All Blog
|
[Fav] Favorites August 2013 ลูกรักประจำเดือนส.ค. (Live in Osaka Ver.) สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับ Favorites อีกแล้ว :D โดย Favorites ของเดือนส.ค.นี้จะพิเศษกว่าเดือนก่อนนิดนึง เพราะเกือบตลอดเดือนสิงหาที่ผ่านมา ออยล์ได้มีโอกาสไปเรียน Summer Course ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น (อยู่ 24 วันค่ะ) ซึ่งสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมต่างๆของเค้าก็ต่างจากประเทศไทยเนอะ (ซัมเมอร์ที่โน่นร้อนมากอยากจะบอก ร้อนกว่าประเทศไทยอีก งานนี้ดำขึ้นเต็มที่ T_T;; ) เพราะฉะนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ญี่ปุ่นกับไทยอาจจะได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกันนะคะ ดังนั้นขอตั้งชื่อ Favorites นี้เป็น "ลูกรักประจำเดือนส.ค. (Live in Osaka Ver.)" ละกัน 555 ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ลูกรักก็เป็นอะไรที่ซื้อใช้ที่โน่นแล้วชอบนะคะ มีแค่บางชิ้นเท่านั้นที่หิ้วไปจากไทยแล้วปิ๊งๆเป็นลูกรัก :) เริ่มจากตัวแรกค่ะ เป็นรองพื้นของ Candy Doll ตัวนี้ซื้อที่โน่นค่ะ ซื้อตามพี่โมเม(พาเพลิน)เลย เป็นรองพื้นที่เนื้อค่อนข้องข้นเหมือนกันนะ แต่แรกนึกว่าเนื้อจะเหลวกว่านี้ มีทั้งหมด 3 เฉดสีให้เลือก ซื้อเราซื้อเบอร์ 1 มาค่ะ แม้ว่าจะเป็นเบอร์ที่สีสว่างสุดแล้ว แต่นางก็ยังแอบเข้มกว่าสีผิวเรานิดนึง (ประมาณ 1 เฉดได้) (ไปญี่ปุ่นรอบนี้ทำให้ค้นพบว่ารองพื้น+แป้งของญี่ปุ่น ไม่ใช้จะขาวเสมอไปนะคะ แล้วแต่ทางแบรนด์ที่เค้าผลิตออกมา ซึ่งแบรนด์ Candy Doll เป็นแบรนด์วัยรุ่นด้วย สีรองพื้นเลยไม่ขาวมาก เพราะวัยรุ่นญี่ปุ่นบางคนเค้าก็นิยมผิวแทนกันนะ) ซึ่งซื้อมาใช้ตอนแรกเลยไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร แต่พออยู่ๆโอซาก้าไปนานๆ อิชั้นดำขึ้นค่ะ -_-;; นางเลยพอกับผิวชั้นเลยที่นี้ พอดีเลยได้นางช่วยชีวิต เพราะรองพื้นที่เอาไปกลายเป็นใช้ไม่ได้ ฮ่าๆ <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: ถึงแม้นางจะสีเข้มกว่าผิวเรา แต่ก็ไม่ได้เข้มกว่ามากค่ะ อย่างที่บอกว่าเราไปโอซาก้าแล้วดำขึ้น บวกกับการลงนางแค่บางๆ ทำให้นางพอดีกับสีผิวเราเลย ปกปิดพอประมาณนะ สามารถทาหลายชั้นเพื่อเพิ่มการปกปิดได้ แพ็คเกจจิ้งน่ารัก เล็กๆ กะทัดรัด พกพาได้โดยไม่กลัวขวดแตกค่ะ :) ตัวต่อไป ซื้อตามเพราะคนแนะนำอีกแล้ว ดูรีวิวคุณปลาดิบแล้วอยากซื้อมาลองใช้บ้างค่ะ ฮ่าๆ จริงๆตอนแรกลังเลนะ ว่าจะซื้อนางมาใช้ดีมัีย เพราะเราเป็นคนใต้ตาดำมากๆ ดำระดับสิบเลยทีเดียว! ลองเล่นกับนางที่ร้านขายยาก็เห็นว่าเนื้อผลิตภัณฑ์มันสีออกเหลืองมากๆ (คือสีเหลืองเหมือนขนมเลยในความคิดของเรา ฮ่าๆ) ซึ่งปกติเราใช้ corrector ของ Bobbi Brown ที่สีออกไปทางแซลมอนอะค่ะ พอมาเห็นเจ้าตัวนี้เลยนึกไม่ค่อยออกว่าสีเหลืองขนาดนี้ จะมาชุบชีวิตแพนด้าเรายังไง แต่เอาวะ! ไหนๆไปญี่ปุ่นแล้ว ที่ไทยก็ไม่มีขาย เลยลองซื้อมาใช้ดู <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: ปรากฏว่าคิดถูกค่ะที่ซื้อมาใช้ ใช้ดีอยู่นะ ถึงแม้จะไม่ได้ปกปิดขนาดทำให้แพนด้าเราหายไปในทีเดียว แต่ก็พอใช้นางทำหน้าที่เป็น corrector ได้เลย ที่ชอบจริงๆคือนางเนื้อบางมากค่ะ คือทาแล้วแพนด้าหายโดยไม่ให้ความรู้ว่ามีอะไรโบกไว้ใต้ตาเลย ทาแล้วดูเนียน เราว่าเจ้าตัวนี้ ถ้าใครไม่ได้มีปัญหาแพนด้าหนักหน่วงเหมือนเรานะ ใช้ทาเดียวๆ แอ๊บผู้ชายว่าไม่ได้แต่งหน้าได้เลยแหละ อิอิ :D ลงรองพื้น ลงคอนซีลเลอร์กันมาแล้ว มาที่แป้งกันบาง เป็นแป้งฝุ่นของ THREE ค่ะ เราซื้อที่ญี่ปุ่นอีกเช่นกัน รุ่นนี้มี 2 เบอร์นะคะ คือ Translucent 1 กับ 2 ซึ่งเอาจริงๆ 2 เบอร์นี้ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนะ เราใช้ได้ทั้ง 2 เบอร์แหละค่ะ (แต่ก็คว้าเบอร์ 2 มาแบบงงๆ ฮ่าๆ) <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: ชอบที่นางให้ลุคธรรมชาติดีค่ะ คือไม่ matte (ขนาดแป้ง Laura Mercier) และไม่ได้ดู dewey (ขนาดสาวเกาหลี) จนเกินไป เหมือนเป็นกลางๆระหว่าง 2 ลุคนี้ พัฟที่ให้มาก็ใช้ดี พัฟนิ่มดีค่ะ แพ็คเกจจิ้งเรียบ สวยดูดี ชอบค่ะ :) สิ่งต่อไป เป็นสิ่งที่เราหิ้วไปใช้จากไทยค่ะ พอดีเห็นสาวๆญี่ปุ่นเค้ามักนิยมแต่งตาเบาๆ ให้พอดูวิ้งๆ วาวๆ ให้ตาดูเป็นประกายแค่นั้น เลยหิ้วนางไปโอซาก้าด้วย ปรากฏเลยได้ใช้นางบ่อยเลย ใช้เป็น everyday look ตอนอยู่ที่โน่นเลยทีเดียว :) <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: ชอบสีของนางค่ะ คือนางเป็นสีเหลือบๆ จะชมพูก็ไม่เชิง จะทองก็ไม่ใช่ สามารถใช้เป็นเบสก่อนลงอายแชร์โดว์สีอื่นๆได้ด้วย เพราะสีนางไม่ได้เข้มจนทำให้ อายแชร์โดว์อื่นสีเพี้ยน สามารถให้ลุคหวานๆ หรูๆ และดูคุณหนูได้ในเวลาเดียวกันค่ะ ^^ อันนี้ที่ไทยก็ขายนะคะ หาซื้อง่ายด้วย แต่เราไปซื้อเพิ่มที่โน่นเพราะอยากได้อายแชร์โดว์ที่เพิ่ม ความโดดเด่นให้ดวงตาเวลาถ่ายรูป สืบเนื่องมาจากเราเคยไปเล่นๆจับๆนางที่วัตสันหลายครั้งแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อ พอไปที่โอซาก้าเราเอาอายแชร์โดว์ไปน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นสีธรรมชาติสีน้ำตาล พอบางวันที่ต้องไปเที่ยวเยอะๆ ถ่ายรูปเยอะๆ เราก็อยากได้อายแชร์โดว์วิ้งๆบ้าง ก็เลยจัดนางมาซะเลย ออกแนวซื้อปุ๊บใช้งานปั๊บเลยทีเดียว ฮ่าๆ <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: ชอบเพราะความวิ้งกับเนื้อผลิตภัณฑ์ค่ะ คือนางวิ้งกระจายยยยยยมาก! ทาที่นี้เล่นกับแสงได้สวยเลย ชื่อรุ่นเค้าบอกเป็นเนื้อเจลลี่ก็จริง แต่พอใช้เราว่านางให้อารมณ์ประมาณ pigment ในรูปแบบตลับมากกว่านะ ซึ่งใช้สะดวกดีค่ะ ไม่มีการฟุ้งกระจายให้เลอะเทอะเหมือน pigment ผงในขวด ยังไม่จบกับการแต่งตาค่ะ มาที่อายไลเนอร์กันบ้าง อายไลเนอร์ของ Dolly Wink เป็นที่เลื่องลือกันมานานแล้วว่าใช้ดี เราเลยสอยสีดำมาใช้ก่อนค่ะตอนแรก ปรากฎว่าลองใช้ไป 2-3 วัน นางใช้ดีมากกกกก เลยจัดสีขาวและสีดำซ้ำมาอีกอย่างละแท่ง <3 <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: เหตุที่ชอบเพราะนางเป็นอายไลเนอร์ดินสอ ที่เวลาเลอะว่าเลือน แล้วไม่น่าเกลียดค่ะ โดยปกติเรามักจะเจออายไลเนอร์ที่เวลาไหลเวลาเลอะที่นี่ดูไม่ได้เลย ไหลประดุจชั้นไปร้องไห้ทะเลอะกับแฟนไรงี่ (ซึ่งจริงๆไม่ใช่ ชั้นแค่ไลเนอร์ไหลไรงี่ _ _") แต่อายไลเนอร์ของ Dolly Wink ไม่เป็นค่ะ คือนางจะอารมณ์ประมาณแค่แบบจางๆ นางแค่จางหายไป ทิ้งความไม่ชัดของสีไลเนอร์เท่านั้น ซึ่งมันดีตรงที่ไม่ต้องเช็ดออกก็เติมไลเนอร์ทับได้เลย (ปล. ผลลัพธ์นี้คือเราได้ตอนที่อยู่โอซาก้านะคะ ไม่รู้ว่ากลับมาไทยใช้แล้วจะให้่ผลลัพธ์เหมือนกันรึป่าว) ส่วนสีขาวก็ สีสวย คือขาวกำลังดี พอให้ออกเป็นสีครีมๆ เราว่าใช้แอ๊บให้ดูตาโตได้เหมือนจริงกว่าสีขาวนะ อิอิ ทั้งสองสี เนื้อนิ่มเขียนง่ายทั้งคู่ค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเขียนแล้วจะเจ็บตาเลย เราไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่โอซาก้านี้ก็ไม่ได้ไปแค่นักศึกษาไทยเท่านั้นนะคะ มีนักศึกษาเกาหลีมาร่วมเรียนด้วย ซึ่งเจอกันเกือบทุกวัน ก็พอจะรู้ว่าที่เกาหลีลิปสีส้มน่าจะมาแรงนะ เพราะเห็นสาวเกาหลีเกือบทุกนางปากสีสมกันเกือบทุกวันเลยค่ะ ไอ้เราก็เห็นทุกวันอะเนอะ บวกกับไปที่โน่นไม่ได้หิ้วเอาลิปที่ส้มไปเลย เลยเป็นภาระให้ตัวเองต้องไปสอยลิปสีส้มที่ญี่ปุ่นตามระเบียบ ฮ่าๆ <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: ลิปสติกรุ่นนี้เป็นเนื้อ sheer ค่ะ ทาแล้วจะได้ลุควาวๆ ดูเป็นธรรมชาติหน่อย มีหลายสีให้เลือก (มีสีเยอะมาก ตอนไปยืนเลือก เลือกแบบงงๆเลยทีเดียว) ให้ความชุ่มชื่นได้ดีมากกก เราเป็นคนปากแห้งง่ายมาก แต่ทาลิปรุ่นนี้แล้วไม่เป็นเลย ไม่ทำให้ปากแห้งขึ้น ออยล์ว่ารุ่นนี้เหมาะกับสาวปากแห้งง่ายเลยแหละ สีก็สวยดีค่ะ ชอบๆ >_< แต่งหน้ากันมาครบเครื่อง มาที่ตัวทำความสะอาดกันบ้าง ที่ล้างมาสคาร่าค่ะ เป็นอีกสิ่งที่ซื้อตามคุณนายปลาดิบอีกแล้ว ฮ่าๆ ซึ่งใช้ดีจริงอะไรจริงนะ เราซื้อกลับมาไทย 3 แท่งเลยทีเดียว <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: หัวแปรงเค้าคล้ายหัวแปรงหวีของ Majolica เลย ทำให้น้ำยาล้างติดทั่วทุกเส้นขนตา เวลาใช้ก็ปัดแล้วไปนั่งเล่นมือถือสักแป๊บ ก็ล้างมาสคาร่าญี่ปุ่นที่เทพๆล้างออกยากได้อย่างสบาย (เราใช้ล้างมาสคาร่าของ Majolica ค่ะ ล้างออกง่ายสบายมาก) ซึ่งพอใช้นางแล้วนอกจากไม่เปลืองสำลี ไม่ต้องมานั่งถูๆขยี้ๆ นางยังช่วยเซฟชีวิตขนตาเราได้เยอะเลยค่ะ :D (ปกติล้างมาสคาร่าทนๆที่ไร ขนตาหลุดออกมาด้วยทุกที T^T) ชิ้นสุดท้ายแล้วค่ะ รู้สึกพักนี้กระแสนางมาแรงนะ เห็นเว็บหิ้ว เห็นรีวิวนางเริ่มผุดเป็นดอกเห็ด เราเลยจัดนางมากค่ะ! (จัดมาตลอดอะ อะไรที่เค้าว่าใช้ดีกัน 5555) <3 เหตุที่เป็นลูกรัก: เป็นแปรงลงรองพื้นที่ราคาไม่แพง แต่ใช้การได้ดีเลยค่ะ (ด้ามนึงราคา 1,800 เยน - ประมาณ 580 บาท) ขนแปรงนิ่ม แน่น ขนาดเล็กพกพาได้ เราใช้คู่กับรองพื้นของ Candy Doll (ด้านบน) ก็ใช้ได้ดีเลยนะคะ ทำให้เกลี่ยรองพื้นได้ง่ายขึ้น และด้วยความที่นางค่อนข้างเล็ก เลยสามารถเกลี่ยรองพื้นตามมุมเล็กอย่างตรงปีกจมูกได้ง่ายค่ะ :) จบแล้วค่ะสำหรับ "ลูกรักประจำเดือนส.ค. (Live in Osaka Ver.)" ถึงแม้ว่าสภาพอากาศที่ญี่ปุ่นกับไทยจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ของบางอย่างก็น่าจะให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันอยู่เนอะ เช่น ที่ล้างมาสคาร่ากับแปรงลงรองพื้น ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่สาวๆไม่มาก็น้อยนะคะ :) จริงๆแล้ว ออยล์ว่าจะทำขี้เห่อของที่ไปช้อปที่โอซาก้าก่อน แล้วค่อยทำ Favorites นะ แต่ไปๆมาๆทำไม่ทัน เพราะของที่ซื้อเยอะมาก เลยมาปล่อย Favorites ก่อน ฮ่าๆ ยังไงก็รอติดตามชมเปิดถุงช้อปปิ้งที่โอซาก้าได้นะคะ :D วันนี้ขอล่าไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย :)) |
OilPiAN
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
|
ถึงจะไม่ได้ช้อปตาม แต่แค่อ่านก็สนุกแล้วค่ะ^^