Group Blog
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
All Blog
[Haul & Mini Review] 131120 เปิดถุงช้อป OSAKA SUMMER 2013 (Part 1 - Cosmetics)




สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอเห่อสิ่งที่ดองงงงงเอาไว้นานมาก!
เป็นการเปิดถุงช้อปปิ้งที่ออยล์ไปโอซาก้าเมื่อตอนเดือนส.ค.นั้นเอง (ดองไว้นานจริงๆ _ _")
ตอนแรกแอบลังเลนะว่าจะอัพดีมั๊ย เพราะดองนานเกิ๊นน แต่ด้วยความเสียดาย
ที่เราถ่ายรูปเก็บไว้ตั้งนานแล้ว (แต่ไม่มีเวลาอัพ) เลยมาอัพซะหน่อยละกัน
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่ตั้งใจจะไปช้อปปิ้งเครื่องสำอางค์ที่ญี่ปุ่นนะคะ :)







ก่อนอื่นเลยก่อนเริ่มเห่อ ขอบอกว่าทุกสิ่งที่ซื้อมา ไม่ได้บ้าพลังซื้อในวันเดียวนะจ้ะ
ออยล์ไปเรียนซัมเมอร์ที่โอซาก้า อยู่ที่นั้น 3 สัปดาห์นิดๆ (24 วัน)
ก็ทยอยช้อปทยอยซื้อตามแต่สถานที่จะแวะจะเที่ยวไป วันละชิ้น สองชิ้นตามสะดวก
(ยกเว้นครั้งแรกที่ไปร้านขายยาญี่ปุ่นนะ สติแตกสอยมาหลายชิ้นอยู่ 555)

สำหรับการเห่อครั้งนี้เราขออนุญาตแบ่งไปเป็น 3 พาร์ทใหญ่ๆนะคะ
เพราะถ้าเอาทุกสิ่งที่ซื้อมา มาเห่อที่เดียว ออยล์ตายแน่ ยาวเกินไปชัวร์ (_ _")
(และขอนำแต่สิ่งที่เป็นของตัวเองมาเห่อ ขอฝากของคนอื่นไม่ร่วมในเห่อครั้งนี้จ้า ^^)
โดยพาร์ทแรกจะเป็นบรรดาเครื่องสำอางค์นะคะ ทั้งที่ซื้อในร้านขาย (เป็นส่วนใหญ่)
และที่ซื้อในห้างสรรพสินค้า (รู้สึกจะมีชิ้นเดียว 5555) แล้วก็บรรดาของแถมด้วย

(*หมายเหตุ* - ราคาที่เราแจ้งไว้เป็นราคาที่ได้เอามาจากหลังแพ็กเกจจิ้งบ้าง เสิร์ชหาใน Google บ้าง
เพราะฉะนั้นหากราคาไม่ตรงกับราคาจริง ก็ขออภัยด้วยนะคะ (แต่คิดว่าค่อนข้างใกล้เคียงจ้า)
ส่วนเรทเงินที่เราแลกไปคือ 0.32 ค่ะ เวลาคำนวณก็เอา 0.32 คูณราคาเยนจ้า
(แอบแพงนะเราว่า เพื่อนเราบ้างคนไปแลกที่สนามบินวันไปได้ถูกกว่านี้ T_T))


เริ่มต้นด้วยสกินแคร์ก่อนเลยแล้วกันเนอะ

1) Tofu Moritaya Mask
ราคา: 1,575 เยน ( ≈ 500 บาท)
หนึ่งในสกินแคร์ที่เชื่อว่าสาวๆที่ไปญี่ปุ่น ต้องไปตามล่าสอยมาแน่นอน
เพราะรีวิวนางเยอะมาก และมีแต่คนบอกว่าใช้ดี แล้วเราจะช้าอยู่ใย สอยมาอย่างงามๆ
Mini-Review: ลองใช้เรียบร้อย บอกตรงๆว่า ก็ใช้ดีแบบเฉยๆ (งงมั๊ยคืออะไร? ฮ่าๆ)
คือมันก็ดีนะ คือเนื้อมาร์กมันเนื้อเนียนนุ่มดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
เวลามาร์คก็ไม่ต้องใช้เวลานาน (ประมาณ 10 นาที) มาร์คเสร็จก็หน้านุ่มดี
แต่ด้วยความที่โดยปกติเราเป็นคนไม่ได้ขยันมาร์กหน้าเท่าไหร่ (คือนานๆทำทีจริงๆ)
เลยไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงแบบระยะยาวเท่าไหร่
พูดตรงๆเลยว่าชอบพวกมาร์กชีทมากกว่า (โดยเฉพาะของ Beauty Diary นี้ชอบมากกกก)
เพราะรู้สึกให้ความชุ่มชื่นได้ดีกว่า เวลามาร์กตอนกลางคืนแล้วตื่นนอนมา ยังรู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื่น

