A room to learn and talk
 
 

ภาพงาม ๆ จาก โยคะในสวนธรรม เรียนฟรี

ใครอยากลองเรียนรู้ โยคะในวิถีดั่งเดิม ที่ผสาน การใจเป็นหนึ่งเดียว เป็นโยคะที่ฝึกแล้วผ่อนคลาย ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย ท่าโยคะพื้นฐานง่ายเปี่ยมไปด้วยพลัง ที่จะเสริมสร้างความสมดุลย์ให้กับทั้งกายและใจ อยากให้ไปลองเรียนกันน่ะ

สถาบันโยคะวิชาการ ร่วมกับ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เชิญเข้าร่วมกิจกรรม “โยคะในสวนธรรม” ทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน เวลา 10.00 – 12.00 น. และทุกเย็น วันพุธที่ 1 และ 3 ของเดือน เวลา 17.00 - 18.30 น. ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส สวนวชิรเบญทิศ
ถ.วิภาวดีรังสิต (หลังตึก ปตท. ห้าแยกลาดพร้าว)

เดือนนี้เหลือแค่ครั้งเดียวแล้วสำหรับปีนี้

15 ธ.ค. โยคะสำหรับคนมีเวลาน้อย โดยพรพรรณ ปริญญาธนกุล
วันพุธ เวลา 17.00 - 18.30 น.
ไม่เสียค่าใช้จ่าย มีการตั้งกล่องรับบริจาค เพื่อช่วยสมทบค่าสาธารณูปโภคให้กับฝ่ายอาคาร และค่าเดินทางวิทยากร
แต่งกายสบายๆ (เสื้อยืด กางเกงวอร์มที่สุภาพ) โปรดนำเสื่อหรือผ้าหนาๆ ไปรองตัว ขณะฝึก ไม่มีการสำรองที่เรียน ใช้หลักธรรมะจัดสรร แบ่งปัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันโยคะฯ 02-732-2016-17 กลอย
ถ้ามากับเด็กเล็ก ควรมีคนมาดูแลเด็กด้วย เพื่อรักษาบรรยากาศอันสงบในขณะกำลังฝึกโยคะ

ในวีดีโอจะเป็นการเรียนการสอนวันเสาร์ ที่มีเวลา 2 ชั่วโมง จะฝึกได้ครบถ้วนกระบวนโยคะ









 

Create Date : 14 ธันวาคม 2553   
Last Update : 17 ธันวาคม 2553 13:11:49 น.   
Counter : 1283 Pageviews.  


สอนและฝึกโยคะ เราได้อะไรกันบ้าง 2

นับจากนี้ ข้อเขียนทั้งหมด จะเกิดขึ้นจากการเริ่มเข้าอบรม ครูโยคะ รุ่น  10 ของทางสถาบันโยคะวิชาการ ทั้งนี้ เราจะได้เรียนรู้จิต และ ความคิด ที่มองโยคะ แตกต่างจากช่วงต้นของผู้เขียนที่เริ่มฝึก ว่ามีความแตกต่างทางด้านความคิด และ มุมมองต่อโยคะ อย่างไร 



จากประสพการณ์สอนที่ผ่านมา เราต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่เราจะสอน และมีความชำนาญในสิ่งที่เราจะสอน อย่าสอนตามที่ผู้เรียนต้องการให้ดัดแปลง เพราะในที่สุดเราเองจะแขว ไปไม่ถูกทาง สิ่งสำคัญ เราต้องแม่นและมั่นใจในสิ่งที่จะไปพูด และยืนหยัดในสิ่งที่เราจะถ่ายผ่าน

ก่อนที่จะสอนต้องคุยกับผู้เรียนก่อนว่า ผู้เรียนมีประสพการณ์การเรียนมาอย่างไรบ้าง และเคยเรียนอะไรบ้าง หลังจากนั้นจะต้องแจ้งการเรียนการสอนที่เราจัด ว่าแนวทางการสอนของเราเป็นอย่างไร และ ให้ประโยชน์อย่างไร ทำไม เราถึงไม่สอนเหมือนผู้อื่น และทำไม เราถึงสอนในแนวทางนี้ ประโยชน์ที่ได้รับ เหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไรกับที่ผู้เรียนเคยเรียนมา

แผนการสอนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะต้องเตรียมแต่ไม่ใช้สิ่งตายตัว ให้พิจารณาการเรียนการสอนตามสถานการณ์ที่เหมาะสม แต่ยังต้องคงเนื้อหาและสาระให้ครบถ้วนตามแผนการสอน ไม่มีคำว่าตายตัว เพราะถ้าหากเราทำอะไรตายตัว ความสุขและ ความสนุกจะหมดไป ชีวิตเรายังหมุนไปได้ทุกวัน แล้วทำไมแผนการสอนจะต้องตายตัวจริงไหม

เราเคยสอนคนที่สอนยากที่สุด ลักษณะเป็นคน ดื้อหัวแข็ง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ต้องเห็นด้วยตา มีผลพิสูจน์ได้ ถึงจะยอมเรียน การสอนคนลักษณะนี้ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือต้องสร้างความน่าเชื่อถือของผู้สอนก่อน ให้ผู้เรียนมีความเชื่อถือ และพร้อมที่จะเรียน ด้วยการพูดคุย การเล่าเรื่อง และต้องมีผลพิสูจน์ที่เห็นได้ จากกรณีนี้ ถ้าหาผู้เรียนไม่อยากเรียน อย่าบังคับ เพราะแปลว่ายังไม่ถึงเวลาของเขาที่จะฝึกโยคะ ปล่อยไปก่อน เล่านิทานไปเรื่อย แล้วสักวันเขาจะอยากเรียนด้วยตัวเอง

การเรียนการสอนในแบบนี้ ต้องมีแบบแผนแน่นอนตายตัว ไม่ปรับเปลี่ยนบ่อย ฝึกพูดกันความสับสน เพราะผู้เรียนจะไม่ชอบการพูดผิดพลาด ซ้ำไปมา แต่กระนั้นก็ตาม ให้ดูอารมณ์ผู้เรียนเป็นหลัก ว่าเขาพร้อมมากน้อยแค่ไหน ถ้าวันนี้พร้อมแค่นี้ ก็ต้องหยุด แต่ถ้าในครั้งต่อไปเขาพร้อมมากที่จะเรียนนานขึ้น ก็เพิ่มการเรียนการสอนเข้าไปได้

ในกรณีที่ ผู้เรียน ถามว่าทำไมไม่สอนเหมือนที่อื่น ๆ หรือทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ หน้าที่ของผู้สอนจะต้องอธิบายให้เกิดความเข้าใจและทำความเข้าใจกับผู้เรียนอย่างละเอียด ถึงหลักการเรียนการสอน และ การเรียนการสอนนี้จะนำพาไปสู่จุดใด ถ้าผู้สอนเองไม่ยึดมั่นในหลักการ ก็คงจะเหมือนกับว่า เราเดินเข้าไปสอนภาษาไทย แล้วนักเรียนบอกอยากเรียนภาษาฝรั่งเศส เราจะสอนได้อย่างผู้ชำนาญการหรือไม่ อันนี้ท่านต้องตอบตัวเอง

เราขอยืนยันว่า การเรียนการสอนจะประสพความสำเร็จได้ อยู่ที่ความแม่นยำทางด้านความรู้ของผู้สอน และการวางแผนการสอนเป็นสำคัญ ทั้งนี้การเรียนการสอนจะไม่เกิดขึ้นได้อย่างที่ครูกวีกล่าวไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันว่า อะไรสำคัญที่สุดในห้องเรียน แล้วเราจะทำอย่างไรให้ผู้เรียนมาเรียนกับเรา คงจะไม่ใช่ที่ตามใจผู้เรียนอย่างเดียว แต่ความรู้และแผนการสอนที่สนุก จะทำให้ผู้เรียนติดใจ จริงหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์กันเอาเอง





ข้อเขียนนี้ ผู้เขียน ๆ ขึ้นเพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้ในวิถีโยคะแบบดั่งเดิม หากท่านเห็นว่ามีประโยชน์กรุณาช่วยกันแบ่งปันต่อไปทาง ออนไลน์ แต่กรุณาอย่าดัดแปลง หรือ กรุณาอย่านำไปลงในสื่ออื่น ๆ แต่อย่างใด  ขอบคุณครับ




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2553   
Last Update : 9 ธันวาคม 2553 16:27:48 น.   
Counter : 954 Pageviews.  


