FAQ #20 ---- 7/5/2011
ผมชื่อ xxx อยู่วิศวะxxx ที่ xxx ครับ ตอนนี้เพิ่งจบครับ ผมได้งานที่บริษัท xxx ซึ่งต้องไปทำที่ญี่ปุ่น ได้งานเป็นคนดูแลการผลิต Turbine ของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและนิวเคลียร์ สัญญาผูกมัด 4 ปี(เซนไปแล้ว)คับ แต่อย่างที่ทราบ เรื่องข่าวกัมมันตรังสีของประเทศญี่ปุ่นทำให้ผมลังเลว่าจะไปดีหรือไม่ บังเอิญผมไปสมัครเชฟรอนตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะสมัครโตชิบา แต่ดันสัมพาด FE ไม่ผ่าน แต่เค้าส่ง เมลมาว่าจะไปสัมพาดตำแหน่ง DSM(trainee)มั้ย ผมก็เรยไปสัมพาด ซึ่งผลปรากดว่าผมได้ แล้วก็เซนสันยาไปแล้วในวันที่ 8 เมษายน ตอนนี้ผมก็เรยลังเลใจว่าจะเลือกอะไรดี สิ่งที่ผมจะรบกวนถามพี่นกก็คือ 1. โดยส่วนตัวแล้ว ตอนแรกผมมีความคิดว่าอยากเป็นนักธุรกิจ การไปญี่ปุ่นถือว่ามีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา การเอาชีวิตรอดในต่างประเทศ ความรู้ที่ได้จากการเทรนของเค้า ซึ่งผมอาจจะนำความรู้นั้นมาประกอบอาชีพในอนาคตได้ แต่พอคิดไปคิดมา Turbine เป้นอะไรที่ใช้เงินลงทุนมหาศาล ถึงแม้ผมจะกลับมาแล้ว maintenance ให้ กฝผ มันก้คงต้องใช้เงินมาก และประสบการ์ณหลายปี ผมเลยเบนเข็มมาทาง(ไม่ทราบว่าผมคิดผิดหรือเปล่า)ด้าน DSM โดยผมหวังว่าการเข้าไปทำงานในตำแหน่งนี้อาจจะมีไอเดียหรือประสบการ์ณที่ผมสามารถนำมาทำธุรกิจส่วนตัวได้ 2. ถ้าเกิดว่าผมบอกว่าผมไม่อยากทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว อยากเป็นลูกจ้างไปตลอด ความก้าวหน้าในอาชีพผมจะเป็นไปในทางใดได้บ้างคับ ผมหมายถึงว่า อนาคตของตำแหน่งนี้มันไกลหรือเปล่า เพราะกว่าจะหลุดการเป็นเทรนนีต้องใช้เวลา 2-5 ปี แล้วกว่าจะไต่เต้าไปถึงตำแหน่งที่ได้รับเงินตกวันละ 2000 USD ต้องผ่านไปทั้งหมดกี่ขั้นหรอคับ แล้วถ้าผมบอกว่าอนาคตอีกซัก 3-4 ปีผมอยากเปลี่ยนไปทำบริษัทอื่น ปตทสผ หรือบริษัทน้ำมันอื่นๆเค้าจะรับผมป่ะคับพี่ ถ้าพิจารณาจากประสบการ์ณที่ผมได้ทำที่เชฟรอน ผมมีความคิดว่าอยากเป็นนักธุรกิจ คนดูแลการผลิต Turbine ของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและนิวเคลียร์ สัญญาผูกมัด 4 ปี(เซนไปแล้ว)คับ ตำแหน่ง DSM(trainee)มั้ย ผมก็เรยไปสัมพาด ซึ่งผลปรากดว่าผมได้ แล้วก็เซนสันยาไปแล้วในวันที่ 8 เมษายน ถ้าเกิดว่าผมบอกว่าผมไม่อยากทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว อยากเป็นลูกจ้างไปตลอด ด้าน DSM โดยผมหวังว่าการเข้าไปทำงานในตำแหน่งนี้อาจจะมีไอเดียหรือประสบการ์ณที่ผมสามารถนำมาทำธุรกิจส่วนตัวได้ (ไม่ทราบว่าผมคิดผิดหรือเปล่า) ลองสมมติว่าตัวเองเป็นคนนอก ... อ่านดูข้างบนนี้หมดแล้ว พอเห็นแนวๆไหมครับว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไร ไม่แปลกครับ เด็กๆก็ยังงี้ ยังมองภาพรวมไม่ออก กำลังค้นหาตัวเอง ผมจะวิเคราะห์ให้ดูทีล่ะแง่มุม คุณอาจจะไม่เห็นด้วย โอเคไม่เป็นไร ผมก็ใช่ว่าจะมองอะไรถูกหมด ผิดก็บ่อย ... ทั้งสองงานนั้นเป็นงานเฉพาะมากๆ มีไม่กี่บ.(เมื่อเทียบกับงานอื่น)ในประเทศและนอกประเทศที่ มี turbine ขนาดใหญ่ผลิตไฟฟ้า และ ขุดสำรวจปิโตรฯต้นน้ำ งานทั้งสองจึงเป็นงานที่มี entry barier สูง แปลว่าคนนอกเข้าไปทำตอนแก่แล้วยาก คนที่เข้าไปทำได้คือคนที่ทำมาแต่ต้น ดังนั้นค่าตัวจึงสูง ย้ายงานได้ก็เฉพาะในวงการเดียวกัน ต้องแย่งคนกันเอาเองในวงการ ข้อเสียของทั้งสองคือ ถ้าอุตสาหกรรมนั้นขาลง ก็ทำใจตกงานได้ ถ้าไม่เจ๋งจริง ในแง่เอื้อต่อการทำธุรกิจส่วนตัว ยากพอๆกันทั้งคู่ เพราะมันจมปุ๊กอยู่กับงานเฉพาะ งานที่เอื้อต่อการทำธุรกิจส่วนตัวมักจะเป็นงาน technical หรือ non technical ที่พบปะผู้คนมากหน้าหลายตา เช่น งาน(วิศวกร)การตลาด งาน(วิศวกร)ขาย งานพัฒนาธุรกิจ งาน DSM มันจะดีอย่างคือธรรมชาติของงานมันทำครึ่งพักครึ่ง เช่น 14/14 21/21 อีตอนพักก็มักจะมาทำร้านอาหาร เปิดบาร์ ทำสวนยาง เปิดอู่รถ ฯลฯ กัน แต่ถ้าเอาดีทางลูกจ้าง ทั้งสองงานพอๆกันครับ เป็นวิศวกรเฉพาะทางเสียเป็นส่วนใหญ่ DSM ก็ก้าวหน้าได้ดีในสายคุมงานครับ ออกมาเป็นมือปืนรับจ้างได้ แต่กว่าจะถึงตรงนั้นคุณต้องมีประสบการณ์ 10 ปีขึ้นไปครับ แต่เป็น 10 ปีที่ผ่านไม่กี่ขั้น เพราะคุณจะต้องเรียนรู้งานเฉพาะตามแต่โอกาสงานจะอำนวย เช่นเป็น DSM แท่นหลายๆแบบ ขุดหลุมมาหลายๆแบบ โดยงานขุดเจาะแล้ว 80-90 % งานขุดหลุมเหมือนๆกัน งานแท่น ก็มีแท่นหลายๆแบบ แต่ 80-90% งานมันก็คล้ายๆกัน พอ 10+ ปี คุณก็คงได้ขุดหลุมมาหลายๆแบบบนแท่นหลายๆแบบ CV คุณก็คงดีพอที่จะเอามาขายตัว เอ๊ย ขายความสามารถแลกเงินวันล่ะ 2000 USD ได้ไม่ยาก ถ้าจะเป็นลูกจ้างต่อก็เป็น rig superintendent นั่งในเมือง คุม DSM อีกที แล้วก็เป็น drilling manager ไปโน้น เมื่อถึงตอนนั้น คุณก็เข้าข่ายสวยเลือกได้แล้วครับ ปตท. บ.น้ำมันอื่นๆก็พร้อมรับคุณ แต่จะรับเป็นลูกจ้างหรือมือปืนรับจ้างก็ขึ้นกับกิจกรรมและเงื่อนไขตอนๆนั้นของแต่ล่ะบ. แต่มีงานต่อเนื่องยาวก็เป็นลูกจ้าง แต่ถ้างาเป็นโครงการๆ 1-5 ปี ก็รับเป็นมือปืนฯ จะได้ไม่ต้องรับภาระ overhead จ่าย net ๆ ตัดเป็นเดือนๆ จบโครงการก็เลิกกันไป แต่ถ้าถูกใจก็จ้างกันต่อ การเป็นลูกจ้างหรือเป็นมือปืนมีข้อดีข้อเสียต่างกัน มไมอะไรดีโดยไม่มีข้อด้วย เหมาะกับคนแต่ล่ะคนมากกว่าครับ คุณเข้ามาแล้วจะรู้เอง อ้อ ที่คุณบอกว่า 3-4 ปีค่อยย้ายไปทำบ.อื่นนั้น แค่ 3-4 ปี ในวงการฯเราถือว่าทารกนะครับ ต้อง 10 ปีขึ้นครับ ถึงจะปีกกล้าขาแข็งพอที่จะบอกได้ว่าคุณคือ DSM จริงๆ พวกมาบอกผมว่า 3-4 ปี แล้วจะมารับงานมือปืนหีองานลูกจ้างต่อ มันก็ได้ แต่ค่าตัวต่ำถ้าเป็นมือปืน ถ้าเป็นลูกจ้างก็ต้องไปเริ่มเป็นเด็กใหม่ที่อื่น ถ้าคุณมาทาง DSM ของ CV ผมอยากให้มองยายไป 10 ปีเลย ระหว่างนั้นก็ใช้วันพักทำธุรกิจส่วนตัวไป อิสระดี ส่วนประสบการณ์ต่างประเทศ ไม่ต้องห่วง ไปเที่ยวเอาก็ได้ อ่านหนังสือเอาก็ได้ เรียนต่อเอาก็ได้อีก แล้วงาน DSM หลัง 10 ปีไป คุณก็สามารถโกอินเอตร์ไปขายตัว เอ๊ย ขายแรงงานตปท.สบายๆ แต่บอกก่อนว่า DSM trainee ของ CV โหดนะครับ นอนน้อย ทำงานหนัก โดนด่าเช้าเย็น กดดันสุดๆ (ได้ยินมา) ส่วนงาน turbine ผมไม่ค่อยทราบเท่าไรครับว่าทำอะไรยังไง ก้าวไปไหน รู้แต่ว่าเมืองไทยมีโรงไฟฟ้าอิสะขนาดกลาง/เล็กมากมาย รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมหนักที่ส่วนมากมีโรงไฟฟ้าเป็นของตัวเอง พวกนี้ใช้ turbine ทั้งนั้น ส่วนเรื่องสารกัมฯกับนิวเคลีย ผมว่าคุณอย่ากังวลเกินเหตุเลยครับ ไม่มีอะไรมากหรอก แถมเป็นงานเฉพาะทางอีก ทักษะแบบนี้คนไทยไม่ค่อยมีโอกาสเท่าไรนะครับ ... หวังว่าจะประกอบการตัดสินใจได้บ้างนะครับ ... โชคดีนะ ... พี่นก ... ------------------------------------------------ข้างล่างนี่มี HR ท่านหนึ่งใช้นามแฝงว่า expert กรุณาฝากความคิดเห็นที่ผมคิดว่าโดนใจผมมากเช่นกัน ขอเอามาไว้ที่ยนี่ด้วยเลยนะครับ ------------------------------------------------ ถ้าอยากประกอบธุรกิจส่วนตัว แนะนำให้ไปทำที่ให้เงินมากกว่าเพื่อที่จะได้มาทำทุนกับงานที่เชี่ยวชาญหรือที่ทางบ้านมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจเลย ทั้ง 2 ที่ไม่น่าทำทั้งนั้น หัวใจของธุรกิจคือตลาดกับลูกค้า สนใจด้านนี้ต้องไปทำงานด้านการขาย ไปเป็นเฃลล์ หรืองานมางด้านบริการ เพื่อที่จะได้มุมมองทางการค้าสำหรับไปต่อยอด ประสบการณ์ของ Turbine maintenance กับ DSM