==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
FAQ #4

(ต่อมาจาก FAQ #3 นะครับ )

แล้ว career path ของตำแหน่ง Asset Integrity Supervisorเป็นอย่างไรครับ ทางบ.มีการพัฒนา competency ของพนักงานอย่างไรครับ คือผมไม่อยากย่ำอยู่กับที่นะครับ และพิจารณาแล้วJob weight ไม่น่าจะสูงมาก และคิดว่าตัวเองมีcompetencyที่ทำได้มากกว่านี้ อีกอย่างครับผมอาจจะถามอะไรตรงๆไปหน่อย Supervisorกับ Engineer นี่เค้าเปรียบเทียบกันอย่างไรครับ Job Weight ตำแหน่ง และ Chain of command.+

career path - ออกตัวก่อนครับว่า ไม่ทราบจริงๆว่า เส้นทางมันจะไปทางไหน แต่ดูจาก JD ที่ได้มา พอบอกได้อย่างว่า เป็นงานที่จับฉ่าย โดยมากงานจับฉ่ายมักจะไปไม่ได้ไกลในแนวดิ่งขององค์กร แต่จะไปได้กว้างและง่ายในแนวนอน คือ ทำๆไปแล้วหาช่องทางไปลงในจุดที่ชอบและก้าวหน้า เพราะงานแบบนี้ทำให้มีโอกาสได้สัมผัส หลายๆส่วนงานขององค์กร

บ.มีการพัฒนา competency ของพนักงานอย่างไร - ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย บ.นี้มีคู่มือการพัฒนาคนเป็นเล่มๆให้เฉพาะตำแหน่งหน้าที่ มีข้อกำหนดแน่นอนว่าตำแหน่งนี้ ต้องทำอะไรให้ได้ให้เป็นบ้างภายในเท่านั้นเท่านี้ปี แล้วต่อไปคุณจะไปเป็นอะไรทำอะไรที่ไหน ค่อนข้างเห็นอนาคตได้ชัดกว่าบ.อื่นในระนาบเดียวกัน คุณแค่ทำตาม หาทางพัฒนาตัวเองให้ได้ตามที่คู่มือเขากำหนดก็เหนื่อยแล้ว ข้อสำคัญคือถ้าทำไม่ได้เขาก็ถือว่า underperform ปีนั้นก็ชวดโบนัส ติดๆกันหลายปีก็อาจจะอยู่ลำบาก

Supervisor กับ Engineer นี่เค้าเปรียบเทียบกันอย่างไร Job Weight ตำแหน่ง และ Chain of command.+ - เฮ้อ ... พูดไงดีล่ะครับ มันเป็นคนล่ะมิติของงานน่ะครับ มันเทียบกันไม่ได้ คนชอบสับสนครับ คือ Supervisor เป็น หน้าที่ เป็นตำแหน่ง แต่ วิศวกร เป็นคุณสมบัติของคนๆนั้น ตำแหน่งงานที่มีคำสองคำนี้ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นชื่ออะไรก็ตามเป็นไปได้ทั้งสองทางคือ Sup เป็นลูกน้อง วิศวกร หรือ วิศวกร เป็นลูกน้อง Sup เพราะมีเยอะไปที่ Sup ไม่มีวุฒิ เป็น วิศวกร และ วิศวกรที่ไม่ได้ทำงาน Sup ... คือ Sup เป็นคนคุมงานน่ะครับ แล้วเขาก็มีลูกน้องเป็น วิศวกรเกลื่อนไปก็มีครับ ในขณะเดียวกัน Sup ก็ต้องทำตามโปรแกรมงานที่เขียนด้วยวิศกรอีกที ซึ่งวิศวกรคนที่เขียนโปรแกรมงานก็มีหัวหน้าที่มีตำแหน่งเป็น Sup .... มั่วไปหมด ... แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้นไม่อยากให้ไปยึดติดกับชื่อตำแหน่งครับ วงการอื่นอาจจะมีคำนิยาม จำกัดความที่แยกกันชัดเจนระหว่างชื่อสองชื่อนี้ แต่วงการฯเราไม่มีแน่นอนครับ เน้นกันที่ "ลักษณะงาน" มากกว่าครับ ดังนั้น ถ้ามันมั่วอย่างนี้ เรื่อง Job weight - ตำแหน่ง - Chain of command ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ ไม่มีนิยามที่ชัดเจนลงไปหรอกครับ

ข้อดีของตำแหน่งงานนี้คือ คุณจะได้รู้จักคนและงานอย่างกว้างขวาง เกมาะกับการหาช่องทางเติบโตในอนาคต
ข้อด้อยคือ งานมันจับฉ่าย ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจน ต้องขอความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย คุณจะรู้สึกว่าตกลงคุณทำอะไรกันแน่



โบนัสประเมินตาม performance แล้วจะจ่ายเป็นก้อนเงินใน range ที่เท่ากันทุกตำแหน่ง หรือ เป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนครับ เปอร์เซ็นต์ขึ้นเงินเดือนขึ้นจากเงินเดือนเลย หรือขึ้นจากกระบอกครับ การRotation ในบริษัทยากไหมครับ

เท่าที่ผมทราบ บ.นี้จะจ่ายโบนัส และ ขึ้นเงินเดือนเป็น % ของเงินเดือนของคนๆนั้นโดยตรงเลยนะครับ เรื่องการหมุนเวียนของตำแหน่งงาน ขึ้นอยู่กับ จังหวะ โอกาส ความสามารถ นะครับ ตามที่เห็นที่ทราบมา เห็นว่ามีการหมุนเวียนอยู่เป็นประจำนะครับ เพราะเห็นเพื่อนหลายคนเปลี่ยนตำแหน่งในนามบัตร เปลี่ยนแผนกบ่อยเหมือนกันครับ



ผมน้อง xxx ที่เคยถามคำถามเกี่ยวกับไป workshop ที่สงขลานะครับผม ไม่รู้ว่ายังจำได้รึเปล่า ผมได้ลองไป workshop มาแล้วนะครับ ตื่นเต้นมากเลยครับ ตอนนี้ก็พอเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วครับผม งานน่าสนใจมากครับ แต่ผมกังวลนิดหน่อยเพราะดูจากงานแล้วค่อนข้างจะ routine เพราะคนรับเค้าก็อยากให้ทำอย่างน้อย 5 ปี กลัวจะเบื่อช่วงปลายได้ครับ พี่นกมีความคิดเห็นตรงนี้ยังไงบ้างครับ มันมีลู่ทางที่น่าสนใจภายหลัง 5 ปียังไงบ้างครับ ตอนแรกผมเคยมีความคิดอยากจะเรียนต่อ แต่พี่วิศวกรของที่นั่นก็บอกว่าถ้ามาสายนี้แล้วการเรียนต่อก็ไม่จำเป็นแล้ว แล้วเท่าที่ผมเข้าใจพี่เค้าบอกว่าหลังจากที่ได้ breakout เป็น field engineer แล้วเงินเดือนก็จะคงที่แล้ว ไม่มีการเพิ่มแล้ว อันนี้พี่นกเห็นว่ายังไงบ้างครับ สุดท้ายครับพี่นกผมได้ลองแนบรายงานภาษาอังกฤษที่ผมจะส่งให้เค้าพิจารณาเพื่อตอบรับงานน่ะครับ รายงานยังไม่ค่อยสมบูรณ์มากนะครับ ขาดพวกรูปต่าง ๆ ที่ต้องใส่เพิ่มแต่ file มันจะใหญ่น่ะครับผมเลยส่งเฉพาะเนื้อหาไปครับ อยากจะขอรบกวนพี่นกช่วย comment รายงานให้หน่อยครับผม

งานแล้วค่อนข้างจะ routine เพราะคนรับเค้าก็อยากให้ทำอย่างน้อย 5 ปี กลัวจะเบื่อช่วงปลายได้ครับ พี่นกมีความคิดเห็นตรงนี้ยังไงบ้างครับ ... เห็นด้วยอย่างยิ่งตรงคำว่า routine แปลว่า ซ้ำซาก ฮ่าๆ ถูกต้อง อย่างน้อย 5 ปีกำลังดี คือรวยกำลังเหมาะและหมดไฟพอดี สถิติคร่าวๆบอกว่า คนที่อยู่ในงานสนามเกิน 5 ปี มักจะอยู่ตลอดไป เพราะ 1 กลัวการเปลี่ยนแปลง (อันนี้ธรรมชาติ) 2 ทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว 3 เงินดี หันซ้ายหันขวา ทำอะไรก็เงินไม่ดีเท่า แล้วงานมันเริ่มซ้ำซาก ชิวๆ ว่างั้นเถอะ กลายเป็นเงินดีงานสบายไป แล้วใครมันจะอยากเปลี่ยนงานล่ะ ตรงนี้พี่คิดว่าเป็นเรื่องของนิสัยส่วนตัวคนแล้วล่ะ คนที่ชอบอะไรๆท้าทายใหม่ๆตลอด พอมีเงินถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็มักจะไปดีกว่าหาอะไรใหม่ๆทำ แต่พวกชิวๆ ทำไปเรื่อยๆมีรายดไหลัก แล้วหันไปทำธุรกิจบนฝั่งเสริมก็ถมไป

มันมีลู่ทางที่น่าสนใจภายหลัง 5 ปียังไงบ้างครับ ...

