Blog.one22.com:รวม รีวิวที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก รีวิวหนัง และเรื่องราวรอบๆที่ภาพและเรื่องราวจะพาคุณๆออกท่องโลกไปด้วยกันครับ
Group Blog
 
All blogs
 
ที่เที่ยว:ฮันนีมูน@ปางอุ๋ง-ปางมะผ้า-ปาย กว่า2,000โค้ง...เมื่อใจหมุนรอบกัน



"พรุ่งนี้เราต้องตื่นกี่โมงกันเหรอ" เสียงของเธอดังขึ้นหลังจากกลับจากเดินถนนคนเดินประตูท่าแพ พร้อมกับข้าวของถุงใหญ่เต็มมือ
ผมได้แต่คิดในใจ นี่ขนาดวันแรกของการฮันนีมูนนะเนี่ย ผมยังบ้าหอบฟางกันขนาดนี้ อีก 6 วันที่เหลือจะเป็นไงหว่า
"พรุ่งนี้รถจะมาส่งแต่เช้าเลย นัดเค้าไว้ 8โมงใช่ไหม เราน่าจะออกกันไม่เกิน นั้นล่ะ"
ผมตอบไปพลางกับพยายามยัดของใหม่ ใส่กระเป๋าใบเก่าที่หิ้วมาจากกรุงเทพฯ

อย่าพึ่งงนะครับเริ่มมาก็ชวนแพ็คของกันแล้ว ตอนนี้คุณๆกำลังตามมาเที่ยวต่อวันที่ 2-3 กับ honeymoon@north ของเราอยู่
2 วันนี้เราจะขึ้นเหนือไปอีก ไปยังที่ๆเราเคยได้เริ่มต้นเที่ยวค้างไว้เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา "แม่ฮ่องสอน ปาย-ปางอุ๋ง"
ผมจำได้ว่าผมเคยรับปากเธอไว้ว่า ''ไว้เรากลับมากันใหม่นะ" คำพูดง่ายๆที่เผลอรับปากเธอไว้5ปีก่อน สมัยยังหนุ่มๆ(เดี๋ยวนี้ก็หนุ่มครับแต่หนุ่ม(ตัว)ใหญ่ขึ้นมากกก)
หนนั้นเราได้ขับรถขึ้นเหนือกันเป็นครั้งแรก เที่ยวกันแบบไม่รู้จักอะไรเลยนอกจากใจที่อยากรู้อยากเห็นโลก สถานที่ๆ เคยมีใครบอกไว้ว่า สวยและโรแมนติกที่สุดแห่งนึงในประเทศไทย

จนถึงวันนี้...วันที่เราได้กลับมาระลึกความหลังกันอีกครั้ง กลับมายังจุดเริ่มต้น ความประทับใจครั้งแรก ของเรากัน

ผมเก็บเกี่ยวภาพมากมายมหาศาลใส่ Galleryไว้ ที่นี่ครับ คุณๆ สามารถดูภาพทุกภาพ ที่ผมบันทึกไว้ทั้งหมดที่นี่ได้เลย
//blog.one22.com/pics/longtrips/honeymoon-in-north-trip/honeymoon_north_day2
ตามเรามาเที่ยวต่อด้วยกันครับ


ตอนแรกอ่านกันได้ที่นี้เช่นกันครับ
//blog.one22.com/archives/category/long_trip/honeymoonnorth/honeymoon_chiangmai_day1



