ระนองก็มีวิวสวย ๆ เหมือนกันนะ ปีใหม่ที่ผ่านมาจขบ.ได้มีโอกาสเยือนถิ่นเก่าบ้านเกิด เลยได้โอกาสถ่ายรูปสวย ๆ มุมดี ๆ ของบ้านเกิดมา อ้อเกือบลืมจขบ.เป็นเด็กระนองค่ะซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยนะ เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยน่าสนใจมากนักแต่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่ออยู่บ้าง ส่วนรูปที่เอามาให้ชมกันนี่ก็อาจเป็นสถานที่เที่ยวที่บางท่านอาจไม่เคยเห็นในหนังสือ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดค่ะก็เอามาให้ชมกัน สถานที่แรกเป็นจุดชมวิวเขาฝาชี ที่อำเภอละอุ่น ที่ต่อไปก็เป็นระนองแคนยอนก็จะเป็นลักษณะเหมือนอ่างเก็บน้ำ ที่เกิดจากเหมืองแร่เก่าที่ตอนนี้กลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนแล้วค่ะ อันนี้เป็นอ่างเก็บน้ำประปาที่ใช้กันอยู่ในจังหวัดระนองค่ะ อันนี้เป็นสะพานไม้ที่บ่อน้ำร้อนแต่ที่บ่อเก็บน้ำร้อนคนเยอะเลยได้มาแค่เนี้ย แบบว่าไปไม่กี่วันแล้วก็เที่ยวเพลินไปนิดนึงเลยได้รูปที่เป็นฝีมือตัวเองมานิดเดียว เอาไว้จะพยายามเอาวิวสวย ๆ มาฝากอีกโอกาสหน้าค่ะ   Create Date : 07 มกราคม 2551     9 comment Last Update : 14 เมษายน 2551 16:42:35 น.     Counter : 1511 Pageviews.   Share Tweet

ทานตะวันบาน งานวัดญี่ปุ่น หลาย ๆ คนคงเคยไปเที่ยวมาแล้ว(เห็นได้จากมีจขบ.หลายท่านเอารูปมาลง) แต่แหมไหน ๆ ก็ได้มีโอกาสไปแล้วก็ขอเอารูปมาลงให้ได้ดูกันเนอะ ก็ออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์ที่ 23 พย. เลิกงานรีบออกเลย เพราะตั้งใจว่าจะไปเดินเที่ยวงานวัดญี่ปุ่นกันคืนนี้เลย ( 23 พย. ) ความจริงอ่ะ จขบ.พึ่งตัดสินใจว่าจะไปด้วยก็เกือบเลิกงานแล้วหล่ะ พอเลิกงานปุ๊ปเลยต้องรีบกลับบ้านเพื่อมาเก็บเสื้อผ้าแล้วไปดักรอ ให้เค้าผ่านมาเก็บขึ้นรถไปด้วยและกว่าจะรวมพลกันครบก็เกือบสองทุ่ม เพราะต้องไปแวะรับเพื่อนร่วมทริปอีกคนที่แถวหลักสี่ การเดินทางก็ถือว่าไปได้เรื่อย ๆ แต่กว่าจะไปถึงบ้านพี่ที่จะไปขอพักพิง นอนตลอดการเดินทางก็เกือบ สี่ทุ่ม เลยต้องเลื่อนการดินทางไปเที่ยว ชมงานวัดญี่ปุ่นเป็นคืนวันเสาร์แทน ส่วนเช้าวันเสาร์ก็เดินทางไปเที่ยวชมดอกทานตะวันบานกันตอนไปถึง แดดยังไม่จัดมากดอกทานตะวันก็เลยยังไมี่ตั้งคอดอกตรงสวย บางรูปที่ถ่ายกันช่วงแรก ๆ เลยยังคงไม่ค่อยสวยแต่ยิ่งใกล้เที่ยงนะยิ่งสวย แต่แดดก็เริ่มแรงแล้วอ่ะก็ได้รูปถ่ายกันมาพอสมควร จากนั้นก็เดินทางไปเที่ยวไร่องุ่นแต่ระหว่างทางก็มีแวะบ้างนิดหน่อย