2) BIORE Cleansing Oil (230 ml)
ราคา:  980 เยน ( ≈ 300 บาท)
ตัวนี้เป็นสิ่งที่ออยล์ชอบและใช้อยู่ตั้งแต่อยู่ที่ไทยค่ะ อยู่ที่ไทยก็ซื้อใช้ตลอด
เลยซื้อนางมาตุน เพราะ Biore ที่ญี่ปุ่นถูกมากค่ะ ประมาณเกือบครึ่งของไทย
แถมเจอโปร 1 แถม 1 และนางขวดใหญ่กว่าที่ขายที่ไทยด้วย! (จะถูกไปไหน!?)
จัดมาเลย! 2 ขวด (จริงๆอยากซื้อมากกว่านี้นะ แต่กลัวน้ำหนักเกิน เลยขอ 2 ขวดแบบเบาๆ ฮ่าๆ)
(*หมายเหตุ* - ที่ญี่ปุ่นมี 2 ไซด์นะคะ ขวกเล็ก (150 ml) กับขวดใหญ่ (230 ml)
ส่วนที่ไทยมีไซด์เดียวจ้าคือแบบขวดเล็ก ^^)
 Mini-Review: ชอบที่นางล้างเครื่องสำอางค์ได้สะอาดหมดจดค่ะ โดยที่ใช้เวลาไม่นาน
รองพื้นแน่นขนาดไหนก็หลุดหมดไม่เหลือคราบ มีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย
หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง เลิฟสุดๆ (ปล. มีข้อเสียนิดนึงคือไม่ค่อยเหมาะแก่การล้าง eye makeup
+ ถ้าเทียบกับเคาท์เตอร์แบรนด์คือนางใช้ปริมาณเยอะหน่อยในการล้าง
แต่ก็โอเคนะ เพราะนางราคาถูกกว่า)

3) SHISEIDO Perfect Whip Foam
ราคา: 398 เยน ( ≈ 125 บาท)
เป็นสิ่งที่ไม่ได้ว่างแผนว่าจะซื้อเลยนะ แม้ว่ากระแสความดังของนางจะแรงก็ตาม
เพราะเรื่องของเรื่องเราใช้โฟมล้างหน้าแบบ whip foam ของ SANA อยู่ค่ะ
ทำให้เราไม่ค่อยอยากเปลี่ยนใจ หรือทดลองใช้ Perfect Whip Foam เท่าไหร่
แต่ด้วยความที่วันกลับ เงินเหลือค่ะ และไม่อยากแลกกลับที่ไทย
ก็เลยซื้อนางมาขำๆ กะลองใช้เล่นๆ และเผื่อได้ทำรีวิวเปรียบเทียบกับของ SANA
Mini-Review: ปราฏว่า นางใช้ดีเหมือนกันแหะ! ถึงแม้ความรู้สึกหลังการใช้
จะไม่ได้ดีเท่า SANA แต่ความแน่นของ whip foam นี่ใช้ดีเลย
(ส่วนตัวคิดว่าแน่นกว่าของ SANA อีก) เรียกได้ว่าเป็นตัวตายตัวแทนได้เลย



มาต่อที่ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางค์เช่นเดิม แต่คราวนี้เป็นการล้าง eye makeup บางค่ะ

4) PRIVACY Mascara Remover
ราคา: 892 เยน ( ≈ 280 บาท)
เจ้าตัวนี้บอกได้เลยค่ะว่า ซื้อตามคุณนายปลาดิบ ฮ่าๆ
เห็นคุณนายบอกว่าใช้ดี เราเลยลองสอยมาลองบาง เพราะออยล์ก็เป็นคนนึง
ที่แอบรำคาญเวลาล้างมาสคาร่าญี่ปุ่น (นางจะล้างยากไปไหน!?) (แต่ก็ใช้เพราะนางกันน้ำดี 555)
และที่สำคัญที่ทำให้ตัดสินใจคว้านางมาอย่างง่ายดาย คือ ป้าย Cosme ค่ะ
นางติดโพลอันดับสองในปี 2011 ด้วยนิ :D
(*Cosme เป็นเว็บรีวิวเครื่องสำอางค์ของญี่ปุ่น
ที่เปิดโหวตให้สาวๆมาโหวตว่าเครื่องสำอางค์ตัวไหนใช้ดีบ้าง
ตอนนี้เว็บ Cosme ก็มีที่ไทยแล้วนะคะ ก็อารมณ์คล้ายๆกัน :))