คอร์สโยคะอาสนะขั้นพื้นฐานเพื่อความสุข กับสถาบันโยคะวิชาการ

โยคะอาสนะขั้นพื้นฐานเพื่อความสุข จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554 เวลา 9.00-15.00 น. ที่ห้อง 262 ชั้น 6 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สุขุมวิท 23 (ซอยประสานมิตร) สำหรับคนที่อยากเรียนรู้ว่าโยคะดั่งเดิมที่แท้จริงนั้นคืออะไร และให้ประโยชน์เช่นไหร่ ง่ายแค่ไหน ใครก็ทำได้

คอร์สนี้มีค่าอบรมน่ะครับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณกลอย
Tel.02-732-2016-7,081-401-7744

• ฝึกท่าโยคะอาสนะที่ง่าย ใครๆ ก็ทำได้ และเป็นประโยชน์
• ฝึกเทคนิคการหายใจ ที่นำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
• ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย
• นอกจากนั้น ยังมีการพูดคุยถึงโยคะที่แท้จริง ตามตำราดั้งเดิม
• แลกเปลี่ยนทัศนะในการดำเนินชีวิตที่สมดุล


วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จักโยคะอย่างที่โยคะเป็น
2. เข้าใจศาสตร์แห่งโยคะในระดับเบื้องต้น และสามารถฝึกได้ด้วยตนเอง
เนื้อหา ภาคทฤษฎี
o โยคะคือการพัฒนากาย-จิต
o หลักในการฝึกอาสนะ 4 ข้อ ที่ไม่ทำให้ผู้ฝึกได้รับบาดเจ็บ
o คุณค่า ประโยชน์จากการฝึกโยคะ ตามหลักสรีรวิทยา และ ข้อควรระวังในการฝึกท่าโยคะอาสนะ
o มรรควิถี 8 ประการของโยคะ ฯลฯ
เนื้อหา ภาคปฏิบัติ
o อาสนะพื้นฐาน 14 ท่า
o เทคนิคการหายใจพื้นฐาน การหายใจด้วยหน้าท้อง การหายใจด้วยทรวงอก
o เทคนิคเกร็งและคลายกล้ามเนื้อ 8 ส่วน
o เทคนิคการผ่อนคลายอย่างลึก
o เกมส์ฝึกสติ


การเตรียมตัวก่อนการฝึกโยคะ
1. ควรงดรับประทานอาหารก่อนการฝึกปฎิบัติ ดังนี้
- อาหารมื้อหนัก เช่น อาหารตามมื้ออาหาร อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- อาหารมื้อเบา เช่น อาหารว่าง (ขนมปัง, แซนด์วิช ฯลฯ) อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ร่างกาย เนื่องจากหากท้องอิ่ม อาจทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัวในขณะฝึกปฏิบัติได้
2. แต่งกายสบาย ๆ ผ้ายืด เช่น เสื้อยืด - กางเกงวอร์ม จะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากทำให้เกิดความยืดหยุ่นในขณะฝึก ควรหลีกเลี่ยงการใส่ชุดออกกำลังกายที่รัดรูป เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี
3. ควรจัดเตรียมผ้าห่ม หรือผ้าขนหนูผืนยาวมารองตัวขณะฝึก ขนาดกว้างยาวประมาณตัวผู้ฝึก
(มีเบาะโยคะเตรียมไว้ให้ในวันเรียนแล้วค่ะ)
4. ***เตรียมพื้นที่เล็ก ๆ ไว้ในใจสำหรับเพาะเมล็ดแห่งโยคะให้งอกงามในวิถีตน***


ณ ห้อง 262 ชั้น 6 คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2553   
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 11:14:10 น.   
Counter : 1225 Pageviews.  


