ฝากไว้ ..ปฎิญญาฟินแลนด์.. โสภณ สุภาพงษ์ แฉแผน ปฎิญญาฟินแลนด์ พูดไว้เมื่อ 20 พ.ค. 49 เวลา 21.58 ตอนนี้ดำเนินมาถึงขั้นที่ 4 เกือบสมบูรณ์แล้ว “มีพ่อค้าทุนนิยมที่เป็นนายคนหนึ่ง ชวนลูกจ้างที่เป็นสหายคอมมิวนิสต์เก่า ซึ่งเป็นรัฐมนตรีด้วย ไปนั่งคุยที่ฟินแลนด์เมื่อปี 2542 และได้ทำแผนการขึ้นมาอันหนึ่ง ประกอบไปด้วยหลักการห้าข้อ ซึ่งปรากฏว่าพอศึกษาดูแผนการนี้ มันอธิบายปรากฏการณ์ที่เราไม่เข้าใจได้ทั้งหมดเลย ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ยังไปพูดในพื้นที่อย่างภาคภูมิใจว่า แผนนี้กำลังดำเนินอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ” แผนการฟินแลนด์ ข้อ1 คือให้ความสำคัญกับการยึดรากหญ้า ประชาชน เกษตรกรที่ยากจนไว้ให้ได้ทั้งหมด ข้อ 2 คือ ต้องใช้ระบบทุนนิยมดำเนินการเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องทรัพย์สินของประเทศ ข้อ 3 ประเทศไทยจะต้องมีพรรคเดียว ข้อ 4 จะต้องรื้อระบบราชการทั้งหมด และ ข้อ 5 จะต้องให้สถาบันกษัตริย์เหลือเพียงเป็นสัญลักษณ์ เมื่อได้รู้แผนการทั้งห้าข้อแล้วทำให้เข้าใจปรากฏการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้ดียิ่งขึ้น เช่นที่บอกว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยใช้นโยบาย dual track คือ พัฒนาไปทั้งเศรษฐกิจชุมชนและการลงทุนจากต่างประทศ แท้จริงคือการดำเนินนโยบายตามแผนการฟินแลนด์ทั้งสิ้น “แผนการข้อแรกบอกต้องยึดรากหญ้า เพราะรากหญ้าเป็นอำนาจในระบบคอมมิวนิสต์ เขาถือว่าอำนาจอยู่กับคนรากหญ้าที่เป็นชนชั้นกรรมาชีพ ฉะนั้น ต้องแปรรูปรากหญ้าเหล่านี้มาเป็นอำนาจของตนโดยใช้งบประมาณ เพื่อให้ได้อำนาจอันชอบธรรมเป็นคะแนน เป็นวิธีการที่เราเรียกว่าประชานิยม ประเด็นที่ 2 ต้องใช้ทุนนิยมในระบอบคอมมิวนิสต์ เขานำทรัพย์สินส่วนรวมมาเป็นของรัฐ เมื่อเป็นระบบทุนนิยมก็เอาทรัพย์สินส่วนรวมมาเป็นของรัฐโดยผ่านตลาดหุ้น แปรรูปทรัพย์สินสาธารณะ เพราะตอนนี้คอมมิวนิสต์คุยกับทุนนิยม โดยใช้กระบวนการคอมมิวนิสต์และให้ผลประโยชน์ตกกับเจ้าของทุน ประเด็นที่ 3 กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้ในระบอบคอมมิวนิสต์ จะต้องมีพรรคการเมืองพรรคเดียวเพื่อความเข้มแข็ง ถ้ามองในกระบวนการทุนนิยม การมีพรรคเดียวเพื่อให้เกิดเอกภาพก็เป็นรูปแบบของลีกวนยูและมหาเธร์ จะได้จัดการกับประเทศได้ทั้งหมดเพื่อความเข้มแข็ง ประเด็นที่ 4เพื่อจะได้สิ่งนี้ต้องรื้อระบบราชการ เพราะระบบราชการเราเป็น ‘ข้า’ ราชการ ต้องเปลี่ยนให้เป็น ‘ข้า’ ซีอีโอ ก็ต้องเปลี่ยนโครงสร้าง ให้มาขึ้นกับซีอีโอ ข้าราชการมหาลัยเปลี่ยนเป็นพนักงานมหาวิทลัย ให้หลุดจากสถาบันกษัตริย์ทั้งหมด ความสัมพันธ์ต้องหลุดจากกัน ข้อ 5 จึงต้องตามมา ว่าสถาบันกษัตริย์คงจะต้องดำรงในลักษณะสัญลักษณ์เท่านั้น โครงสร้างห้าอันถูกใช้ เราถึงงงว่าทำไมถึงต้องดำเนินนโยบายกับทั้งรากหญ้าและทุนนิยม จริงๆ มันเป็นการหาประโยชน์ให้ตัวโดยใช้กระบวนการคอมมิวนิสต์เก่า ฉะนั้นลูกจ้างผู้เป็นสหายทั้งหลายจึงคุยกับนายทุนที่เป็นทุนนิยมได้ เป็นการดึงจุดแข็งของทั้งคู่มาผสมกัน นายทุนเป็นนาย สหายเป็นลูกจ้าง เป้าประสงค์คือเงินและอำนาจ ซึ่งเขาบอกว่าต้องมีก่อนถึงจะทำอะไรได้ คอมมิวนิสต์เอารากหญ้ามาเป็นอำนาจของตัวเองด้วยการใส่อุดมการณ์ลงไป ทำให้คนทั้งหมดเคารพในสิ่งเดียวกันคืออุดมการณ์ แต่ในระบบตอนนี้คนเคารพศาสนาเดียวกันคือเงิน เชื่อมั่นในสิ่งเดียวกันคือเงิน เชื่อถือในคนที่มีเงิน ผู้ที่เป็นคอมมิวนิสต์เดิมเขายอมรับว่าคอมมิวนิสต์ในโลกนี้จบแล้ว ขณะนี้เหลือแต่ทุนนิยม สิ่งที่จะเป็นต่อไปได้ไม่ใช่อุดมการณ์แต่เป็นเงิน เงินทำให้คนเป็นเพื่อนกัน ฉะนั้นคนเหล่านี้จะรักลีกวนยู รักนักการเมืองสิงคโปร์ รักลูกสะใภ้ลีกวนยู มากกว่ารักคนไทย เพราะพวกเขามีเงินเหมือนกัน เชื่อสิ่งเดียวกัน” ในส่วนของการเปลี่ยนทรัพย์สินของประชาชนเป็นของรัฐ กระบวนการทุนนิยมใช้ตลาดหุ้นเป็นช่องทางโดยแปรรูปทรัพย์สินสาธารณะต่างๆ มาเป็นของตัวเอง จากนั้นก็เอาทรัพย์สินนั้นมาหากินกับประชาชนอีกต่อหนึ่ง ซึ่งรากหญ้าไม่เข้าใจเพราะเขาได้เงินอยู่เรื่อย แต่ไม่รู้ตัวตอนถูกดูดไปด้วยค่าโทรศัพท์ค่าอะไรต่างๆ copy from manager comment..   Create Date : 14 เมษายน 2553     Last Update : 14 เมษายน 2553 1:03:04 น. Counter : 443 Pageviews.   2 comment Share Tweet

มีวาระสำหรับทุกสิ่ง มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง มีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์ มีวาระเกิด และวาระตาย มีวาระปลูก และวาระถอนสิ่งปลูกทิ้ง มีวาระฆ่าและวาระรักษาให้หาย มีวาระรื้อทลายลง และวาระก่อสร้างขึ้น มีวาระร้องให้ แและวาระหัวเราะ มีวาระไว้ทุกข์ และวาระเต้นรำ มีวาระโยนหินทิ้ง และวาระเก็บรวบรวมหิน มีวาระสวมกอด และวาระงดเว้นการสวมกอด มีวาระแสวงหา และวาระทำหาย วาระเก็บรักษาไว้ และวาระโยนทิ้งไป มีวาระฉีกขาด และวาระเย็บ วาระนิ่งเงียบ และวาระพูด มีวาระรัก และวาระเกลียด วาระสงคราม และวาระสันติ คัมภีร์ใบเบิ้ล บท ปัญญาจารย์ 3:1-8 ..................................................... ทุกอย่างมีระยะเวลาของตัวเองเหมือนกับกลางคืนกลางวัน มีสุขมีทุกข์ มีรักมีเกลียด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะบอกว่า ไม่มีสิ่งใดแน่นอน เราทำได้แค่อดทนและรอคอยเมื่ออยู่ช่วงกลางคืนมีทุกข์ก็อดทนรอช่วงกลางวันหรือความสุขผู้ที่ผ่าน การฝึกมาแล้วจะทนได้ในทุกสถาณการณ์ และรอคอย ส่วนผู้ที่อ่อนแอก็จะตีอกชกตนน้อยเนื้อต่ำใจ และโทษสถานการ   Create Date : 26 มีนาคม 2548     Last Update : 27 มีนาคม 2548 11:40:01 น. Counter : 1893 Pageviews.   7 comment Share Tweet