Mini-Review: ใช้ดีมากค่ะ! พูดเลย! คิดไม่ผิดที่ซื้อนางมาใช้
เพราะนางทำให้ชีวิตการล้างมาสคาร่าของเราง่ายขึ้นมากกกกกกก
จากเมื่อก่อน ใช้ Baby Oil ล้าง ทั้งเช็ดทั้งถู จนกินขนตาไปหลายเส้น T_T
ตอนนี้ไม่ประสบปัญหานั้นแล้วค่ะ นางช่วยชีวิตขนตาของดิชั้นมากกกก
แนะนำให้ใช้นางปัดก่อน ทิ้งไว้สักไม่กี่วินาที (แค่ 20-30 วิก็ได้) แล้วเช็คออกด้วย Baby Oil
มาสคาร่าหลุดเกือบหมดเลยค่ะ มาสคาร่า Majolica / Fairy Drips ที่ว่าทนๆล้างยาก
นางก็ล้างออกค่ะ ใช้ดีมากตัวนี้ เราซื้อมา 3 แท่งเลยทีเดียว (อีกแท่งยกให้แม้ไปแล้ว ^^)



5) SHISEIDO Water in Lip - Hokkaido Super Moisture Keep
6) SHISEIDO Water in Lip - Sakura
ราคา: 398 เยน ( ≈ 125 บาท)
เจอแทบทุกที เจอแทบทุกวัน แม้แต่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 / Family Mart ยังมี
ลิปมันของ Shiseido นั้นเองค่ะ ที่โน่นมีหลายสูตรมากกก (เกือบ 10 สูตรได้)
ลิปมัน Burt's Bees เราใกล้หมดพอดี + เห็นมันดูน่าใช้ดี เลยสอยมาลอง 2 สูตร
Mini-Review: สูตร Sakura เราลองใช้แล้วนะคะ ส่วนตัวเราว่าเฉยๆนะ
คือก็เหมือนลิปธรรมดา ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นดีมากเท่าไหร่ (เราว่า Burt's Bees ดีกว่าค่ะ
แต่ก็นะ ราคาก็แพงกว่าด้วย ส่วนเจ้าสูตร Hokkaido Super Moisture Keep
เรายังไม่ได้ลองใช้นะคะ ก็ว่าให้สูตร Sakura ใช้หมดก่อนด้วยค่อยแกะใช้
ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ดีมั๊ย แต่หวังว่าจะให้ความชุ่มชื่นได้มากกว่า เพราะดูจากหน้าตา
เหมือนเป็นสูตรสำหรับหน้าหนาวอะไรประมาณนี้

7) MAYBELLINE Baby Skin Pore Eraser
ราคา: 1,260 เยน ( ≈ 400 บาท)
เจ้าตัวนี้เป็นไพรเมอร์จาก Maybelline ค่ะ
(เจ้าตัวนี้ไม่มีขายที่ไทยนะคะ + ไม่แน่ใจด้วยว่ามีขายเฉพาะปท.ญี่ปุ่นรึป่าว)
พอดีแอบเห็นในบอร์ดพันธิปก่อนไปโอซาก้า งานนี้เลยไปตามล่าหานาง
เพราะนางดูน่าใช้ และแพ็คเกจจิ้งสีสวยน่ารักมากกก (ชอบสีหลอดมากบ่องตง XD)
Mini-Review: ดีใจมากที่สอยนางมาได้ เพราะนางใช้ดีค่ะ เป็นอีกนึงของดีราคาไม่แพง
ที่อยากแนะนำให้สาวๆซื้อถ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อซิลิโคลค่ะ
ใสไม่มีสี ชอบเพราะนางสามารถแก้ปัญหารองพื้นตกร่อง (บริเวณหนวดแมว) ของเราได้
ก่อนหน้านี้เคยใช้ไพรเมอร์ตัวอื่นก็แก้ไม่ได้นะ แต่นางใช้ได้แหะ เริ่ด!



