|
How to detect LIES
ต่อไปนี้เป็นเทคนิคในการจับโกหกคนที่ตำรวจในต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้กัน ซึ่งสำหรับคนทั่วไปก็มีประโยชน์ในการปกป้องตัวเองจากการถูกหลอกได้เช่นกัน
ต้องขอบอกก่อนว่าสิ่งที่กำลังจะบอก หากถูกนำไปใช้อาจจะเกิดความรู้สึกแย่ๆ ต่อใครซักคนที่เราไว้เนื้อเชื่อใจ ผมจึงอยากบอกว่าการโกหกไม่ใช่เรื่องเลวร้ายทุกครั้ง ขอให้ดูเจตนาของผู้พูด และนำความรู้นี้ไปใช้เป็นกรณีๆ ไปนะครับ
สัญลักษณ์ที่สื่อถึงความไม่จริงใจ การแสดงออกของคนที่กำลังโกหกจะแข็งทื่อ ไร้อารมณ์ และมีขอบเขต เช่นการใช้แขนขาในการประกอบคำพูด จะเป็นไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ และเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคนที่โกหกคุณก็คือ เขาจะไม่พยายามมองตาคุณ
มือของคนโกหกมักจะสัมผัสบริเวณใบหน้า คอและปาก หรือมักจะเกาจมูกและหลังหู
การแสดงออกที่ความขัดแย้ง ระยะเวลาในการแสดงท่าทางของคนโหกจะยาวนานกว่าปกติ คือจะทำอะไรก็ทำนานกว่าที่ควรจะเป็น และพอนึกจะหยุดก็หยุดเลย
การแสดงท่าทางจะช้ากว่าปกติ เช่นเวลาได้รับของซักชิ้น แล้วเขาพูดว่า ฉันชอบมันจริงๆเลย จากนั้นก็ยิ้มหลังจากพูด นั่นคืออาการของคนโกหก เพราะตามธรรมชาติผู้พูดจะต้องพูดแล้วยิ้มไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ท่าทางการแสดงออกกับคำพูดของคนโกหกมักจะไม่ค่อยจะสอดคล้องกัน เช่นทำหน้าบึ้งตึง เวลา พูดว่าผมรักคุณ
เวลาโกหกด้วยท่าทางและการแสดงออก อย่างเวลาที่มีความสุข เศร้า หรือตกใจ การเคลื่อนไหวช่วงหน้าจะถูกจำกัดแค่บริเวณปาก แทนที่จะเป็นใบหน้าทั้งหมด เช่นเวลาคนยิ้มอย่างจริงใจ หน้าตาจะไปหมด แก้ม คาง กรามจะเคลื่อนไหวไปตามปาก ตาและหน้าผากจะเคลื่อนลงมาเล็กน้อย ต่างกับคนยิ้มเจื่อนๆ หรือยิ้มไม่จริงนั่นเอง
การปฏิสัมพันธ์ และปฏิกิริยาของคนโกหก คนที่ทำผิดจะพูดเพื่อปกป้องตัวเอง ในขณะที่คนบริสุทธิ์จะเลือกที่จะพูดในเชิงรุกมากกว่า การตอบคำถามของคนโกหกจะไม่ไหลลื่นและดูธรรมชาติ และบ่อยครั้งที่จะหันหน้าหนีไปทางอื่นขณะพูด
คนโกหกมักจะหาของมาวางคั่นกลางระหว่างเขากับเรา เช่นหนังสือ หรือแก้วน้ำ
การใช้ภาษา ที่สื่อถึงความไม่จริงใจ คนโกหกมักจะตอบด้วยการใช้คำที่อยู่ในคำถามของเรา เช่นถ้าเราถามว่า เธอกินคุกกี้ในขวดนั้นหรือเปล่า เขาก็จะตอบกลับมาว่า เปล่า ฉันไม่ได้กินคุกกี้ในขวดนั้น ซึ่งจริงๆ จะตอบสั้นๆ ง่ายๆ ก็ได้
บางครั้งตำพูดที่คนโกหกพูดจะดูสมจริง จะพูดอีกอย่างคือสมจริงเกินไป เช่นการใช้คำย่อๆ หรือสั้นๆ เช่นตอบว่า เปล่า(ทำ) แทนที่จะบอกว่า ไม่ได้ทำ คนโกหกบางครั้งก็จะเลี่ยงการโกหกโดยการไม่พูดตรงๆ เช่นเวลาปฏิเสธในสิ่งที่เขาทำ เขาก็จะพูดชักแม่น้ำทั้งห้า แทนที่จะตอบว่าไม่ตรงๆ
คนที่ทำผิดมักจะพูดไปเรื่อยๆ และให้ข้อมูลที่เราไม่ได้อยากจะรู้ซักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาจะรู้สึกอึดอัดกับความเงียบในระหว่างสนทนา (Uncomfortable silence) ก็เลยพูดไปเรื่อย
เวลาคนโกหก เขาจะพูดสรรพนามแทนตัวหรือคนอื่นๆ ด้วยน้ำหนักเสียงที่เบากว่าปกติ ซึ่งในความเป็นจริง การพูดปกติเราจะเน้นผู้กระทำหรือถูกกระทำมากกว่าเนื้อความในบทสนทนาด้วยซ้ำ คำพูดของคนโกหกจะสับสนและไม่หนักแน่น รูปประโยคหรือไวยากรณ์จะมั่วไปหมด จับใจความลำบาก
สัญลักษณ์อื่นๆ ที่สื่อการโกหก ถ้าคุณคิดว่าคนที่คุยกับคุณกำลังโกหก ให้เปลี่ยนเรื่องทันที เขาจะแสดงท่าทีที่ดูผ่อนคลายขึ้นจนสังเกตได้จากการที่เราเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะเขาไม่ต้องการที่จะโกหกนานๆ และดีใจที่เราเปลี่ยนเรื่องซักที ซึ่งในขณะที่คนบริสุทธิ์จะงงว่าทำไมอยู่ดีๆ เราเปลี่ยนเรื่องซะงั้น และพยายามที่จะกลับเข้าไปพูดเรื่องเดิม
การใส่อารมณ์ขัน หรือประชดประชัน เพื่อเลี่ยงประเด็น เป็นสัญญาณของการโกหกเช่นกัน
สรุป สุดท้ายผมขอเน้นอีกทีว่า การที่ใครซักคนแสดงท่าทางดังที่กล่าวมาข้างต้น ไม่มากก็น้อย ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนโกหก 100% ขอให้เราใส่ใจกับสถานการณ์และเจตนาของผู้พูด และนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปรียบเทียบ เพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกโกหก ไม่ใช่เอาไปจับผิดคนนะครับ
Create Date : 26 เมษายน 2548 |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2548 0:07:11 น. |
|
3 comments
|
Counter : 486 Pageviews. |
|
|
|
โดย: iLHaNLiSM (iLHaNLiSM ) วันที่: 30 เมษายน 2548 เวลา:15:17:44 น. |
|
|
|
| |
|
|