สอน และ ฝึกโยคะ เราได้อะไรกันบ้าง

นับจากนี้ ข้อเขียนทั้งหมด จะเกิดขึ้นจากการเริ่มเข้าอบรม ครูโยคะ รุ่น  10 ของทางสถาบันโยคะวิชาการ ทั้งนี้ เราจะได้เรียนรู้จิต และ ความคิด ที่มองโยคะ แตกต่างจากช่วงต้นของผู้เขียนที่เริ่มฝึก ว่ามีความแตกต่างทางด้านความคิด และ มุมมองต่อโยคะ อย่างไร 



วันนี้ได้สอนเพื่อนสองคน ที่มีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

คนแรก ชื่อตุ่ม เพศ ผู้หญิง ลักษณะร่างกายเป็นคนไม่สูง และมีความหนาของลำตัวมาก แต่เคยฝึกโยคะมาก่อนจากฟิตเนสและเป็นคนตัวอ่อนในระดับหนึ่ง

คนสอง ชื่อวา เพศชาย ตามราชการระบุ ร่างกายสัดทัด มีกล้ามเนื้อสวยงาม เป็นมัด ๆ เห็นได้อย่างชัดเจน เคยฝึกโยคะกับเรามาบ้างแต่ไม่มาก ไม่ได้ฝึกเป็นประจำ

เริ่มต้น ตอนแรก ตุ่ม ไม่ได้อยากฝึกเท่าไหร่ ก็เลยต้องเริ่มละลายพฤติกรรมก่อนด้วยการ บอกว่าจะนัดหมอดูไพ่ยิปซีมาดูให้ ตุ่มเลยยอมมาฝึก ในตอนแรกก็ปล่อยให้ดูหมอกันไปเรื่อยเปื่อย พอเสร็จเรียบร้อย ตุ่มก็บอกว่าพวกเธอฝึกไป เราจะนอน เราก็เลยปรับเปลี่ยนว่า ไหน ๆ จะนอนแล้ว เรามานอนอย่างมีประโยชน์ดีกว่า ด้วยการฝึกท่าศวาสนะ หรือท่าศพ เพื่อช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้าจากตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ตุ่มจึงเริ่มล้มตัวลงนอน พร้อมกับ วา ในท่าศวาสนะ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลาย ก่อนจะนำเข้าฝึกในท่าอื่น ๆ ต่อไป

การนำท่า ศวาสนะ มาใช้ในการเริ่มต้นนั้นถือว่าเป็นผลดี เพราะเราจะทำให้ผู้ฝึกรู้สึกผ่อนคลาย เปิดใจยอมรับ และละลายพฤติกรรมที่จะปฏิเสธการฝึก ทำให้รู้สึกว่าการฝึกนั้นมีความผ่อนคลาย สบาย ไม่เหมือนกับการฝึกตาม Studio ทั่วไป หลักจากที่ทุกคนล้มตัวลงนอน เราก็เริ่มปฏิบัติการคลายกล้ามเนื้อแปดจุด เพื่อให้เพิ่มความผ่อนคลายสบายมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นทำ Deep Relaxation ต่ออีก 5 นาที เพื่อให้ผู้ฝึกเข้าสู่ภวังค์ของความผ่อนคลาย และเกิดความพร้อมยอมรับในการฝึก

สิ่งที่สังเกตได้จากการฝึกจะเห็นว่า ตุ่ม ซึ่งน่าจะทำงานเครียดกว่า วา สามารถปล่อยตัวเข้าภวังค์แห่งความผ่อนคลายได้มากกว่า ทั้งที่ วา ดูแล้วงานไม่น่าจะมีความเครียดเท่า แต่ด้วยนิสัย เป็นคนเก็บเรื่องคนอื่นมาคิด ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงเก็บความเครียดไว้มาก จะเห็นได้ชัดว่าไหล่ยก และ หลังไม่วางราบลงกับพื้น ต้องมีการจัดปรับท่าให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายให้มากขึ้น ดังนั้นการจะเข้าสู่ภวังค์ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการปล่อยคลายความเครียดออกจากกล้ามเนื้อ