1 จมมันดักดานเป็นดักแด้อยู่ในสนามนั่นแหละ (ชาตินี้ตูจะไม่เป็นผีเสื้อ) รวยแล้วนี่ งานสบายด้วย (เพราะทำมาจนปรุ) เอาเงินเก็บส่งน.ศ.สักคนสองคน เอ๊ย ...ลงทุนในตลาดหุ้น ทองคำ ปลูกอพาร์ทเม้นต์ให้เช่า เปิดบาร์คาราโอเกะ อู้ซ่อมรถ ขายของจตุจักร ฯลฯ เป็นรายได้เสริม ยังไงๆฉานก็ไม่กลับฝั่ง ว่างั้นเหอะ

2 ลาออกไปเรียน MBA ต่อ ที่ไหนสักที่ พร้อมกับมองๆหาว่าที่แม่ให้ลูกไปพลางๆ หรือ ไม่เรียนต่อก็ได้ แล้วกลับมาทำงานกับ Oil company ไม่ก็เปลี่ยนอุตสาหกรรมไปเลย

3 เลื่อนขึ้นไปเป็นที่เขาเรียกว่า coordinator หรือ ผู้จักการภาคสนาม คือเป็น ผจก.ขั้นต้น อยู่บนฝั่ง คอยไปเลียก้น เอ๊ย ตีกบตีกอล์ฟลูกค้า แก้ตัวเวลาลูกน้องทำงานพลาด (Fuck up) บริการจัดการทางเทคนิคของงานในสนาม จัดการวันหยุดวันลาของลูกน้องไม่ให้ซ้อนกัน คอยช่วยพวกมันสับราง กิ๊ก กับ เมียน้อย เมียหลวง คอยเข้ากทม.ประชุมกับหัวหน้างานหญ่ายอีกที เป็นตำแหน่งกระโถนอุจจาระเลยทีเดียว แต่ทุนคนต้องผ่านตำแหน่งนี้ ถ้าจะคิดเลื่อนขึ้นไปเติบโตในบ.เดิม

แต่พี่วิศวกรของที่นั่นก็บอกว่าถ้ามาสายนี้แล้วการเรียนต่อก็ไม่จำเป็นแล้ว ... ไปบอกไอ้พี่วิศวกรที่ว่านั่นให้ไปโดดทะเลให้ฉลามงับปิ๊กกาจู้ซะ

หลังจากที่ได้ breakout เป็น field engineer แล้วเงินเดือนก็จะคงที่แล้ว ไม่มีการเพิ่มแล้ว ... ไม่จริงครับ แต่จะเพิ่มไม่มากเท่านั้นเอง แต่อย่างน้อยก็ต้อง 5-7% ล่ะ ไม่งั้นสมองไหลซิ(ว่ะ)

ผมได้ลองแนบรายงานภาษาอังกฤษ ... พี่กำลังจะตรวจแก้ให้ แต่คงไม่เอามาลงที่นี จะประจานกันเกินไป (ฮ่าๆ) ส่งไปทางอีเมล์ล่ะกัน



ผมเพิ่งได้เข้าไปอ่าน FAQ4 มาครับ 555 อ่านไปฮาไปครับพี่ แต่เห็นภาพมากขึ้นเลยครับ 555 ส่วนรายงาน(ที่ต้องแก้เพียบ) ผมได้ส่งเค้าไปแล้วน่ะครับ พอดีต้องรีบนิดหน่อยครับผม ตอนนี้ก็เหลือแต่รอลุ้นอย่างเดียวเลยครับ แต่ถ้าพี่นกมีเวลาผมอยากดูรายงานที่พี่นกแก้นะครับจะได้จำไว้ใช้สำหรับโอกาสต่อ ๆ ไปครับผม ยังไงผมต้องขอบคุณพี่นกมาก ๆ สำหรับทุก ๆ อย่าง ทุกคำตอบ และบทความดี ๆ ใน Blog นะครับ

พี่ว่าคงได้งานอยู่แล้วแหละ เขาไม่ซีเรียสมากกับเนื้อหาหรอก เพราะว่ามันเป็นเรื่องใหม่ กว่าพี่จะเข้าใจอะไรต่อมิอะไรก็ปาไปจะสิบกว่าปี เขาคงแค่อยากดูว่าเราสื่อสารได้เรื่องไหมมากกว่า พี่อ่านรายงานดูแล้วก็เออ (พยายาม)เข้าใจ(มันว่ะ) จริงๆแล้วพี่มาคิดอีกที รายงานเราก็ไม่ได้แย่เท่าไร เมื่อเทียบกับวัยและประสบการณ์ ไม่อยากบอกว่าสมัยพี่โกอินเตอร์ใหม่ๆ(20ปีมาแล้ว)ทุเรศกว่านี้เยอะ อาศัยวาดรูป แล้วก็โยงๆเส้นอธิบายเป็นคำๆไป งั้นเอาเท่าที่แก้ไปแล้วก็แล้วกัน ขี้เกียจแล้ว เดี๋ยวไม่มีเวลาเลี้ยงลูก (ฮ่าๆ)

อีกเทคนิคนึงที่อยากจะถ่ายทอดถ้าได้เข้าไป training school ของ xxx คือไม่ต้องกลัวว่าจะอธิบายตอบข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ คนสอนเข้าเข้าใจดี (สมัยพี่เข้า training school ของบ.คู่แข่ง xxx นั่นแหละ เข้าไป 16 คน 14 ชาติ มีซ้ำอยู่ 2 ชาติที่มันมาชาติล่ะ 2 คน - จบมา 12 คน สอบตกไป 4) ให้วาดรูปประกอบเยอะๆ ถ้าไม่เข้าใจหรือคิดศัพท์ไม่ออก แล้วอย่าทะลึ่งใช้ศัพท์ประโยคยากๆ ประโยคซ้อนๆ อย่าไปใช้ถ้าไม่ชัวร์ มันจะผิด แยกเป็นประโยคสั้นๆ ประธาน + กริยา + กรรม พอ พวก adj adv ก็เอาแค่จำเป็นง่ายๆ big-small fast-slow good-bad อะไรแบบนี้อย่าไปดัดจริตใช้ศัพท์สูง มันจะผิดเอา เรื่อง tense ช่าง(แม็ม)มัน ไม่ต้องแคร์ ล่อ present simple ลูกเดียว แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปให้จบจาก school มันไปก่อน พวกสำนวน ประโยคสวยๆหรูๆ ศัพท์เริ่ดๆแบบท่านนายกสุดหล่อเรานั่นก็ค่อยไปครูพักลักจำเอา เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ (ทำไงได้บ้านไม่รวยพอให้ส่งไปนอกตั้งแต่ไม่หย่านมนี่หว่า เนอะๆ)

... หวังว่าเคล็ดวิชาเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะช่วยให้ฝ่าด่าน 18 อรหันต์ทองคำ xxx ออกมาเจอกันในสนามหน้างานจริงในเร็ววันนะ

เจอกันบนแท่นหรือตามฐานฮ.ก็ทักทายกันมั่งก็แล้วกัน



ตอนนี้ผมสอบเข้าเรียน ปวส1ได้ที่ วท.หาดใหญ่ แผนก เทคโนโลยีหลุมเจาะปิโตรเลียมอ่ะคับ คือผมอยากจะถามว่า ประมาณอีก2-3ปีผมจบไปความต้องการคนทำงานด้านสาขานี้จะลดน้อยลงไปมั้ยคับ ..แล้วจิงมั้ยอ่ะคับ ที่เค้าว่า 45 ปีปลด(เพราะแก่เกิน)?? แล้วจบปวส.เทคโนโลยีหลุมเจาะปิโตรเลียมแล้วทำงาน กับจบปวส.แล้วต่อจนจบป.ตรีแล้วไปทำงาน มันจะมีข้อแตกต่างด้านการทำงานกับเงินเดือนกันยังงัยอ่ะคับ แล้วเทคโนโลยีหลุมเจาะปิโตรเลียมนี้อ่ะคับ การไปปฏิบัติงานจิงอ่ะเค้าทำอะไรบ้างอยู่ในสายงานไหนอ่ะคับ แล้วเงินเดือนสตาร์ทเท่าไหร่อ่ะคับ แล้วเป็นวิศวกรขุดเจาะนี้มีเปิดเรียนที่ไหนอ่ะคับ ..? ก็.. ผมอยากรู้แค่นี้อ่ะคับ เด๋ว18 พค.นี้ก็เปิดเทอมแล้วคับ

ประมาณอีก2-3ปีผมจบไปความต้องการคนทำ งานด้านสาขานี้จะลดน้อยลงไปมั้ยคับ ... ยังหรอกครับ ยังมีพลังงานฟอสซิลให้เราพลาญเอ๊ยใช้ไปได้อีกนาน อย่างน้อยก็อีก 25-50ปีแหละ

แล้วจิงมั้ยอ่ะคับ ที่เค้าว่า 45 ปีปลด(เพราะแก่เกิน)?? ... เฮ้ย ดูแคลนคนแก่นี่หว่า ผมเห็นแก่ๆแต่ยังแข็งแรงเพียบ กลับไปอ่านคำถามก่อนหน้าคุณที่ว่าทำอะไรต่อหลัง 5 ปี เขาไม่ปลดเพราะแก่เกินหรอก แต่จะปลดเพราะทำงานให้เขาไม่ได้เรื่องมากกว่า 45 ขวบนี่ ฟิตปั๊ง เตะปีบดังนะจะบอกให้ ดูรูปข้างบนซิ ไอ้ตัวสีฟ้าๆน่ะ 60 กว่าแล้วมัง แต่เจ๋งมากๆ

แล้วจบปวส.เทคโนโลยีหลุมเจาะปิโตรเลียมแล้วทำงาน กับจบปวส. แล้วต่อจนจบป.ตรีแล้วไปทำงาน มันจะมีข้อแตกต่างด้านการทำงานกับเงินเดือนกันยังงัยอ่ะคับ ... จบ ป.ตรี งานมันก็จะใช้สมองมากหน่อย ใช้แรงน้อยหน่อย เงินเดือนมากหน่อย (ไม่งั้นเขาจะเรียนต่อกันไปทำไมล่ะ) ผมแนะนำให้เรีนให้จบปวส.ให้ได้เกรดดีๆ สมัครเข้าทำงานในสนามสัก 2-3 ปี แล้วค่อยออกมาเรียนต่อ แล้วค่อยเข้าไปใหม่ จะได้ ทั้งบุ๋นทั้งบู๊

เทคโนโลยีหลุมเจาะปิโตรเลียมนี้อ่ะคับ เค้าทำอะไรบ้างอยู่ในสายงานไหนอ่ะคับ ... คืออย่างนี้ ในงานในสนามแบ่งออกเป็นสองระดับใหญ่ๆ คือวิศวกรกับช่างเทคนิค หรือผู้ช่วยวิศวกรนั่นแหละ โดยมากจะไม่เห็นการเลื่อนขั้นชัดเจนในหลายๆบริษัท ยกเว้นในบางบ.ใหญ่ๆที่เขาให้โอกาสช่างเทคนิคขึ้นเป็นวิศวกร แต่นั่นก็ต้องหมายถึงคุณครบเรื่องจริงๆทั้ง บุ้นบู๊ ภาษา และประสบการณ์ นึกถึงงานสร้างบ้านก็ได้ ในงานก่อนสร้างบ้าน จบปวส. กับจบวิศวกร ทำงานต่างกันอย่างไร บนแท่นฯมันก็ประมาณนั้นแหละครับ