นั้นไม่ช่วยเลย Turbine maintenance ทั้งวันก็จะอยู่แต่กับเครื่องจักร ราคาของ turbine ก็แสนแพง ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่มักจะใช้ vendor rep หรือไม่ก็มือเก๋าๆของ EGAT มาทำการ troubleshoot และ overhual ส่วน preventive maintenance เล็กๆน้อยๆ ก็ทำเอง DSM ยิ่งแย่ใหญ่ อยู่แต่บน rig ทำงานเป็น company rep มีของทุกอย่างเพียบพร้อม support ก็เพียบ rig contractor ก็เกรงใจ ถ้าเป็นลูกค้าก็เป็นลูกค้าที่มักจะเอาแต่ใจ วิธีคิดของ DSM จะถูกสอนให้ทำตาม procedure ไม่เสี่ยงอะไรทั้งนั้น ไม่พร้อมไม่ทำ ถ้าติดไปเป็นนิสัยมันอาจจะไม่เหมาะที่จะไปทำธุรกิจเอง ส่วนข้อดีของตำแหน่งนี้คือ คุณมีช่วงเวลาพักที่ยาวทำให้สามารถมีเวลาไปหาความรู้หรือทดลองอะไรได้ ถ้าไม่อยากเป็นนักธุรกิจ DSM จะดีกว่ามากแบบที่พี่นกพูดเป๊ะเลย ---------------------------------------------------ตอนนี้ผมกำลังรอสัมภาษณ์งานรอบสองที่ SLB ในตำแหน่ง FE แผนก Well service - Cementing ครับ จึงขอรบกวนสอบถามบางประเด็นเกี่ยวกับงานด้านนี้ครับ 1. Scope งานในตำแหน่งนี้ ทำเกี่ยวกับอะไรครับ งานตำแหน่งนี้ ส่วนใหญ่ทำในประเทศหรือต้องออกต่างประเทศบ่อยๆครับ เป็นงานสนามอย่างชื่อบอกน่ะครับ เริ่มต้นคงทำในประเทศ พอเริ่มเป็นก็ได้ไปตปท.แน่ๆครับ ไปประจำที่โน้นเลยด้วยซ้ำ ส่วน scope งาน ก็ตาม link ข้างล่างนี้ไปได้เลยครับ//www.glossary.oilfield.slb.com/Display.cfm?Term=cementing //ww2.prospects.ac.uk/p/types_of_job/cementing_engineer_job_description.jsp สรุปงายๆคือ คุณเป็นหน. มีลูกน้องทีมนึง 4-6 คน เอาปั๊มขนาดเท่าช้าง 2 เชือก ไปปั้มปั๊มซีเมนต์ลงหลุม ส่วนไอ้ช้าง 2 เชือกที่ว่า ถ้างานบกก็ใส่รถลากไป ถ้าในทะเลก็ลงเรือแล้วเอาเครนยกไป2. ผลตอบแทนเรื่องเงินเดือน + สวัสดิการเป็นอย่างไรบ้างครับ SLB เป็นบ.ใหญ่ที่สุด 1 ใน 4 ของ วงการฯ มีมาตราฐานด้วย HR ค่าตอบแทน การฝึกอบรม และ ความปลอดภัย เป็นอันดับต้นๆของวงการฯ ผลตอบแทนดีแน่ๆเมื่อเทียบกับงานเดียวกันในบ.อื่นๆ เงินเดือนนั้นผมไม่ทราบว่าจริงๆว่าเดี๋ยวนี้เริ่มที่เท่าไร แต่ไม่น้อยหน้างานเดียวกันในวงการแน่ๆ แต่ที่ลืมไม่ได้คือค่า good will คือค่าชื่อนั่นแหละครับ SLB เหมือนยูดังๆในวงการศึกษา หรือ เหมือน นาซ่าในวงการวิศวกรรมอวกาศ ตรงทีเทียบเป็นเงินไม่ได้ เพราะเอาไปต่อยอดได้ว่าเราเคยอยู่เคยทำเคยอึกเคยผ่านตรงนั้นมาแล้ว เป็น resume อย่างดี (แต่แน่นอนแลกมาด้วยความลำบากทั้งกายและใจในการทำงาน) ผมมาได้ทุกวันนี้ก็ค่า good will ตรงนี้ ขนาดผมออกมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว ทุกครั้งที่บอกว่าผมเคยผ่านตรงนั้นมาแล้ว (Wireline field engineer) ก็พอทราบได้ถึงความเชื่อถือในความเป็นมืออาชีพและความสามารถ ถ้าอะไรมันจะน้อยจะหย่อย ไม่ถูกใจไปบ้าง ให้นึกถึงค่า good will เอาไว้3. ความมั่นคงในสายอาชีพการงานมากน้อยเพียงไร หากสะสมประสบการณ์ไปซักระยะ สามารถไปสมัครเพื่อเข้าทำงานใน Oil Company ใหญ่ๆอย่าง Chevron, PTTEP จะมีโอกาสไหมครับ ความมั่งคงขึ้นกับฝีมือคุณและราคาน้ำมันในตลาดโลกครับ เนื่องจากเป็นที่รวมของเหล่าเซียนเหยียบหิมะไร้ร่องรอย คงพอนึกอกว่าพวกเก่งมากๆนิสัยเป็นไง การแข่งขันและอีโก้สูงกันทั้งนั้น คนหยุดวิ่ง(พัฒนาตัวเอง)ไม่ได้ มีคนจับเวลาให้คะแนนตลอด พอคุณทำได้ หน.ก็จะให้งานคุณเพิ่มทั้งปริมาณและความยากของงาน ถ้าราคาน้ำมันตกบ.นี้ก็ไม่ลังเลแม้แต่นิดที่จะเอาคนออกลดค่าใช้จ่าย คนที่มีความสามารถอยู่หางแถวก็จะโดนซองขาวคนแรก ผมไม่ได้เว่อร์ ผมผ่านและรอดจากวงจร(อุบาทว์)นั่นมาแล้ว สรุปว่าไม่ใช่ที่ๆคุณจะทำงานแบบแห้งชามน้ำชาม เช้าชามเย็นสองชามได้ก็แล้วกันสุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบพระคุณพี่นกมากเลยครับ ที่ได้จัดทำ Blog ดีๆแบบนี้ให้คนที่ไม่ค่อยรู้อะไรเลยกับสายงานด้านนี้อย่างผม ได้ศึกษาและเข้าใจสายงานด้านนี้ดีมากยิ่งขึ้นครับ เนื่องจาก Background ของผมจบวิศวะทางด้านโยธามา แต่มีความสนใจและอยากทำงานในสายงาน Offshore มากครับ สุดท้ายนี้ผมก็ขออวยชัยให้พรให้คุณผ่านรอบนี้และรอบต่อๆไปจน break out (สอบปฏิบัติภาคสนาม - หินสุดๆ) จนได้เป็น "ตัวจริง" และที่คุณต้องการมากกว่าพร คือความอึด แบบ "วิ่งสู้ฟัด" ของเฮียเฉินหลงนั่นแหละครับ ... โชคดีนะครับ .... พี่นก ----------------------------------------------ขออนุญาติสอบถามนะครับ คือว่าผมจบตรี ธรณี มา เกรดก็ 2 นิดๆ จบปี 52 ตอนนี้เป็น xxx ส่วนภาษาอังกฤษก็ค่อนข้างอ่อนครับ ผมอยากจะขอถามว่า 1. นอกจากตำแหน่ง mudlogger ในงาน survice สามารถสมัครงานในตำแหน่งอะไรได้บ้างครับ เช่น mudengineer etc. (พึ่งอ่าน blog พี่ได้ 2 วัน) งั้นขอให้ไปอ่านบล๊อกผมให้จบ ผมรู้ว่ามันเยอะ แต่อยากให้อ่านให้จบ ใช้เวลาหน่อย พออ่านจบแล้วคุณจะรู้ว่า อย่าเป็นวิศวกรเลย วิศวกรเป็นคนใช้ของนักธรณี คุณเป็นนักธรณีน่ะดีแล้ว มุ่งไปเป็นนักธรณีที่บ.