...spring...summer...fall...winter... no matter how many seasons have changed , don't give up your dream!!
Group Blog
 
All blogs
 
ท่องไปใน...ฮานอย

วันแรกที่ไปถึงเวียดนาม พวกเราวางแผนเที่ยวในฮอยอันก่อนสองวัน ซึ่งกว่าจะถึงฮอยอันก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงเพราะเครื่องบินดีเลย์นิดหน่อย ถึงสนามบินปุ๊บก็ขึ้นรถตู้ที่มาคอยรับนักท่องเที่ยวไปหาที่พัก แต่ถ้าใครอยากขึ้นรถเมล์หรือแท็กซี่ก็มีให้เลือกมากมาย แถมยังไม่ต้องเดินไปไกลจากสนามบินเลย สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้ในเวียดนามก่อนจะทำธุรกรรมใดๆ ก็คือต้องถามราคาและต่อรองกันให้เรียบร้อยจนเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่ายก่อน ดังนั้นเครื่องคิดเลขหรือกระดาษจดกับปากกาจึงเป็นสิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้เลยนะ การเดินทางของเราสองคนครั้งนี้เลือกที่จะใช้เครื่องคิดเลขเพราะนอกจากจะสะดวกในการโชว์ราคาที่เราต้องการแล้ว ก็ยังคำนวนกลับเป็นเงินไทยหรือดอลล่าร์ได้ง่ายดายอีกด้วย (ที่โน่นน่ะนอกจากจะรับเป็นเงินด็องก์แล้วก็ยังรับเป็นดอลล่าร์ด้วยนะ)

เมื่อเดินหาที่พักได้แล้ว พวกเราก็ล้างหน้าล้างตาแล้วพักผ่อนเล็กน้อยเพื่อเตรียมเรี่ยวแรงสำหรับการตะลุยฮานอย

เราพักที่โรงแรม old darling ซึ่งอยู่ในย่าน old quarter จะว่าไปแล้วโรงแรมแห่งนี้ก็ถือว่าพอใช้ได้ทีเดียวสำหรับราคาเพียงแค่ 5 ดอลล่าร์ (ต่อ 2 คน) มีห้องน้ำในตัว แอร์ ทีวี เตียงสองเตียง อินเตอร์เน็ต แล้วก็อาหารเช้าด้วย เสียก็ตรงที่ห้องอยู่ชั้นห้า อาศัยเดินขึ้นลงเอาเอง แต่พวกเราก็ไม่ท้อหรอก เพราะพักแค่คืนเดียวเท่านั้น ขึ้นลงก็แค่ตอนเช้ากะเย็น

เมื่อเตรียมตัวพร้อมตะลุยฮานอยแล้ว อย่างแรกที่พวกเราทำก็คือการเดินหาร้านขายตั๋วรถไปฮอยอัน ที่อยากไปกะรถไฟเพื่อจะได้ชมวิวข้างทางแถมยังยืดเส้นยืดสายได้บ้าง แต่เมื่อ trade off ดูแล้วคิดว่าไปรถทัวร์จะประหยัดได้มากกว่า

ตลอดบ่ายวันนั้นพวกเรา(สองคน) ก็ได้แค่เดินเล่นอยู่รอบๆทะเลสาบ่ที่อยู่ใจกลางเมืองซึ่งเรียกว่า "โฮฮว่านเกี๋ยม" หมายถึง ทะเลสาบดาบที่กลับคืนมา



มีตำนานเล่าว่า พระเจ้าหลีไทโต แห่งราชวงศ์เลผู้ตั้งกรุงฮานอยเป็นราชธานีได้ดาบวิเศษมาจากเต่าตัวหนึ่ง พระองค์นำดาบนั้นไปต่อสู้กับกองทัพจีนในช่วงปี คศ.1418-1428 เป็นเวลานานถึง 10 ปี จนได้ชัยชนะ ปลดปล่อยเวียดนามเป็นอิสระจากการปกครองของจีน หลังจากนั้นพระองค์ได้ลงเรือไปกลางทะเลสาบเพื่อคืนดาบวิเศษแก่เต่าศักดิ์สิทธิ์ ตำนานเล่าว่าเต่าได้ขึ้นมาคาบดาบจากพระหัตถ์กลับลงไปในทะเลสาบ



ปัจจุบันบริเวณรอบทะเลสาบนี้เป็นสวนสาธารณะที่ชาวฮานอยมาใช้เป็นที่พักผ่อนกันมาก ทุกเช้าเย็นจะมีคนมาวิ่งออกกำลังกายและชมธรรมชาติ





ค่ำคืนแรกในเวียดนาม พวกเราได้ไปชมหุ่นกระบอกน้ำที่ถนนดิงห์เตียนฮว่าง (ตรงข้ามทะเลสาบเลย) ซึ่งเป็นการแสดงพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงและเป็นศิลปะประจำชาติที่ได้รับการยกย่องชมเชยมากที่สุดของเวียดนาม และถ้าจำไม่ผิดนะ...การแสดงชนิดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่น้ำท่วมเวียดนามหลายเดือน ชาวบ้านจึงคิดหาการละเล่นที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินและเข้ากับสถานการณ์น้ำท่วมได้นั่นเอง