เงินเดือนสตาร์ทเท่าไหร่อ่ะคับ ... ผมจะไปรู้ไหมเนี่ย เดาๆเอาก็น่าจะสัก 15000-25000 + เบี้ย offshore มัง รวมๆแล้วก่อนภาษี เด็กจบใหม่น่าจะได้สัก 20000-30000 ต่อเดือนนะ

วิศวกรขุดเจาะนี้มีเปิดเรียนที่ไหนอ่ะคับ ... เมืองไทยมีที่ จุฬา ม.สุรนารี แล้วก็ AIT

ผมอยากรู้แค่นี้อ่ะคับ เด๋ว18 พค.นี้ก็เปิดเทอมแล้วคับ ... อยากรู้มากกว่านี้ก็ถามมาใหม่ก็ได้ อีกตั้งเดือนจะเปิดเทอม ตั้งใจเรียนๆขยันๆเอาเกรดดีๆหน่อยก็แล้วกัน จะได้ไม่เหนื่อยตอนหางาน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน



มีที่ไหนรับวิศวกรจบใหม่บ้างครับ เเล้วจะสมัครได้ทางไหนครับ เพราะผมลองเข้าไปดูตามเว็บของบริษัทต่างๆเเล้ว ส่วนใหญ่จะให้ทิ้งเรซูเม่ไว้ หรือไม่ก็รับแต่ตำแหน่งที่มีประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศ ไม่มีทำงานในไทยเลยครับ ขอบคุณครับ

มีหลายที่ ที่เขารับวิศวกรจบใหม่นะครับ ส่วนมากเป็นบ.ใหญ่ๆ แต่โดยมากเขาจะรับที่จบตรงกับงาน(ก็แหง๋อยู่แล้ว)ที่จะไปทำ แล้วก็ต้องเกรดดีๆด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้ทิ้ง CV ไว้นะถูกแล้ว เพราะตอนนี้เขาไม่มีตำแหน่งว่างนี่ครับ ผมเคยไม่เข้าใจและน้อยใจในเรื่องนี้ แต่ผมมาอยู่อีกฝั่งถึงเข้าใจ จริงๆมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แค่คิดง่ายๆว่าถ้าเราเป็นหัวหน้างาน จะหาลูกน้องสักคน ไม่ว่าจะเพราะคนเก่าลาออกไป เกษียณไป โดนซื้อตัวไป ฯลฯ หรือเปิดแผนกใหม่ ตำแหน่งใหม่ อย่างแรกเลยก็ต้องอยากได้คนมีประสบการณ์ไม่ตรงก็ใกล้เคียงที่สุด เป็นอันดับแรกๆ ถ้าหามาสักพักไม่มีมาสมัครหรือได้ไม่ตรงก็ถึงมาคิดว่า งั้นเราเอาที่ใกล้เคียงที่สุดมาฝึกใหม่ดีไหม ถ้าไม่มีอีกถึงจะไปเอาเด็กจบใหม่ ซึ่งกว่าจะใช้งานได้ทำงานเป็น บ.ก็แย่คนเก่าๆก็ต้องแบกงานต่อไปอีกพักใหญ่ๆ ยกเว้นแต่ว่าบ.มีนโยบายบริหารงานบุคคลที่เป็นระบบจริงๆ เช่นวางแผนไว้เลยว่าจะรับเด็กใหม่ปีนี้กี่คน โดยที่ยังไม่ได้มีตำแหน่งงานให้ชัดเจน แต่เป็นการจ้างตามสถิติของปีที่แล้ว ว่า 3-5 ปีที่แล้ว ต้องหาคนเข้าบ.เฉลี่ยปีล่ะกี่คน งั้นต้องเตรียมไว้เลยดีกว่าจะได้ไม่ฉุกละหุก เพราะเอาเด็กใหม่มาราคาถูก (แต่เลี้ยงต้อยและหัดงานนานหน่อย) พอคนขาดจะได้เสียบเลย ไม่ต้องไปนั่งต่อรองเงินเดือนกับพวกประสบการณ์ตรงแล้วเขี้ยวลากๆ หรือไม่ก็ต้องไปซื้อตัวแพงๆจากคู่แข่ง บ.ที่จะทำแบบที่ว่าได้ก็ต้องเป็นบ.ใหญ่ๆที่มีโครงสร้างการบริหารงานบุคคลที่ดีและพร้อม ซึ่งก็มีไม่เยอะนั้น ก็พวก เชฟรอน ปตท.สผ. ชลัมฯ อะไรพวกนี้ โดยมากพวกขนาดกลางและเล็ก ก็ค่อยหาเอาตอนคนออกหรือโดนซื้อตัวนั่นแหละ ซึ่งการรับเด็กจบใหม่ของบ.ใหญ่ๆเขาก็จะรับกับเป็นฤดูๆไป ก็เหมือนฤดูเก็บเกี่ยวน่ะ บ้านเราเด็กป.ตรีจบเดือนไหนล่ะ ก่อนหน้านั่นสักเดือนก็จะรับกัน จะมีตกเขียวกันบ้างก็น้อยคณะฯน้อยสาขาฯ เป็นสาขาที่ขาดและต้องการจริงๆ ตกเขียวหมายถึงไปซื้อไปให้ทุนกันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ มัดมือมัดขาไว้ทำสัญญาเลยว่าจบแล้วมาทำกับบ.เขานะ เท่าที่รู้ก็ วศบ.ปิโตรฯ หรือพวกนักธรณีวิทยา นี่แหละ บางปีได้ข่าวว่า(โดน)ตกเขียวกันแทบจะยกรุ่น

สรุปคือ ถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ก็ต้องมั่นอ่านนสพ.หน้าสมัครงาน หมั่นดูเว็บบ.ที่เราสนใจ แล้วก็ลงทุนเรียนภาษาเพิ่มอีกสักภาษา เดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาภาคบังคับไปแล้วครับ ไม่นับ ไม่ถือเป็นความสามารถพิเศษ โปรแกรมสำนักงานพวก microsoft excel word powerpoint outlook นี่ก็อย่าไปกรอกในช่องความสามารถพิเศษ อายเขาตายเลยขอบอก บางครั้งบ.เขาต้องการคนที่สื่อสารภาษาที่เขาไปไปทำธุรกิจต่อเนื่องด้วยได้ แบบนี้ เกรด หรือสถาบันที่จบมา ไม่ดีไม่ตรง แต่ถ้าพูดภาษานั้นๆได้ก็อาจจะส้มหล่น (เจอมาแล้ว) ลองสักภาษานึง ผมว่าไม่เสียหลาย เพราะคุณยังเด็ก ไม่ได้ใช้ทำเงินวันนี้ก็มีวันหน้า งานไหนๆก็ต้องใช้ภาษาทั้งนั้น ลองจีนกลางเป็นไง ญี่ปุ่นก็ไม่เลว ไม่ก็ฝรั่งเศษ เยอรมันไปเลย ส่วนตัวผมชอบภาษาสเปน (เพราะสาวๆละตินสวยๆเยอะ ฮ่าๆ)

ตกลงผมตอบตรงคำถามไหมเนี่ย คุณถามมาแค่สองบรรทัดเอง (ฮ่าๆ)




ผมพึ่งเข้ามาครั้งแรกน่ะครับ เลยไม่ได้เตรียมคำถามอะไรมากมายน่ะครับ เริ่มที่

1. ผมกำลังเรียนอยู่ ปี 3 ขึ้น ปี 4 ครับ เรียน Civil Engineering (ผมเรียน Inter ที่มหาลัยรัฐแห่งนึง) ตอนนี้มาฝึกงาน ทางด้าน On Shore ที่ xxx ครับ ที่ ศรีราชา.....เผอิญ แล้ว ในใจผมจิงๆ คือการได้ไปอยู่บนแท่นขุดเจาะครับ พี่ๆ ที่บริษัท เค้าแนะนำผมว่า ถ้าอยากทำด้านนั้น ก้อไปพวก CUEL ไม่ก้อ CHEVRON ประมาณนั้นน่ะครับ เพราะที่ xxx นั้นส่วนใหญ่งานจะเป็นกระดาษ เพราะเป็นงาน Design ผมกะว่า จะต่อที่ AIT ขอทุนเรียนสาย Offshore อ่ะครับ ทางด้าน Construction&Design ผมอยากรู้ว่า บริษัท พวกนี้เค้าจะรับมั้ยครับ เพราะผมกะว่าจะเรียนต่อเลย ประสบการณ์ ก้อเลยไม่มีน่ะครับ ส่วนเรื่องเงินเดือน เนี่ย จิงๆ ผมก้อไม่ค่อยซีเรียสหรอกครับ แต่แค่อยากจะทราบคร่าวๆ ไว้เป็นการตัดสินใจน่ะครับ ขอบคุณมากๆ ครับ

2. ขออนุญาติเพิ่มเติม คือ ผมกำลังเรียนอยู่ที่ xxx(สังกัด xxxx น่ะครับ) น่ะครับ xxxx ไม่ทราบว่าพี่พอจะทราบมั้ยน่ะครับ คือพวกภาษา ฟัง พูด อ่าน เขียน ผมไม่กลัวน่ะครับ เพราะพื้นฐานที่ได้จากการเรียนก้อพอมี แต่อาจจะต้องเสริมอะไรเพิ่มเติมน่ะครับ อยากให้พี่ช่วยพิจรณาด้วยครับ เกรดตอนนี้ 2.96 น่ะครับ ยังไม่นับของตอน ปี 4 นะครับ พี่พอจะช่วยแนะนำแนวทางเพิ่มเติม อิงจากข้อมูลที่ผมเพิ่มมาให้ด้วยน่ะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

Ps.1 ผมล่ะกลัวจิงๆ เรื่อง พรรคพวก ตอนเข้าไปสมัครงานที่บริษัท น่ะครับ ไม่ว่าจะที่ไหนก้อตาม เพราะ สถาบันที่ผมเรียนอยู่นั้น พึ่งก่อตั้งมาได้ xx ปีเองครับ พวกพี่ๆ บางคนอาจจะไม่รู้จักก้อเป็นได้