พอดีเห็นป้ายบอกทางว่ามีดอกบัวตองกำลังบานเลยเลี้ยวเข้าไปเยี่ยมชม ก็มีอยู่นิดหน่อยแต่ก็เอาเถอะไหน ๆ ก็มาแล้วเลยได้วนรถดูโดยรอบ แล้วก็เริ่มเดินทางต่อระหว่างทางก็ผ่านอุโมงค์ต้นไม้และเนินพิศวง แต่น่าเสียดายที่รถเยอะมาก ๆ เลยไม่ได้ทดสอบเนินกันเลยได่แต่ขับผ่านไป และแล้วก็ได้เดินทางมาถึงไร่องุ่นปภัสราสองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่ง ดอกทานตะวันเหลืองอร่ามสวยงามมาก ๆ แต่น่าเสียดายที่องุ่นยังไม่ค่อยมีลูก ให้เห็นมากนักแต่ก็ได้ชิมน้ำองุ่นกับซื้อพายองุ่นกลับมาเป็นของฝาก และแวะทานอาหารกันที่หน้าไร่รสชาติอาหารเหรอก็พอใช้ได้นะ แต่ขอบบอกว่ารออาหารนานมาก ๆ ทั้งที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ หรือว่าหิวกันก็ไม่รูนะเลยรู้สึกว่ามันนานอ่ะ อีกนิดนึงก็จะถึงเขื่อนป่าสักฯแล้วแต่เราไม่มีเวลาพอเพราะต้องเดินทาง กลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวมาเดินเที่ยวงานวัดญี่ปุ่นกัน ลืมบอกไปว่าบ้านพี่ที่ไปพักอยู่อำเภอท่าเรือ จ.อยุธยา ซึ่งมันอยู่ตรงกลาง พอดีกับการเที่ยวชมทุ่งทานตะวันและงานวัดญี่ปุ่นที่ลพบุรี ในงานวัดญี่ปุ่นพวกเราไปถึงช่วงหัวค่ำเสียค่าบัตรเข้าชมงานคนละ 20 บาท แต่ขาเม้าท์นิดนึงตอนเราจะกลับเขาเปิดให้เข้าฟรีอ่ะ ในงานก็มีเกมส์ต่าง ๆ มาให้เล่น อย่างเช่น ปาจิงโกะยักษ์ บ้านสั่น ฯลฯ และไฮไลท์ก็คือการแสดงศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น ก็มี นินจา ซามูไร เคนโด้ ยูโด แล้วก็กลับมาลอยกระทงกันที่อยุธยาแต่พอดีเหนื่อยเลยไม่ได้รูปตอนลอยกระทงกันมา ก็ไปชมรูปกันได้ที่ My multiply กันนะ   Create Date : 05 ธันวาคม 2550     6 comment Last Update : 26 ธันวาคม 2550 21:22:24 น.     Counter : 513 Pageviews.   Share Tweet

อ่าวมะนาว ไปเที่ยวลั้นลากลับมาก็จะครบเดือนอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่ได้มาแบ่งปันความสนุกสนาน ให้เพื่อน ๆ ได้อิจฉากันเลย วันนี้เอาเป็นว่าฤกษ์งามยามดีมาจัดการซะก่อนที่ความสนุกจะหายไป เวลานัดรวมพลก็ ตีห้าครึ่งขอย้ำนะค่ะตีห้าครึ่ง ของเช้าวันเสาร์ (โอ้เช้ามากๆ) กว่าจะได้ออกเดินทางก็ประมาณ หกโมงกว่า ๆ (แล้วจะนัดชั้นมาทำไมแต่เช้า) นี่คือพาหนะที่ใช้เดินทางแค่ท้ายรถก็สะดุดตาแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นรถผิดคันเลย อาหารเช้าที่แจกบนรถขอบอกว่าหากินไม่ได้ในเวลาเช้าก่อนทำงานนะ เพราะมันคือ "ข้าวเหนียวหมูทอด" หลายท่านคงสงสัยว่ามันยากตรงไหน มันยากจริง ๆ นะ ถ้าที่ office ของทุกท่านห้ามเอาอาหารคาวขึ้นบนตึก บรรยากาศบนรถก็สนุกสนานมากเพราะมีการเล่นเกมส์สลับกับการฟังเพลง ดีพอดีว่าสนุกเพลินไปนิดนึงเลยไม่มีภาพบรรยกาศมาให้ชมกัน นี่เป็นโฉมหน้าของน้อง ๆ ทีมงานที่มาให้ความบันเทิงกับพวกเรา เวลาประมาณ 10.30 น.