==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
"Can Do" ทัศนคติที่สำคัญในการเป็นคนทำงานในวงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม - The first stone

วันนี้ผมอยากชวนคุยเรื่องเล็กๆที่เปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงานของเราได้ เรื่องทัศนคติครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสไปฝึกเด็กใหม่ 3 - 4 คนที่เพิ่งเข้ามาทำงานด้วยในทีม ก็เลยบอกน้องๆว่าก่อนจะเริ่มเรื่องตัวเนื้องานซึ่งหมูๆง่ายๆ ผมอยากจะคุยเรื่องพื้นๆเสียก่อน ซึ่งก็คือเรื่องนี้แหละ พอพูดจบไปแล้ว ก็นึกว่า เออ น่าจะเอามาลงที่บล๊อก (หากินกันง่ายๆแบบนี้แหละ ฮ่าๆ)

มีคนทำงานอยู่ 2 แบบ พวกเราเจอพวกแรกแบบนี้ไหมครับ ในห้องประชุม มีการเสนอวิธีแก้ปัญหา ปรับปรุง หรือ รับมือกับอะไรสักอย่างหนึ่งขึ้นมา เช่น วิธี ก. คนพวกแรกนี้จะเปิดฉากเลยว่า โอ๊ย ไม่ได้หรอกครับ มันติดที่ ข. ถ้ายังแก้ ข.ไม่ได้ วิธีก.นี่ก็เอามาใช้ไม่ได้ เคยลองมาแล้ว ที่หนักกว่าคือ ค. กับ ง. มันก็ติดเหมือนกัน นั่นยิ่งแก้ยาก เคยคิดกันมาแล้ว

คุ้นไหมครับ คนแบบแรกนี่ มองอะไร ติดไปหมด ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ติด

กับคนอีกแบบหนึ่ง ผมจะเรียกว่าแบบที่สอง คนแบบนี้มักจะพูดว่า เออ น่าลองนะ ผมรู้ว่า ถ้าจะทำก.ให้ได้ มันต้องแก้ที่ ข.ก่อน แก้ข.ได้แล้ว เผลอๆ ค.กับง. อาจจะเห็นด้วย แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร ถ้าไปทำ จ.ก่อนแล้ว ค. กับ ง. อาจจะโอเคนะ งั้นเอางี้ ให้พวกเรา หรือ ผมก็ได้ ถ้าไม่มีใครสะดวก ผมอาสาไปคุยกับทีมก่อนว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน ถ้าจะไปแก้ข.และคุยกับจ. ได้ไม่ได้ยังไง สัปดาห์หน้า ผมมาแจ้งที่ประชุมอีกทีก็แล้วกัน

คนทำงานแบบที่สองนี่ มักจะมองอะไรบวกไว้ก่อนว่าน่าจะได้นะ ทำไมไม่ลอง ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ขอไปศึกษาดูก่อน



ผมไม่ใช่นักบริหารงานบุคคลหรือนักจิตวิทยาอะไรที่ไหน แต่ผมตั้งชื่อทัศนคติแบบนี้ว่า "Can do" ทัศนคติแบบนี้สำคัญมากครับสำหรับการทำงานและเจริญก้าวหน้าในวงการฯของเรา คนแบบนี้มักจะก้าวไปเรื่อยๆ ช้าบ้างเร็วบ้าง แต่จะก้าวไป ในขณะที่ คนแบบแรกจะย่ำอยู่กับที่

ดูตัวอย่างง่ายๆ มีแท่งหินหนักๆทับทองคำอยู่ ตามรูปคร่าวๆข้างล่างนี่ คนๆนี้ก็หนักแค่เนี้ย จะไปเข็นไปยกได้ไง ใช่ป่ะ แต่ถ้าเขามี ทัศนคติแบบ can do เขาก็ต้องหาทางที่จะเอาไอ้หินก้อนนี้ออกไปให้ได้ เขาอาจจะลองถีบดูซิ เตะมันดู เอาเชือกมาลาก หรือ อาจจะลองเข็นดู อาจจะมีสักวิธีที่สำเร็จ