8) CANDY DOLL Liquid Foundation #01
ราคา: 2,310 เยน ( ≈ 740 บาท)
มีขายในไทยนะจ้ะ แต่ก็อุตส่าห์หอบหิ้วกลับมา เพราะราคาถูกกว่า (ที่ไทยขาย 1,190 บาทจ้า)


Mini-Review: ใช้แล้วชอบนะ ถึงแม้ว่าปัจจุบันนางจะสีเข้มกว่าผิวเราไปนิดนึง
แต่ตอนอยู่โอซาก้า ได้นางช่วยชีวิตไว้ค่ะ เพราะเราไปอยู่ที่โน่นแล้วดำขึ้น! (T_T)
ชอบที่สามารถลงได้บางๆ หรือบิ้วท์ให้หนาขึ้นได้ (light - medium)
ให้ลุคงานผิวได้ดีมาก ดูหน้าเนียน ขวดเล็ก เป็นพลาสติก พกพาสะดวกไม่กลัวแตก :)



ต่อจากรองพื้นก็มาที่คอนซีลเลอร์กันมาบางคะ แพ็คเกจจิ้งเป็นน้องหมีทั้งคู่เลย ^_^

9) SANA Make Essence Concealer
ราคา: 950 เยน ( ≈ 300 บาท)
แอบดังอยู่เบาๆนะสำหรับคอนซีลเลอร์ตัวนี้ เห็นคนรีวิวมานานแหละ
ตอนแรกแอบไม่กล้าซื้อมาใช้เลย เพราะไปลองเล่นผลิตภัณฑ์ที่ร้านขายยา
นางสีเหลืองมากกก อารมณ์ประมาณซาลาเปาไส้ครีมเลยทีเดียว (จะเปรียบกับของกินทำไม?)
ตอนนั้นคิดเลยแบบ จะเหลืองไปไหน? เหลืองขนาดนี้จะใช้การได้มั๊ย?
จะปิดแพนด้าระดับสิบของเราอยู่รึป่าว? คิดไปคิดมาหลายวันตอนที่อยู่โอซาก้า
แต่สุดท้ายด้วยความที่อยากได้ อยากลอง และไหนๆก็อยู่ญี่ปุ่น
เอานะ! ซื้อๆไปเถอะ เพราะที่ไทยไม่มีขายนะ
Mini-Review: ปรากฏว่า นางใช้ดีเหมาะกันนะ! ถึงจะไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่
เพราะแพนด้าเราดำคล้ำระดับสิบมาก ใช้นางเดียวๆปิดไม่ได้ แต่นางก็เป็นคอลเลคเตอร์ใต้ตา
ที่โอเคเลยทีเดียว ใครที่ใต้ตาไม่ได้คล้ำอะไรมาก เราว่าใช้นางเดี่ยวๆนี่เวิร์คเลย
เพราะนางเนื้อเนียน คือลงแล้วเนียนไปกับผิวเลย ใช้แอ๊บปิดใต้ตาได้ธรรมชาติมาก

10) OKUMA Concealer #3
ราคา: 998 เยน ( ≈ 320 บาท)
เดียวนี้อินเตอร์เน็ตช่างกว้างไกลและสะดวกสบาย เราอยู่โรงแรมที่โอซาก้า
เปิดดูบอร์ดจีบันเพลินๆ เจอคนรีวิวคอนซีลเลอร์ตัวนี้ค่ะ เค้าบอกว่าใช้ดี
(อีกแล้ว อะไรใครบอกใช้ดีเราสนหมด 5555) จำได้ว่าเจ้าของรีวิวบอกนางไม่มีขายที่ไทยนะ
ณ จุดนั้นอยู่โอซาก้าจะรออะไร ไปตามล่าหาซื้อเลยค่ะ
ปรากฏไปเจอนางขายที่อยู่ที่ร้านขายยาใกล้โรงแรมที่เราพักเลย
Mini-Review: เป็นอีกนึงสิ่งที่ช่วยชีวิตเราเพราะผิวสีเปลี่ยน (ดำขึ้น T_T) ตอนอยู่ที่โอซาก้า
เพราะนางสีค่อนข้างเข้มเลย เราใช้สีเบอร์ 3 ก็จริงนะ แต่ว่านางเป็นสีเบอร์สว่างสุดค่ะ
แบรนด์นี้เค้าไม่ได้เรียงเบอร์ผลิตภัณฑ์จากขาวสุด-เข้มสุดนะ แต่แต่ละเบอร์มันเป็นสูตรๆไป
อย่างเบอร์ 3 ของเราเป็นสูตรสำหรับคนใต้ตาคล้ำเพราะใช้คอมมากค่ะ
ส่วนสูตรที่ 1 และ 2 เค้าก็จะเป็นสูตรที่ต่างกันไป เช่น สูตรสำหรับคนนอนพักผ่อนน้อย
ซึ่งอยากจะบอกว่าถ้าให้ซื้อตามสูตรตรงๆ เราคงตรงซื้อทุกสูตรอะค่ะ
เพราะใต้ตาชั้นมาจากทุกสาเหตุ  ทั้งเล่นคอมมาก และเล่นคอมมากจนนอนน้อย 5555
เราก็เลยใช้วิธีดูจากสีเอาละกัน ง่ายดี ชอบที่นางเม็ดสีแน่นนะ คือปกปิดได้ดีมาก
เราว่าถ้าสำหรับคนที่ไม่ได้ใต้ตาดำมาก ค่อนข้างจะปกปิดดีเกินไปด้วยซ้ำ
เพราะนางแอบเนื้อหนาอยู่ สามารถใช้ปิดรอยสิวได้สบายๆ