หลังจากนั้น จึงนำเข้าสู่การฝึกในท่า งู ท่าตั๊กแตน ท่าคันไถครึ่งตัว ท่าวิปริต โยคะมุทรา ซึ่งก็จะมีข้อสังเกตว่า ตุ่มที่มีกล้ามเนื้อตามลำตัวนุ่มนิ่มกว่า วา สามารถคงท่าได้นานกว่าไม่มีอาการสั้น อันเนื่องมากจากที่เคยฝึกโยคะตาม Studio ทำให้ มัซเซิลโทน สามารถคงท่าไว้ได้ในระยะที่นานกว่า แต่ในขณะที่ วา ร่างกายมีกล้ามเนื้อชัดเจน แต่กลับคงท่าได้สั้นกว่า อันเนื่องมาจาก มัซเซิลโทน ไม่สามารถคงท่าได้ เพราะกล้ามเนื้อชั้นในไม่เคยได้รับการฝึก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กล้ามเนื้อชั้นนอก ให้ความสวยงาม แต่ไม่ได้ให้ความแข็งแรงต่อการพยุงร่างกายแต่อย่างใด ระหว่างการฝึกแต่ละท่า ผู้สอน จะหยุด ทำการพูดคุย ถึงความรู้สึกของผู้เรียนที่มีต่อท่าแต่ละท่าที่ได้ฝึกไปแล้ว เล่าถึงประโยชน์ และ แบ่งปันความรู้สึกว่าอะไรเกิดขึ้น อย่างไร เพื่อให้ผู้ฝึกเข้าใจ และมีความรู้สึกสนุกที่จะฝึกต่อไป

เมื่อฝึกเสร็จแล้ว ก็ให้นั่งสมาธิสั้น ๆ โดยบอกว่าให้นั่งประมาณ 5 นาที สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการนั่งสมาธิ ตุ่ม สามารถนั่งได้นิ่ง และ นานจนถึง 10 นาที แต่ในชณะที่ วา จะมีช่วงขยับที่นาที ที่ 8 เพราะมัซเซิลโทนนั้นยังไม่สามารถคงที่ในท่านั่งได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งในการตั้งสมาธิกับลมหายใจ นั้นยังคงไม่ปล่อยให้ความคิดหลุดออกไป คือเมื่อเกิดความคิด แทนที่จะคิดแล้วปล่อยออกไป กลับไปคิดซ้ำ ทำให้สมาธิวูบไป

ระหว่างนั่งสมาธิ ในช่วงระยะเวลานาน 10 นาที ผู้สอนได้ใช้ระฆัง มาเคาะตามจังหวะ ในระยะเวลาที่ผ่านไป นาทีที่ 5 นาทีที่ 8 นาทีที่ 9 นาทีที่ 10 เมื่อสอบถามผู้เรียน พบว่า ผู้เรียน ชอบในเสียงระฆัง และเมื่อได้ยินจะทำให้ดึงสติกลับมาอยู่กับสมาธิได้เป็นการช่วยให้นั่งสมาธิได้นานขึ้น

การสอนในแต่ละครั้ง ต้องหาวิธีเปิดใจ ของผู้เรียน ให้กว้าง พร้อมที่จะยอมรับในแนวทางที่เราจะสอน พูดคุยให้เห็นของเปรียบเทียบ เมื่อฝึกแต่ละท่า ในเบื้องต้นจำเป็นจะต้องหยุดอธิบาย เพื่อผู้เรียนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และ เปรียบเทียบท่า แต่ละท่าว่าให้คุณประโยชน์อย่างไร ดังจะเห็นได้จาก ตุ้ม ที่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะฝึก แต่จะนอนรอ ก็เข้าร่วมฝึก จนกระทั่งนั่งสมาธิได้นานกว่าที่กำหนด เกิดความรู้สึกสบายตัว และปลอดโปร่ง
แบ่งปัน เพื่อ ความเข้าใจที่ดีของเราทุกคน

ข้อเขียนนี้ ผู้เขียน ๆ ขึ้นเพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้ในวิถีโยคะแบบดั่งเดิม หากท่านเห็นว่ามีประโยชน์กรุณาช่วยกันแบ่งปันต่อไปทาง ออนไลน์ แต่กรุณาอย่าดัดแปลง หรือ กรุณาอย่านำไปลงในสื่ออื่น ๆ แต่อย่างใด  ขอบคุณครับ






 

Create Date : 03 ธันวาคม 2553   
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 18:13:17 น.   
Counter : 932 Pageviews.  


