ศักยภาพของเด็กเล็ก 1. รอให้เข้าโรงเรียนอนุบาลก่อนก็สายเสียแล้ว
ก่อนที่ผมจะเริ่มเรื่อง ผมอยากให้คุณนึกถึงสมัยที่คุณยังเป็นนักเรียนสักหน่อย ในชั้นเรียนของคุณคงมีคนหัวดีมาก และคนที่หัวทื่อไม่เอาไหน ใช่ไหมครับ คนที่หัวดีนั้นทั้งๆที่ไม่ได้คร่ำเคร่งเรียนเท่าไร แต่ได้คะแนนเยี่ยมทุกที่ ส่วนคนที่ไม่เอาไหนนั้นต่อให้ขยันดูหนังสืออย่างไร ผลลัพธ์ก็คงเหมือนเดิมทุกคนคงเคยมีเพื่อนแบบนี้มาแล้ว ทางฝ่ายคุณครูมักจะปลอบใจว่า คนเราไม่ได้เกิดมาเป็นคนโง่หรือฉลาด มันขึ้นอยู่กับความพยายามนะนักเรียน "
แต่ความรู้สึกของพวกเรา เรามักคิดว่าความโง่หรือฉลาดคงถูกกำหนดมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว ที่จริงมันเป็นเรื่องอย่างไรกันนะ? คุณครูบอกว่า โง่หรือฉลาดไม่ใช่เรื่องของกำเนิด มันขึ้นอยู่กับความพยายาม "กับความรู้สึกของพวกเราที่ว่า โง่หรือฉลาดมันถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกเกิดแล้ว " ฝ่ายไหนถูกฝ่ายไหนผิดกันแน่
ถ้าจะให้ผมเป็นคนตัดสิน ผมก็จะบอกถูกทั้งคู่ว่าและผิดทั้งคู่ คุณก็อาจจะว่าผม พูดแบบกำปั้นทุบดินก็ได้ แต่ไม่ใช่อย่างนั้นแน่
ถ้าเริ่มจากบทสรุปก็กล่าวได้ว่าความสามารถและอุปนิสัยของคนเราไม่ได้เป็นของติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่จะถูกกำหนดภายในระยะเวลาหนึ่ง เราถกเถียงกันมานานแล้วว่า คนเรานั้นถูกกำหนดโดยกรรมพันธุ์ ประเภท เชื้อไม่ทิ้งแถว " ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น หรือว่าถูกกำหนดด้วยการศึกษาและสภาพแวดล้อมกันแน่เรื่องนี้หาบทสรุปไม่ได้มาเป็นเวลานาน
แต่เมื่อไม่นานมานี้ การศึกษาทางชีววิทยาเกี่ยวกับสมองและกรรมพันธุ์ก้าวหน้าขึ้น จนกระทั่งพบว่า ความสามารถและอุปนิสัยของคนนั้น ส่วนใหญ่จะก่อรูปเรียบร้อยระหว่างอายุ 0- 3 ขวบ กล่าวคือ คนเรานั้นตอนแรกเกิดเหมือนกันหมด ไม่มีคนที่เกิดมาเป็น อัจฉริยบุคคล " หรือเกิดมาเป็น ไอ้งั่ง แต่การศึกษาตั้งแต่แรกเกิดนั่นแหละ สามารถทำให้คนเป็น อัจฉริยบุคคล " ก็ได้หรือเป็น ไอ้งั่ง " ก็ได้ถ้าอยากจะทำ
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถทำให้คนเป็น อัจฉริยะเมื่อไรก็ได้ เช่น เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ทำได้ เพราะความสามารถและอุปนิสัย ส่วนใหญ่ของคนเราจะถูกกำหนดในช่วงอายุ 0-3ขวบ เพราะฉะนั้น เมื่อเด็กเริ่มไปโรงเรียนแล้ว ความแตกต่างที่เด็กหัวดีที่อะไรอะไรก็ง่ายไปหมด กับเด็กหัวทึบอะไรมันก็ยากไปหมด จึงเกิดขึ้น
จุดสำคัญก็คือ การเลี้ยงดูเด็กระหว่างอายุ 0-3 ขวบ ถ้ารอให้เข้าโรงเรียนอนุบาลเสียก่อนก็สายไปเสียแล้ว