สมาคมครูหนุ่มหล่อแห่งประเทศไทย
Group Blog
 
All Blogs
 
พรดีสี่คำ ร่ำรวยสุข

พรดีสี่คำ ร่ำรวยสุข





อาจเป็นเพราะ เราต่างก็มีชีวิตอยู่ในสังคมที่วุ่นวายสับสน บางครั้งอาจรู้สึกเคว้งคว้างไร้ที่ยึดเกาะ หลายคนจึงหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ บางคนเลือกที่จะไขว่คว้าหาวัตถุมงคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ดังจะเห็นเป็นข่าวอยู่เนือง ๆ บางคนมุ่งเข้าหาศาสนา เข้าโบสถ์สวดมนตร์ ปฎิบัติธรรม ชำระจิตใจ และสำหรับอีกหลายคน การได้รับข้อคิดดี ๆ จากการอ่านหนังสือ ก็เพียงพอที่จะทำให้มีแนวทางและกำลังใจในการแก้ปัญหา เกิดความสุขสงบในชีวิตได้เช่นกัน




จึงไม่แปลกใจที่ทุกวันนี้ ตลาดหนังสือแนวข้อคิด-ธรรมะจึงใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนังสือธรรมะทุกวันนี้ก้าวพ้นไปจากหัวเรื่องเดิม ๆ ที่เน้นการทำความดี หรือ บุญบาป นรกสวรรค์ หรือเรื่องอภิธรรม ซึ่งไม่ตอบรับกับความต้องการของคนทั่วไป มาเป็นหัวเรื่องที่ใช้การได้จริง เข้ากับลักษณะการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบันมากขึ้น ด้วยการตอบคำถามพื้นฐานอย่างเช่น ทำอย่างไรเราจึงจะมีความสุข

ถ้าพิจารณาจริง ๆ แล้ว หัวเรื่องที่ใช้การได้เหล่านี้ ต่างก็มีอยู่ในหนังสือธรรมะเก่า ๆ เช่นกัน และก็เป็นหลักคำสอนซึ่งทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่รูปแบบการนำเสนอในอดีตอาจจะขาดความน่าสนใจไป ทั้งรูปแบบและการใช้ภาษาซึ่งอาจจะเข้าใจได้ยาก แต่หนังสือธรรมะหลายเล่มในปัจจุบันมีการใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจง่ายขึ้น อ่านได้สนุกแม้แต่กับวัยรุ่นทั่วไป ทั้งรูปเล่มยังมีความสวยงามน่าอ่านอีกด้วย 




"พรดีสี่คำ ร่ำรวยสุข" โดยพระพยอม กัลยาโณ เป็นพ๊อกเก็ตบุ๊คขนาดประมาณฝ่ามือ มาพร้อมกับ "ถุง" และพวงกุญแจ บรรจุรวมกันในกล่องพลาสติกใส 

"ถุง" ที่แถมมาให้ด้วยนี้ คงไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่ไว้ใส่ของเท่านั้น แต่เป็นเหมือนอุบายทางธรรมอีกด้วยโดยใช้การพ้องคำขึ้นต้นเดียวกัน เช่น มีถุง(ใส่)ธรรม (หรือเอาธรรมะใส่ถุง) พกติดตัว ดีกว่าพกถุงยาง (มีเขียนไว้ในหนังสือจริง ๆ) เพราะ การมีธรรมเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่การพกถุงยางอนามัยเป็นการเน้นที่ปลายเหตุ แต่อย่างไรก็ตามในหนังสือไม่ได้คัดค้านการยืดอกพกถุงยางแต่อย่างไร เพียงแต่เสนอว่าการมีธรรมะประจำใจนั้นดีกว่าแน่ นอกจากนี้ยังเปรียบว่าถุงธรรมนั้นประเสริญกว่าถุงใส่แก้วแหวนเงินทอง เพราะจะอิ่มเอิบใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