เราก็มาถึงอ่าวมะนาวกัน ค่ายพักแรมกองบิน 53 คือสถานที่ที่พวกเราพักกันเป็นเวลา 1 คืน มองกันให้ดี ๆ นะพอดีเลข 3 หล่นไปไหนก็ไม่รู้แต่ยืนยันว่าเป็น กองบิน 53 หลังจากที่พักผ่อนซักพัก ก็มารวมกลุ่มทำกิจกรรมกันต่อ จนใกล้เที่ยงก็พักทานอาหารกลางวัน และเก็บภาพบรยากาศของทะเลตอนเที่ยง ซึ่งมันร้อนมากๆ จากนั้นก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย(รึเปล่า) เป็นการร่วมสนุกกับกิจกรรม walk relay ซึ่งสนุกมาก ๆ เกือบโดนเหยียบตาย - -'' บรรยากาศริมทะเลช่วงเที่ยงแดดแรงมาก ๆ แต่สวยค่ะ หลังจากนั้นก็ได้พักผ่อนเล่นน้ำกันบางคนก็เดินเล่นชายหาดเก็บภาพสวย ๆ เพราะต้องเตรียมตัวสำหรับงานปาร์ตี้ตอนกลางคืน เพราะว่าบ้านพักหนึ่งหลังพักกันประมาณ 8 คน ส่วนห้องน้ำก็มีแค่ 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้องอาบน้ำ 1 สุขาอีก 1 ต้องแบ่ง ๆ กันไป ประมาณหกโมงเย็น ก็เข้าสู่งานปาร์ตี้ริมหาด ก็จะมีการเล่นเกมส์บ้าง ร้องเพลงบ้าง ยิ่งดึกก็ยิ่งสนุกเพราะแต่ละคนเริ่มดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย (ก็ถ้าปาร์ตี้ขาดแอลฯไปก็ไม่สนุกซิ ) แต่ก็ไม่ดึกมากเท่าไหร่เพราะออกจากห้องอาหารก็ประมาณ สี่ทุ่มกว่า ๆ แต่แหมก็มันติดพันเลยมาต่อกันที่หน้าบ้านพัก บางคนที่ลงคอร์สติวคำนวณไว้ก็ไปเข้าคอร์สกัน ส่วนบางคนที่กำลังสนุกก็ตั้งวงก๊งกันต่อ เฮฮากันมากกว่าจะเลิกก็ประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ (ที่ต้องเลิกเพราะโดนไล่มันรบกวนชาวบ้านเค้า ก็ต้องทำใจเขตทหารก็งี้แหล่ะ) บรรยากาศช่วงหัวค่ำ กำลังสวยเลย ยามเช้าของวันอาทิตย์ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ก่อนอำลาอ่าวมะนาวไปก็ได้เดินเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ มาฝากกัน หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จพวกเราก็ออกเดินทางเพื่อไปเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ แต่มันไม่ค่อยมีอะไรเดินกันแค่ชั่วโมงเดียวก็ทั่วแล้ว แล้วก็ไปไหว้พระกันต่อที่วันห้วยมงคล แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพกันค่ะเป็นอันว่าทริปนี้ทั้งสนุกแต่ก็เหนื่อยแบบสุด ๆ   Create Date : 16 กันยายน 2550     9 comment Last Update : 14 เมษายน 2551 16:43:54 น.     Counter : 1452 Pageviews.   Share Tweet