ภาพนี้ถ่ายตอนเดินทางไปพักใหญ่ๆแล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายเจ้าพาหนะคันเก่งของเราเลย
เช้าวันที่2มาถึงหลังจากรับรถจาก Master Car เจ้าประจำที่หลังๆมาใช้บริการตลอด เราได้เจ้าแจ๊สสีขาวใหม่ๆคนนี้ที่จะพาเราเที่ยวเหนือตลอด 6 วันจากนี้
ผมลองเช็คระยะกิโลดูก็ต้องแปลกใจ เพราะหลักกิโลยังอยู่ในหลัก พันต้นๆนี่เองนับว่าโชคดีได้รถใหม่ซะด้วย ขอบคุณนะ master
เก็บของยัดใส่รถเรียบร้อยก็ได้เวลาลา the Smile House Boutique กันแล้ว
หลังจากรถเคลื่อนออกตัวไปช้าๆเราปรึกษากันว่าเช้านี้จะไปหาอะไรใส่ท้องเป็นมื้อเช้าดี "โจ๊กไหมเช้าๆแบบนี้โจ๊กสิดี" เสียงเธอแฝงด้วยอารมณ์แจ่มใสตอบมา
ผมจึงยื่นหนังสือรวมกินเที่ยวอร่อยเชียงใหม่ให้เธอเลือกเอาเลยว่าโจ๊กร้านไหนดี


สุดท้ายก็เลือกโจ๊กต้นพยอม หน้าม.เชียงใหม่ที่เคยมีเพื่อนที่เรียนที่นี่แนะนำไว้
ก่อนโจ๊กจะมาเสริฟได้กินปาท่องโก๊อันใหญ่มากแบบว่าแบ่งกันได้ 2 คนทีเดียวพร้อมนมข้นได้จิ้มกินระหว่างรอ


ไม่ช้าโจ๊กข้นๆขาวๆพร้อมไข่เต็มฟองก็ลำเลียงเสริฟมาให้เรา ไม่ถึง 10นาทีก็เรียบ ร้อยอิ่มกันดีก็ได้เวลาไปกันต่อแล้ว วันนี้เปาหมายเราอยู่ที่อำเภอเล็กๆที่แม่ฮ่องสอน


ก่อนไปปรึกษากันว่าอยากแวะเข้าไปที่หมู่บ้านถวายแถวๆหางดงก่อนเพราะอีกนึงภารกิจที่ตั้งใจไว้ คือ


อยากหาเฟอร์นิเจอร์เอากลับไปบ้านด้วย ไหนๆก็มาถึงแหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ที่น่าจะเยอะที่สุดในภาคเหนือแล้ว
และคุณๆทราบไหมว่าที่กรุงเทพฯเวลาจัดงานเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ อย่างงาน Tiff หรือแม้แต่ BIG ก็ตาม ส่วนใหญ่ 1ในสามของร้านค้าในงานมาจากที่นี่ทั้งนั้นครับ


มื้อกลางวันเราฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวซอยลำดวนร้านดังร้านนึงที่นักท่องเที่ยวแวะมากินกันเสมอ
หลังจากเลือกหาเฟอร์นิเจอร์จนละลานตาไปแล้ว
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี้กันเพลินจนเกือบเที่ยงก็ต้องไปต่อกันแล้วไม่งั้น ถึงค่ำแน่ๆ
ก่อนวิ่งไปยังแม่ฮ่องสอนเราวกกลับมาหาของทานกันในเมือง ด้วยความอยากกินข้าวซอยกัน จึงฝากท้องกันไว้ที่ร้านข้าวซอยลำดวนนั้นเอง และก็ไม่ผิดหวังอร่อยครับ

หลังจากออกมาห่างตัวเมืองเชียงใหม่ได้ซักชั่วโมง ธรรมชาติรอบตัวค่อยๆเปลี่ยนไป ความสวยงามของสีเขียวรอบๆตัว
จนเวลาผ่านไปพักใหญ่คนข้างๆคงเพราะอยากซึมซับกับธรรมชาติรอบๆตัว ถึงนิ่งเงียบไม่ขยับหลับไปขนาดนั้น
ผมปล่อยให้เธอพักก่อน และให้ตัวเราได้รับอากาศดีๆจากข้างทาง หลังปิดแอร์เปิดหน้าต่าง ลมเย็นๆพัดเข้ามาประทะหน้าสูดเอาอากาศโอโซนดีๆเข้าเต็มปอด "โชคดีจริงๆ" ผมรำพึงในใจดังๆอยู่คนเดียว


ผ่านไปอีกชั่วโมงเศษเข้าเขตพันโค้งไปพอควรเธอตื่นแล้วและอยากเป็นคนขับบ้างผมจึงได้เวลาพักและขอซึมซับกับธรรมชาติรอบๆบ้าง หุหุ
หลับไปพักนึง จนใกล้จะรู้สึกตัวว่าหัวเริ่มเหวี่ยงไปๆมาๆจนจำไม่ได้ว่ากี่รอบ เธอก็มาหยุดให้ผมตื่นพอดี พร้อมบอกว่า "ถึงแล้วหนึ่งใน Trade Mark ของปายอยากแวะไหม"


ผมลืมตางัวเงียมองออกนอกหน้าต่างรถ เห็นบ้านสีเหลืองปูนเข้มๆ ตัดกับท้องฟ้าปลูกเด่นอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน มองมาข้าง จึงร้องอ๋อในใจดังๆว่า อ๋อ ร้าน Coffee in love นั้นเอง
"อือ... มาเห็นซักที ที่ใครๆเค้าชอบมาถ่ายรูปกันจังเลย 5 ปีก่อนมันยังไม่มีเล้ย" ผมแอบรำพึงกับตัวเองในใจ

พักรถได้ 10นาทีเราก็มุ่งหน้าเบนซ้ายตามป้ายบอกทางไปแม่ฮ่องสอน
ผ่านปายและเป้าหมายของเราคืนนี้ หลักกิโลบอกไว้ว่า "ปางมะผ้า"
รีบบึ่งกันต่อดีกว่า ไม่อยาก วิ่งนับโค้งตอนมืดๆ
ไม่ถึงชั่วโมงก่อนตะวันจะลับฟ้าเราก็มาถึง "สบป่อง ริวเวอร์ อินน์" ที่พักพิงคืนนี้
เพราะได้อ่านคำแนะนำจาก คุณ KJ ( ต้องขอบคุณมากๆทีเดียวจากรีวิวทำให้ตัดสินใจเลือกที่นี่ ) และภาพถ่ายทั้งหมดทำให้เราตัดสินใจขอพักที่นี้แทนที่สวนอีเดนที่เคยมาพักครั้งที่แล้ว
หลังเก็บข้าวของลงจากรถ พร้อมการต้อนรับอย่างดีจากสบป่อง (สำหรับรีวิวที่ สบป่องริเวอร์อินน์ ขอแยกรีวิวต่างหากตอนหน้านะครับ)
คืนนั้นผมหลับสบายพร้อมกับได้ฟังเสียงน้ำไหลจากลำธารด้านล่างตลอดทั้งคืน เคล้าไปเสียงจักจั่น ร้อง รอบๆจนคนข้างๆเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
เช้าพรุ่งนี้เราต้องตื่นกันแต่เช้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ๆเราอยากมาเป็นที่สุดแห่งนึงของทริบนี้ ปางอุ๋งนั้นเอง หลับก่อนละนะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ปางมะผ้า" เป็นอำเภอที่น่าจะเรียกว่าเป็นอำเภอทางผ่านขนานแท้ เพราะที่นี้มีถนนผ่ากลางแบ่งอำเภอออกเเป็น 2ฝั่ง
คนจะแวะพักเวลาที่มาถึงที่นี่เมื่อค่ำก่อนที่จะเข้าแม่ฮ่องสอน หรือก่อนจะกลับเชียงใหม่ แต่ไม่อยากจะวนหลายร้อยพันโค้งรวดเดียว ปางมะผ้าจึงมักจะเป็นตัวช่วยเสมอ

