงตัวแป้งก็ฟูได้ที่ พร้อมจะอบได้14 เอาเข้าเตาอบ ใช้เวลาอบอีกสัก 20 นาทีเห็นจะได้ ก็หอมตลบอบอวลไปทั้งบ้านแล้วกลับเมืองไทยคราวนี้ คงต้องขนอุปกรณ์ต่างๆที่ทิ้งไว้เฉยๆ มาใช้ที่นี่แล้วเพราะหากต้องนวดแป้งคราวละหลายๆชั่วโมงแบบนี้คงทำบ่อยๆไม่ไหว แหะ แหะ
++ Homemade Strawberry Ice Cream ++
ส่วนผสม ไข่แดง 3 ฟอง นมสด 300 ML ครีม 200 กรัมสตรอเบอรี่ 1 กล่องเล็กๆ (ประมาณ 10 ลูกมั๊ง)น้ำตาลทราย 100 กรัมวิธีทำ 1) เอานมสดไปอุ่นบนเตาใช้ไฟอ่อนๆ (ในสูตรเขาบอก simmer) 2) เอาไข่แดงไปตีกับน้ำตาลให้ข้นๆ 3) แล้วก็เอาไปตีรวมกับนมสดบนเตาคนไปเรื่อยๆให้ข้นขึ้นคอยระวังอย่าให้เดือดแค่ตั้งเตาใส่ไฟอ่อนๆ4) ดูให้ข้นพอสมควรก็เอาออกจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็น5) แล้วใส่สตรอเบอรี่ และ ครีมลงไปคนๆให้เข้ากัน(สตรอเบอรี่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆด้วย)6) แล้วเอาไปแช่ตู้เย็นให้เกือบแข็ง 7) พอมันแข็งหน่อยๆ ก็เอาออกมาขูดๆ แล้วไปปั่นให้ละเอียด8) เทใส่ภาชนะ หรือ พิมพ์ไอติมแท่งๆก้อได้9) แล้วเอาไปแช่แข็งอีกรอบ ก็เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย ราดชอคโกแลต (พอดีหมดขวด เลยได้นิดเดียว) กะ น้ำตาลไอซิ่งสีๆหม่ำ หม่ำ