|
|
|
|
เด็กหัวตลาด |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เรียนจบหมอ เคยผ่านการเป็นอาจารย์ แล้วลาออกไปเป็นหมอจนๆ เพราะไม่ชอบใช้วิชาชีพหากิน ปัจจุบันเลิกรักษาคน หันไปบริหารเงิน คอยดูคนอื่นรักษาคนไข้แทน รับผิดชอบการจัดชุดสิทธิประโยชน์สำหรับโรคเรื้อรัง และโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงของผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง ๓๐ บาท) สนใจเรื่องราวประวัติตระกูล และประวัติศาสตร์บ้านเกิด ณ หัวตลาด หรือตลาดจีนเมืองตานี เป็นพิเศษ
|
|
|
แหล่งผลิตกระเบื้องดินเผาเมืองสงขลาที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณชายฝั่งทะเลสาบทางทิศตะวันตกของเมือง ตั้งแต่บริเวณท่าอิฐ ท่าสะอ้าน ขึ้นไปจนถึงบริเวณบ้านท่านางหอม ตำบลน้ำน้อย บริเวณวัดโคกเปี้ยว หมู่ที่ ๖ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง และบ้านบางโหนด หมู่ที่ ๑ – ๒ ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จากรายงานการสำรวจของสุภาคย์ อินทองคง ปี พ.ศ.๒๕๒๗ พบว่า มีเตาเผากระเบื้องทั่วบริเวณดังกล่าวไม่น้อยกว่า ๒๐๐ เตา มีเตาที่ยังอยู่มนสภาพที่ซ่อมแซมใช้งานได้ประมาณ ๕๐ เตา นอกนั้นชำรุดเหลือแต่ซากเตาและร่องรอยเตา มีผู้ประกอบการอยู่ ๓ ครอบครัว อยู่ในเขตบ้านท่านางหอม ๒ ครอบครัว และบ้านบางโหนด ๑ ครอบครัว หมู่บ้านที่เคยมีผู้ประกอบการทั้งหมู่บ้าน เช่นบ้านบางโหนด ประชากรในหมู่บ้านอายุตั้งแต่ ๓๐ ปีขึ้นไป ยังมีความรู้ความสามารถในการประกอบการ
กรรมวิธี
การผลิตกระเบื้องดินเผาเมืองสงขลา ประกอบด้วยวัตถุดิบและอุปกรณ์เครื่องมือเป็นสำคัญ แยกกล่าวได้ ดังนี้
๑. วัตถุดิบ คือ ดินเหนียว ซึ่งจะอยู่ไม่ห่างไกลจากบริเวณที่ตั้งเตาเผา กล่าวคือ หากมีแหล่งดินเหนียวอยู่ในบริเวณใด ผู้ผลิตมักไปตั้งเตาเผาอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่บริเวณที่ลุ่มชายฝั่งทะเลที่ไม่อาจใช้พื้นที่ประกอบการอาชีพอื่นได้ ซึ่งมีเนื้อที่กว้างใหญ่ไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ ไร่ เป็นแหล่งดินดีมีความเหนียวพอเหมาะกับหัตถกรรมประเภทนี้ ไม่ค่อยมีทรายหรือวัตถุเจือปน และให้ความทนทานถาวรสูง
๒. อุปกรณ์เครื่องมือ แยกได้เป็น ๒ ประเภท คืออุปกรณ์เครื่องมือการเตรียมดิน ประกอบด้วยจอบ เสียม คันธนู หรือเครื่องตัดดิน ถังน้ำ เครื่องคลุมดิน และอุปกรณ์เครื่องมือทำแผ่นกระเบื้อง ประกอบด้วยแม่พิมพ์ เบ้า คันธนู ไม้ตี แท่นรองตี ม้ารองกระเบื้อง ตะแกรงร่อน ขี้เถ้าแกลบ และกะเปาะสำหรับกั้นขี้เถ้า
๓. ขั้นตอนในการทำ มีลำดับกำหนดได้ ดังนี้
๓.๑ การเตรียมดิน เมื่อแน่ใจว่าดินบริเวณใดมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการทำกระเบื้องแล้ว ผู้ประกอบการก็จะใช้จอบขุดบริเวณนั้นลึกประมาณ ๒ ตาจอบ แล้วใช้เสียมแทงตักขึ้นจากหลุมทีละแท่ง หรือไม่ก็ใช้เครื่องตัดที่เรียกว่า คันนู หรือ คันธนู ตัดดินในหลุมให้เป็นแท่งใหญ่นำขึ้นกองไว้ที่ปากหลุม เมื่อได้จำนวนดินตามต้องการแล้ว ขึ้นเหยียบบนกองดินนวดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปเก็บไว้ที่โรงเรือนทำกระเบื้อง ซึ่งปกติจะปลูกสร้างไว้หน้าเตาเผา เพื่อเตรียมไว้ทำแผ่นต่อไป ก่อนทำจะแยกดินที่ต้องใช้มานวดอีก ๒ รอบ เพื่อคัดสิ่งเจือปนออกและเพื่อให้เนื้อดินเข้ากันสนิท