เมื่อ5ปีก่อนเราเคยมีโอกาสแวะมาพัก เนื่องจากที่ปายตอนนั้นยังมีที่พักน้อยมาก ไม่ฮิตถล่มถลายอย่างที่เห็น ฝรั่งยังเยอะกว่าคนไทยมาก เราหาที่พักไม่ได้จึงขับเลยมาพักที่ปางมะผ้าแทน และเพราะไม่ตั้งใจจึงได้ดั่งใจจริงๆ
วันนั้นเราเลือกพักที่สวนอีเดน รีสอร์ทเล็กๆน่ารักมากมาย
อยู่ที่นั้น 3 วันทุกๆเช้าเราเริ่มท่องเที่ยวแบบถามพี่ๆ ป้าๆ น้าๆ ตลอดข้างทางร่วมถึงพี่ที่รีสอร์ทคือ สิ่งที่วนเวียนตลอด 3วันที่ปางมะผ้า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เช้าวันที่ 3 ของการเดินทางมาถึงเราตอนตี 5 หลังเสียงปลุกดิจิตอลมันดังเข้าสู่โสตประสาทเราทั้งคู่ จนแทบจะเด้งตัวจากเตียงกันเลย
จัดการธุระส่วนตัวเสร็จในสิบนาที เราก็รีบเดินตัวสั่นฝ่าลมหนาว ที่อุณหภูมิ 14 องศาและสายหมอกทึบไปที่รถเพื่อบึ่งออกจากรีสอร์ท
เป้าหมายอยู่ที่หมู่บ้านรวมไทยนั้นเอง เราขับกันออกมาด้วยความเร็วที่ต่ำกว่าที่คิดไว้ เพราะหมอกหนาจนมองอะไรในระยะ 10 เมตรด้านหน้าแทบไม่เห็นเลย


หลังจากต้วมเตี้ยวกันมาเรื่อยใช้เวลาจนถึงปากทางแยกเลี้ยวเข้าหมู่บ้านรวมไทย ก็เกือบ ชั่วโมงได้
จนผมเริ่มเห็นแสงอาทิตย์ร่ำไรแล้ว และคิดได้ว่าสงสัยวันนี้เราอาจจะไปไม่ทันเห็นหมอกสวยๆบนปางอุ๋งแล้ว

เลยขอเธอหยุดรถเพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าและทะลุหญ้าออกมาโชว์โฉมวันใหม่
ภาพทุ่งหญ้าข้างทางโดยมีทิวเขาสลับซ้อนตัวอยู่ไกลๆ ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน
หมอกขาวๆจางๆตัดกับเมฆสีเหลืองออกส้มช่างเป็นภาพที่น่าชื่นใจจริงๆ จนเสียงเธอตะโกนออกมาว่า
"ตกลงจะจอดป้ายนี้เหรอ 55 ไปกันต่อดีไหม"


ไม่ช้าเราก็ขับรถจนถึงป้ายบอกไปหมู่บ้านรักไทยเอาตอน 7 โมงเศษๆ ปางอุ๋งอยู่ถึงก่อนเกือบ5กิโลได้ การมาที่นี่ไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน
ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาใครจะนำรถขึ้นไปเที่ยวบนอ่างเก็บน้ำ ปางอุ๋งจำเป็นต้องขับรถเข้าไปทำเรื่องขอที่ศูนย์ศิลปาชีพในตัวเมือง
เนื่องจากปางอุ๋งได้รับความนิยมมากซะจนมีนักท่องเที่ยวมากันมาก
และถนนทางขึ้นรวมถึงที่จอดรถไม่ได้รองรับปริมาณรถจำนวนมากๆขนาดนั้นได้ จึงต้องงดนำรถขึ้น และไปรับบัตรคิวกัน


สำหรับใครที่อยากขึ้นไปจริงๆตรงด้านล่างก็มีรถบริการโดยเอารถส่วนตัวจอดรถไว้ที่โรงเรียนและใช้บริการรถสองแถวของชาวบ้านนำขึ้นไปแทน


ผมเลยเดินเก็บภาพรอบๆโรงเรียนที่นี่มีสนามบอลที่ใหญ่มากทีเดียว ดูแล้วน่าวิ่งเล่นจริงๆ