11) THREE Diaphanous Loose Powder #Translucent 02
ราคา: 5,250 เยน ( ≈ 1680 บาท)
เป็นสิ่งเดียวที่ซื้อมาจากห้างสรระพสินค้าที่โอซาก้าค่ะ
ซึ่งทำให้เราเข้าใจว่า THREE นี้คงไปแบรนด์ Hi-End ของญี่ปุ่นนะ
เพราะปกติแบรนด์ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ก็มีขายที่ร้านขายยาเกือบหมดอะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น Shiseido, Impress, Kose, Kanebo ฯลฯ แต่ THREE ไม่มีจ้า
รุ่นนี้มี 2 สีนะคะ คือ Translucent 01 กับ 02 ซึ่งเราว่าสีไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นะ
02 จะเข้มกว่านิสสสสเดียว



Mini-Review: เป็นแป้งฝุ่นที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ เนื้อละเอียดดี เนื้อบางเบา
ปัดลงหน้าแล้วดูธรรมชาติใสๆดี (เค้าให้พัฟมาด้วยนะ แต่เราชอบใช้แปรงปัดมากกว่า)
เรื่องการคุมมัน ไม่ค่อยคุ้มมันเท่าไหร่ (Laura Mercier คุมไม่ได้ดีกว่าค่ะ)
แต่ข้อดีคือทำให้ไม่ได้ลุคที่แมทมากจนเกินไป แลดูธรรมชาติมากกว่า



มาที่อายเมคอัพกันบ้างนะคะ :)

12) DOLLY WINK Pencil Eyeliner #Black
13) DOLLY WINK Pencil Eyeliner #Creamrame
ราคา: 945 เยน ( ≈ 300 บาท)
เช่นเดิมค่ะ เหตุผลเหมือนทุกที คือมีหลายคนบอกว่าใช้ดี! (ตลอดอะ 555) เลยจัดมาค่ะ!
ตอนแรกจำได้ว่าซื้อสีดำมาลองแค่แท่งเดียวก่อน ลองใช้ไป 2-3 วัน ปรากฏว่านางใช้ดีมากกกก
ไม่รีรอค่ะ ไปสอยนางมาเพิ่ม สีขาวแท่งสีดำแท่ง จริงๆรุ่นนี้มี 3 สีนะคะ
มีดำ, น้ำตาล และ ขาว (จริงๆออกสีครีมมากกว่า) แต่ที่ไม่จัดสีน้ำตาลมา
เพราะเราไม่ค่อยชอบใช้ไลเนอร์สีน้ำตาลเท่าไหร่



Mini-Review: เหตุที่นางใช้ดี จนต้องจัดมาเพิ่มอีกสองแท่ง
เพราะนางเป็นอายไลเนอร์ที่เวลาเลอะเวลาเลือน นางจะแลดูไม่น่าเกลียดค่ะ
คือสีนางจะแค่ลางๆหายไปเท่านั้น ไม่ได้ไหลย้อยเหมือนเราเพิ่งผ่านการร้องไห้มาแต่อย่างใด
ปัจจุบันใช้แต่ง Everyday Look ค่ะ ใช้ทุกวันจริงๆ :)



