34. เด็กแรกเกิด ก็รู้ว่าพ่อแม่ทะเลาะกัน
เด็กทารกซึ่งถูกเลี้ยงโดยพ่อแม่ที่มีความสัมพันธ์ไม่ค่อยราบรื่นนั้น เราเห็นหน้าเด็กก็รู้ทันที เพราะหน้าตาแกมีแววเศร้าและหมอง ท่านอาจคิดว่าเด็กทารกแรกเกิดนั้นไม่มีทางเข้าใจเรื่องละเอียดอ่อนของสามีภรรยาได้หรอก แต่อันที่จริงเด็กทารกมีสมองอันแหลมคม ซึ่งสามารถจับปฏิกิริยารอบกายได้อย่างว่องไว และถ้าหากพ่อแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงอยู่ใกล้ๆเด็กทารกเกือบทุกวัน อะไรจะเกิดขึ้น
แน่นอน เด็กทารกคงไม่เข้าใจความหมายของการทะเลาะวิวาท มีแต่ความขุ่นเคืองในอารมณ์เครียดแค้นเท่านั้นที่เด็กรับรู้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสมองของเด็กถูกสร้างขึ้นมาในสภาพนั้น และไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเด็กถึงมีหน้าตาหม่นหมอง การที่ทารกมีตาโตหรือจมูกโด่งคงเป็นเรื่องกรรมพันธุ์ แต่สีหน้าของเด็กนั้นเป็นกระจกที่ส่องให้เห็นสภาพชีวิตของพ่อแม่ มีนักสังคมสงเคราะห์เล่าว่า เธอต้องตกใจมากเมื่อเห็นใบหน้าคุณแม่ยังสาวซึ่งมาปรึกษาเรื่องหย่าร้างกับใบหน้าเด็กทารกในอ้อมกอดของแม่เหมือนกันไม่ผิด
เด็กทารกซึ่งเติบโตขึ้นมากับอารมณ์ขุ่นเคืองเคียดแค้น เมื่อเข้าโรงเรียนอนุบาลหรือโรงเรียนประถมกลายเป็นเด็กอย่างไร ท่านผู้อ่านคงวาดภาพออกนะครับ
เมื่อตรวจสอบประวัติของเยาวชนผู้ประพฤติผิด ก็พบว่าส่วนใหญ่เด็กเหล่านี้มีชีวิตในวัยทารกซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่สุดในชีวิตที่อยู่ในครอบครัวไม่ปกติสุข
รากฐานของพฤติกรรมและสภาวะจิตใจในวัยเด็กรู้ความแล้วคือประสบการณ์ที่เด็กรับรู้โดยไม่รู้ตัวในวัยทารกนั่นเอง
อาจารย์อิชอ ซูซูกิ เคยพูดในปาฐกถาครั้งหนึ่งว่า วันนี้ กลับบ้านไปแล้ว ลองเรียกลูกๆมาเข้าแถวดูซิครับ พวกคุณคงอ่านประวัติความเป็นสามีภรรยาของคุณสองคนได้จากหน้าๆของลูกละครับ ข้อความที่ท่านพูดนี้ยังติดฝังแน่นอยู่ที่มุมสมองของผมตลอดเวลา
เมื่อพูดถึงการศึกษาในวัยเด็กเล็กนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำกิจกรรมพิเศษอะไรขึ้นมา ถ้าพ่อแม่รักกันดี ครอบครัวมีความสุขแจ่มใส ก็ไม่มีอะไรดีสำหรับการเรียนรู้ในวัยเยาว์ยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว