Bloggang.com : โชคดีที่เกิดมา - #โลกร้อน สิ่งที่มนุษย์ต้องรับกรรม

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Group Blog

All blogs

#โลกร้อน สิ่งที่มนุษย์ต้องรับกรรม

เมื่อวันที่ ๑ กพ ๒๕๕๑ ผมได้มีโอกาสเข้าไปฟังการบรรยายเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน ซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่คนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจ ผู้นำบรรยายคือ อาจารย์อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เป็นผู้ที่ผมชื่นชมเป็นอย่างมาก สิ่งที่อาจารย์พูด ข้อคิดที่นำเสนอออกสู่สาธารณะชน เป็นสิ่งคนทุกๆ คนควรนำกลับมาคิดและปฏิบัติตาม หากเห็นว่าสิ่งที่อาจารย์นำเสนอมีเหตุผล โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน ผมจะได้นำสิ่งที่อาจารย์บรรยายมาเสนอใน Blog นี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อย

เมื่อ ๖๗ ปีที่แล้ว ตอนที่อาจารย์เกิด พื้นที่ป่าในประเทศไทยมีทั้งหมด ๘๐ เปอร์เซนต์ของเนื้อที่ แต่ในปัจจุบัน เรามีพื้นที่ป่าเพียง ๑๘ เปอร์เซนต์ เอ้า ก็ยังเลขแปดอยู่ แต่หายไป ๖๒ เปอร์เซนต์ น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับนักดูนก และคนที่ชอบธรรมชาติคนหนึ่ง ผมจินตนาการได้ว่า นกและสัตว์ป่าเมื่อเกือบเจ็ดสิบปีที่แล้วคงมีความหลากหลาย มีความสุข อุดมสมบูรณ์ และธรรมชาติในตอนนั้นคงเหมือนกับสาววัยรุ่นแสนสวยที่อารมณ์ดีตลอดเวลา คงมีนกให้ผมดูไม่รู้หมด อากาศคงจะดีมาก คนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพคงไม่เป็นภูมิแพ้กันมากขนาดนี้ คิดไปก็ได้แต่ถอนหายใจ

หลายๆ ท่านคงได้ดูสารคดีที่คุณอัล กอร์ (Al Gore) นำเสนอ เรื่อง An Inconvenient Truth มาบ้างแล้ว จะเห็นได้ว่าสิ่งต่างๆ ในโลก ไม่ว่าจะธารน้ำแข็งบริเวณเทือกเขาหิมาลัย ก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่ขั้วโลก ที่ละลายไปอย่างรวดเร็ว ทะเลสาบ Chad ในแอฟริกาที่เคยมีขนาดใหญ่โต คลุมพื้นที่สี่ประเทศ ตอนนี้ไม่เหลือน้ำแล้ว หลายคนคงคิด ก็แล้วไง ฉันก็ยังมีชีวิตที่ดี ใช้เงินซื้อสิ่งที่ฉันต้องการได้อยู่นี่ ไม่เห็นจะเป็นไร งั้นลองมาฟังต่อครับ

ผมขอเรียงลำดับเอาจากเบาสุดไปหนักสุดก็แล้วกันครับ

กรุงเทพฯ เมืองบาดาล

กรุงเทพฯ นครที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ แต่คนกรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าตัวเองไม่มีความสุขแท้จริง ทุกวันซึบซับเอาพิษร้ายจากวัตถุนิยม ความห่างไกลจากธรรมชาติ เท้าที่แตะพื้นดิน พื้นทรายแบบนับครั้งได้ นั่นยังไม่พอครับ ผลกระทบของภาวะโลกร้อน จะทำให้กรุงเทพฯ น้ำท่วมแบบถาวร กรุงเทพฯ อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย ๑-๑.๕ เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง คำว่าปานกลางนี่บ่งบอกว่าในเวลาที่น้ำขึ้น กรุงเทพฯ ย่อมอยู่เหนือน้ำทะเลน้อยกว่านั้นครับ

สาเหตุที่ทำให้ กรุงเทพฯ ต้องจมน้ำ
๑.ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น จากปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งละลาย
๒. ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้เกิดฝน พายุมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนทิศทางเข้าทางอ่าวไทยมากขึ้น
๓. สนามบินสุวรรณภูมิทำให้พื้นที่รับน้ำหายไปจำนวนมาก พูดง่ายๆ ว่า โครงการแก้มลิงของพระเจ้าอยู่หัว แก้มใหญ่ๆ หายไปแก้มนึงเลย