หนูน้อยคนนี้แกกำลังเอร็ดอร่อยกับขนมที่อยู่ตรงหน้าพอดีผมขอถ่ายภาพแกเลยหยุดให้ถ่าย
แต่ให้ผมเดาจริงๆเวลาช่วงหน้าหนาวแบบนี้หรือจะว่าไปนับตั้งแต่ปางอุ๋งมีโอกาสต้อนรับนักท่องเทียวมากมายขึ้นทุกปี
เด็กๆคงไม่มีโอกาสได้เตะบอลกันได้ง่ายๆแน่เพราะผู้ใหญ่เอาสนามของแกมาให้นักท่องเที่ยวจอดรถซะหมด


ที่เห็นนี้เป็นวันธรรมดาซึ่งที่วินบอกไว้ว่าถ้าเสาร์อาทิตย์จอดกันเต็มสนามจนล้นออกไปที่ถนนกันเลยทีเดียว
ผมเห็นเด็กๆเค้าวิ่งเล่นกันสนุกสนานราวกับภาพรถยนต์ที่มาจอดที่หน้าสนามฟุตบอลเช้าๆแบบนี้เป็นเรื่องปรกติมากๆสำหรับเด็กๆ


รอกันรอบละ20 นาทีก็ได้ขึ้นไปแล้ว


รอจนครบก็ได้ขึ้นรถกันแล้ว วิวสองข้างทางยิ่งสูงก็ยิ่งสวย ไม่นานรถกระบะก็พาเรามาจนถึงทางเข้าหมู่บ้านรวมไทย

หมู่บ้านชาวเขาที่แสนโด่งดังที่สุดแห่งนึงของไทย เพราะใครที่ไปมาก็ต้องเก็บเรื่องราวประทับใจของตนไปเล่าต่อ ให้ผู้คนอยากขึ้นมาและรวมถึงเราด้วย
เราเดินผ่านโฮมสเตย์แรกๆของที่นี่ที่โด่งดังที่สุด"ลุงปาละโฮมสเตย์" เจ้าของตำนานกาแฟคั่วเองลุงปาละ
เพราะใจตอนนี้ยังแอบหวังจะเห็นสายหมอกเหนือน้ำแม้ความหวังจะลิบหรี่ลงทุกๆก้าวที่เดินเข้าไปใกล้ๆ
เริ่มมีนักท่องเที่ยวที่มาเช้ากว่าเราทยอยเดินกลับลงมาแล้วยิ่งทำให้ผมยิ่งเร่งฝีเท้ามากขึ้น

ระหว่างเดินมุ่งหน้าเข้าไปมากขึ้นเรื่อยๆผมเดาได้ว่าที่หมู่บ้านรวมไทยนี้คงต้อนรับนักท่องเที่ยวมานับไม่ถ้วนแล้วแน่ๆ


เพราะแทบทุกบ้านจะขึ้นป้ายบอกว่าบ้านตัวเองเป็นโฮมสเตย์พร้อมเบอร์ติดต่อทุกหลังหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นร้านขายเสื้อยืด ของที่ระลึก
ที่จะขาดไม่ได้คือ ตู้ไปรษณีย์ และหลักกิโลของชาวบ้านที่สร้างกันขึ้นมาเอง มีกันเกือบทุกหลัง บางหลังก็สร้างใหญ่โตให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพกันสนุกสนาน

และแล้วหลังเดินมาเรื่อยๆภาพที่ผมเคยพบจากในภาพถ่ายเพื่อนๆในห้องบูลฯก็ตาม หรือโปสการ์ดก็ตาม ก็ปราฏฎตรงหน้า ภาพทะเลสาบและต้นสนสามใบก็เผยให้เห็นตรงหน้า


แม้จะผิดหวังที่เราทั้งคู่มาไม่ทัน แต่ภาพตรงหน้าก็ยังสวย...และสวยมากด้วย น้ำที่ใสเป็นกระจกสะท้อนทิวเขาและต้นสน ดูงามถึงแม้ว่าหมอกจะหายไปแทบทั้งหมดแล้วก็ตาม