ผมกำลังจะบอกว่า ทัศนคติแบบ can do ที่ไม่มีหลักการรองรับ ก็ไม่ต่างจากการเสี่ยงโชคหรือเล่นการพนัน หวังไปลมๆแล้งๆ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการในงานแบบพวกเรา เราต้องการคนที่มีทัศนคติ can do และ มีหลักการที่ผมเรียกว่า sound engineering รองรับทัศนคติ can do นั้น



มาดูตัวอย่างของเราต่อว่า sound engineering แปลว่าอะไร



เราจะต้องรู้ว่า จะใช้หลักการอะไร คำนวนทุกอย่างไว้ให้ตรง คานต้องแข็งแค่ไหน ต้องยาวด้านล่ะเท่าไร ความสูงจุดหมุนเท่าไร ต้องจิ้มลงไปในดินลึกแค่ไหน



เพราะถ้าลึกไม่พอ ตอนงัดขึ้นมา จุด CG (Central of Gravity) ไม่พ้นแนวฐานเดิมของมัน มันก็กลิ้งมาแปะทับทองคำของเราเหมือนเดิม เห็นไหมครับว่า ทัศนคติแบบ can do อย่างเดียว ไม่พอ ต้องมี sound engineering หนุนหลังค้ำยันเอาไว้ด้วย

ในอุตสาหกรรมเรานั้นเต็มไปด้วยอันตราย ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนวางแผนงาน ส่วนคำนวนออกแบบ หรือ ไปอยู่หน้างาน ลงไม้ลงมือทำจริงๆ จิตวิญญาณ จิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยนั้น ต้องเป็นฐานรองรับอยู่เสมอๆ



กลับมาที่ตัวอย่างของเราต่อ ฐานเรื่องความปลอดภัยหมายความว่าอย่างไร ถึงเราจะคิดว่า can do นะ และ มี Sound engineering หนุนหลังกำกับ แต่ถ้าผลมันออกมาแบบนี้ล่ะ เรายังจะก้าวต่อไปไหม



ถ้าเราต้องปีนไปอยู่สูงขนาดนั้น เราจะต้องมีอะไรปกป้องตัวเราไว้ อาจจะเป็นเชือกเหนียวๆดีๆสักเส้นผูกเอาไว้ แล้วไปยึดกับอะไรสักอย่างที่แข็งแรง กันพลาดเราตกลงมาจะได้ห้อยต่องแต่งไม่เอ้งแม้งกระแทกพื้น แต่ตอนผูกตัวเราไว้น่ะ ต้องให้แน่ใจว่าผูกที่เอวนะครับ ไม่ใช่ผูกที่คอ (ฮ่า) นอกนั้นยังต้องดูเผื่อไปที่คนอื่นด้วย ไม่ใช่ว่าเราและเพื่อนร่วมงานปลอดภัย คนอื่นผ่านไปผ่านมาช่างหัวมัน

วันนี้ชวนคุยเท่านี้แหละครับ ลองหันกลับมามองตัวเองนะครับว่า เราเป็นแบบไหน ยังไงกันบ้าง :)




Create Date : 24 มีนาคม 2556
Last Update : 24 มีนาคม 2556 18:21:07 น. 12 comments
Counter : 3669 Pageviews.

 
เดี๋ยวนี้ผมเห็นหลายบริษัทที่เอาไปเป็น Company culture และถูกนำไปทดสอบในการสัมภาษบ่อยๆ หรือ ทุกครั้งไป คิดบวก คิดว่าทำได้ มีชัยไปกว่าครึ่ง ครับ เหมือนอดีตหัวหน้าผมที่ท่านเคยบอกว่าลองก้าวออกจาก Comfort Zone บ้างแล้วจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ และเราสามารถทำอะไรได้มากการที่เราเป็น จากนั้นผมก็ยืดถือเรื่อยมา


โดย: Dim_Noi IP: 171.5.194.28 วันที่: 24 มีนาคม 2556 เวลา:19:52:43 น.  

 
Dim - noi - ขอบคุณที่มาแบ่ปันความคิดกันครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:1:34:53 น.  