"ถุง" ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของการใส่สิ่งของเพื่อมอบให้แก่กัน และ พาสิ่งของนั้นติดไปกับตัวอีกด้วย หนังสือเริ่มต้นโดยกล่าวถึงถุง เพื่อนำสู่เรื่องของการให้ ก่อนจะกล่าวเรื่อง การให้พรดีสี่คำ ซึ่งคุ้นหูกันอยู่ก็คือ อายุ วรรโณ สุขัง พลัง หรือที่เรียกว่า จตุรพิธพร นั่นเอง 




อายุ หมายถึง การรักษาสุขภาพ มีชีวิตยืนยาว ถึงพร้อมได้ด้วยหลัก อิทธิบาท 4 ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อันเป็นคุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งผลที่มุ่งหมาย ซึ่งในตอนแรกข้าพเจ้ารู้สึกแปลกและไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าใดนัก แต่อ่านตามที่พระพยอมได้อธิบาย ก็พอจะเห็นประเด็นว่า คนที่อยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรนั้น คงจะมีความสุขสู้คนที่ได้ทำงานในสิ่งที่รักจนสำเร็จไม่ได้ และนั่นก็จะเป็นการบริหารร่างกายและจิตใจไปในตัว ทำให้มีชีวิตยืนยาวได้ในที่สุด

วรรโณ หมายถึง ให้อยู่ในศีล โดยรักษาศีลห้า ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่มีชู้ ไม่พูดโกหก ไม่ดื่มสุรายาเมา ทำให้ชีวิตดีงาม

สุขัง หมายถึง การทำจิตให้สงบ สำหรับในพรข้อนี้ ในหนังสืออธิบายไว้สองตอนไม่ตรงกัน โดยในตอนแรก อธิบายไว้ว่าส่วนประกอบของพรข้อนี้คือ ปราโมทย์ ปิติ ปัสสัทธิ สุข สมาธิ ซึ่งห้าอย่างนี้เป็นอาการของจิตที่เกิดต่อเนื่องกัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของอานิสงส์แห่งการรักษาศีล (มีทั้งหมด 10 ประการ อธิบายอยู่ในปฐมปัณณาสก์ ; ทสกนิบาต ; พระสุตตันตปิฎก ซึ่งไม่ได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้) ในตอนหลังได้กล่าวถึงสุขังอีกที โดยอธิบายว่า ต้องอาศัยการมีฌาณ 4 หรือ การฝึกสมาธิกรรมฐาณ เพื่อให้จิตสงบ

พลัง หมายถึง การใช้พลังให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ มี 4 ประการคือ ปัญญาพลัง วิริยะพลัง อนวัชพลัง สังคหะพลัง 

คำสอนในพุทธศาสนานั้นจะต้องนำไปปฎิบัติด้วย จึงจะเกิดผลดี การขอพรให้แก่กันจึงสู้การลงมือทำเอาเองไม่ได้ และจตุรพิธพรนี้ก็ต้องลงมือทำด้วยเช่นกัน 




หนังสือประกอบด้วย 3 ภาค ในภาคแรกจะเป็นการอธิบายถึงจตุรพิธพรในแต่ละข้อ ด้วยภาษาง่าย ๆ ใช้เพียงไม่กี่คำต่อหน้า แล้วสื่อด้วยภาพวาด เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แม้ลายเส้นไม่ถึงกับสวยมาก แต่ก็ดูน่ารักดี คิดว่าน่าจะเอาให้เด็ก ๆ อ่านน่าจะได้รับความสนใจพอควร คืออ่านได้จนจบไม่วางลงเสียก่อน




ภาค 2 จะเป็นเทศนาธรรมเรื่อง "พรดีสี่คำ ร่ำรวยสุข" โดยพระพยอม กัลยาโณ ซึ่งอันที่จริงแล้ว เนื้อหาในภาค 1 คือการสรุปแล้วเรียบเรียงไปจากภาคสองนั่นเอง ภาค 2 นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอ่านเทศนาที่เป็นภาษาของพระพยอมเอง