มิตติ้งสุด.....ต่อเองนะใครได้ไปอะ เมื่อวันที่ 1 กค. 50 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปมิตติ้งกับเวปเลิฟที่พึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น sirinda-stories.net อยากจะบอกว่าทั้งร้อนทั้งเหนื่อยเลย ไม่เคยคิดว่าเป็นการเที่ยวรอบเกาะ(รอบไหมเนี่ย ) ที่ทรมาณที่สุดเลยก็ว่าได้(จะบ่นทำไมไปเองแท้ๆ) วันนี้รู้สึกหายเหนื่อยเลยเอารูปมาให้เพื่อน ๆ ดูใครเป็นใครก็มาเม้นท์กันด้วยเน้อ หลังใครบ้างหว่าเดาถูกไหมเนี่ย และสำหรับคนที่ไปทริปนี้ด้วยกันรูปอาจจะไม่ได้เรียงลำดับนะเพราะว่า เจ้าของบ้านความจำปลาทองอะ ใครเป็นใครมารายงานตัวด้วยนะ สองรูปด้านล่างนี้เอามายั่วน้ำลายคนที่ไม่ได้ไป เดี๋ยวจะหาว่าไม่มี มาทายกันเท้าใครบ้างเนี่ย สุดท้ายขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกท่านสำหรับรูปถ่ายงาม ๆ ที่ให้เจ้าของบ้านได้เอามาโชว์ในนี้และที่จะลืมไม่ได้ก็เหล่าบรรดา นางแบบ-นายแบบ จำเป็นทั้งหลาย   Create Date : 04 กรกฎาคม 2550     14 comment Last Update : 9 ธันวาคม 2550 22:09:27 น.     Counter : 424 Pageviews.   Share Tweet

หนองคายค่ะหนองคาย ได้อ่านหนังสือนิยายเรื่อง ฝนโปรยรักของคุณฬีฬา(ฮิๆขอค่าโฆษณาด้วยได้ไหมเนี่ย ) เลยนึกได้ว่าเราก็เคยไปลาวมานิดนึงแต่ก็แค่แถบชายแดนเองไม่ได้ไปถึงหลวงพระบางหรอก(อยากไปอยู่เหมือนกันแต่เวลาไม่อำนวยซะงั้น ) ตอนนี้เหมือนว่างเลยได้เวลาเอามาลงซะที ความจริงมีโอกาสไปเที่ยวหนองคายก่อนเชียงใหม่อีกนะ แต่ไม่ว่างเอามาลงเพราะตอนนั้นเครื่องคอมเสีย ตอนนี้มีโอกาสก็เอามาลงแล้วกัน แต่จะจำได้หมดไหมก็ไม่รู้ว่าไปไหนกันมาบ้างเพราะมัวแต่ Shoping พวกบรรดา แบรนเนมทั้งหลาย(ที่ชาวบ้านฝากซื้อ) วันที่เดินทางนะตื่นเต้นมากเลยเพราะเป็นครั้งแรกที่ไปแถบภาคอิสาน ก็แบบว่าส่วนใหญ่จะลงใต้(ก็เด็กใต้นิ)หรือไม่ก็ไปภาคตะวันออก ไกลสุดก็ระยองอะ จองตั๋วรถไฟเป็นเดือนเลย(กลัวไม่ได้ไป) บนตั๋วรถไฟระบุว่าออกประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็เกือบ 4 - 5 ทุ่มอะ ขึ้นไปก็นอนเลย(ลืมบอกไปตู้นอนพัดลมเพราะแอร์แพง) แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยอะ คือต้องไปนอนรอหัวรถจักรที่อยุธยา เพราะมันเสีย ทุกท่านคิดดูดิรอหัวรถจักรที่เดินทางมาจากสถานีบางซื่อกทม. ได้ยินพนักงานบนรถคุยกันว่ามันไม่ค่อยดีตั้งแต่กทม.