All Blog
คนดีที่หน้าด้าน: จารุวรรณ ณ คมช
ไม่น่าเชื่อก็แล้วกันว่าจะมีความคิดยึดติดกับตำแหน่งของคน "ดี" ที่คนกลุ่มหนึ่งยกย่องหนักหนาอย่าง ผู้ว่า สตง. จารุวรรณ เมณฑกา

อายุครบ 65 ปี ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งแล้วซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 34(2) กำหนดไว้ว่า ผู้ว่าการฯพ้นตำแหน่งเมื่อ "มีอายุครบ หกสิบห้าปี"

ก็ดันทุรังยังจะอยู่ในตำแหน่งโดยไปอาศัย ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นประกาศของโจรปล้นรัฐธรรมนูญ

จิตสำนึกทั่วไปในทางที่ถูกที่ควรกลับไม่เกิดกับคน "ดี" คนนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ ถ้าย้อนหลังในช่วงที่พวกกบฏยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ คุณหญิงคนนี้ก็เข้าเป็นหนึ่งในฝ่ายพวก "โจร" ปล้นรัฐธรรมนูญ

ก็คงต้องเห็นความสำคัญของ กฏโจร ทีพวกโจรปล้นรัฐธรรมนูญร่างขึ้นและยึดเป็นสรณะ

ยื้อยุดที่จะอยู่ในตำแหน่ง ประกอบกับ สว.ลากตั้งที่ได้เข้ามาเพราะพวกกบฏเขียนรัฐธรรมนูญให้ไว้ ออกมาสนับสนุน อดีตผู้ว่า สตง. ที่ทำหน้าที่ทั้งผู้ว่าและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรียกว่าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเพียงคนเดียว

คงต้องบอกว่าอย่างนี้ก็มีในโลก (คงมีเฉพาะประเทศไทย)

แม้คณะกรรมการกฤษฏีกา ที่เป็นที่ปรึกษาทางกฏหมายของรัฐบาลและส่วนราชการของประเทศ จะออกมาให้ความเห็นว่า คุณหญิงคนนี้สิ้นสุดการทำหน้าที่ไปตามกฏหมายที่กำหนดอายุไว้ 65 ปีไปแล้ว

แต่คุณหญิงคนนี้ก็หาฟังไม่ อ้างกฏหมายโจร(ประกาศ คปค. ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549)

ยังจะทำหน้าที่ผู้ว่า สตง.ต่อไป

จน สว.เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องขอให้นายปราโมท โชติมงคลประธานผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัย คำสั่งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่ คุณหญิงจารุวรรณ สั่งเพื่อยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้ว่าให้รักษาราชการแทนผู้ว่า เพราะคุณหญิงจะมาทำหน้าที่เอง

ผลจะเป็นอย่างไร คงต้องรอฟังศาลปกครองวินิจฉัย

แต่ที่สำคัญไม่ต้องรอศาลปกครองวินิจฉัน แต่ประชาชนคนทั่วไปที่ไม่ได้สนับสนุนคุณหญิงจารุวรรณมาตั้งแต่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโจรปล้นรัฐธรรมนูญเมื่อ 2549 คงจะพอบอกได้กระมังว่า

"คนดีคนนี้ ทำไมหน้าด้านจริงๆ"



Create Date : 28 สิงหาคม 2553
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 11:07:35 น.
Counter : 391 Pageviews.

3 comment
ปชป.สองยุบ กับ หนึ่งแย้ง หนี่งแย้งอาจชนะไม่ต้องยุบ
คดีเงินพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่ กกต.มีมติให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์เนื่องจากเอาเงินไปใช้ผิดประเภท หรือผิดระเบียบอะไรก็แล้วแต่

ถ้าเป็นพรรคอื่นๆ ก็เชื่อขนมเจ๊กข้างบ้านกินได้ว่า ถูกยุบแน่

สดๆร้อนๆ เรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท ที่ กกต.ต้องส่งให้อัยการสูงสุดแล้วตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างอัยการกับ กกต. ผลก็มีติออกมาแล้วว่า อัยการและ กกต.เห็นชอบร่วมกันที่ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองส่งศาลรัฐธรรมนูญ

ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์

แปลว่าประชาธิปัตย์โดน 2 ยุบ ถ้าเป็นพรรคการเมืองอื่นๆ โดนยุบเดียวก็แก้ปัญหากันไม่ตก เพราะ กกต.ส่งให้ยุบทีไร ศาลรัฐธรรมนูญก็เห็นชอบสั่งให้ยุบทุกที

แต่ดูเหมือน ปชป. ไม่ค่อยจะหวั่นไหวอะไรซักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่เหล่าอำมาตทั้งหลายเขาเขียร์ "คนนี้ผมเชียร์" คนนี้หมายถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่อำมาตใหญ่โตเคยพูดไว้

อำมาตใหญ่อำมาตโตของประเทศ ที่สั่งองค์กรทุกองค์กรให้เดินไปทางไหนก็ได้และเชียร์คนนี้อยู่ จะยอมให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ในตอนนี้ได้อย่างไร

ศาลรัฐธรรมนูญที่ร้อยวันพันปี กกต.ส่งเรื่องไปยุบพรรคไหนก็ยุบตาม นี กกต.และอัยการสูงสุดมีมติร่วมกันให้นายทะเบียนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบ

แต่ผู้คนทั้งหลายก็ยังปักใจเชื่อไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบ

ความเป็น 2 มาตรฐานที่มีมาให้เห็นตลอดยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์นักเรียนเมืองผู้ดีอังกฤษที่ได้แต่ท่องจำวิถีประชาธิปไตย ทำให้ผู้คนคิดว่ายังไง ปชป.ก็รอดการถูกยุบ

กระชับพื้นที่ทำให้กระชับชีวิตผู้คนไปเป็นร้อยศพ บาดเจ็บสองพันกว่าที่รัฐบาลเผด็จการหหารล้วนๆ ในอดีตยังไม่กล้าทำ

แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่เคยลุกขึ้นด่ารัฐบาลก่อนๆ ว่าคนมาชุมนุมคนเดียวก็ต้องฟัง และไม่สามารถจะเดินฝ่ากองเลือดเข้าสภาได้ ทั้งๆที่มีคนตาย 2 คนซึ่งไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของรัฐ แต่เกิดจากการนำระเบิดบรรทุกเข้ามาเองแระการหนีบระเบิดไว้ ผลจากกองพิสูจน์หลักฐานกำหนดไว้ชัด

แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กระชับพื้น โดยประกาศกฏหมายที่ให้อำนาจทหารอย่างเบ็ดเสร็จ ทำอะไรที่เป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนได้โดยไม่ผิดกฏหมาย

แล้วก็กระชับ ชีวิต ผู้เรียกร้องให้ยุบสภา ซึงเป็นการเรียกร้องตามวิถีทางประชาธิปไตยแท้ๆ ไปเป็นร้อยคนบาดเจ็บสองพันกว่าคน

ดังนั้นการที่ ปชป.ถูกสองยุบ ที่เป็นพรรคอื่นก็ไม่ต้องแก้ตัวอะไรแล้วโดนยุบแน่ๆ

แต่ ปชป. ก็มีหนึ่งแย้ง เป็นหนึ่งแย้งที่กี่ยุบก็สู้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่พลพรรคของ ปชป. ไปแย้ง แต่เป็นแย้งของอำมาตที่ปกครองบ้านเมืองแบบเบ็ดเสร็จโดยมีพรรค ปชป. เป็นหุ่นเชิดให้ ไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามแบบไม่ต้องอับอายใครอยู่ในเวลานี้

ฉะนั้น แทบจะฟันธงได้ว่า ถ้าไม่มีข้อมูลใหม่อะไรที่ทำให้อำมาตเกิดความเกรงกลัวขึ้นมาแล้ว

ปชป.จะไม่ถูกยุบ ใครจะไปติดต่อ คุณ "พอล" ปลาหมึกวิเศษ ทำนายบอลมาทำนายดูก็ย่อมได้



Create Date : 11 กรกฎาคม 2553
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 10:49:21 น.
Counter : 400 Pageviews.