 
แหมเข้าในเลือกรูปนะพี่ ทองแท่งซะเลย อิอิ

ทำให้ผมนึกถึง ตอนที่พยายามเคลื่อนย้าย shear ram ที่วางอยู่ พี่เอ้ยยยยย ไม่รู้จะสรรหาคำว่าอะไรสำหรับความหนักของมัน

ดีที่ไม่ทับมือเอา (ใครอ่านอยู่ไม่เซฟนะครับ อย่าทำตาม) อันที่จริงต้องใช้ webbing sling + chain hoist หรือ forklift

ไปดีกว่าเดี๋ยวโดน Stop Work


โดย: ขอคิดด้วยคน IP: 1.20.1.138 วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:12:51:45 น.  

 
"Every task right way every time" ใช่มั้ยครับ


โดย: ขอบคุณ Blog พี่มากครับ IP: 27.131.190.66 วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:13:49:07 น.  

 
ขอคิด - 555 ระวังเด้อ ไปครบกลับไม่ครบ

ขอบคุณ - ประมาณนั้นแหละครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:15:19:39 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่นก

แวะมาฝากเนื้อฝากตัวค่ะ
อ่านบล็อกพี่มาได้ซักพักแล้ว ดีและมีประโยชน์จริงๆ ค่ะ
พี่นกฮาด้วย หนูประทับใจ กรี๊ดดดดด// ชูป้ายไฟ

หนูทำงานสายสังคมศาสตร์ค่ะ พอดีไปปิ๊งหนุ่มแท่นเข้าให้ เลยพยายามหาข้อมูล โน่นนี่นี่นั่นโน่น 55 จนมาเจอบล็อกของพี่นก

ขอพูดอีกทีนะคะ ว่าบล็อกพี่นกดีและมีประโยชน์มากๆๆๆๆๆ หลายอย่างในการทำงานก็ไม่ค่อยมีใครบอกใครสอนกันอย่างนี้หรอกค่ะ บ้างก็ให้เรียนรู้กันเองไป กว่าจะรู้ตัวก็ผิดพลาดไปเยอะแล้ว
ถึงหนูจะทำงานสายงานอื่นนะคะพี่ แล้วก็อาจจะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างออกไป แต่หนูว่าสิ่งที่พี่นกอัพลงในบล็อกมันใช้ได้ในชีวิตการทำงานจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องแนวคิด การมองงาน การมองชีวิต ฯลฯ

ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ แล้วจะแวะเวียนมา say hello บ่อย ๆ ค่ะ


โดย: NN IP: 119.46.189.100 วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:17:59:18 น.  

 
NN - ยินดีต้อนรับครับ ฮั่นแน่ แอบมาทำการบ้านหาข้อมูลหนุ่มๆวงการฯล่ะซิ เข้าตำรา รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง นี่พี่นกชักเป็นห่วงพ่อหนุ่มคนที่หนูหมายตาแล้วล่ะซิเนี่ย ท่าจะไม่รอดมือหนู อิอิ

ชวนพ่อหนุ่มนั่นมาอ่านบล๊อกพี่นกด้วยซิ จะได้รู้ทันกัน คุยกันรู้เรื่อง 555

ปล. เรื่องฮาเนี่ย เพิ่งตอบอีเมล์น้องคนนึงที่อยากเจอพี่นกบนแท่น ดูว่าจะฮาไหมตอนทำงาน เลยตอบไปว่า พี่นกฮาเฉพาะบนฝั่ง ถ้าลงแท่นของขึ้นครับ ไม่ฮาแต่โหด ถามพวกที่รู้จักพี่นกได้เลย อิอิ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:18:31:02 น.  

 
อ่านแล้วคิดถึง พี่ที่เคยสอนงานผมเค้าพูดเสมอว่า " กฏชีวิตไม่มีไรมากหรอก ชอบหาความรู้เปิดโอกาศให้ตัวเอง" กับ "ถ้าชีวิตขึ้นอยู่กับโชคชะตา แล้วจะมีความพยายามเอาไว้ทำไม"

ขอบคุณสำหรับไอเดียน่ะคับพี่นก


โดย: Papeao IP: 124.121.187.216 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:4:21:58 น.  

