|
ก่อนจะขึ้นเวที
"ฝันจะเป็นจริงได้ต้องลงมือทำ" พี่โหน่งอะเดย์เขาเคยบอกไว้ งั้นถ้าเราอยากจะเป็นพิธีกรจะเริ่มอย่างไรว่ะเนี่ย หน้าตาก็งั้นๆ อ้วนก็อ้วน ความรู้ก็ไม่มี เส้นสายก็ไม่เห็น แล้วจะขึ้นเวทีอย่างไรว่ะเนี่ย
เราก็เลยลุยแบบมวยวัดดู ตอนนั้นมีแผนแบบนี้ สมัครไปโมเดลิ่ง 2 ที่ กรอกใบสมัครว่าอยากเป็นพิธีกร แต่กลับได้ไปนั่งตบมือให้กับรายการของคุณไตรภพอยู่ 2 เทป ได้วันละ 80 บาท เฮ้ย!! ไม่ใช่ละ
เอาใหม่ ตอนนั้นมีประกวดล่าฝันอะไรสักอย่าง(ยังไม่ใช่เดอะสตาร์) ของแกรมมี่ ก็เดินเข้าไปเลย ผลก็คือตกรอบแรก
เอ....ไม่ได้การละ มั่วไปไม่ดี กลับมาตั้งสติใหม่ เราต้องวางแผนใหม่ การจะเป็นพิธีกรได้เราต้องพูดให้เป็นก่อนดิ ใช่แล้วฝึกพูด แล้วที่ไหนมีฝึกพูดละ พลิกหนังสือพิมพ์ (คือเมื่อ10ปีที่แล้วเน็ตยังห่วยแตกอยู่) หาข้อมูลตามที่ต่าง การเรียนการพูดแพงเหลือเกิน ครอสหนึ่งก็หลายพันทีเดียว จำได้ว่าแกรมมี่ก็มี ประมาณ 3,900 มั้ง
ทำไงดีฟ่ะเนี่ย เอ๊ะ มหาวิทยาลัยไงต้องมีสอนบ้างละ และตอนนั้นเราก็ลงทะเบียนเรียนรามด้วย เอาว่ะ จุดใต้ตำตอ คงที่รามเนี่ยละ เพราะมีการสอนพูด และมีนักพูดเก่งๆจบจากที่นี่เยอะทีเดียว การพูด เท่ากับ พิธีกร งั้นไปสมัครเลยดีก่า
ที่รามจะมีชมรมการพูดอยู่สองชมรม ศูนย์การพูดรามคำแหง และชมรมการพูด (อะไรสักอย่างแต่ผมจำไม่ได้แล้ว) ผมเลือกที่แรก (ในราคา 590 ต่างกับแกรมมี่ราวฟ้ากับเหว) แต่ ที่นี่ทำให้ผมรู้ว่า ผมห่วยเรื่องการพูดมาก ที่แห่งนี้ทำให้ผมรู้เทคนิคการพูด ที่แห่งนี้ทำให้ผมกล้าพูดมากขึ้น (จำได้ว่าตอนเทสกับกรรมการ4 คนผมจับไมค์มือสั่นเลย) ที่แห่งนี้ทำให้ผมพูดเป็น และให้อะไรอีกมากมาย ตอนแรกว่าจะเข้ามาอบรมแค่ 5 วันเท่านั้น แต่อยู่กับที่นี่ถึง 3 ปี
และได้เริ่มงานพิธีกรงานแรกก็จากที่นี่เช่นกัน นั้นคือ
"งานวันเด็กที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวราม"
ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ ต้องเสียตังค์ 150 บาทเพื่อเรวมตังค์มาเป็นของขวัญให้เด็กๆ
พิธีกรงานแรกก็เสียตังค์ให้คนที่มาร่วมงานซะแล้ว
Create Date : 21 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 21:45:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 432 Pageviews. |
|
|
|
| |
|