ผมมองด้วยความเสียดาย เหมือนเธอจะสังเกตุได้ เลยเอามือมากอดคอผมเหมือนจะปลอบว่าไม่เป็นไรหรอก ผมหันไปมองเธอยิ้มให้เหมือนจะพูดว่าอย่างน้อยเราก็มาด้วยกัน อีกอย่างภาพตรงหน้าที่เห็นจะมีหมอกหรือไม่ก็ไม่สำคัญเพราะมันก็สวยมากทีเดียว


ปางอุ๋งวันนี้คนไม่เยอะมากนับว่าเลือกวันมาดี ผมเดินเก็บภาพถ่ายทั้งวิวและเธอไปเรื่อยๆ


สังเกตุรอบๆตัวมีตากล้องเดินถือกล้องสวนกันไปมาหลายกลุ่มบางคนก็มีโอกาสส่งยิ้มให้ ทุกคนมาที่นี้ล้วนมีจุดหมายเดียวกัน


คือเก็บภาพความงามของถานที่จะเพื่อดูเองหรือแบ่งปันให้คนอื่นๆได้ชมอย่างที่ผมตอนนี้ก็กำลังทำอยู่


บางทีผมแอบคิดเล่นๆว่าชาติก่อนๆเราคงเคยรู้จักกัน(ป่านนั้น)ถึงมาเจอกันแบบนี้ได้


ผมเดินกันเข้าไปด้านในเพื่ออยากเก็บภาพสวยๆของต้นสนสามใบ แดดกำลังดีเลยได้เก็บภาพมาหลายมุม

เจอน้องคนนึงกำลังแบกกล้องเดินอยู่คนเดียวเลยได้โอกาสถามไถ่ถึงหมอกยามเช้าว่าหนาตาดีไหม น้องแกส่ายหน้าบอกว่าน้อยมากถ่ายกันแทบไม่ทันมีไม่ถึง 10 นาทีแดดก็ไล่ไปจนหมด สงสัยต้องกลับมานอนใหม่อีกครั้ง ผมเองก็คิดแบบนั้น

โอกาสหน้าต้องมาพักในนี้ถ้าจะดีกว่า เราเดินกันอีกพักใหญ่ก็ได้เวลากลับกันแล้ว


ขากลับใกล้จะเที่ยงแล้ว ดูเวลาก็น่าตกใจนี่เราใช้เวลาอยู่บนนี้นานหลายชั่วโมงทีเดียว


หลังมาถึงที่จอดรถออกมาถึงปากทางจึงตัดสินใจแวะเข้าหมู้บ้านรักไทยด้วยความหิว
และมีใครหลายคนแนะนำให้มาชิมขาหมูหมันโถวที่นี้ให้ได้อีกอย่าง


ติดใจภาพจากหนังเรื่อง happy birthday เลย ต้องแวะกันหน่อย เข้ามาถึงภาพทะเลสาบตรงหน้าก็สวยไม่แพ้บนปางอุ๋ง

ภาพบ้านดินสีส้มตัดกับท้องฟ้าสี่ฟ้าเข้มๆช่างดูมีเสน่ห์จริงๆ คนข้างๆดูจะชอบบ้านดินเป็นพิเศษเลยเข้าไปลูบๆคลำๆใหญ่
ภาพทะเลสาบตรงหน้าในยามสายๆแล้วสวยอย่าบอกใครเราเพลินกับการถ่ายภาพซะจนเกือบลืมหิว สุดท้าย


เข้าไปร้านดังที่สุดของที่นี่ร้านลีไวน์ นั่งปุ๊บสั่งขาหมูทันทีแต่ก็ต้องผิดหวังเนื่องจากหมด
เรามองหน้ากันเหมือนจะรู้ใจเพราะยังอยากกินขาหมูทั้งคู่เลยเดินออกจากร้านไปร้านข้างแทน