เชิญร่วมฟัง "สมาธิ : เส้นทางภายในสู่ความสำเร็จภายนอก" โดย "สวามี เวทะ ภารตี" จากสถาบันโยคะสมาธิ หิมาลายัน

มีความยินดีขอเชิญท่านพบกับ
สวามี เวทะ ภารตี
จากสถาบันโยคะสมาธิ หิมาลายัน

สวามี เวทะ ภารตี ปรารภอยู่เสมอว่าท่านมีความรู้สึกผูกพันกับคนไทยและพุทธศาสนาในประเทศไทยมากเป็นพิเศษ ในปลายเดือนมกราคม 2554 นี้ ท่านจะเดินทางมาเยี่ยมประเทศไทยเป็นครั้งที่ 4 (และอาจเป็นครั้งสุดท้าย) ท่านมีความประสงค์จะได้พบกับคนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศนี้อีกครั้งหนึ่ง

..........ทั้งสามสถาบันจึงได้ร่วมกันจัดสัมมนาเพื่อให้ทุกท่านได้พบปะกับท่าน

เมื่อไร .....วันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2011 เวลา 18.30 น.
.............(เริ่มลงทะเบียนก่อน 17.30 น,กรุณามาถึงสถานที่ภายใน 18.00น)

ที่ไหน ....สมาคมธรรมศาสตร์ (ชั้น ๒)
.............ถนนสาธรเหนือ( แผนที่ประกอบด้านล่าง)โทร.02-679-8322

หัวข้อ......สมาธิ : เส้นทางภายในสู่ความสำเร็จภายนอก

สวามี เวทะ ภารตี ได้เริ่มสอนปตัญชลีโยคะสูตรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และได้เริ่มบรรยายธรรมให้แก่สาธารณะชนในแถบอินเดียตอนเหนือเมื่ออายุได้ 13 ปี นับตั้งแต่นั้น ท่านได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเผยแพร่ธรรมะ และวิธีการปฏิบัติสมาธิ นับเป็นเวลารวมทั้งสิ้น ๖๒ ปี ท่านสามารถพูดได้ 17 ภาษา

เราขอเชิญชวนให้ผู้สนใจมาพบและรับฟังธรรมบรรยายจากท่านสวามีซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถนำไปปฏิบัติใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ในทุกยุคทุกสมัย และมาสัมผัสกับความสงบเยือกเย็น ความอ่อนโยน และ ความมีเมตตาของท่านด้วย

กรุณาติดต่อ สถาบันโยคะวิชาการ ที่ 02-732-2016-7 เพื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้า

ข้อความพิเศษ

1) สำหรับสุภาพสตรี กรุณาสวมกางเกงขายาว
2) ทางสมาคมสามารถจัดที่จอดรถไว้ให้ประมาณ 150 คัน
แต่หากเป็นไปได้กรุณาอย่านำยานพาหนะส่วนตัวมา
3) มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้บริการที่ปากซอยงามดูพลีและปากซอยสาธรซอย 1




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2553   
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 14:56:48 น.   
Counter : 1046 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

Beautybig
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




สวัสดีครับ ไม่ค่อยได้เข้ามาใน Blog เท่าไหร่ แต่สามารถติดตามกันได้ที่

http://www.krityoga.com

หรือ https://www.facebook.com/ThaiYogaInstituteAlumni/
โยคะสารัตถะ เล่มเดือนมีนาคม มารู้จักโยคะจากผู้เรียนที่ สวนโมก สวนรถไฟ กรุงเทพกัน
New Comments
[Add Beautybig's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com