42. ไม้เรียวนั้นต้องใช้ในวัยที่เด็กยังไม่เข้าใจไม้เรียว จึงจะได้ผล
"พระราชาผู้โง่เขลาและล้อมรอบไปด้วยเสนาบดีที่ซื่อสัตย์แต่ตาบอดนี่อาจเป็นคำพังเพยเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กทารกที่วัยยังไม่ถึงขวบได้ดีที่สุด ทั้งนี้เพราะพระราชาผู้โง่เขลาคือทารกนั้นพูดอะไรก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นเสนาบดีที่ซื่อสัตย์แต่ตาบอดคือพ่อแม่ จึงทำทุกอย่างตามความต้องการของเด็ก
ถึงแม้ว่าพระราชาจะโง่เขลา ตอนที่ยังนอนอยู่เฉยๆ คงไม่มีปัญหาเท่าไรนัก แต่เมื่ออายุได้ 2-3ขวบ ก็ชักจะเอาแต่ใจตนเองจนพ่อแม่ทนไม่ไหวจึงเริ่มคิดดัดนิสัยกันในตอนนี้ ไม่ว่าเด็กจะทำอะไร พ่อแม่ก็ดุว่า ลงโทษ เปลี่ยนบทบาทจากเสนาบดีที่ซื่อสัตย์มาเป็นคุณครูหน้ายักษ์ อย่างกระทันหัน แต่การอบรมสั่งสอนของ คุณครูหน้ายักษ์มักไม่ได้ผล
ตัวอย่างเช่นในการกินอาหารและการขับถ่ายซึ่งเป็นเรื่องของสัญชาตญาณนั้น ควรกำหนดเวลาให้เป็นระเบียบเสียตั้งแต่แรกเกิดเด็กจะไม่ได้กินอยู่ตลอดเวลาจนอ้วนเกินพิกัด และไม่กลายเป็นเด็กที่ฉี่รดที่นอนเป็นประจำจนถึงชั้นประถม
ถ้าหากว่าพ่อแม่คิดว่าอย่างน้อยก็อยากให้ลูกอิสระสบายในวัยทารกจะกลับกลายเป็นผลร้ายต่อเด็ก เด็กทารกยังไม่เข้าใจเรื่องเข้มงวด ยังไม่รู้จักไม่เรียว แต่เด็กอายุเกิน 2-3 ขวบ รู้ซึ้งถึงความเจ็บของไม้เรียวแล้วดังนั้นการปล่อยตามใจในตอนแรกแล้วมาเข้มงวดในภายหลัง แทนที่จะได้ผลกลับทำให้เด็กต่อต้าน ด้วยเหตุนี้ไม้เรียวจึงควรใช้ในวัยเด็กที่ยังไม่รู้จักไม้เรียว