ร้านว่างซะจนไม่แน่ใจแต่ยังไงก็มีขาหมูล่ะน่าเลยสั่งมาทาน พออาหารมาปุ๊บก็ต้องบอกกันจริงๆว่าคิดผิดที่ลุกออกมา เพราะอาหารไม่เป็นอย่างที่เราคิด

แต่สิ่งที่ทำให้เราสนใจจริงๆกับเป็น ที่พัก เพราะนอกจากร้านอาหารแล้วยังมีที่พักให้บริการในมุมที่วิวงามเหลือกำลัง


ภาพบ้านพักติดริมน้ำ ดูน่าพักจริงวิวสวยอีกเช่นเคย


ตอนนี้เราเปลี่ยนมือเป็นคนข้างๆมาขับต่อเข้าไปในหมู่บ้าน ศูนย์รวมของหมู่บ้านรักไทยแห่งนี้


ในร้านก็มีรองเท้าเย็บมือของชาวเขาวางขายสีสันไม่แพงใครเช่นกัน


ภาพบ้านดินสีส้มและสีแดง ตู้ไปรษณีย์สีแดงยังมีอยู่ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้ส่งโปสการ์ด โคมไฟสีแดงเข้ม ตัดกับท้ิองฟ้าสีเข้ม


ถ่ายไปจนรู้สึกว่ามีใครจ้องเราอยู่หันกลับไปก็เจอหนูน้อย 2 คนกำลังจ้องเราเขม็งทีเดียว


ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อขอถ่ายรูป เจ้าหนูคนหลังยิ้มได้แล้วแต่คนหน้ายังเฉยและยังจ้องเราเหมือนจะงงกับพฤติกรรมของเราทั้งคู่
ระหว่างที่เธอกำลังเพลินกับการช้อปปิ้งอยู่ผมเลยเดินเข้าไปด้านในร้านรวงรอบๆที่เปิดอยู่ขายสินค้าใกล้ๆกันเป็นส่วนใหญ่

ผมเดินชมไปเรื่อยๆจนเห็นพี่สาวชาวบ้านคนนึงผ่านมาเธออุ้มลูกไว้ในมือ อีกข้างถือร่ม บังแดดให้ลูกของเธอ
แม่ทั้งโลกนี้คงไม่ต่างกันลูกน้อยย่อมสำคัญที่สุดในโลกเสมอ
ระหว่างนั้นเธอเหลือบมามองผมพอดี ผมจึงเดินเข้าไปทักทายและขออนุญาติบันทึกภาพของเธอและลูก เธอหยุดให้ถ่ายและไม่ว่าแต่อย่างใด
ผมจึงได้ภาพนี่กลับมา ปรกติผมเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายภาพคนนัก จะด้วยการรักษาความเป็นส่วนตัว หรืออาจจะเพราะถ่ายไม่เก่งแต่อย่างใด
ภาพๆนี้จึงเป็นภาพพิเศษสำหรับผมทีเดียว


ระหว่างเดินต่อไปอีกก็ได้ภาพนี้กลับมาด้วยความบังเอิญ รุ่นนี้คงหาได้เฉพาะที่นี้เท่านั้นล่ะครับ
และดูท่าจะจอดอยู่ตรงนี้อีกพักใหญ่ๆทีเดียวเพราะพลังงานแถวๆนี้เขียวกำลังดีเชียว