คนมักง่ายจะบอกว่า น้ำท่วมก็สร้างเขื่อนสิคุณ คุณคิดว่า รัฐบาลไทยทำได้ไหม? คุณภาพของเขื่อนจะเป็นอย่างไร และเมื่อน้ำแข็งละลายหมด น้ำในทะเลจะสูงขึ้น ๔๐ เมตร คุณต้องสร้างเขื่อนสูงขนาดนั้น ยาวกี่กิโลเมตรครับ ที่จะปกป้องกรุงเทพฯ ได้ ประกอบกับธรรมชาติของน้ำที่ต้องไหลลงที่ต่ำกว่าเสมอ จุดบกพร่องเพียงเล็กน้อย ก็อาจนำมาซึ่งความหายนะ สิงคโปร์มีโครงการสร้างเขื่อนรอบเกาะ ญี่ปุ่นมีเมืองใต้น้ำ แต่ไทยเราจะทำอย่างไร

บทสรุปตรงนี้คือ ต้องย้ายกรุงเทพฯ ครับ คุณมีเวลาประมาณ ๖ ปีในการเตรียมตัว หลังจากนั้นผลของวิกฤติโลกร้อนจะปรากฏชัดเจนขึ้น

ถ้าอ่านแล้วยังขำๆ ไม่เห็นตื่นเต้นเลย งั้นมาอ่านต่อครับ

แผ่นดินไหว และรอยเลื่อน

แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ (plate) ประเทศไทยอยู่บนส่วนที่เรียกว่า Eurasian Plate สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ ส่วนต่างๆ ของแผ่นดินกำลังดันกันอยู่ ดันกันไม่ไกลครับ แถวๆ ตะวันตกของไทย จากเหนือจรดใต้ แนวรอยเลื่อนที่ยาวไปถึงสุมาตรา จำสึนามิได้ใช่ไหมครับ คาดการณ์กันว่า ต่อไปจะมีแผ่นดินไหวมากขึ้น และทำให้เกิดสึนามิมากขึ้นเช่นกัน แต่สิ่งที่มีความเป็นไปได้ไม่น้อยก็คือ รอยแตก (Crack) ที่อยู่ใต้เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี อาจารย์บอกว่า หากรอยแตกนั้นขยาย เกิดการดันกัน จะทำให้เขื่อนแตก คนที่อยู่ที่กาญจนบุรีตอนนั้น จะไม่มีใครรอดชีวิต...

น้ำย่อมมีโอกาสมาถึงกรุงเทพฯ ด้วย คนกรุงเทพฯ คงมีเวลาอพยพกันบ้าง แต่คงจะโกลาหลกันน่าดูละครับ ทางเขื่อนบอกว่า เขื่อนสร้างมารองรับแผ่นดินไหวที่มากถึง ๘ ริกเตอร์ หากแต่ปัญหารอยแตก ไม่ต้องใช้ ๘ ริกเตอร์ครับ เป็นปัญหาคนละส่วน

อ่านมาแล้วยังบอกว่า ฉันหนีทัน ฉันมีเฮลิคอปเตอร์ งั้นมาอ่านต่อ

สงครามน้ำ

น้ำดื่ม น้ำใช้จะเป็นปัญหาใหญ่ ที่อาจจะทำให้เกิดสงครามเพื่อแย่งชิงน้ำได้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ ทำไมน้ำจะหมด ผมขอนำเสนอเพียงแค่ในภูมิภาคของเราก็แล้วกัน หลายๆ ท่านคงได้ยินข่าวว่าประเทศจีนสร้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณต้นแม่น้ำโขง คาดการณ์กันว่า น้ำในแม่น้ำโขงจะเหือแห้งกันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าครับ คิดดูสิครับว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศที่พึ่งน้ำจากแม่น้ำโขง หลายคนบอกว่า เราไม่ได้พึ่งแม่น้ำโขงขนาดนั้น และประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ในโลกนี้มีอยู่ประมาณยี่สิบกว่าประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์สามารถเลี้ยงตนเองได้ ทำให้ใครๆ ก็อยากได้ หากประเทศส่วนใหญ่ในโลกขาดแคลนน้ำ มหาอำนาจทั้งหลายจะทำอย่างไร เราจะรอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้ไหมครับ