14) La Rose De Versailles
Oscar Impact & Cool Eyes
ราคา: 1,050 เยน ( ≈ 335 บาท)
แบรนด์นี้แบบว่า ชื่อโปรดักส์อลังการงานสร้างได้อีก ฮ่าๆๆ
เป็นอายไลเนอร์หัวพู่กันนะคะ ซื้อมาเพราะกล่องแพ็กเกจจิ้งและป้าย Cosme (อีกแล้ว)

Mini-Review: ลองใช้แล้ว ส่วนตัวคิดว่าพอใช้ได้นะคะ คือนางเขียนดี เขียนง่าย
มีความรู้สึกว่าถ้าคนมือใหม่ใช้เขียนก็น่าจะใช้ได้ไม่อยาก ความทนก็ทนพอสมควร
แต่ที่เราไม่ชอบคือ สีนางดำไม่ค่อยเข้มเท่าไหร่ แล้วก็รู้สึกแปลกๆกับหัวพู่กันนางๆยังไงชอบกล
คือรู้สึกเหมือนมีเศษขนแปรงหลุด/เกินออกมาตลอด ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจ
ว่าเป็นเฉพาะแท่งของเรารึป่าวนะ อาจจะโชคร้ายได้แท่งไม่ดีมาพอดี
แต่ปัญหานี้เราก็เจอกับไลเนอร์พู่กันของ Dolly Wink :(
สรุปคือพอใช้ได้ค่ะ แต่สีไม่ดำสนิท และคาดว่าจะไม่ซื้อใช้ต่อแล้ว
ขอกลับไปรัก Lifeford เหมือนเดิม




15) KATE Shiny Jelly Eyes Matallic Eyeshadow #GD-1
ราคา: 1,500 เยน ( ≈ 335 บาท)
ไปที่โน่นออยล์ขนอายแชร์โดว์ไปน้อยมากค่ะ ที่ขนไปก็มีแต่โทนธรรมชาติ
สีน้ำตาล นู้ดๆ ไม่มีอายแชร์โดว์วิ้งกระจาย งานกลิตเตอร์เลย
ทำให้รู้สึกน้อยไปในบ้างวันที่อยากตาแน่น ถ่ายรูปแล้วตาเป็นประกายไรงี่ 555
เลยสอยนางมาช่วยชีวิตให้ดูมีอะไรมากขึ้น :)

Mini-Review: ชื่อผลิตภัณฑ์เค้าบอกเป็นเนื้อเจลนะ แต่พอมาลองใช้จริง
เราว่าอารมณ์เหมือน pigment ในรูปแบบตลับมากกว่า
งานวิ้งใช้ดีเลย วิ้งกระจายสะใจมาก! เพื่อนที่ไปกับออยล์ด้วย เห็นแล้วซื้อตามเลยทีเดียว

16) Majolica Majorca Lash
Expander Edge Meister #BK999
ราคา: 1,260 เยน ( ≈ 400 บาท)
ตอนไปถึงญี่ปุ่นใหม่ๆ มาสคาร่าหมดพอดีค่ะ เราเลยซื้อตัวนี้มาใช้
เพราะเราใช้รุ่นนี้อยู่แล้ว เพียงแต่คนละคอลเลคชั่น
(คือสูตรเหมือนกัน แต่แพ็กเกจจิ้งต่างกัน)

Mini-Review: หากใครชอบชอบใช้มาสคาร่าแบบแปรงหวี
เราว่าเป็นอีกรุ่นที่โอมากๆ ปัดแล้วเด้งดีค่ะ กันน้ำระดับสิบ!
(ทนมากก แต่ก็ล้างออกยากด้วยนะเออ ฮ่าๆ)
ส่วนตัวเราชอบใช้ปัดขนตาล่างค่ะ เพราะปัดง่ายดี ไม่ค่อยเละ :)


17) Heavy Rotation Coloring Eyebrow #2
ราคา: 800 เยน ( ≈ 255 บาท)
ตัวนี้เราซื้อมาตุนนะคะ ยังไม่ได้ใช้ กะไว้ย้อมผมใหม่ค่อยแกะใช้
เพราะเราเป็นคนคิ้วเยอะมาก และเส้นหนา ดำ เวลาย้อมผมสีสว่าง
ต้องใช้มาสคาร่าคิ้วช่วย ซึ่งที่ญี่ปุ่นมาสคาร่าคิ้วเยอะมากค่ะ งานนี้ไม่ซื้อตุนได้อย่างไร
และแน่นอนที่ซื้อเจ้าตัวนี้เพราะ Cosme แนะนำ 555
ไว้ถ้าได้ลองใช้แล้ว ดีไม่ดีเดี๋ยวค่อยมาบอกอีกทีนะคะ