แล้ว(คิดในใจ)แม่งทำไมไม่เปลี่ยนก่อนวะ(ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพ) ถ้าเป็นตอนนั้นอย่าจะพูดมากกว่าคำนี้อีก เซ็งมากเลยเสียเวลาด้วยกว่าจะไหถึงหนองคายเกือบบายอะ ทั้งที่ตามกำหนดเวลาคือประมาณ 8 โมงกว่าๆคิดดูดิว่ามันนานมากเลย ถือว่าเป็นการนั่งรถไฟที่นานมากเลยนอนเป็น 10 ตื่นยังไม่ถึงเลย ตอนแรกตั้งใจว่าไปถึงจะข้ามฝั่งลาวกันแต่ก็ต้องเปลี่ยนแผน ไปกินแหนมเนืองกันริมฝั่งโขง(เหอๆ )อาหารมื้อแรกที่หนองคาย พอดีว่า enjoy eating ไปหน่อยเลย ไม่มีรูปอาหารมาฝาก แต่วิวริมแม่น้ำโขงก็สวยดีนะ (พอดีกำลังมีงานก่อสร้างริมเขื่อนเลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ) แต่ก็เอารู้วิวแม่น้ำโขงมาฝากกันนะ อันนี้เป็นบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่งไทย รูปต่อไปก็ไปเที่ยวศาลาแก้วกู่( ไม่รู้ว่าจำชื่อถูกไหม)กันดูน่ากลัวมากเลยคงเป็นเพราะไปเย็นแล้วบรรยากาศเลยน่ากลัวไปอีก ยิ่งมืดบรรยากาศยิ่งน่ากลัวจริงๆนะ จบไป 1 วัน วันต่อมาลุยประเทศลาวกันค่ะไปหลายที่เหมือนกันค่ะ แรกๆเราก็ต้องไปทำ ใบผ่านแดนชั่วคราว คล้าย passport แต่เราอยู่ได้แค่วันเดียววันหยุดก็ทำได้ค่ะพอได้ใบผ่านแดนชั่วคราวแล้วก็ลุยกันที่ด่านค่ะ คนเยอะมากเลยมีรถทัวร์ไปหลายคันมากเลยมีทั้งคนไทยที่ข้ามไปเที่ยว ไปซื้อของ ก็มีคนลาวข้ามมาซื้อของบ้านเราด้วย อันนี้เป็น duty free ฝั่งลาวค่ะตรงด่านพอดี พอไปถึงฝั่งลาวนะก็ต้องหารถเพื่อจะไปเที่ยวกันแหมแต่กว่าจะได้นะ โก่งราคาน่าดูเลย พอดีไปกัน 5 คน ต่อราคากันไปมา เค้าคิด 1,100 บาท แพงมากเลย ได้ไป 6 แห่ง ความจริงแค่ 5 เอง แต่เวลาเหลือเค้าเลยแถมให้ สถานที่ที่ไปก็มี ประตูชัย ตลาดเช้า ตลาดจีน วัดพระแก้วอีก 2 แห่งจำไม่ได้อะขอโทษทุกคนด้วย อันี้แหละที่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรดูรูปแล้วกันนะแต่ถ้าใครรู้ช่วยบอกเจ้าของบล๊อกด้วยนะ อันนี้ประตูชัยค่ะ อันนี้เป็นวัดพระแก้วค่ะ ส่วนตลาดจีนกับตลาดเช้าพอดีว่าช๊อปเพลินไปนิดนึงเลยไม่มีรูปมาให้ดูค่ะ อันนี้เมนูอาหารที่ลาวค่ะอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ อันนี้ป้ายโฆษณาทายเล่นๆว่าโฆษณาอะไร แล้วก็จบไปอีก 1 วัน วันสุดท้ายก็ตื่นกันแต่เช้าไปวัดกันค่ะวัดที่ไปก็วัดหลวงพ่อพระไสย(เขียนถูกไหมเนี่ย) อันนี้เป็นตรงซุ้มประตูเมืองหนองคายสัญลักษณ์บ้านเค้าเป็นพญานาค อันนี้ของฝากจากหนองคายแบบว่าเจ้าของบล๊อกชอบเป็นพิเศษ   Create Date : 01 พฤษภาคม 2550     1 comment Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 0:18:06 น.     Counter : 3264 Pageviews.   Share Tweet