โรงเรียน "สัตยาไส" ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา มีโครงการร่วมกับ UN HABITAT ในการสร้าง Water Institute หรือสถาบันน้ำ เพื่อให้ความรู้ในการบริหารจัดการกับน้ำ ทาง UN เองก็มองว่า น้ำจะเป็นปัญหาใหญ่ จึงมีการสนับสนุนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม ความขัดแย้งทางน้ำขึ้น ประเทศต่างๆ คงจะได้มาดูงาน มาเรียนรู้เกี่ยวกับน้ำที่โรงเรียนของอาจารย์ น่าสนใจมากครับ

หากคุณยังยิ้มอยู่ สงครามยังขำอยู่ หัวข้อต่อไปคงไม่ค่อยขำแล้ว

การเปลี่ยนแกนโลก

โลกเรามีขั้วโลกใช่ไหมครับ ในประวัติศาสตร์ มีการเปลี่ยนขั้วโลกกันมาแล้ว สาเหตุก็เพราะ เมื่อน้ำแข็งละลายหมด น้ำซึ่งมีน้ำหนักมากมายมหาศาล จะไปหนักกันอยู่อีกด้านหนึ่งของโลก ทำให้โลกเสียสมดุลย์ อย่าลืมนะครับว่าพื้นที่ ๗๕ เปอร์เซนต์ของโลกก็คือน้ำ โลกจึงจะต้องทำการปรับแกนเพื่อรักษาสมดุลย์นั้น เมื่อเปลี่ยนแกนจะทำให้อุณหภูมิลดลง ตัวอย่างหลักฐานว่าเคยเกิดการเปลี่ยนแกนมาแล้ว เช่น ดูจากการพบซากแมมมอสที่มีสภาพสมบูรณ์กำลังกินหญ้าอยู่ในปาก หญ้าก็ยังสมบูรณ์ครับ นั้นเป็นเพราะเจ้าแมมมอสนั้นถูกแช่แข็งแบบหักดิบ อุณหภูมิของโลกลดลงอย่างรวดเร็ว นั่นแปลว่า เราคงไม่รอดครับ หากปัญหาโลกร้อนยังดำเนินต่อไป หนักขึ้นเรื่อยๆ มีการคาดการณ์กันว่า ขั้วโลกใหม่จะอยู่ที่มองโกเลียครับ อืม บัดนั้นประเทศไทยคงเป็นเหมือนยุโรปครับ หลายคนคงชอบครับ บอกว่า อากาศดี มีหิมะตก แต่นั่นต่อเมื่อคุณรอดจากการลดลงอย่างรวดเร็วของอุณหภูมินะครับ

หากคุณยังขำๆ อยู่ ก็ขอให้คุณโชคดี ให้อยู่ในความประมาทต่อไปก็ได้ แต่หากใครไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เรามาช่วยกันคนละไม้ละมือดีไหมครับ ึคนให้ความสนใจก็จริง แต่ก็ยังดำเนินชีวิตเหมือนเดิม หลายคนคิดว่า มันเป็นเรื่องไกลตัว และยังไม่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว มันใกล้ตัวมากๆ และถ้ามันเกิดขึ้นคุณคงไม่มีโอกาสได้แก้ตัว เงินที่คุณมี อาจไม่สามารถรักษาชีวิตคุณได้

จะทำไง ให้ลดโลกร้อน มาดูวิธีง่ายๆ ที่ผมคิดได้ตอนนี้กัน

๑. ลดการใช้ครับ ทุกอย่างครับ การกิน ไฟฟ้า น้ำ รถยนต์ น้ำมัน ความฟุ่ยเฟือยต่างๆ ยอมลำบากเพื่อส่วนรวมบ้างก็ดีนะครับ
๒. หันมาลดขยะ เลิกใช้ถุงพลาสติกจ่ายตลาด หาถุงผ้าหิ้วไปตลาดด้วยน่าจะดีกว่านะครับ
๓. ทำความดีแก่กัน เราจะรอดได้ต่อเมื่อเราช่วยกัน ไม่เห็นแก่ตัว แบ่งปันกัน