Ps.2 เรียน Civil จะมีโอกาสได้เข้าไปบนแท่น มั้ยน่ะครับ แล้วก้อ ถ้าให้เลือกระหว่างต่อโท ที่ AIT ด้าน Offshore Structure กับ Geo-tech ด้านไหนจะเหมาะกว่ากันน่ะครับ สำหรับการ ทำงานสายนี้

Ps.3 ตอนแรกผมไป Post Reply เพราะผมก้อเล่นไม่ค่อยเปนน่ะครับ เลยผิดๆ ถูกๆ ขอโทษด้วยครับ ถ้าพี่มีอะไร ผมจะทิ้ง mail ไว้นะครับ เผื่อผมจะได้มีโอกาสปรึกษา พี่ในอนาคต


จะต่อที่ AIT ขอทุนเรียนสาย Offshore อ่ะครับ ทางด้าน Construction & Design ผมอยากรู้ว่า บริษัท พวกนี้เค้าจะรับมั้ยครับ - ถ้าเกรดคุณดี แล้วที่เรียนมาตรงกับที่เขาต้องการก็น่าจะรับ แต่ที่ AIT มักจะเน้นไปทาง ก่อสร้าง ตัวแท่นมากกว่านะครับ สายที่เป็นที่ต้องการจริงๆคือพวกขุดหลุมมากกว่า (well construction) ส่วนเรื่องเงินเดือนผมไม่ทราบจริงๆเพราะ ไม่ได้อยู่ฝ่ายบุคคล เด็กจบใหม่ๆ วิศวกรสาขาทั่วไป น่าจะสัก 35000 บาทต่อเดือนขึ้นไปนะครับ

xxxx ไม่ทราบว่าพี่พอจะทราบมั้ยน่ะครับ - พอเคยได้ยินนะครับ เป็นปกติน่ะครับ สถาบันที่เพิ่งก่อนตั้ง รุ่นแรกๆก็ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย เพื่อที่จะแสดงฝีมือให้ได้เป็นที่รู้จัก เหมือนยี่ห้อสินค้าใหม่น่ะครับ ต้องใช้เวลาสักพักพิสูจน์ตัวเอง สถาบันที่ตั้งมานานแล้ว เขาก็ได้เปรียบ เด็กๆก็อาศัยกินบุญเก่า แต่ถ้าไม่รู้จักสร้างหรือรักษาสักวันบุญเก่ามันก็หมดได้เหมือนกัน ผมกำลังจะบอกว่า ที่สำคัญที่สุดคือตัวคุณเองต่างหาก ทำเกรดดีๆค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆตลอดเวลา ขยันขันแข็งหนักเอาเบาสู้ บริษัทที่จ้างเขาก็เห็นเองนั่นแหละ

Ps.1 - เรื่องแบบนี้อยู่ที่ไหนก็ทำใจครับ เมืองนอกเมืองนาก็มีปัญหาทำนองนี้ จาบ ฮาร์วาด MIT Standford ยูดังๆเก่าแก่ๆ ก็หางานดีๆได้ง่ายๆ เรามาจากที่ๆไม่มีใครรู้จักมากนัก ก็ต้องแสดงฝีไม้ลายมือให้เข้าตากรรมการเป็นทางเดียวที่จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน ตรงข้ามผมก็เห็นเด็กบางคนจบจากสถาบันดีมีชื่อเสียงแล้วมาทำเสียให้เห็นก็เยอะ แต่ผมก็เคยเจอเด็กจบมาเกรดสวยๆถามคำถามวิศวกรรมง่ายๆ เอ๋อไปเลยก็มี อาจจะเกร็งไปหน่อย ฮ่าๆ

Ps.2 - ยากครับ งาน civil ไม่ค่อยมีบนแท่นหรอกครับ ถ้าให้เลือกระหว่าง AIT กับ Geo Tech โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ได้ไปทำงานบนแท่น ผมเลือก Geo Tech ครับ ไม่ใช่ AIT ไม่ดี แต่มันไม่ตรงกับธงที่เราปักไว้ครับ พูดง่ายๆว่า AIT จะสอนเรื่องการ ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างกลางทะเล offshore ออกแนวๆ วิศวกรรมโยธา + วิศวกรรมการบริหารจัดการ เฉพาะทางน่ะครับ แต่ Geo tech จะสอนเรื่องที่มันอยู่ใต้ดิน ชั้นดินชั้นหิน วิศวกรรมเกี่ยวกับชั้นหินต่างๆ ออกๆแนวผสมๆรวมๆกันระหว่าง ธรณีวิทยา + ฟิสิกส์ + วิศวกรรม ของชั้นดินชั้นหิน เรื่องบนดินน่ะ คนเรียนกันเยอะแล้ว แต่เรื่องใต้ดินคนเรียนกันไม่เยอะนัก เป็นที่ต้องการมากกว่า

Ps.3 - มีอะไรก็อีเมล์มาถามได้ nnookk@hotmail.com



1. อย่างที่พี่ได้บอกมาน่ะครับ คือใจผมจริงๆ เนี่ยอยากลงไปที่แท่นน่ะครับ เผอิญ ตอนนี้ผมฝึกงานอยู่ที่ xxxx น่ะครับ แล้วเผอิญรู้จักพี่คนนึง จบ xxx ซึ่งเขาได้มีโอกาสไปทำงานที่ xxx มาซักระยะน่ะครับ เค้าแนะนำผมว่า ผมสามารถ ลงแท่นได้ ถึงแม้ว่าผมจะเลือกเรียนต่อ สาขา Offshore น่ะครับ คือถ้าผมได้ร่วมทำงานด้าน construct หรือ design เนี่ย ผมจะได้มีโอกาสไป fab งานที่แท่นมั้ยครับ คือ เป็นงานพวก Installation น่ะครับ แต่ตอนนี้ พอผมได้รับคำแนะนำจากพี่เนี่ย ผมก็เริ่มมีข้อสงสัย น่ะครับ

คืออย่างนี้ครับ ที่พี่คนนั้นแนะนำมาก็ถูกต้องครับ เพราะงาน offshore มันมีหลายด้านครับ อย่างที่ผมว่าไว้ คือเราจะไปสร้างอะไร สร้างแท่น ติดตั้งแท่น วางท่อใต้ทะเล บำรุงรักษาแท่นฯ หรือคุณจะไปสร้างหลุม ขุดหลุม คุณก็ได้ออกไปลอยเท้งเต้งที่นั้นทั้งนั้นแหละครับ ผมว่าที่สุดแล้วคุณอยากไปทำอะไรมากกว่าน่ะครับ มันมีงานหลักๆอยู่สองส่วนใหญ่ๆ คืองานเกี่ยวหลุม กับงานเกี่ยวกับตัวแท่นเอง (ไม่นับงาน marine นะครับ ไอ้งานนั้นมันแหง๋ๆอยู่แล้วว่ามันต้องมี)

2. แล้วสาย Geo-technical เนี่ยที่ AIT ก้อมีน่ะครับ มันก้อเป็น choice นึงที่น่าสนใจน่ะครับ สำหรับถ้าผมอยากจะลงแท่นขุดเจาะน่ะครับ ผมควรจะลงเรียนสายนี้ใช่ไหมครับ .... แล้วพี่ช่วยแนะนำผมหน่อยได้มั้ยครับ ว่า ผมควรจะเรียนต่อเลย หรือ ทำงานก่อนน่ะครับ (ถ้าผมเรียนต่อเลย ไม่ว่าจะสาย Offshore หรือ Geo-tech เนี่ย บริษัท เค้าจะรับผมเข้าทำงานเลยรึป่าวครับ ถ้าผมไม่มีประสบการ์ณน่ะครับ) เพราะผมเห็น suggestion ของพี่ในหลายๆ FAQ น่ะครับ ว่า ไม่จำเป็นต้องจบตรงสาขา ก้อสามารถทำงานด้านนี้ ได้ ฉะนั้นผมก้อยังมีความหวังใช่มั้ยครับ ถ้าผมอยากจะลงแท่นน่ะครับ

คำว่าแท่นนั่นผมเรียกรวมๆไปสำหรับภาษาปะกิดที่ว่า offshore installation ถ้าคุณอยากลงแท่นขุด คุณก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องสร้าง ติดตั้ง ทะนุบำรุงตัวแท่น คุณต้องไปใช้มัน(แท่น) เป็นเครื่องมือในการสร้างหลุมต่างหาก ดังนั้นศาสตร์ที่คุณต้องเรียนคือ การสร้างหลุม คุณต้องเรียนด้าน Geo Tech ครับ เนื่องจากว่าคุณไม่ได้จบมาตรงสาขาที่เขาต้องการ ผมแนะนำให้คุณเรียนต่อไปเลยครับ เพราะคุณออกมาใช้วุฒิที่คุณมีทำงาน มันจะยากและนานกว่าจะหางานในวงการฯได้ ไปชุบตัวเลยดีกว่าครับ ไม่ต้องเสียเวลา ส่วนที่ว่าจบ Geo tech มาแต่ไม่มีประสบการณ์เขาจะรับหรือ อ้าว ... จริงอยู่บ.เขาก็ต้องการ plug n play แต่บางทีก็หาไม่ได้ หรือ เขาไม่มีปัญญาจ้าง ไม่ก็เขาต้องการพัฒนาคนใหม่ๆ มันก็มีโอกาศทั้งนั้นแหละครับ ไม่งั้นเด็กจบใหม่ จะไปทำงานที่ไหน แล้วๆไอ้ที่ทำอยู่ มันไม่แก่ ไม่ตาย ไม่เบื่อ ไม่ลาออกไปขายเต้าทึงกันบ้างหรือครับ แล้วที่ผมบอกว่าไม่ต้องจบตรงสาขาก็ทำได้นั้นนะ มันก็จริงแต่มันจะยากหน่อย แล้วมันต้องไปเริ่มต้นจากที่ค่อนข้างจะศูนย์ หรือจบไม่ตรงสาขาแต่เขาเกรดดี หรือ ค่อนข้างดี จบจากที่พอมีรุ่นพี่สร้างชื่อเสียงเอาไว้ ผมลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่า ผมตัดเอาข้อมูลส่วนตัว พวกเกรด สถาบัน พื้นฐานประสบการณ์ คะแนน TOEFL ฯลฯ ออกไปก่อนที่จะเอามาโพสต์ ดังนั้นคำแนะนำของผมค่อนข้างจะเจาะจงกับคนๆนั้นน่ะครับ ซึ่งถ้าคนๆนั้นมาอ่านจะรู้เอง ส่วนตัวคุณผมแนะนำอย่างที่แนะนำไว้นะครับ ชุบตัวก่อนดีกว่าครับ ถ้ายังพอมีตังค์มีเวลา มีไม่กี่กรณีที่ผมแนะนำให้ทำงานไปก่อน เช่น ต่อ MBA หรือ ต่อเฉพาะทางทางเทคนิคจริงๆที่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในด้านนั้นๆก่อน ผมถึงจะแนะนำให้ทำงานก่อนเรียนต่อ อะไรประมาณนั้นน่ะครับ ซึ่งผมจะดูข้อมูลส่วนตัวเฉพาะที่พวกเราให้มาเป็นกรณีๆไป