18) KATE Rouge Hg #OR-10
ราคา: 1,470 เยน ( ≈ 470 บาท)
ซื้อมาเพราะสาวเกาหลีที่เรียนด้วยกัน (มีชาวเกาหลีมาเรียนด้วยจ้า)
เค้าฮิตทาปากสีส้มกันค่ะ แทบทุกนางเลยก็ว่าได้ เราก็เหมือนโดนสะกดจิตนะ
เห็นปากส้มของนางทุกวัน เลยไปสอยลิปสีส้มมาทากับเค้าบ้าง 5555


Mini-Review:ป็นลิปสีแดงออกส้ม ดูในแท่งสีอาจจะดูแรงนะคะ
แต่พอทาบนปากแล้วนี่ไม่เลย ดูใสๆธรรมชาติมาก
(ธรรมชาติขนาดมีเพื่อนเคยทักด้วยความสงสัยคะ
ว่าทาลิปสติกหรือป่าว หรือสีปากธรรมชาติ อัยยั้ะ! XD)
นางเป็นเนื้อ sheer ที่นิ่มและชุ่มชื่นมาก สาวๆคนไหนมีปัญหาปากแห้งง่าย
ตัวนี้เราแนะนำเลยค่ะ ชุ่มชื่นจริงๆคล้ายๆลิปมันเลย :)


19) KISS Mix Heart #02
ราคา: 1,260 เยน ( ≈ 300 บาท)
แอบซื้อเพราะแพ็กเกจจิ้งเบาๆนะ ชอบหัวใจของนางมากกก
ไปยืนเล็งอยู่นานว่าจะซื้อดีมั๊ย เพราะเราไม่รู้จักแบรนด์นี้ค่ะ กลัวนางจะใช้ไม่ดี
(มีใครรู้จักแบรนด์นี้บ้างมั๊ย หรือเราเฉยๆอยู่คนเดียว ฮ่าๆ)

Mini-Review: ปรากฏว่า คิดถูกค่ะ! ที่สอยนางมาก
สีนางแน่นมากกกกก Pigment ดีเว่อ ติดทนมาก ใช้แปรงแตะนิดเดียวสีก็ติดแปรงแล้ว
จะปัดแยก (แค่ตรงหัวใจ) หรือปัดผสม (ด้านข้างเป็นวิ้งๆชิมเมอร์ค่ะ) ก็งาม ชอบค่ะ! 
ส่วนแปรง เราว่าเล็กไปหน่อย ไม่ค่อยเวิร์ค จะดีกว่านี้ด้วย
ถ้าในเมื่อนางทำแปรงพกพามา แล้วจะเพิ่มชั้นในตลับให้เก็บแปรงได้ด้วย
แต่ส่วนตัวก็โอเคค่ะ เพราะปกติไม่ได้พกบรัชออนไว้เติมระหว่างวัน (ขี้เกียจว่างั้น 55)


20) CANMAKE Shading Powder #01
ราคา: 714 เยน ( ≈ 225 บาท)
ตัวนี้คิดว่าสาวๆน่าจะเคยเห็นกันมาบ้างเนอะ
เพราะที่ไทยก็มีเคาท์เตอร์จ้า สอยมาลองเพราะเห็นรีวิวหลายคนบอกว่าดี
เป็นของดีราคาไม่แพงไรงี่ จัดมา!

Mini-Review: ก็ถือว่าเป็นบรอนเซอร์ที่โอเคเลยนะ
เนื้อด้าน ราคาไม่แพง สีค่อนข้างโอเค ปัดแล้วก็ดูธรรมชาติดี
พกพาได้ด้วย แปรงก็พอใช้ได้นะ (แต่ส่วนตัวชอบใช้แปรงของตัวเองมากกว่าจ้า)


21) SHISEIDO Foundation Brush 131
ราคา: 1,800 เยน ( ≈ 575 บาท)
เป็นแปรงที่ตอนเราจะไปโอซาก้า กระแสนางกำลังมาเลยค่ะ
ไปถึงที่โน่นเห็นที่ร้านขายยา เรียกว่าคว้าแบบไม่คิดเลย (อารมณ์งอแง "จะเอาๆ" 555)