หากใครคิดวิธีอะไรได้ มาเขียนต่อใน comment ก็ได้นะครับ

ถ้าจะซื้อที่ดิน หาที่ๆ สูงกว่าระดับน้ำทะเลซัก ๔๐ เมตรขึ้นไปนะครับ คุณจะได้มีชายหาดอยู่ใกล้ๆ บ้านคุณ

โลกจะร้อนไม่ร้อน ก็ขอขอบคุณที่ได้เกิดมา ให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ได้เหยียบดิน อยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ ได้เห็นสิ่งมีชีวิตเพื่อนร่วมโลกที่ต่างมีส่วนให้โลกนี้ได้ดำเนินไป

แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม หากเราต้องตกอยู่ในความยากลำบาก ก็ขอให้รู้ว่า เราก็มีส่วนในสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็คงต้องชดใช้กรรมกันไป แต่ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ขอให้ทุกท่านจงมีชีวิตที่ดี เห็นแก่ตัวให้น้อย มีธรรมะอยู่ในใจ ดำเนินชีวิตไปด้วยความไม่ประมาท จงชื่นชมกับชีวิตที่เกิดมานี้ ขอให้มีสุขที่แท้จริงกันทุกคนทุกท่าน

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2551

Last Update : 23 มีนาคม 2554 13:29:20 น.

9 comments

Counter : 418 Pageviews.

น่ากลัวเนอะพี่หนุ่ม มาอยู่ลำพูนดีกว่า สูงกว่ากรุงเทพฯ ตั้งเยอะ จะหาที่มาขายให้เอาป่ะ

โดย: แต้มไง IP: 203.151.46.130 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:06:37 น.

แอบมาอ่านด้วยค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง

แอบคิดอีกทีว่า หรือธรรมชาติ จะเอาคืน คนเลวเยอะเหลือเกิน ถ้าธรรมชาติเอาคืนจริงๆ แล้วเอาคนเลวๆ ไปให้หมดนี่ เราก็ยอมนะ นับวันโลกยิ่งสกปรก ด้วยน้ำมือมนุษย์

โดย: แม่ของลูกสาว

วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:29:26 น.

จริงๆ ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกน่ะครับ แต่เห็นว่าที่เขียนมามันยาวแล้ว กลัวจะเบื่ออ่านกัน เลยเอาแต่ที่สำคัญๆ มา

ใช่เลยครับ คุณแม่ของลูกสาว ธรรมชาติเอาคืน และก็อาจจะเกิดเหตุการณ์อย่างที่คุณกล่าวก็ได้ครับ เหมือนเป็นการล้างสิ่งที่ทำให้โลกไม่สมดุลย์ออกไป ซึ่งก็คือ มนุษย์นั่นละครับ

โดย: หนุ่ม IP: 203.160.4.200 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:03:37 น.

น่ากลัวจัง ....ทั้งเรื่องภาวะโลกร้อน & รูปประกอบบทความ

โดย: หนิง IP: 202.176.82.57 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:40:40 น.

คุณหนุ่มเขียนอีกซิคะ ไม่เบื่ออ่านหรอกค่ะ ชอบอ่าน นี่ก็แวะมาดูทุกวัน เผื่อมีอะไร update

เคยฟัง ดร.อาจอง พูดแต่ครั้งนั้นแกพูดเรื่องการศึกษาของเด็กน่ะค่ะ ที่รร.ของลูกสาว แต่แกก็จะพ่วงเรื่องธรรมะด้วยเสมอทุกครั้งอยู่แล้ว ส่วนตัวชอบ ดร.อาจองมากค่ะ แล้วก็พยายามติดตามข่าวอยู่เสมอๆ

สนใจเรื่องการบริหารจัดการน้ำน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะมีความรู้เรื่องนี้สำหรับ คนธรรมดา หรือภาคบุคคลอย่างเราบ้างไหมคะ แบบที่ไม่ต้องเป็นองค์กร ก็สามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้น่ะค่ะ

โดย: แม่ของลูกสาว

วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:26:18 น.

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม blog นะคะ แอบมาศึกษาจากภาพถ่ายของคุณหนุ่มค่ะ เอาไปปรับปรุงกับการถ่ายภาพของตัวเอง แบบว่า มือใหม่ซิงๆ เลยอ่ะค่ะ เทคนิค ยังไม่มีเลย เลยต้องพยายามใช้มุมกล้องช่วย...

โดย: แม่ของลูกสาว

วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:36:00 น.