0 comment
อภิสิทธิ์ร้อยศพ นักเรียนท่องจำวิถีประชาธิปไตยจากเมือง อ๊อกฟอร์ด
เพราะเรียนจาก มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษ ที่คนดังๆในอดีตของเมืองไทยเคยไปเรียนมา ซึ่งก็มีน้อยมากทีจบ สาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ ทีดังมีระดับเช่น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกที่ล่วงลับไปแล้ว

การไปเรียนเป็นเพียงระดับเบื้องต้น การกลับจากเรียนแล้วมาทำงานจนมีชื่อเสียงเก่งกาจเป็นที่ยอมรับเป็นเรื่องสำคัญ

นายอภิสิทธิ์ ไปเรียนจบมาแต่ไม่มีหน้าที่การงานอะไรเชิงประจักษ์ที่ใช้ความรู้ความสามารถที่ไปเรียนมาทำให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและประเทศชาติ

แม้จะหวังว่านายอภิสิทธิ์ไปเรียนยังเมืองที่ถือว่าเป็นต้นแบบของระบอบประชาธิปไตย จิตสำนึกวิธีคิดในแนวทางวิถีประชาธิปไตยคงจะมีพอมีติดตัวจากเมืองผู้ดีมาบ้าง

เมื่อเป็นนักการเมืองฝ่ายที่ต้องตรวจสอบคนอื่น ก็พูดดีสารพัด มีวาทะคารมการพูดในวิถีประชาธิปไตยจนคนเลื่อมใสว่าเยี่ยมยอด

ต้องอย่างนี้ซิ ถึงจะเรียกว่านักการเมืองรุ่นใหม่เอี่ยม เป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ว่าจะนำเอาแนวคิดวิถีประชาธิปไตยจากอังกฤษติดตัวมาเป็นแบบอย่างของนักการเมือง

แต่เมื่อเข้ารับหน้าที่ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของประเทศ มีคนชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภาเลือกตั้ง ซึ่งผู้คนไม่ใช่น้อยๆ ถ้านายอภิสิทธิ์ชนะเลือกตั้งได้เสียงส่วนใหญ่มากกว่าใครแล้วมาตั้งรัฐบาล

คนมาเรียกร้องก็ไม่มีความชอบธรรม แต่นี่ก็รู้อยู่พรรคของนายอภิสิทธิ์ได้เสียงข้างน้อย

แต่มีมือสกปรกและใช้อำนาจเบ็ดเสร็จของทหารเข้ามาจัดการทำให้นายอภิสิทธิ์ได้เสียงข้างมาก

นักการเมืองจากเมืองอ๊อกฟอร์ดอย่างนายอภิสิทธิ์ที่เข้าไปรับใช้อำนาจนั้นมันก็ไม่สมกับเป็นนักเรียนอ๊อกฟอร์ดเมืองแม่แบบของวิถีประชาธิปไตยอยู่แล้ว

คำพูดทั้งหลายสมัยเป็นฝ่ายค้านเคยตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ลืมสิ้นทั้งๆที่เพิ่งจะก่นด่ารัฐบาลก่อนนายอภิสิทธิ์อยู่หยกๆ

นี่ไงที่แสดงให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นนักเรียนท่องจำมาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดเท่านั้น ไม่ได้มีจิตวิญญาณในวิถีประชาธิปไตยอะไรเลย

ประเทศไทยผ่านการต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่คนต่อสู้บาดเจ็บล้มตายไปหลายครั้ง พวกร่วมกันต่อสู้ซึมซับแนวทางและวิถีประชาธิปไตยหวงแหนไม่ยอมให้เผด็จการทหารในอดีตมาแทรกแซงได้ง่าย

ซากศพและกองเลือดของคนรากหญ้าทั้งนั้นที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ได้ใช้การเลือกตั้งเข้ามาในสภา จนเป็นผู้นำสูงสุด

ไม่มีซากศพและกองเลือดที่ต่อสู้ในได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งนายอภิสิทธิ์คงไม่มีโอกาสได้เข้ามาในวงการเมืองจนเป็นผู้นำสูงสุด

แต่การเรียกร้องให้นายอภิสิทธิยุบสภาเพื่อพิสูจน์ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการนายอภิสิทธิ์หรือไม่

นายอภิสิทธิ์กับสั่งใช้กำลัง กระชับวงล้อม ให้ทหารไล่ล่าไล่ฆ่าประชาชนที่เรียกร้อง มีคลิปและรูปภาพมีเกลื่อนให้คนทั้งโลกได้เห็น