 
Papeao - ขอบคุณครับที่มาแบ่งปันกัน

ทำให้ผมคิดถึงเรื่องหนึ่งที่คนไทยเราไม่ค่อยมีกันคือ ปณิธาน คติพจน์ คำขวัญ ประจำตัว ที่เป็นกรอบแนวทางการดำเนินชีวิตหรือการทำงาน ที่ฝรั่งเรียกว่า motto หรือ vow ไม่เชิงเป็นแค่คำคมเท่ห์ๆ และไม่จำเป็นต้องมีคำขวัญเดียว อาจจะสองสามคำขวัญ สำหรับ การดำเนินชีวิตบ้าง การทำงานบ้าง การแข่งขันบ้าง หรือ แม้แต่สำหรับความรัก และไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาอังกฤษ

คติพจน์คำขวัญประจำตัวมันจะบอกชัดเจนถึงตัวตน วิธีคิด ทัศนะคติ คุณค่า (value) ของเรา แต่เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองนะครับ โดยการหาคติพจน์ที่เป็นตัวเราจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเป็นอยากทำให้ได้แต่ตอนนี้ยังเป็นไม่ได้ยังทำไม่ได้ ต้องเป็นสิ่งที่เราเป็นตอนนี้

เช่น คติพจน์ในการใช้ชีวิตและการทำงานของผมคือ

I can if I think I can.

A journey of ten thousand miles begins with one step.

Da Mihi Animas, Cetera Tolle ... (Give Me Souls, Take Away All Else; St. John Bosco)

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆนี้ไม่มีค่านิยมอะไรดีๆอย่างอื่นนะครับ หมายความว่าอย่างอื่นๆเขาก็มีตามมาตราฐานวิญญูชนทั่วๆไปโดยที่เขาเชื่อและมีลักษณะเด่นอยู่ที่ 2 - 3 อย่างนี้น่ะครับ

ผมถามคนมาสัมภาษณ์บ่อยๆว่า คุณมี คติพจน์ คำขวัญ ในการทำงานงานและดำเนินชีวิตอย่างไร ส่วนมากจะอึ้ง นึกไม่ออก เพราะไม่เคยคิด ไม่มี งงๆก่งก๊งไป 4-5 วินาที แล้วก็บอกอะไรออกมาที่พื้นๆเช่น เราจะทำดี ทำดีที่สุด บางคนนึกไม่ออกก็บอกคำขวัญลูกเสือ เสียชีพอย่าเสียสัตย์ (ดีผมไม่ต่อให้ว่า เสียเข็มขัดอย่าเสียกางเกง - ฮ่า) หรือไม่ก็โน้น ยืมคำขวัญวันเด็กมาตอบ

อาจจะเป็นเพราะเด็กไทย ไม่ถูกสอนมาให้คิด สอนมาให้ท่อง และทำตาม เอาว่า ผมฝากประเด็นนี้ไว้ให้พวกเราไปคิดต่อก็แล้วกัน ไม่ใช่เพื่อการสอบสัมภาษณ์ แต่เพื่อแนวทางการใช้ชีวิตและการงานของพวกเราเอง


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:7:51:58 น.  

 
A journey of ten thousand miles begins with one step.
ใช้คติพจน์อันเดี๋ยวกับหนูเรยค่ะ..พี่นก
เพราะมักจะโดนให้ทำโน่นนี่นั่นอยู่เป็นประจำ ถูกบ้างผิดบ้างก็จำๆมาเรื่อยๆค่ะ แต่ที่สำคัญคือ ต้องกล้าที่จะทำก่อน พอซักพักก็สนุกไปเอง ^^


โดย: patty IP: 58.8.223.91 วันที่: 2 เมษายน 2556 เวลา:20:17:27 น.  

 
patty - เพิ่งเจอคนแรกที่รู้จักประโยคนี้เหมือนกัน


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 เมษายน 2556 เวลา:20:34:12 น.  

 
Thank you so much na krab P'Nok,

inspire & motivate as always lery na krab P' ^_^


โดย: Tripledouble IP: 115.42.195.252 วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:18:11:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.