3. คือ ผมพอจะทราบว่า บริษัทพวก Schlumberger, Halliburton หรือ แม้กระทั่ง Chevron เอง รวมถึงที่อื่นๆ น่ะครับ ทำการมอบทุนการศึกษาให้สำหรับ นักศึกษา ที่จะมาเรียนที่ AIT ในสาขา Offshore น่ะครับ ผมเห็นใน website ที่ AIT ได้แจงรายละเอียดไว้น่ะครับ แต่ผมไม่มั่นใจว่า ตอนนี้ ในปัจจุบันนี้ ทางบริษัทเหล่านั้นยังมีนโยบาย มอบทุนการศึกษาให้ รึเปล่าน่ะครับ

อันนี้ผมก็ไม่ทราบได้น่ะครับ คุณต้องโทรฯถาม หรือดูในเว็บของบ. หรือ ถาม ที่คณะฯนั้นๆครับ บางปีก็มีบางปีก็ไม่มี

4. ถ้าผมจบมาเกรด 3+ สอบ TOEIC ได้ 700+ เนี่ย รวมถึง จบ โทจาก AIT สาขาไม่ Offshore ก้อ Geo-tech น่ะครับ ผมจะสามารถเข้าไปทำงานที่ Chevron หรือ CUEL หรือ Schlumberger, Halliburton ได้รึเปล่าน่ะครับ คือ ไม่นับถึงเรื่อง Interview อะไรแบบนี้นะครับ ผมหมายถึง แค่วุฒิการศึกษาน่ะครับ กับคุณสมบัติ จะพอไหมน่ะครับ โดยที่ผมยังไม่มีประสบการ์ณ การทำงานทางด้านนั้นๆ เลย

หมอนกฟันธงแข่งกับหมอลักษณ์ได้เลยว่า ได้แน่ๆครับ มันตรงแหง๋ๆ ขนาดเขาให้ทุนคุณ แสดงว่าเขาต้องดูแล้วซิว่าเนื้อหาที่เด็กเรียนมาจะเอาไปทำงานให้เขาได้ จบโทฯไม่ 3+ คุณก็ไม่จบอยู่แล้วครับ เกรด 3 ของโท เท่ากับเกรด 2.5 ของตรีเท่านั้นนะครับ ส่วน TOEIC ถ้าคุณได้ไม่ถึง 700 คุณก็ไม่น่าจะโทออกมาได้หรอกครับ อีกประเด็นคือ ถ้าจบ offshore tech งานคุณจะแคบอยู่แต่ Oil company หรือ offshore construction company อย่าง Cheveron, Cuel และอื่นๆ เพราะเขามีแท่นให้ยุ่งวุ่นวายด้วย แต่พวก service companies อย่าง SLB Hall นั้น ไม่ต้องทำอะไรกับแท่น จึงไม่รับสาขานี้เท่าไร แต่ถ้าคุณจบ Geo tech จะไปทำได้ค่อนข้างกว้างกว่าครับ

สุดท้ายผมต้องขอชื่นชมคุณที่เป็นคนรุ่นใหม่ ใส่ใจอนาคต มีการวางแผน ทำการบ้านมาดีพอควร ไม่ใช่ ให้ข้อมูลนิดเดียว ถามสั้นๆแต่ให้ตอบครอบจักวาล คุณรู้เหนือใต้ซ้ายขวาพอสมควร ผมเชื่ออย่างว่าคนแบบนี้ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จทางด้านที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ คุณก็จะประสบความสำเร็จทางด้านอื่นๆที่คุณทำแน่นอนครับ ... โชคดีนะครับ



ผมขอรบกวนถามเกี่ยวกับ xxx ครับ เนื่องจากผมสนใจงานของ xxx อยู่ครับ แต่ยังมีความรู้ ไม่เพียงพอ จึงอยากจะขอข้อมูลบ้างอย่างเพื่อจะเอาไปศึกษาอ่านเองต่อไป ในรายละเอียดงาน xxx มีเขียนว่า "Experience in offshore and onshore construction QA/QC standard E&P codes" ผมพยายามค้นหา code นี้แล้ว แต่ไม่พบอะไรที่พอจะอ่านให้เข้าใจได้ว่า มันคืออะไร รบกวนช่วยกรุณาอธิบายว่าผม จะหาอ่านได้ที่ไหนบ้างครับ นอกจากนี้ความรู้เรื่อง Standard E&P code นี้และ Piping แล้วผมควรจะมีความรู้อะไรอีกบ้างครับ ผมจบ Mechanical Engineering เพื่อจะให้ทำงานบนแท่นขุดเจาะได้ครับ

ตำแหน่ง Mechanical engineer/Senior mechanical engieer รายละเอียดจาก xxx กะว่ายังไม่สมัครก่อนครับ จะลองหาความรู้ดูก่อน เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งไปเรียน Short course เกี่ยวกับ ปิโตรเลียมที่จุฬา ได้ความรู้เกี่ยวกับปิโตร แต่ไม่มีเกี่ยวกะแท่นขุดเจาะเลย เลยอยากทราบว่าถ้าต้องการทำงานกับแท่นควรมีความรู้อะไรบ้าง ตอนนี้เท่าที่รู้มาบ้างก็มี Piping, Corrosion, Construction ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า ตอนนี้ก็อ่านเรื่อง Piping อยู่ครับ

Responsibilities :-

Handle conceptual designs, basic & detailed engineering, procurement, fabrication, installation, and commissioning duties for modification work at xxx Assets such as flowline and mechanical equipment installation, & local dehydration system. Ensure that work is executed in accordance with requirements.

Qualifications :-
Bachelor’s or Master’s Degree in Mechanical Engineering
5-10 years experience in engineering and design of stationary mechanical systems and equipment, including piping and structural components
Experience in all aspects of construction and modification projects
Knowledge of standard offshore and onshore E&P construction codes
Good communication, interpersonal and presentation skills


นี่ก็เป็นอีกคนนึงที่ผมฟันธงได้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะไปทำอะไร คุณประสบความสำเร็จแน่นอนครับ เพราะรู้จักหาข้อมูล วางแผน ไม่หยุดเรียนรู้ ถึงกับลงทุนควักกระเป๋าเรียนเอง เนื่องจากคุณไม่ได้ให้พื้นฐานประสบการณ์ว่าทำมาหากินอะไรมา ผมเดาว่าคุณน่าจะกำลังทำงานเกี่ยวกับ โครงการก่อสร้างอะไรสักอย่าง เอาล่ะ เรื่อง codes เนี่ย ผมว่าเขาพูดรวมๆถึง มาตราฐานที่ใช้ในงานของเขา เช่น DIN ISO IEEE JIS มอก. อะไรพวกนี้ ซึ่งแต่ล่ะวงการฯเขาจะอิงมาตราฐานต่างๆกัน ในวงการเราใช้มาตราฐาน API (American Petroleum Institue) กับ IADC (International Association of Drilling Contractor) เป็นหลัก ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า ถ้าจะออกแบบท่อฝังลงไปในดินที่มีความดันนอกท่อ กับในท่อต่างกัน 4000 PSI (differial pressure) โดยที่นอกท่อเป็นของเหลว ในท่อเป็นก๊าซ ในกรณีที่ข้างนอกมากกว่าข้างใน ท่อจะต้องมี Collapse rating เท่าไร ถ้าในท่อมากกว่านอกท่อ ท่อต้องมี Burst rating เท่าไรเป็นต้น ขนาดท่อมาตราฐาน ขนาดอะไรมั่ง ขนาดไหนไม่มาตราฐาน ไม่มีใครผลิต (อย่าเจือกไปออกแบบใช้งาน เพราะจะหาซื้อไม่ได้ ฮ่าๆ) เหมือนจะสร้างบ้าน ต้องผสมปูน หิน น้ำ ทราย อัตราส่วนเท่าไร สร้างออกมาแล้วบ้านไม่พัง เสาเข็มเจาะขนาดที่ขายๆกันยาวเท่าไร ถ้าจะเอายาวกว่านี้ต้องสั่งทำ อะไรทำนองนี้ มันต้องมีมาตราฐานของวงการใครวงการมัน codes พวกนี้หนาเป็นเล่ม มีไม่รู้กี่ volume คุณไปเรียนไม่หมดหรอกครับ ผมทำงานมา 20 ปียังรู้ไม่หมดเลยครับ มันกว้างและเยอะมากๆ เหมือนบอกให้คุณไปรู้ DIN standard (ของเยอรมันไง) ถ้าอยากรู้คร่าวๆจริงๆ ผมว่า Google / wikipedia ก็คงพอให้คำตอบคร่าวๆได้

คุณไม่ต้องงรู้อะไรไปมากกว่านี้หรอกครับ ถ้าคุณจบ B Mech มาแล้ว ลงมือส่งใบสมัครงานเลยดีกว่า ถ้าคุณเคยทำงาน project คุมงาน project มา หรือที่ทั่วๆไปเขาเรียก project engineer น่ะ ก็โอเคแล้วครับ ส่วนประสบการณ์ ก็อย่างที่บอกไว้บ่อยๆว่า ใครๆก็อยากได้แบบทำงานให้ได้เลย อย่างนั้นมันก็ต้องซื้อตัวกันเท่านั้นแหละครับ ใกล้เคียงๆกัน เอาไปขัดๆถูๆหน่อยก็ใช้งานได้ครับ ถ้าไอ้ที่เอามาขัดเอามาถูไม่ซื่อบื้อเกินไปนัก อีกอย่าง งานที่คุณตัดประกาศมาน่ะ เขาให้ไปทำบนบก ที่ลานกระบือ นะครับ ไม่ใช่ offshore แต่ทำไปก่อน พอคุณคุ้นเคยกับ codes ที่ว่า เขาก็มีสับเปลี่ยนกันได้ตลอดแหละครับ