๓.๒ การทำแผ่น ใช้วิธีกดดินเหนียวที่นวดดีแล้วลงบนแม่พิมพ์ โดยใช้ขี้เถ้าแกลบโรยบนแม่พิมพ์กันดินติดพิมพ์ก่อน แล้วใช้เท้าเหยียบตรงกึ่งกลาง-ซ้าย-ขวา และหัวแม่พิมพ์ตามลำดับ แล้วกลับมาเหยียบตรงกึ่งกลางอีกครั้งรวม ๕ ครั้ง โดยเหยียบให้ลื่นไหลไปตามความลาดของแม่พิมพ์ จากนั้นใช้สายธนูตัดดินส่วนเกินออกจากแม่พิมพ์ โดยตัดจากส่วนหัวไปยังส่วนท้าย หรือไม่ก็ตัดเข้าหาตัวผู้เหยียบ ยกแม่พิมพ์ขึ้นกระแทกเบาๆ ให้ดินส่วนเกินเขยื้อนจากแม่พิมพ์ เอามือแตะตรงส่วนปลายของกระเบื้องแล้วยกแม่พิมพ์ขึ้นเล็กน้อย กระเบื้องก็จะติดมือออกมา ใช้มือทั้งสองประคองวางลงบนม้าวางหรือกระดานรองที่เตรียมไว้ มำเช่นนี้ไปเรื่อยจนได้กระเบื้องตามปริมาณที่ต้องการ
๓.๓ การพับหัวกระเบื้อง เมื่อได้แผ่นกระเบื้องตามต้องการแล้ว นำกระเบื้องไปผึ่งแดดให้แห้งหมาด ๑ วัน แล้วทำการพับหัวกระเบื้องให้ตั้งฉากกับแผ่นกระเบื้องสำหรับเกี่ยวกับไม้ระแนงเมื่อใช้กระเบื้องมุงหลังคา วิธีการพับหัว ใช้ไม้บางๆขนาดกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร หรือเท่าความยาวของหัวกระเบื้องที่ต้องการยาวขนาดความกว้างของกระเบื้องเป็นเครื่องมือ จับทาบลงบนส่วนหัวของกระเบื้องแล้วพับเข้าหาตัว
๓.๔ การตีกระเบื้อง เมื่อพับหัวเรียบร้อยแล้ว นำกระเบื้องมาวางซ้อนเป็นชุดๆละ ๕ แผ่น โดยให้หัวท้ายหันไปทางเดียวกัน เรียกชุดกระเบื้องดังกล่าวว่า ๑ มือ ซึ่งให้ความสะดวกในการขนย้าย นำมาคว่ำลงบนแท่นรองตี โดยให้หัวกระเบื้องประกบกับหัวแท่น ใช้ไม้ตี ตีเบาๆ ๒-๓ ครั้ง แล้วพลิกกลับ ตีตามแนวตั้ง จนได้กระเบื้องเรียบประกบกันดี จึงนำเข้าที่เก็บวางสลับซ้อนกันเป็นชุดๆ ตามแนวตั้งเพื่อเก็บไว้เผาต่อไป
๓.๕ การเรียงกระเบื้องในเตาเผา นิยมเรียง ๒ แบบ คือ แบบหน้าประกบหลัง หรือหัวเกี่ยวหัว และแบบหน้าประกบหน้า หรือหัวเกี่ยวหาง ซึ่งแต่ละแบบมีกรรมวิธีเป็นของตนเอง เรียงตั้งทรงต่อกันเป็นชั้นๆ จนได้กระเบื้องเต็มตัวเตา เหลือเฉพาะช่วงโดม ก็จะใช้วิธีเรียงอีกแบบหนึ่ง คือวางราบซ้อนสลับหัวหางกันเป็นชั้นๆ จนเต็มยอดโดม
กรรมวิธีทำกระเบื้องดังกล่าว เป็นกรรมวิธีที่ใช้กับการทำกระเบื้องมุงหลังคา ส่วนการทำกระเบื้องชนิดอื่นๆ ที่ชาวสงขลาเรียกว่า อิฐ เช่น อิฐหน้าวัว เป็นต้นนั้น ขั้นตอนและวิธีการส่วนใหญ่คล้ายคลึงกัน ต่างกันเฉพาะขั้นตอนการทำแผ่นและอุปกรณ์เครื่องมือ คือใช้วิธีนำดินเหนียวมาอัดลงในเบ้าที่มีแบบและขนาดต่างๆตามต้องการ ตกแต่งผิวให้ลื่นแล้วนำไปเคาะออกจากเบ้าวางเรียงบนแผ่นกระดานเพื่อผึ่งแดด แล้วนำมาเก็บไว้เตรียมเข้าเตาเผาต่อไป
๓.๖ การเผา เริ่มด้วยการนำอิฐมาก่อเป็นที่บรรจุเชื้อเพลิงบริเวณหน้าเชิงกรานตรงกึ่งกลางประตูเตา ขนาดประมาณ ๓๐x๕๐x๓๐ เซนติเมตร แล้วก่ออิฐปิดปากเตา เหลือช่องไว้เฉพาะพอใส่เชื้อเพลิง ๒ ช่อง คือ บน-ล่าง แล้วก่อไฟเผาจากช่องบนก่อนแล้วต่อด้วยช่องล่าง ช่องละประมาณ ๑๐-๑๕ วัน แล้วแต่ขนาดของเตา เชื้อเพลิงนิยมใช้ไม้สะเม็ด ไม้ยาง ไม้วา และไม้เบญจพรรณอื่นๆ ที่หาได้บริเวณใกล้เคียง กำหนดความร้อนในเตาเผาด้วยท่อนฟืน และกำหนดความพอดีของผลิตภัณฑ์ด้วยการสังเกตสีของควันไฟ ปล่องไฟ และแสงสว่างภายในเตา คือถ้ากระเบื้องสุกดีสีควันจะแดง ปากปล่องจะเหลือง และแสงภายในเตาจะสว่างจ้า เมื่อเผาเสร็จแต่ละช่องใช้โคลนทรายจากทะเลก่ออิฐปิดทิ้งไว้ประมาณ ๒๐ วัน จึงเปิดเตานำกระเบื้องออกเก็บเตรียมไว้จัดจำหน่ายต่อไป