ผู้คนล้มตายสูญหายไปเป็นร้อย บาดเจ็บอีกสองพัน

นายอภิสิทธิ์ไม่ได้สำเนียกเลยแม้แต่น้อย ถ้าผู้ครองอำนาจยุคก่อนใช้วิธีเดียวกันกับนายอภิสิทธิ์คือปราบประชาชนที่มาเรียกร้องประชาธิปตยให้บาดเจ็บล้มตาย แล้วยังไล่ล่าอยู่จนบัดนี้

ระบอบประชาธิปตย ที่เปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งจะเกิดได้หรือไม่

ป่านนี้นายอภิสิทธิ์ยังคงต้องพึ่งพ่อแม่อยู่ละมั้ง ไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้ามาจนได้ทำหน้าที่การบริหารสูงสุด

เดินเข้ามาสภาได้เพราะผู้คนเขาต่อสู้กับเผด็จการเบ็ดเสร็จ ล้มตายบาดเจ็บเลือดนองเต็มถนน นายอภิสิทธิ์ไม่เคยแม้แต่การได้เห็น เพราะไปเรียนอยู่เมืองนอก

จบมาจากเมืองต้นแบบประชาธิปไตย แต่ขาดจิตวิญญาณประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง

กลายเป็นอภิสิทธิ์ร้อยศพ

นักเรียนท่องจำก็คงเป็นเช่นนี้ เพราะไม่เคยไปเหนื่อยหรือบาดเจ็บกับการต่อสู้เหมือนรากหญ้าที่เลือดนองแล้วนองอีก

รากหญ้าเหล่านี้ไม่เคยได้อะไร นอกจากได้ประชาธิปไตยมาให้นักการเมืองฝีปากดีได้เดินเข้าสภา






Create Date : 06 กรกฎาคม 2553
Last Update : 6 กรกฎาคม 2553 12:11:16 น.
Counter : 406 Pageviews.

3 comment
พรรคการเมืองใหม่ที่แนวคิดโครตเก่า เริ่มดูถูกดูหมื่นคน กทม.
พรรคการเมืองใหม่ไม่ส่ง พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ลงชิง ส.ส.กทม. เขต 6 และ งดส่งผู้สมัครคนอื่นลงเลือกตั้ง เนื่องจากไม่ต้องการแข่งเลือกตั้งกับผู้ต้องหาก่อการร้าย

ไม่แปลกอะไรที่ไม่ส่งทั้งๆที่ตอนแรกบอกจะส่ง เหตุผลบอกไม่ต้องการร่วมสังฆกรรมกับผู้ต้องหาก่อการร้าย

การสมัครรับเลือกตั้งเป็นการอาสาตัวเองให้ประชาชนพิจารณาว่าจะเลือกเข้าไปเป็นตัวแทนทำหน้าที่ในรัฐสภาหรือไม่ มันเกี่ยวอะไรกับการไปร่วมสังฆกรรม

ไม่มีโอกาสได้ร่วมสังฆกรรมสังฆเวรอะไรทั้งสิ้น ต่างคนต่างให้ประชาชนตัดสิน

การตัดสินเลือกของประชาชนคนส่วนใหญ่ถือเป็นที่สุด ถ้าคนส่วนมากเลือกได้เสียงมากคนนั้นก็ได้เป็น สส.

เพราะจิตสำนึกของพรรคการเมืองพรรคนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานดูถูกดูหมื่นประชาชน คิดว่าประชาชนโง่เง่า

แนวคิด 70/30 คือสรรหา สส. มา70 ประชาชนเลือกมา 30 เป็นแนวคิดทางการเมืองของพรรคการเมืองที่ชื่อพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่ม พันธมิตร โดยนายสนธิ และคณะ

แนวคิดที่ดูถูกดูหมื่นประชาชน เห็นว่าประชาชนโง่เง่า ไม่สมควรที่จะเลือกตัวแทนทั้งหมด ต้องให้พวกเทวดาทั้งหลายเป็นผู้เลือก ประชาชนมีสิทธิ์เลือกมาแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด

ไม่ส่ง สส. คราวนี้ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการดูหมื่นดูแคลนประชาชนคน กทม. ว่าโง่เง่า ไม่มีปัญญาแยกแยะ

ทั้งๆที่กลุ่มการเมืองใหม่คือกลุ่มพันธมิตร ที่เคยยึดทำเนียบรัฐบาลเคยยึดสนามบิน ได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสากล เพียงแต่มีอำนาจเบื้องบนมาช่วยสนับสนุนอยู่ จึงยังรอดไม่ถูกหมายจับ เลื่อนการออกหมายมาเป็น 10 ครั้ง