ถึงแม้ว่างานทางด้านสายนี้ไม่ว่าจะเป็นด้าน well construction หรือ Drilling Engineer เนี่ย หรืองาน installation ต่างๆ น่ะครับ จะมีผู้คนทำงานในสายงานด้านนี้น้อยกว่าด้าน อื่นๆ ถ้าเทียบกับงาน civil , mech , elec น่ะครับ ทำให้โอกาสที่คนที่สนใจจะสมัครงาน หรือ เรียนต่อด้านนี้ มีโอกาสแข่งขันกับผู้คนอื่นๆ น้อย กว่า ถ้าเทียบกับสายงานที่กล่าวไป แต่อัตรา การรับคนเพิ่ม เนี่ย รุ้สึกจะน้อยตามไปด้วยใช่ไหมครับ คือ ผู้คนที่ทำงานอยุ่แล้ว ก้อจะไม่ค่อยเปลี่ยนสายงานกัน หรือ project นั้นๆ งาน ไม่ใหญ่พอ เพียงพอสำหรับ manpower ที่มีอยุ่ ก้อจะไม่ได้รับคนเพิ่ม ผมอยากถามว่า ในกรณีแบบนี้ ถ้าคนที่เพิ่งจบมาใหม่น่ะครับ จะสามารถทำอะไรได้บ้างครับ

อืม ... ถามมาก็น่าคิด ... ตอบไงดีล่ะ งานของพวกเรามันเป็น Nich ภาษาการตลาดแปลว่า กลุ่มที่มีลักษณะเฉพาะ ศาสตร์ต่างๆมันก็มีตั้งแต่กว้างไปถึงแคบ อาจจะเริ่มตั้งแต่ ปรัชญา ซึ่งเป็นศาสตร์ที่กว้างและเป็นฐานปิระมิด แตกกิ่งไปหลายแขนง ถ้าทางวิทย์ ถัดมาก็วิทยาศาสตร์ แยกไปอีก เป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์และวิทยาสตร์ประยุกต์ หนึ่งในนั้นก็คือวิศวกรรมศาสตร์ มันก็แยกไปอีกล้านแปดสาขา ตั้งแต่กว้างอ้าซ่าอย่าง กลศาสตร์ ไฟฟ้า โยธา สำรวจ ไปยันแคบกระจิดริดอย่าง นาโน พันธุศาสตร์ ปิโตรเลียม ฯลฯ ดังนั้น สังเกตุไหมว่าปริญญาเอกของทุกศาสตร์จะใช้ชื่อเหมือนกันหมดว่าเป็น Ph.D. คือ Doctor of Philosophy คือ ในที่สุดแล้วมันคือ wisdom of mankind อยู่ดี (โทษทีแปลให้ได้ใจความไมได้จริงๆ แบบว่าคลังศัพท์จำกัดน่ะครับ)

เกริ่นมาเยอะ จะบอกว่า งานของพวกเรามันก็มีตลาดแรงงานเข้าออกของมันเอง การปิดกั้น(entry barrier) ค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างเช่น งานนักบินสายการบินพานิชย์ หรือ ทหารตำรวจ เขาก็มีตลาดแรงงานไหลเวียนของเขาเอง ของเราก็เช่นกัน ต้องการการฝึกอบรมหรือจบมาเฉพาะสาขานั้นๆ เข้ามาแล้ว ทำอยู่หลายๆปี จะออกไปทำมาหารับทานอย่างอื่นก็ยาก (เหมือนผมนี่ไง ฮ่า) เช่นเป็นนักบินขับเครื่องบิน (+ขับแอร์โฮสเตส)มาจน(แอร์)แก่ จะออกไปทำอะไรได้ มันก็ต้องอยู่ในวงการเครื่องบินต่อไป แต่สัจจะธรรมอย่างหนึ่งคือ high risk high return อุตสาหกรรมยิ่งแคบ ยิ่งเล็ก ผลตอบแทนแรงงานยิ่งสูง (เหมือนงานไอทีในสมัยนึงไง จำได้ป่ะ)

แล้วคนที่จบใหม่จะทำอะไรได้บ้าง มันขึ้นกับว่าคุณจบตรงไหม บ.สายการบินต้องรับนักบินฝึกหัดฉันใดเราก็ต้องการแรงงานหนุ่มใหม่เอาะๆฉันนั้น แต่ถ้าจบไม่ตรง ก็ต้องไปเรียนต่อชุบตัวให้มันตรง หรือ อย่างคุณจบ B Mech ค่อนข้างได้เปรียบเพราะมันเป็ด ถูๆไถๆได้หลายวงการ พวกเราเป็น Mech ก็เยอะ เผลอๆเยอะกว่าพวกจบปิโตร จบธรณี อีก แต่บทบาทพระเอกนางเอกก็ต้องยกให้พวกนั้นเขาไป อะไรแบบนี้ แต่เป็นตัวประกอบ ตัวอิจฉาก็ไม่เลวร้ายอะไรนี่นา แสดงดีๆ เรทติ้งดีจะตาย ฮ่าๆ หรือแบบจบป.ตรีกฏหมาย ก็เป็นตำรวจเป็นทหารได้ แต่พระเอกต้องนายร้อยสามพรานหรือนายร้อยเขาชะโงก เป็นต้น เข้าใจป่ะ

ตกลงผมตอบคำถามคุณไหมเนี่ย ...



ถ้าผมเรียนสาย วิศวะคอมหละคับ แต่อยากทำงานเรือน้ำมันที่จะต้องไปทำบนแท่น และบน rig หนะคับใม่ทราบว่าพอจะมีโอกาส หรือตำเเหน่งใดบ้างคับที่รับพวกจบสายนี้คับ

ตอบตามประสบการณ์นะครับ งานบนนั้นไม่มีที่ใช้วุฒิวิศวคอมโดยตรงเลยครับ แต่วิศวคอมที่ไปทำบนนั้นมักจะแถๆมาทำ เช่นไปเป็นพนักงานวิทยุประจำแท่น หรือวิศวกรติดตั้ง บำรุงรักษา ระบบสื่อสาร เถือกๆนั้น ไม่ก็ไปสมัครเป็นวิศวกรของ service company (ถ้าไม่คุ้น แนะให้ย้อนกลับไปอ่าน FAQ เก่าๆ) ที่ทำงานเกี่ยวกับให้บริการ หรือ ขาย อุปกรณ์อิเลคโทรนิค โทรคมนาคม อุปกรณ์นำร่องเถือกๆนั้นไป



ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อxxxครับพี่ จบปริญญาตรีวิศวะ สาขาปิโตรเคมีน่ะครับ เพิ่งจบมา กำลังมองหางานด้านนี้อยู่ 555+ เพราะผมสนใจงานด้าน E&P มากเลยครับ มันฝังใจมาตั้งแต่ไปดูงานที่แหล่ง s-1 ลานกระบือเมื่อตอน ม.1 (ขอย้อนอดีตหน่อยนะพี่ มันฝังใจจริงๆ อิอิ) พอจบ ม.6 ผมก็ได้โควตาไปเรียนที่ xxx ครับ ผมเลือกเรียนธรณีวิทยา ก็เพราะคิดว่าตรงกับสิ่งที่อยากทำ แต่แล้วปีต่อมาผมก็ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตครับพี่

คือผมย้ายสาขาที่เรียน (ซิ่ว) มาเรียนวิศวะปิโตรเคมี ที่xxx (ความคิดในตอนนั้นคือวิศวปิโตรเคมีน่าจะตรงกว่า น่ะครับ คิดแค่นั้นจริงๆ) แต่พอเรียนแล้ว มันไม่ใช่เลยอ่ะพี่ (มันเป็นเรื่องของอุตสาหกรรม Down stream ไปเลยน่ะครับ) แล้วอีกอย่างผมก็เกลียดเคมี อิอิ ผมเลยไม่เคยตั้งใจเรียนเลย (สารภาพกันตรงนี้แหละ) แต่มันก็ยังดีน่ะครับ ที่ยังมีคอร์ส Petroleum technology วิชานี้ผมเลยตั้งใจเรียนที่สุดแล้ว เข้าเรียนทุกคาบ ผมคิดว่าผมถนัดด้านนี้ ผมรู้ตัวว่าผมชอบด้านนี้ ผมหาหนังสือที่เกี่ยวข้องมาอ่าน ทั้งที่อาจารย์ให้มา (อาจารย์ที่มาสอนคอร์ส Petroleum technology เป็นอาจารย์พิเศษที่มาจาก xxx น่ะครับ พี่อาจรู้จักก็ได้ ชื่อ อ. xxx, อ. xxx และคณะ) และก็หาอ่านเอง บางทีก็อ่าน Text ครับ ผมพอมีความรู้คร่าวๆ ในเรื่องปิโตรเลียม และเรื่องของ E&P น่ะครับ เช่นพวก - explore and drilling implementation, พวกวิธีการ และขั้นตอนการสำรวจ และผลิต (E&P) น่ะครับ และก็ได้เรียนรู้ในเรี่อง Resevoir Appraisal and Field Development Planning และการทำ Resevoir Development เป็นต้นน่ะครับ ส่วนเรื่องปฏิบัตินั้นไม่เคยเลย รู้แต่เรื่องทฤษฎี ตอนฝึกงานก็ไปฝึกที่โรงกลั่นน้ำมัน น่ะครับ ไม่รู้ว่าจะเหมือนกันหรือเปล่า ^_^

