เรียนรู้โยคะเพื่อ เมตตาตน คุณเลือกได้
โยคะ กำลังได้รับการกล่าวขวัญถึงกันอย่างมากมาย ว่าเป็นการฝึกที่ให้คุณประโยชน์กับร่างกายเป็นอย่างมากทั้งช่วยทำให้ร่างกายจัดปรับสมดุล จิตใจสงบสดใส เปี่ยมไปด้วยความสดชื่น โดยในปัจจุบันพบว่ามีความหลากหลายในการฝึกและแนวทางปฏิบัติที่เหมือนแต่แตกต่างกันอยู่มากมาย ให้เราได้เลือกฝึก เลือกฟังและเลือกที่จะดำเนินชีวิตตามความชอบของแต่ละคน ผู้เขียนเองก็ค้นหาแนวทางที่ตนเองชอบ และ ฝึกปฏิบัติ มาโดยตลอดแต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบจากการเรียนรู้ในหลาย ๆ ครั้ง ทำให้พบว่าไม่ว่าจะชั้นเรียนแบบใดจะก่อให้เกิดทางเลือกในการฝึกโยคะด้วยกันสองทาง คือ ฝึกแล้วจะสร้าง อัตตา หรือ เมตตาให้กับจิตใจและร่างกายของเราทุกครั้ง หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วอาจจะงง ๆ ว่า แล้วอะไรเล่าคือการสร้าง อัตตาและ เมตตา ให้กับตัวเราจากการฝึกฝนโยคะ เรื่องนี้เรามองได้ไม่ยากนัก หลายครั้งที่ผู้เขียน ได้เข้าร่วมการอบรมโยคะ ทำให้พบว่ามีผู้สอนหลายท่านจะเริ่มการสอนด้วยโฉลกบทที่ 2.46 ของท่านปตัญชลี ซึ่งเป็นผู้เขียนตำราเล่มแรกของโยคะ ที่ว่า เสถียรสุข อาสนะ หรือจะแปลง่าย ๆ ว่า โยคะนิ่ง สบายใช้แรงแต่น้อย มากล่าวเปิดการอบรมอยู่เสมอ ซึ่งเป็นการดีสำหรับผู้ฝึกและผู้สอนในการที่จะทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่าการฝึกโยคะนั้น เป้าหมาย คือการนิ่ง อยู่ในความสบาย และใช้แรงแต่น้อยในการฝึก เพราะเมื่อฝึกไปสักพัก ผู้เขียนกลับพบว่า เรามิได้นิ่ง ไม่รู้สึกสบายและใช้แรงอย่างมากมาย จนเราเหนื่อยล้า นั้นเพราะเราปรารถนาที่ต้องทำอาสนะให้ได้ตามครู ยิ่งเมื่อเราพิจารณาตัวเราแล้วนั้น เราจะไปโทษใครไม่ได้เนื่องจากเราเป็นคนเลือกที่จะฝึกตามความอยากที่เกิดขึ้นชั่วขณะ จนลืมมองไปว่าเราปราศจากความรู้แจ้งถึงสภาวะร่างกายและจิตใจที่เรามีอยู่จริง จนทำให้เราละเลยที่จะเมตตาตัวเราเองและเริ่มทำในสิ่งตรงกันข้ามกับโฉลกบทดังกล่าว ด้วยว่าเรากลับเริ่มฝึกเกินกว่าความสามารถของร่างกายและจิตใจ เช่นผู้เขียนมีข้อมือเล็กและกำลังแขนที่ไม่มากพอในการฝึก Arm Balance แต่พอใจมันเตลิดพาไปก็มักจะลืมข้อจำกัดของตนเองทุกครั้ง ทำให้ฝึกไปโดยมิได้นิ่งสบาย แต่กลับโหมทำเพียงเพื่อตอบจิตที่กระเจิงไปว่า ฉันต้องทำได้ ทำให้ตระหนักว่า เรานั้นจะมีแต่ความตั้งใจเพียงอย่างเดียว โดยปราศจากความเมตตาต่อตัวเราไม่ได้เพราะการฝึกนั้นอาจจะส่งผลลบ ทั้งการสร้างความเจ็บปวดต่อร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นจากความพยายามจัดปรับร่างกายในแต่ละอาสนะมากจนเกินไปอีกทั้งจะก่อให้เกิดความไม่สงบในจิตใจที่เกิดจากการเปรียบเทียบ หรือคาดหวังที่จะฝึกอาสนะที่ไม่เหมาะกับเราให้จนได้ ทั้งที่โยคะมิใช่นำพาไปสู่เป้าหมายเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นแล้ว เรานั้นแหละคือปัจจัยต่อการฝึกของเราเอง มิใช่ใครอื่นครูเป็นเพียงผู้แนะแนวทาง แต่เรามีอิสระที่จะเลือกฝึกเพื่อให้เกิด เมตตาต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะนำไปสู่การฝึกโยคะเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต โยคะจิตตะ วิรุตติ นิโรธ นั้นเอง ซึ่งในความเป็นจริงโฉลกบทนี้ คือ โฉลกบทแรกในโยคะสูตรที่เราควรจะเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของการฝึกโยคะอย่างแท้จริง
Create Date : 30 มิถุนายน 2555 |
| |
|
Last Update : 30 มิถุนายน 2555 21:51:16 น. |
| |
Counter : 1582 Pageviews. |
| |
|
|