เหล่านี้ พรรคการเมืองใหม่คิดว่าประชาชนไม่รู้ไม่เห็นไปตามลมปากของกลุ่มการเมืองใหม่ ที่อวดอ้างอยู่ทุกวันทางสถานีโทรทัศน์ของกลุ่มตัวเอง

แน่จริง ตั้งพรรคการเมืองมาแล้วทำไมไม่กล้าให้ประชาชนตัดสิน พิสูจน์ตัวเองว่าประชาชนสนับสนุนแค่ไหน

แต่ก็อีกแหละ พรรคการเมืองพรรคนี้ไม่ได้หวังพึ่งเสียงของประชาชนอยู่แล้ว หวังพึ่งแต่ผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญ ที่จะคอยจับยัดให้เป็นรัฐบาล รอเวลาว่าเมืองไหร่ รัฐธรรมนูญจะแก้ให้ตรงกับแนวคิดของตนเองคือ

สรรหามา 70 เลือกตั้งมา 30

ขณะนี้ก็มีพรรคพวกตัวเอง ที่ตั้งโดยผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมผ่าน
นายมาร์ค มาเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญแล้วนี่

ฉะนั้นไม่ได้แปลกใจอะไรกับ กลุ่มแก๊งการเมืองใหม่ ที่ไม่ส่ง หรือไม่ก็มือที่ชักรอกนายมาร์ค นักเรียนท่องจำจาก อ๊อกฟอร์ด บอกว่าไม่ควรไปแย่ง สส.ของนายมาร์ค นักเรียนท่องจำคนนั้น

กลุ่มการเมืองใหม่ก็เลยไม่ส่ง






Create Date : 27 มิถุนายน 2553
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 15:10:41 น.
Counter : 463 Pageviews.

3 comment
อภิสิทธิ์ ตัวอย่างนักเรียนท่องจำจากอังกฤษ
เพียงเพราะเป็นคนมีฐานะดีมากจึงได้ไปเรียนที่เมืองฝรั่งอังกฤษ เมืองต้นแบบประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยกย่อง

นายอภิสิทธิ์ไปเรียนอยู่ที่นี่ ซึ่งน่าจะมีจิตสำนึกของวิถีประชาธิปไตยมองความคิดเห็นประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ กล้าหาญพอที่จะให้ประชาชนคนทั้งประเทศตัดสิน ตามวิถีประชาธิปไตย

นายอภิสิทธิ์เคยมีวาทะแสดงให้เห็นเหมือนกับว่า มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย ถ้าคนมาชุมนุมไม่ว่าจะคนเดียวหรือแสนคนก็ต้องฟัง ไม่สามารถที่จะเดินฝ่ากองเลือดของประชาชนเข้าไปประชุมสภาได้ เมื่อคราที่มีการสลายพวกเสื้อเหลือง มีคนตายไปสองคน

แต่เหตุการล้อมฆ่าประชาชนคนมาชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภาเมื่อเดือนพฤติสภาคม 53 จะอ้างอย่างไร คนที่มีจิตสำนีกแท้จริงของผู้วิญญาณประชาธิปไตย เขาก็จะไม่กล้าทำแบบนั้น

เพราะไปเรียนไปท่องจำมานั่นเอง จิตสำนึกในวิถีประชาธิปไตยจึงไม่เกิด

ตรงกันข้าม พอมีอำนาจก็ใช้อำนาจอย่างพวกเผด็จการเบ็ดเสร็จในอดีตไม่มีความอับอาย กับการลิดรอนสิทธิของประชาชนและสื่อมวลชนเพียงเพื่อต้องการกำจัดพวกที่คิดต่างกับตนเท่านั้น

ไม่ต้องปรับปรุงหลักสูตร รอบสองรอบสามอะไร เพราะคนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หลักคิดเรื่องประชาธิปไตยก็เพียงแต่ไปท่องจำมาเท่านั้นเอง



Create Date : 27 มิถุนายน 2553
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 7:40:37 น.
Counter : 324 Pageviews.

5 comment
1  2  3  4  5  

50youngnum
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



  •  Bloggang.com