ถ่ายภาพต่ออีกไม่นานก็เดินกลับไปที่รถและออกจากหมู่บ้านรักไทยกันแล้ว
เธอได้ของพวกชากลับมาเห็ฯว่าจะเอาไปฝากที่บ้านส่วนผมได้ความประทับใจเล็กๆติดตัวกลับมาเช่นกัน
การมาสัมผัสปางอุ๋งและหมู่บ้านรักไทยด้วยเวลาน้อยๆย่อมไม่ทำให้เรารู้จักเค้ามากเท่าใดนัก แต่ ทิวทัศน์ของที่นี่พร้อมมิตรภาพดีๆจากรอยยิ้มของเด็กๆมิตรภาพจากเพื่อนๆนักถ่ายภาพที่พบเจอกันก็ช่วยให้เราลืมความวุ่นวายในเมืองกรุงไปได้
สำหรับเราแค่นี้ก็ทำให้ฮันนีมูน 2 วันนี้เติมเต็มสิ่งดีๆให้กับเราทั้งคู่ได้อย่างดี
ตอนนี้ยาวมากแล้วครับ คงต้องขอต่อตอนหน้าอาจจะผิดจากที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะให้จบ2 วันกับ2 สถานที่ดีๆอย่างที่เคยบอกไว้แต่แรกทริบนี้ช้าและคนเล่าเรื่องก็ไม่เร่งรีบซะด้วยตอนหน้า สำหรับปายเมืองแห่งสีสันที่สุดแห่งนึงของเหนือ

แล้วพบกันครับคุณๆทุกคน


Create Date : 22 ธันวาคม 2552
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 19:27:01 น. 13 comments
Counter : 2614 Pageviews.

 
ว้าววววววววววววววววว น่าไปที่สุด ปีหน้าก้อว่าจะไปค่ะ
เด็กๆๆน่ารักจัง


โดย: kwan_3023 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:18:42:16 น.  

 
ปีใหม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนเปล่าคะ
ขอให้มีความสุขนะคะ
ขอให้มีโชคหมดทุกข์โศกโรคภัย
พ้นเคราะห์ที่เลวร้าย พันภัยด้วยเทอญ


โดย: chabori วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:19:03:03 น.  

 
เป็นคนที่ถ่ายภาพด้วยสวยมั่ก ๆ สวยบาดตาบาดใจเหลือกเกิน สวยไม่บันยะบันยัง


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:20:10:55 น.  

 
อ่านเพลินเลยคะ

...


ภาพก็เยี่ยม


ชอบจัง



โดย: Rabbit_Filter วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:20:45:36 น.  

 
อ่านเพลินเลยครับ ถึงแม้ไปมาแล้วก็อยากไปอีกอ่ะ

สวัสดีปีใหม่จ้าา



โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:23:57:05 น.  

 
ปีที่แล้วก็ไปมาครับ บรรยากาศเยี่ยม รูปถ่ายสวยมากครับ


โดย: pipepoy วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:0:16:43 น.  

 
ขอตามไปเที่ยวด้วยคร่า ^^

ถ่ายรูปได้สวยมาก ๆ


โดย: phety talon วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:10:05:32 น.  

 
ภาพสวยมากๆครับ เห็นแค่รูปก็เหมือนได้ไปเที่ยวเองแล้วครับ


โดย: NET-MANIA วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:13:29:07 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

ดูแค่ภาพก็อิ่มแล้วค่ะ สวยจริง ๆ


โดย: nokkatua วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:19:59:11 น.  

 
ภาพก็สวย คนบรรยายก็บรรยายได้เยี่ยมเลยค่ะ...
ขอให้รักกันมากๆ ลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมืองนะคะ...


โดย: noinanai วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:18:17:11 น.  

 
อยากได้ชื่อผู้เขียนอ่ะ
พอดีว่าจะเอาไปทำรายงานอ่ะค๊ะ

ขอได้มั๊ยค่ะ
please!


โดย: ผู้อ่านนน IP: 192.168.1.183, 222.123.171.32 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:20:52:16 น.  

 
ภาพสวยจังค่ะ ไปมาแล้วเหมือนกัน สนุกมากๆๆ


โดย: LeeDeidah วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:20:54:02 น.  

 
ถ่ายรูปได้สวยมาก
เหนือคำบรรยาย


โดย: ืNOOJIN IP: 118.172.149.37 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:10:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

1twenty2
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add 1twenty2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.