Mini-Review: เป็นแปรงลงรองพื้นที่ช่วยให้ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้น
ดูเป็นธรรมชาติ งานผิวมาเลยแหละ ขนาดค่อนข้างเล็ก
ทำให้เข้าตามมุมต่างๆได้ง่าย ขนแปรงนิ่ม ไม่ปาดหน้า ราคาไม่แพง
ข้อเสียอย่างเดียวของนางคือ เราว่าถ้าใช้ตอนรีบๆ นางก็อาจจะเล็กไปนะ
กว่าจะเกลี่ยได้ทั่วหน้า ใช้เวลาอยู่ แต่อย่างอื่นที่ถือว่าดีหมดจ้า :)


22) SHISEIDO Mini Eyelash Curler 215
ราคา: 800 เยน ( ≈ 255 บาท)
เป็นที่ดัดขนตาขนาดเล็กค่ะ สำหรับดัดขนตาเฉพาะจุด เช่นตรงหางตา
ซื้อมาเพราะบางทีเรามีปัญหาดัดขนตาแล้วเก็บไม่หมดค่ะ คือจะเหลือช่วงหางตา
ทำให้ขนตาช่วงปลายดูตกๆ ไม่งาม ไม่ปลื้ม T_T

Mini-Review: อย่าย้อนเวลาไปแขวนนางคือที่เคาท์เตอร์จริงๆ
เพราะซื้อมาได้ใช้น้อยมากกกกก T^T ที่ใช้น้อย เพราะรู้สึกนางใช้ยากค่ะ
รู้สึกกว่าจะหนีบ กว่าดัดได้นี่ยากเหลือเกิน ตอนนี้ให้นางนอนเล่นอยู่ข้างๆพี่ใหญ่เฉยๆ
(เราใช้ที่ดัดธรรมดาของ Shiseido เหมือนกันค่ะ)

23) MUJI Compressed Facial Mask Sheets
ราคา: 350 เยน ( ≈ 110 บาท)
เป็นแผ่นมาร์คหน้าอัดแข็งนะคะ กะว่าจะมาใช้คู่กับดลชั่นของ Hada Labo
แต่ยังไม่ได้ลองใช้เลยค่ะ เนื่องจากขี้เกียจ 555 เอาไว้ใช้แล้วจะมาบอกวันหลังอีกทีนะคะ :)
มีแพ็คหลายขนาดค่ะ แต่ที่ออยล์ซื้อมาเป็นแบบ 20 ชิ้น




สุดท้ายแล้วจ้าาาา เป็นบรรดาของแถมที่ได้มา
ไม่มากมาย แต่ก็โอเคดีกว่าไม่ได้เนอะ 555

ได้มา 3 สิ่ง ได้แก่

SHISEIDO Perfect Watery Oil
SHISEIDO d program deep cleansing oil
THREE Balancing Cleansing Oil

ตัวแรกเรายังไม่ใช้นะค่ะ เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นยังไง ส่วน 2 ตัวหลังเราใช้เรียบร้อย
SHISEIDO d program deep cleansing oil เราไม่ค่อยปลื้มนะ
รู้สึกนางล้างไม่ค่อยสะอาดยังไงไม่รู้ แถมล้างออกค่อนข้างเยอะด้วย
แต่เจ้า THREE Balancing Cleansing Oil อยากจะบอกว่าชอบมากกกกก
ใช้ดีมาก มิน่ากูรูหลายคนถึงปลื้ม กลิ่นหอมด้วย ใช้แล้วอยากสอยนางเลยจริงๆ
แต่พอคิดถึงราคา โอเค เอาไว้ก่อนเถอะ สูงราคาไม่ไหวจริง แพงนิ T___T



จบแล้วค๊าาา สำหรับพาร์ทแรก บรรดาเครื่องสำอางค์ที่ออยล์สอยมา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่สาวๆไม่มากก็น้อยนะคะ

สำหรับพาร์ทต่อไปเป็นของจุกจิกๆจากร้าน 100 เยนต่างๆ
ขอทิ้งท้ายรูปไว้ยั่วยวนนิดนึง 5555
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ บ๊ายบายยยย :D



Create Date : 20 ตุลาคม 2556
Last Update : 12 ธันวาคม 2556 11:37:18 น.
Counter : 2413 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

OilPiAN
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



VIEWS : Website counter
New Comments