ในภาคที่ 3 นั้น เป็นการย้อนรอยเรื่อง "จตุคำ" อีกครั้งหนึ่ง เผื่อว่าหลายคนจะลืมไปแล้ว เหมือนดั่งจตุคามรามเทพซึ่งขณะนี้เป็นกระแสขาลง กล่าวย้อนไปคือ ในช่วงที่ประชาชนหวังเอาวัตถุมงคลจตุคามรามเทพเป็นที่พึ่งนั้น ได้มีการสร้างรุ่นต่าง ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งชื่อรุ่นพ้องไปกับโลภะ และ โมหะ ทั้งนั้น เช่น โคตรรวย หรือ รวยไม่มีเหตุผล ด้วยความที่พระพยอม กัลยาโณ ต้องการเตือนสติประชาชนให้นึกถึงคำสอนในพระพุทธศาสนา จึงได้เปิดตัวขนมคุ๊กกี้ "จตุคำ รุ่นฉุกคิด ๔ คำรวยโคตร!" เมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมช่วงนั้นอย่างมาก ทั้งจากผู้สนับสนุนและต่อต้าน โดยกล่าวหาว่า "จตุคำ" ของพระพยอม เป็นการลบหลู่องค์จตุคามรามเทพ

จตุคำ หรือ 4 คำที่ว่านั้นไม่ใช่ จตุรพิธพร แต่เป็น ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ หรือ ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม 4 ซึ่งแปลว่า ธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ในปัจจุบัน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อว่า คาถาหัวใจเศรษฐี ประกอบด้วย อุ อา กะ สะ ซึ่งเป็นหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน เพียงแต่ไม่ได้เรียกว่าจตุคำมาก่อนหน้านี้เท่านั้น โดย อุ อา กะ สะ มีความหมายดังนี้

อุ มาจาก อุฏฐานสัมปทา คือ ขยันหมั่นเพียร อยู่ในสัมมาอาชีพ พระพยอมให้จำง่าย ๆ ว่า ขยันหา

อา มาจาก อารักขสัมปทา คือ การเก็บรักษา อดออม ให้จำง่าย ๆ ว่า ขยันเก็บ

กะ มาจาก กัลยาณมิตตา คือ การคบหาสมาคมกับคนดี มีคุณธรรม จำง่าย ๆ ว่า เลือกคบ

สะ มาจาก สมชีวิตา คือ ประหยัด พอเพียง สมถะ จำง่าย ๆ ว่า เลือกใช้




"อุ อา กะ สะ" ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้ 4 คำจำไว้ รวยได้รวยดี ซึ่งคาถาแบบนี้ จะเป็นแนวทางการดำเนินขีวิตเพื่อประโยขน์สุข และจะร่ำรวยอย่างมีเหตุผลที่อธิบายที่มาที่ไปของมันได้

คุ๊กกี้ที่ว่านี้ จะปั๊มคำว่า จตุคำไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งปั๊มชื่อพระพยอม ล้อมรอบด้วยคาถา อุ อา กะ สะ

โดยสรุปแล้ว หนังสือ "พรดีสี่คำ ร่ำรวยสุข" นี้เป็นหนังสือที่ดี มีประโยชน์ อ่านง่าย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย อ่านเองก็ได้ อ่านจบเอาใส่ถุงแล้วฝาก "ถุงธรรม" นี้ให้ผู้อื่นต่อก็ดี ส่วนข้าพเจ้าเอง คงจะซื้อฝากสหายความคิดที่แวะมาอ่าน blog นี้ทุกคนไม่ได้ จึงขอแนะนำหนังสือและเล่าเนื้อหาโดยคร่าวแต่เพียงเท่านี้ โดยข้าพเจ้าขอให้สหายหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านต่อเอาเอง แล้วลงมือปฏิบัติตามด้วย เพื่อให้ถึงพร้อมจตุรพิธพร ทั้ง อายุ วรรโณ สุขัง พลัง

สาธุ !



Create Date : 25 กันยายน 2555
Last Update : 25 กันยายน 2555 22:41:44 น. 0 comments
Counter : 1066 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hangclub
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




Friends' blogs
[Add hangclub's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.