==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
มุมมองใหม่ .... ต่อผู้ชายที่แต่งงานแล้ว (มองแบบเข้าข้างตัวเอง อิอิ)

====== เขียนไว้หลายปีแล้วล่ะครับ (เพิ่งคุ้ยเจอ) ============

ถ้าไปจ่ายตลาดกับแม่ยัยหนูตามปกติทุกวันอาทิตย์ ผมก็ไม่ต้องใช้สมองมาก เพราะมีส่วนร่วมแค่ ขับ(ไป)-เข็น(รถในซุปเปอร์ฯ)-ขน(มาใส่หลังรถ)-ขับ(กลับ)-ขน(เข้าบ้าน) เมื่ออาทิตย์ที่แล้วแม่ยัยหนูมีธุระผมเลยต้องโชว์เดี่ยว จึงเป็น ขับ-เข็น-คิด-เข็น-คิด-เข็น-ขน-ขับ-ขน อยู่คนเดียว เห็นความแตกต่างไหมครับ คือแม่ยัยหนูเขาอยู่แผนกคิดไงครับ

เรื่องก็เกิดจากการที่ต้องคิดเป็นครั้งแรก ตอนที่ต้องเลือกผลไม้นี่แหละครับ ดูเหมือนง่ายๆใช่ไหมครับเพื่อนๆที่เป็นคุณพ่อบ้านคุณแม่บ้านทั้งหลาย แต่ผมเกิดสังเกตุได้ว่า โดยสถิติแล้วผลไม้ในรถเข็นของคนอื่นมันสวยกว่าที่อยู่ในกระจาด แหมก็แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับก็เขาเลือกแล้วนี่ ในกระจาดนะมันคละกันทั้งลูกสวยและไม่สวย วิธีเลือกผลไม้โดยรวมก็ไม่ต่างกันมากนัก

ผู้ชายที่แต่งงานแล้วก็เหมือนโดนเลือกแล้ว (อาจจะโดยตั้งใจหรือไม่ของผู้หญิงที่เลือกก็ตามที) ผ่านการคัดสรรมาในระดับหนึ่งไม่มากก็น้อยล่ะ (เหมือนผลไม้ที่อยู่ในรถเข็น) ที่สำคัญคือถูกเลือกโดย "ผู้หญิง" ด้วย "เงื่อนไขที่ค่อนข้างคล้ายๆกัน" ดังนั้นจึงน่าจะสันนิฐานได้ว่าโดยสถิติแล้ว น่าจะดีกว่าผู้ชายที่ยังไม่ได้ถูกเลือก หรือจะขยายความได้อีกอย่างหนึ่งว่า (ถ้าไม่กลัวผิดศีล) มันจะชัวร์กว่าไหมถ้าจะ(แอบ)เลือกผลไม้จากรถเข็นของคนอื่นตอนที่เขาเผลอ เพราะถ้าไปเลือกเอาจากกระจาดก็วัดฝีมือในการเลือกบวกกะวัดดวงเอาก็แล้วกัน เลือกจากกลุ่มตัวอย่างที่ถูกเลือกแล้ว โอกาสได้ของดีน่าจะสูงกว่า และ ถ้าจะขยายนัยยะต่อไปอีก คือแหวนปอกมีดบนนิ้วของชายที่แต่งงานแล้วหาได้เป็นเครื่องหมายแห่งพันธะแต่อย่างเดียวไม่ หากแต่ยังหมายถึงตรารับรองคุณภาพอีดโสตหนึ่งด้วย


Create Date : 26 พฤษภาคม 2551
Last Update : 9 ธันวาคม 2552 11:09:54 น. 11 comments
Counter : 925 Pageviews.

 
ตกลงแล้วเป็นผลไม้ที่วางในตระกร้า

ที่โดนเลือกมาใช่ไหมคะ

ไม่ได้เป้นคนเลือกเขานะคะ

เอ...แล้วเราล่ะ ถูกเลือกหรือเลือกเค้าหว่า

ยังงงอยู่


โดย: มณีสยาม IP: 125.25.219.136 วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:42:48 น.  

 
อือ พูอย่างนี้......... ไม่อยากมีสามีเลย กลัวโดนแย่ง หรือจะไปแอบหยิบจากรถเข็นคนอื่นดีหว่า 555+


โดย: puku IP: 125.27.164.67 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:09:43 น.  

 
แหม...คิดได้งัยคะ คุณขา...

เดี๋ยวจะไปถามสามีเรามั่ง คิดยังงี้อ๊ะเป่า ?


โดย: --สาวลูกสอง-- IP: 203.144.144.165 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:54:57 น.  

 
เคยอ่านบล็อกนี้ตั้งแต่สมัยสาวๆ
จนตอนนี้เริ่มจะหมดสาว
ก็ยังไม่ได้หยิบผลไม้จากรถเข็นใครเลย
ไปเลือกในกระจาดแล้วก็ไม่ได้ดั่งใจ
ผลใหญ่เน่าไปครึ่งซีก
ผลขนาดกลางช้ำทั้งผลจนกินไม่ไหว
ผลเล็กยังไม่สุกดี
ผลทางซ้าย เหมาะเหม็งดี แต่โตเกินไปคงซื้อไม่ไหว
ผลทางขวา อุ้ยดูดีจัง ทำท่าจะหยิบ อิป้าที่ไหนไม่รู้มาคว้าไปต่อหน้าต่อตา
ผลตรงหน้าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไม่ใหญ่นักหรอก ดูท่าไม่ค่อยหวาน แต่คงพอทานได้ หยิบมาไว้ในมือ สาวน้อยคนนึงเดินเข้ามา พร้อมยื่นมือมาฉกไปจากมือเรา แล้วบอกว่าพี่คะถ้าไม่ได้ผลนี้ "หนูทำใจไม่ได้"
สุดท้าย...กลับบ้านมือเปล่า


โดย: wanarisa IP: 223.206.67.228 วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:21:03:13 น.  

 
wanarisa - แนะนำครับ ตกเขียวมันซะเลย ไม่ก็เอาเมล็ดไปปลูกที่บ้าน ... เอิ๊กๆ ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:9:10:50 น.  

 
สงสัย...เราต้องเฝ้ากระจาดให้ดีๆ...5555
เอ๊ะ!!! แล้วผลไม้มันจะแอบกลิ้งตกกระจาดไปเองมั่งเปล่า...


โดย: NOIDT IP: 49.49.189.93 วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:5:07:32 น.  

 
Noidt - ว่ากันตามหลักฟิสิกส์แล้วนะครับ วัตถุเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่เองไม่ได้ ถ้าไม่มีแรงจากภายนอกมากระทำ (กฏข้อแรกของนิวตัน) นั่นแปลว่าถ้ามันอยู่เฉยๆ ไม่ไปผลักไม่ไปดึงหรือออกแรงกับมัน จู่ๆมันไม่กลิ้งตกไปนอกกระจาดหรอกครับ :)

ถ้ามันตกไปนอกกระจาดแปลว่ากระจาดขยับ สั่นแรงและต่อเนื่อง จนมันขยับไปทีละนิดๆจนไปอยู่บนขอบกระจาด พอกระจาดสั่นอีกนิดเดียว มันก็เลยตกจากกระจาดไปเลย

ตามประสบการณ์ของผม ไม่ว่าทางวิศวกรรมหรือทางจิตวิทยา "แรงดึง" มีผลต่อการเคลื่อนที่น้อยกว่า "แรงผลัก" เสมอครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:10:16:16 น.  

 
แหม...ช่างเข้าใจอธิบาย...
ช่วงนี้แผ่นดินไหวบ่อยซะด้วย...น่ากังวล...


โดย: NOIDT IP: 202.12.97.113 วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:12:02:21 น.  

 
Noidt - ปล. เพิ่มอีกนิด ในทางฟิสิกส์ ทางกฏหมาย กับทางจิตวิทยา เหมือนกันอยู่อีกอย่างคือ การอยู่เฉยๆก็เป็นการเคลื่อนที่อย่างหนึ่ง(ที่ความเร็วเท่ากับศูนย์) เช่นเดียวกับทางกฏหมายที่ถือว่าการไม่กระทำคือการกระทำอย่างหนึ่ง(มันถึงมีข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่ไง) ทางจิตวิทยาก็เช่นกัน ถือว่าการอยู่นิ่งๆคือการแสดงออกเช่นกัน

นั่นแปลว่า กระจาดกับผิดชอบต่อสิ่งที่อยู่ในกระจาดเสมอ ไม่ว่าแรงที่มานั้นจะมาจากภายนอกกระจาดหรือมาจากตัวกระจาดเอง การที่กระจาดอยู่เฉยๆเมื่อมีแรงจากภายนอกมากระทำกับของที่อยู่ในกระจาด โดยไม่ทำอะไรเลย แล้วของในกระจาดหกหล่นไป กระจาดก็ต้องรับผิดชอบด้วยส่วนหนึ่ง(ไม่ทั้งหมด) เพราะโดนข้อหา ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ดี อย่าลืมว่าการอยู่นิ่งๆคือการกระทำอย่างหนึ่งเช่นกัน :) ฮ่าๆ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:20:27:57 น.  

 
เดี๋ยวต้องหาฝามาปิดกระจาดสักหน่อย


โดย: NOIDT IP: 223.204.12.151 วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:21:33:28 น.  

 
แต่ละคน ผมว่าไม่ต่ำกว่า 35 อ่ะ (เชื่อมะ คมกันซะจิงๆ )


โดย: ชะ ชะ ชะ เล เล้ มา ซิ ลอน IP: 110.169.242.144 วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:0:12:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.