แต่ประเด็นสำคัญก็คือเรื่องเกรดครับ T_T อย่างที่ผมบอกไปว่าผมไม่เคยตั้งใจเรียนเลย เกรดผมเลยออกมาไม่ดีครับ (ไม่ถึง 2.5 ด้วยซ้ำ) พี่ว่าผมพอมีโอกาสได้ทำงานในสายงานนี้หรือเปล่าครับพี่ เรื่องภาษาผมก็พอได้นะครับ ตอนนี้โทอิคอยู่ที่ 600 ว่าจะไปสอบใหม่ อยากได้ซัก 700 น่ะครับ เรื่องคุย กับฝรั่งไม่มีปัญหาครับ เพราะตอนที่ไปฝึกงานที่โรงกลั่น ผมเคยพูดต้อนรับแขกที่มาดูงานน่ะครับ ผมเป็นคนเรียนรู้อะไรได้ไวมากครับพี่ (โดยเฉพาะสิ่งที่สนใจ) หนักเอาเบาสู้ เข้ากับคนได้ง่ายน่ะครับ ถ้าพี่มีงานอะไรจะแนะนำผมก็ส่งเมลล์มาได้ เลยนะครับ อิอิ ขอบคุณล่วงหน้าครับ งานอะไรก็ได้นะพี่ เริ่มจากศูนย์ก็ได้ ขอให้ สุดท้ายได้ออกทะเลเหอะ ขอบคุณมากนะครับ


น้องคนนี้เขียนมายาวมาก อำนวยอวยพร สรรเสริญเยินยอซะลอยละลิ่ว ขอบคุณมากๆครับ (ตัดออกหมดก่อนโพสต์ เดี๋ยวโดนหมั่นไส้)

อยากจะยกกรณีนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ครับ สำหรับหลายๆคนที่ยังไม่มีเป้าหมายในชีวิตการงาน ว่าจะไปทำอะไร ชอบอะไร จะมาพึ่งระบบการแนะแนวในชั้นม.ปลาย มันก็ลมๆแล้งๆหดหู่ชอบกล ดังนั้น น้องๆเอ๋ย เอาอย่างพี่ๆคนข้างบนที่พวกเขาดิ้นรนขนขวาย หาลู่ทางที่ชอบที่อยากทำให้รู้ชัด แล้วมุ่งมั่นไปให้ถึง ถึงแม้จะไม่ถึงอาจจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็มาได้ไกลกว่าจุดที่เขาเริ่มก็แล้วกันล่ะน่า

ส่วนน้องคนนี้ก็ยังดีที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แม้จะสายไปหน่อยแต่ก็ไม่สายไป งานที่เริ่มจากศูนย์ มันก็มีครับ ไปเป็นกรรมกร เป็น junior pump man อะไรไปโน้น OPS หรือ amarit ก็รับอยู่เยอะแยะ แต่ผมว่า ถ้าคุณจบอย่างที่คุณจบ เกรดน่ากลัว(จะตกงาน)แบบนี้ ไปชุบตัวเรียนต่อเหอะ ถ้าอยากจริงๆผมว่าคุณไปต่อโทธรณีโดยยอมไปตามเก็บวิชาธรณีชั้นป.ตรีที่ที่คุณทิ้งมันมา จะตรงที่สุด 3-4 ปีน่าจะจบ เรียกว่า ยอมถอยเพื่อจะก้าวกระโดดไปข้างหน้าให้ได้ไกลกว่า ตัวเลือกนี้น่าจะดีที่สุด อาจจะดูงี่เง่าในสายตาเพื่อนร่วมรุ่น แต่ 3-4 ปี ไม่สายไปเลยที่จะเริ่มกันใหม่ จบธรณีมาได้นะ เหมือนใบเบิกทางชั้นดีเลยล่ะ

"The journey of ten thousand mile begins with one step" - คาถาของผมเวลาต้องทำอะไรที่ดูเหมือนว่าจะไกลจากจุดที่เรียกว่า "สำเร็จ"

ขอให้โชคดีเช่นกันนะครับ



ขอบคุณมากนะครับพี่ สำหรับคำแนะนำ ผมก็คิดว่าจะเรียนต่อแหละครับ ผมเคยสอบถามไปที่ xxx สำหรับปริญญาโท สาขา Petruleum geoscience แล้วทางอาจารย์เค้าบอกว่าผู้เรียนควรมีพื้นฐานความรู้ทางด้านธรณีวิทยา (ผมเคย inquire ไปตั้งแต่ตอนเรียน ป.ตรี อยู่) ตอนนั้นพอ(เหมือนกับ)โดนปฎิเสธ ผมก็เก็บเรื่องเรียนต่อลงลิ้นชักไปเลยครับ พอได้อ่านสิ่งที่พี่บอก ผมคิดว่าจะโทรไปคุย(อ้อนวอน) กับอาจารย์ทางโน้นอีกครั้ง เพราะผมเองก็พอมีความรู้ทางด้านนี้อยู่นิดหน่อย ยอมจบช้าหน่อย (ต้องเทคคอร์สแน่เลยครับ) แต่ประเด็นก็คือ ถ้าหากผมจบช้าจริงๆ(สมมติว่าได้เรียน) สัก 3-4 ปี ตอนนั้นอายุผมก็ปาไป 27-28 แล้วนะครับ ยังมีโอกาสที่จะรุ่งในสายงานนี้อยู่เหรอครับพี่ แล้วพี่ว่าสาขา petroleum geoscience ถ้าจบไปแล้วโอกาสได้งานนี่มันยังเปิดกว้างอยู่ไหมครับ ที่ผมต้องถามเพราะต้องไปเสนอแผนต่อผู้สนับสนุน(บิดร-มารดา) ว่ามันจะคุ้มค่าต่อการลงทุนไหมน่ะครับ เพราะค่าเรียนมันแพงพอสมควร (มันเป็น international program ครับ)

อืม ... นึกแล้วว่าต้องมีอุปสรรคเรื่องกฏเกณฑ์ของบัณทิตวิทยาลัย เอางี้ ตอนนที่เราไปขอสมัครหนที่แล้ว เข้าใจว่าคงถามไปเฉยๆเขาก็เปิดคู่มือนักศึกษาตอบ ไม่ได้แสดงความมุ่งมั่นชัดเจน ผมเสนอว่าให้คุณทำการบ้านไปอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมว่า คุณต้องการเรียนทางด้านธรณีไปเพราะอะไร ถ้าไปพบอ.ด้วยตัวเองเลยจะดีมากๆ และ ยินดี take cause เพิ่มเติม หรือ assignment/ รายงาน/ ค้นคว้า วิจัย ฯลฯ พิเศษ แล้วแต่ทางคณะมอบหมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงอยู่ในขั้นตอนการสมัคร หรือ เทคคอร์สพิเศษของป.ตรี + รายงานพิเศษ คู่ขนานกันไปขณะเรียน แล้วก็พิจารณาหลักสูตรเดียวกันที่ม.อื่นด้วย เช่นที่จุฬา หรือ ขอนแก่น อะไรแบบนี้

ส่วนเรื่องจุดคุ้มทุนนั่นน่ะ รับรองได้ คุ้มทุนแน่ๆ เพราะพลังงานฟอสซิลยิ่งจะหายากๆขึ้นเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายการค้นหาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มันจะยังไม่หมดไปง่ายๆในเร็ววัน อย่างน้อยก็เท่ากับอายุงานที่เหลือของคุณก็แล้วกัน ต่อให้คุณเรียนตรีใหม่หมดเลยก็แค่ 4 ปี ก็ยังคุ้ม คิดแบบธุรกิจนะ ง่ายๆเลย ถ้าคุณทำงานด้วยป.ตรีที่คุณมีวันนี้ไป 3 ปี (เทคคอร์สป.ตรี 1 ปี + เรียนโทรจริงๆ 2 ปี) คุณจะได้เงินเก็บกี่บาท สมมุติว่าไม่กินไม่ใช้เลย เอาเงินเดือนเดือนแรก x 1.5 x 36 เดือน ส่วน 1.5 นะคูณไปเผื่อเงินเดือนขึ้น+โบนัสระหว่าง 3 ปี ได้ผลคูณเท่าไรเก็บไว้ นั่นคือต้นทุนค่าเสียโอกาสคุณคร่าวๆที่เป็นตัวเงิน สมมุติเป็น X

ต่อมาเอาค่าเรียนโท 3 ปี มาราวมกัน (โดยไม่ต้องคิดค่ากินอยู่ เพราะเดี๋ยวตอนเราคิดอีกด้านเราก็ไม่คิดส่วนนี้เหมือนกัน เพราะถือว่าไงๆคุณก็ต้องกินต้องใช้) สมมุติว่าเป็น Y

X+Y ก็จะเป็นต้นทุนจริงๆของคุณ

คราวนี้สมมุติว่า 3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก คุณออกมาทำงานด้วยวุฒิใหม่ถอดด้าม ถึงตอนนั้น เชื่อว่าถ้าทำงานเมืองไทยนะค่าตัวน่าจะเริ่มกันที่เดือนล่ะ 55000 บาท ขึ้นไป (ถ้าได้ทำกับบ. E&P ต่างชาติ ก็ไม่ต้องมาคิดเลขให้เมื่อยนิ้ว คุ้มอยู่แล้ว ปีล่ะราวๆ 65000 USD) เอาแบบไทยๆก็แล้วกัน เอา 55000 x 12 ก็เป็นต่อปีใช่ป่ะ คราวนี้ก็เอา (X+Y)/(15000x12) ก็เป็น จำนวนปีที่คุ้มค่าลงทุน จริงๆแล้วทางบ/ชเขาไม่คิดค่าเสียโอกาสกัน ก็เอาแค่ Y เป็นต้นทุน เพราะเขาถือว่า X กับ Y ไม่มีทางเกิดพร้อมๆกันเป็นตัวเงิน เอาเถอะ เราอย่าไปเถียงกับพวกนั้นเลย คิดแบบอนุรักษ์ๆไว้ก่อน เอา X+Y น่ะดีแล้ว ถ้าผลหารออกมาได้น้อยกว่า 3 ปี ผมว่าน่าลงทุนนะครับ นั่นคือคุณทำงานได้เงินจริงๆตอนคุณอายุ 31 เป็นต้นไป เพราะเงินเดือนใหม่ตอนอายุ 29-30-31 เป็นค่า X+Y ไงครับ นี่คิดแบบคร่าวๆมากๆ คิดแบบอรุรักษ์ และ ไม่คิดเรื่องดอกเบี้ยดอกหอย (time value of money)