ฮานอยในยามค่ำคืนนั้นมีสีสันยามราตรีให้เดินชมได้เรื่อยๆ ยิ่งช่วงที่เราไปใกล้ประชุม APEC 2006 สองข้างถนนเส้นหลักๆ จึงถูกจัดวางและประดับประดาไปด้วยเครื่องตกแต่งมากมาย

พวกเรานอนหลับลงท่ามกลางเสียงเพลงพื้นเมืองเวียดนามจากทีวี ดูไปก็อมยิ้มไป แม้จะฟังไม่ออกเลยสักกะคำเดียวแต่ก็พอเข้าใจได้จากภาพประกอบหรือที่เราเรียกกันว่ามิวสิควิดีโอนั่นเอง

เช้าวันที่สอง เป็นวันที่ต้องเที่ยวแข่งกับเวลา เพราะมีสถานที่ให้ไปเยี่ยมชมเยอะเหลือเกิน และแต่ละที่ก็ห่างกันหลายกิโลเมตรซะด้วย แต่ก่อนอื่นนะต้องเติมพลังกันก่อน... อาหารเช้าที่โรงแรมขนาดสองดาวแห่งนี้จัดไว้ให้ก็คือ แบ๋งห์หมี่ ที่ได้รับอิทธิพลจากชาวฝรั่งเศสที่ปกครองเวียดนามอยู่นานเกือบร้อยปีทีเดียว ขนมปังชนิดนี้ทำจากแป้งบาแก็ต ซึ่งมีไส้และรสชาติต่างๆ ให้เลือกหลายแบบ

แต่ท้ายที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจกินบะหมี่สำเร็จรูปที่อุตส่าห์พกไปจากเมืองไทย

เมืองทังลองหรือฮานอยเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในฐานะเมืองหลวงของประเทศ จนประมาณต้น คศ. 18 พระเจ้ายาลองแห่งราชวงศ์เหวียนทรงย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่เว้



ฮานอยกลับมาเป็นเมืองหลวงของประเทศอีกครั้งเมื่อฝรั่งเศสได้ยึดครองเวียดนาม

สถานที่ท่องเที่ยวของฮานอยมีหลายแห่ง เช่น สุสานโฮจิมินห์ ซึ่งตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิงห์ อยู่ห่างจากทะเลสาบไปประมาณ 2 กิโลเมตร จัตุรัสกลางเมืองนี้เป็นที่ที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากฝรั่งเศสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกันกว่า 50,000 คน ปัจจุบันเป็นที่ประกอบรัฐพิธีสำคัญๆ การสวนสนามของทหารในวันชาติ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บศพของประธานาธิบดีโฮจิมินท์

ศพของโฮจิมินท์ได้รับการรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิมซึ่งเป็นความลับทางการแพทย์ของรัสเซีย สุสานนี้จะปิดในฤดูใบไม้ร่วงสองเดือน ซึ่งดันตรงกับตอนที่พวกเราไปเยือนพอดิบพอดี.... เป็นอันว่าอดได้เข้าไปในสุสาน ได้แค่ชะเง้อมองรอบนอก แล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น

โชคยังดีที่ข้างๆ สุสานโฮจิมินท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น นั่นก็คือ ทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านโฮจิมินท์ ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นอาคารทรงโคโลเนียลสีเหลือง ที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นใช้เป็นที่ทำการของผู้สำเร็จราชการชาวฝรั่งเศส ส่วนบ้านลุงโฮนั้น เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ อยู่หลังทำเนียบ ซึ่งโฮจิมินท์อยู่อาศัยจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต











จากนั้นจึงได้ไปชมวิหารวรรณคดี (The Tample of Literature) ชาวเวียดนามเรียกว่า "วันเหมียว" สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ศาสดาขงจื๊อ วิหารแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม ในบริเวณวิหารแบ่งออกเป็นลาน มีกำแพงล้อมรอบ 5 แห่ง เมื่อลอดซุ้มประตูเข้าไปจะเป็นทางเดินที่ปูด้วยหิน สองข้างทางเป็นสระน้ำ เดินผ่านไปสองลานก็จะเจอประตูกำแพงใหญ่ชื่อว่า ได๋แถงห์โมน อันเป็นสัญลักษณ์ของกรุงฮานอย

ในอาคารชั้นเดียวรอบสระมีแผ่นหินจารึกชื่อจอหงวนที่ผ่านการสอบไล่ในช่วง คศ. 1442-1779 ไว้ด้วย แผ่นหินนี้ตั้งอยู่บนหลังรูปปั้นเต่า























พวกเราใช้เวลาที่เหลืออีกเกือบครึ่งวันเดินชมบ้านเมืองในกรุงฮานอย ชมสถานที่สำคัญทางราชการอื่นๆ และไปเที่ยวโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่มากอีกแห่งหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งจุ้มปุ๊กที่ทะเลสาบแห่งเดิม

และแล้วก็หมดไปอีกหนึ่งวัน...ในฮานอย


Create Date : 25 พฤษภาคม 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 15:11:02 น. 10 comments
Counter : 1436 Pageviews.