เรื่องอายุ หุๆ อายุเป็นเพียงตัวเลข เอ้า ให้คุณเริ่มที่ 28 ขวบ เลยก็ได้ ผมก็ว่าไม่เห็นมันจะช้าตรงไหน ข้อสำคัญคุณต้องตั้งใจเรียนให้รู้จริงๆ เกรดดีๆ พูดภาษาอังกฤษเก่งๆ ได้ภาษาที่สามด้วย รับรองรุ่งแน่ๆครับ คุณอาจจะว่าโคตรยากเลย เงื่อนไขที่จะรุ่งเยอะจัง ความจริงก็คือ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกครับ อย่างที่ฝรั่งว่า no pain no gain .... โชคดีนะครับ



อ่านต่อเลือกคลิ๊กกันเลยครับ
=> FAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11
FAQ #12 FAQ #13

ห้องสมุดเล็กๆของผม <=== คลิ๊ก
รวบรวมตำราการขุดเจาะ คลิ๊ปการทำงานในบางตำแหน่ง แบบประเมินความเหมาะสมกับงานในสนามเบื้องต้น วิธีเขียน resume ที่ไม่โดนโยนทิ้งตะกร้า รายชื่อบริษัทฯในวงการ และ อื่นๆอีกมากมาย


มีคลิปการทำงานของบางตำแหน่งให้ดูเป็นน้ำจิ้ม มีตำราวิศวกรการขุดเจาะให้ดาว์โหลดเป็นบทๆ มีความหวังดีและเอื้ออาทรเสมอ ถ้ารู้สึกขอบคุณ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผม แค่คุณจะแบ่งปันสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นต่อไป ผมก็รู้สึกว่าคุณได้ตอบแทนผมแล้ว


Create Date : 10 เมษายน 2552
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:48:15 น. 10 comments
Counter : 2582 Pageviews.

 

ขอทรงพระเจริญ



ความหมายที่แท้จริงของเสื้อเหลือง
คือเป็นวันประสูติของในหลวง

แค่นั้นจริงๆ


โดย: พลังชีวิต วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:20:35:19 น.  

 


โดย: หน่อยอิง วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:22:22:30 น.  

 
โบนัสนิ ประเมินตามperformance แล้วจะจ่ายเป็นก้อนเงินในrange ที่เท่ากันทุกตำแหน่ง หรือ เป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนครับ
เปอร์เซ็นต์ขึ้นเงินเดือนขึ้นจากเงินเดือนเลย หรืือขึ้นจากกระบอกครับ
การRotation ในบริษัทยากไหมครับ
ขอโทษที่ถามเยอะนะครับ สวัสดีปีใหม่ไทยครับ และขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ


โดย: Pj IP: 58.64.112.121 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:23:10:27 น.  

 
มีที่ไหนรับวิศวกรจบใหม่บ้างครับ เเล้วจะสมัครได้ทางไหนครับ เพราะผมลองเข้าไปดูตามเว็บของบริษัทต่างๆเเล้ว ส่วนใหญ่จะให้ทิ้งเรซูเม่ไว้ หรือไม่ก็รับแต่ตำแหน่งที่มีประสบการณ์้ทำงานที่ต่างประเทศ ไม่มีทำงานในไทยเลยครับ ขอบคุณครับ


โดย: first IP: 58.9.253.53 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:14:18:47 น.  

 
ผมพึ่งเข้ามาครั้งแรกน่ะครับ เลยไม่ได้เตรียมคำถามอะไรมากมายน่ะครับ เริ่มที่

1. ผมกำลังเรียนอยู่ ปี 3 ขึ้น ปี 4 ครับ เรียน Civil Engineering (ผมเรียน Inter ที่มหาลัยรัฐแห่งนึง) ตอนนี้มาฝึกงาน ทางด้าน On Shore ที่ WP ครับ ที่ ศรีราชา.....เผอิญ แล้ว ในใจผมจิงๆ คือการได้ไปอยู่บนแท่นขุดเจาะครับ พี่ๆ ที่บริษัท เค้าแนะนำผมว่า ถ้าอยากทำด้านนั้น ก้อไปพวก CUEL ไม่ก้อ CHEVRON ประมาณนั้นน่ะครับ เพราะที่ WP นั้นส่วนใหญ่งานจะเป็นกระดาษ เพราะเป็นงาน Design ผมกะว่า จะต่อที่ AIT ขอทุนเรียนสาย Offshore อ่ะครับ ทางด้าน Construction&Design ผมอยากรู้ว่า บริษัท พวกนี้เค้าจะรับมั้ยครับ เพราะผมกะว่าจะเรียนต่อเลย ประสบการ์ณ ก้อเลยไม่มีน่ะครับ ส่วนเรื่องเงินเดือน เนี่ย จิงๆ ผมก้อไม่ค่อยซีเรียสหรอกครับ แต่แค่อยากจะทราบคร่าวๆ ไว้เป็นการตัดสินใจน่ะครับ ขอบคุนมากๆ ครับ

2. ขออนุญาติเพิ่มเติม คือ ผมกำลังเรียนอยู่ที่ SIIT(สังกัด ธรรมศาตร์ น่ะครับ) น่ะครับ Sirindhorn International Institute Of Technology ไม่ทราบว่าพี่พอจะทราบ มั้ยน่ะครับ คือพวกภาษา ฟัง พูด อ่าน เขียน ผมไม่กลัวน่ะครับ เพราะพื้นฐานที่ได้จากการเรียนก้อพอมี แต่อาจจะต้องเสริมอะไรเพิ่มเติมน่ะครับ อยากให้พี่ช่วยพิจรณาด้วยครับ เกรดตอนนี้ 2.96 น่ะครับ ยังไม่นับของตอน ปี 4 นะครับ พี่พอจะช่วยแนะนำแนวทางเพิ่มเติม อิงจากข้อมูลที่ผมเพิ่มมาให้ด้วยน่ะครับ ขอบคุณอกีครั้งครับ


Ps.1 ผมล่ะกลัวจิงๆ เรื่อง พรรคพวก ตอนเข้าไปสมัครงานที่บริษัท น่ะครับ ไม่ว่าจะที่ไหนก้อตาม เพราะ สถาบันที่ผมเรียนอยู่นั้น พึ่งก่อตั้งมาได้ 17 ปีเองครับ พวกพี่ๆ บางคนอาจจะไม่รู้จักก้อเป็นได้

Ps.2 เรียน Civil จะมีโอกาสได้เข้าไปบนแท่น มั้ยน่ะครับ แล้วก้อ ถ้าให้เลือกระหว่างต่อโท ที่ AIT ด้าน Offshore Structure กับ Geo-tech ด้านไหนจะเหมาะกว่ากันน่ะครับ สำหรับการ ทำงานสายนี้

Ps.3 ตอนแรกผมไป Post Reply เพราะผมก้อเล่นไม่ค่อยเปนน่ะครับ เลยผิดๆ ถูกๆ ขอโทดด้วยครับ ถ้าพี่มีอะไร ผมจะทิ้ง mail ไว้นะครับ เผื่อผมจะได้มีโอกาสปรึกษา พี่ในอนาคต cartoon1987@hotmail.com


โดย: Pongpatch IP: 124.121.92.45 วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:23:52:40 น.  

 
ขออนุญาตถามเพิ่มเติมนะครับ ว่า ถึงแม้ว่างานทางด้านสายนี้ไม่ว่าจะเป็นด้าน well construction หรือ Drilling Engineer เนี่ย หรืองาน installation ต่างๆ น่ะครับ จะมีผู้คนทำงานในสายงานด้านนี้น้อยกว่าด้าน อื่นๆ ถ้าเทียบกับงาน civil , mech , elec น่ะครับ ทำให้โอกาสที่คนที่สนใจจะสมัครงาน หรือ เรียนต่อด้านนี้ มีโอกาสแข่งขันกับผู้คนอื่นๆ น้อย กว่า ถ้าเทียบกับสายงานที่กล่าวไป แต่อัตรา การรับคนเพิ่ม เนี่ย รุ้สึกจะน้อยตามไปด้วยใช่ไหมครับ คือ ผู้คนที่ทำงานอยุ่แล้ว ก้อจะไม่ค่อยเปลี่ยนสายงานกัน หรือ project นั้นๆ งาน ไม่ใหญ่พอ เพียงพอสำหรับ manpower ที่มีอยุ่ ก้อจะไม่ได้รับคนเพิ่ม ผมอยากถามว่า ในกรณีแบบนี้ ถ้าคนที่เพิ่งจบมาใหม่น่ะครับ จะสามารถทำอะไรได้บ้างครับ


โดย: Pongpatch IP: 210.4.140.11 วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:16:38:21 น.  

 
ขอนอกเรื่องครับ อยากถามใครก็ไช่วยตอบทีว่า ทำไม่ pressure gauge ต้องมีของเหลวคล้ายๆน้ำอยู่ในหน้าปัทม์ด้วยครับ


โดย: PJ-4 IP: 112.140.188.251 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:08:04 น.  

 
อ่านมา4แล้วพี่ ได้ความรู้เพิ่มเข้าไปอีก

กำลังจะตัดสินใจทำงานลุยๆแล้วคับพี่นก

กำลังมองหาว่าตำแหน่งไหนที่ผมลุยได้

ขอไปอ่านต่อก่อนนะคับ


โดย: nonies IP: 124.120.236.3 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:22:39:54 น.  

 
Liquid filled gauges help absorb vibration and increase service life of the gauge. ส่วนใหญ่เป็น Glycerine กลีเซอรีนจ่ะ


โดย: น้องพี่นก IP: 110.169.96.227 วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:18:57:52 น.  

 
ตอบคุณ PJ-4 ผมพลาดไม่ได้ตอบคุณได้ไงเนี่ย ตั้งแต่ปี 52 ตอนนี้ปี 54 ป่านนี้คุณคงรู้คำตอบไปแล้ว

คุณ น้องพี่นก ... โห ... ตอบกันข้าม 2 ปี ขอบคุณครับๆที่แวะมาตอบให้

ส่วนเพื่อนๆ น้องๆที่เหลือใน FAQ ฯ ผมคุ้นๆว่าตอบไปหมดแล้วนะครับใน FAQ ถัดไป แต่ถ้ายังก็ ถามมาใหม่ได้นะครับ ...

พี่นก ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:21:34:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.