 
สวยจัง ตามไปเที่ยวด้วยค่า
นางแบบน่ารักเชียว


โดย: หนูชล วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:17:10 น.  

 
สวยจังเลยนะครับ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะครับ


โดย: sak (psak28 ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:32:19 น.  

 
สวยงามพร้อมสาระ ดีจังเลยค่ะ อยากไปบ้างจังเลยค่ะ


โดย: kajanita IP: 61.19.59.121 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:43:36 น.  

 
แต็งค์กิ้ว-แต็งค์กิ้ว นะจ๊ะ
แต่อย่าเพิ่งรีบชมเพราะยังเขียนไม่จบ
ไว้รอติดตามตอนจบ ของทริปเวียดนามนะ


โดย: pangfoto วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:32:21 น.  

 
สวยดีค่ะ


โดย: meaw_1985 วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:40:12 น.  

 
สวยมากครับ (เฉพาะรูปถ่าย) ล้อเล่นครับ
ผมจะเดินทางวันที่ 4 มิ.ย. ถึงฮานอย เที่ยวฮานอย ไปจองดูหุ่นกระบอกน้ำรอบ 18.30 น. เที่ยวฮานอยต่อ... จองตั๋วรถไฟไปเลาไกเที่ยว 22.00 จองไปฮาลองเบย์ วันที่ 7 มิ.ย จองไปฮาลองบก วันที่ 8 มิ.ย.

วันที่ 5 มิ.ย. เที่ยวตลาดนัด เลาไก สายๆไป ซาปา เที่ยวและพักที่ซาปา 1 คืน

วันที่ 6 มิ.ย. เที่ยวซาปา กลับมาขึ้นรถไฟเที่ยว 20.00

วันที่ 7 มิ.ย. ไปเที่ยวฮาลองเบย์กับทัวร์ ตอนเย็นเที่ยวฮานอย พักฮานอย

วันที่ 8 มิ.ย. ไปเที่ยวฮาลองบกกับทัวร์ ตอนเย็นเที่ยวฮานอย 22.00 ไปสนามบินกลับบ้าน

วันเสาร์-อาทิตย์พักผ่อน วันจันทร์ไปทำงานเหมือนเดิม

สอบถามหน่อยครับ OLD DARLING อยู่ตรงไหรครับจะไปเดินหา

พักฮานอย วันที่ 7 มิ.ย. พักคนเดียวครับ


โดย: catcall IP: 202.151.4.107 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:12:07 น.  

 
old darling อยู่ที่ 16 trung yen, dinh liet st.
จากทะเลสาบ ก็เดินตรงไปตาม dinh liet จากนั้นจะเห็นซอย trung yen ทางขวามือ ก็เลี้ยวเข้าไปสักร้อยเมตรกว่าๆ ก็จะเจอ old darling ทางซ้ายมือ++

ขอให้เที่ยวให้สนุกนะ


โดย: pangfoto IP: 61.7.217.35 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:51:42 น.  

 
ขอเพิ่มอีกหน่อย
ที่ฮอยอันน่ะจำได้แล้วว่าโรงแรมชื่อ phuoc an อยู่บนถนน tran cao van ในเว็บไซต์ทั้งสองที่เลย
ใครสนใจไปพักก็ลองไป serch ดูได้นะ

แต่ถ้าใครอยากได้โปรแกรมเที่ยวแบบละเอียดๆนี่ต้องถามคุณนางแบบดู

ลองอ้อนๆ ชมเค้าหน่อยละกัน เค้าอาจใจอ่อนให้ก็อปปี้โปรแกรมเที่ยวก็ได้


โดย: pangfoto IP: 61.7.217.35 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:58:17 น.  

 
รูปที่สี่ได้อารมณ์เวียดนามๆ ดีจัง^^

ปล. นางแบบหน้าคุ้นๆ


โดย: pk IP: 58.9.188.229 วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:58:47 น.  

 
ไม่คุ้นได้ไง ในบล็อกนี้ก็เธอคนนี้บ่อยที่สุดแล้ว

ไปกันแค่สองคน ได้ครั้นจะเอารูปตัวเองลงก็หาไม่ค่อยเจอ



โดย: pangfoto วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:19:17:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pangfoto
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เราต่างมีแสงสว่างในตัวเอง
...ไปตามเส้นทางของเรา!!
Friends' blogs
[Add pangfoto's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.