น้ำมันจะดีกว่า เอาล่ะ ถ้าคุณหลงไหลได้ปลื้ม ลืมความจริงของชีวิตไปแล้ว (ฮ่า) อยากเป็นวิศวกรสนามจริงๆ มันก็มีไม่กี่ที่ที่มันตรงจริงๆ mud logger นั่นแหละ ตรงที่สุด นอกจากนั้นก็ mud eng ใกล้เคียงถัดมา เลยจากนั้นไป มันก็ไม่ใช่นักธรณีแล้วล่ะครับ นอกจากว่าคุณจะไปเป็นนักธรณี(ปิโตรฯ)สนาม (ถ้าคุณเป็นนักธรณี คุณคงเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร ) นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง อ้อ SLB Halliburton Baker Weatherford BJ รับนักธรณีเป็น วิศวกรสนามด้วยนะครับ แต่คงต้องแข่งกับวิศวกรตัวจริงพอควร โดยเฉพาะเรื่องเกรด และภาษาฯ คุณว่าคุณภาษาอ่อน งั้นเริ่มพรุ่งนี้เลยครับ ไปทำให้มันแข็ง(ขึ้น)ซะนะครับ ผมเข้าใจว่า2. ตอนนี้ยังมีการอบรม drilling school หลักสูตร 6 เดือนอยู่รึเปล่าครับ และการอบรมนี้จะช่วยให้สมัครงานได้ง่ายขึ้นรึเปล่าครับ (เห็นมีอบรมที่ tpti แต่ไม่แน่ว่ามีหลักสูตร 6 เดือนรึเปล่าครับ) ได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ ส่วนจะง่ายขึ้นแค่ไหน ขึ้นกับคุณทำดีแค่ไหนในคอร์สนั้นๆ ส่วนที่ไหน ผมทราบแต่ว่า tpti มี แต่ไม่รู้ว่ากี่เดือน คงต้องเข้าไปที่เว็บ และ โทรฯสอบถามดู อีกที่ที่เปิดปีล่ะครังคือที่กรมเชื้อเพลิงฯ (DMF) แต่ที่นั้นเปิดเงียบๆ แต่คนเต็มทุกรุ่น ต้องรบกวนไปที่เว็บ DMF และโทรฯถามเอาว่า เปิดเมื่อไรยังไง ผมรู้แต่ว่าหลักสูตร 6 เดือน3. ถ้าไม่มีประสบการด้าน oil field จะสามารถสมัครงานบริษัทข้ามชาติ หรือบริษัท local ได้รึไม่ครับ ทำงานในบ.เหล่านี้ (ทั้งต่างชาติและบ.ท้องถิ่น) มีสองแบบคือ แบบแรกเข้าไม่มีประสบการณ์รับเด็กจบใหม่มาปั้น หรือ แบบกึ่งใหม่คือจบมาไม่น่าเกิน 5 ปี เรียกว่า entry level อีกแบบคือที่ผมเรียกว่าแบบ มาม่า ฉีกซองเทน้ำร้อนแล้วรอ 3 นาทียกซดยกดูดได้เลย หรือ เรียกว่าพวก plug and play จริงๆภาษาทางการเรียก Mid career แน่นอนว่าพวกนี้ต้องมีประสบการณ์มากก่อน4. ค่าตอบแทนจะอยู่ระหว่างเท่าไรครับ เพราะจะได้ใช้ไว้เป็นฐานข้อมูล ขึ้นกับต่ำแหน่งครับ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดตำแหน่งอะไรไว้ในใจ ถ้าเด็กจบใหม่เกรดเฉลี่ย3.0ขึ้น ในวงการฯ เอาว่า บ.service top 4 หรือพวกสวยเลือกได้ (SLB, HES, WFD, Baker) ก็แล้วกัน ราวๆ 30000 - 45000 ต่อเดือนครับ ----------------------------------------------------สวัสดีครับตอนนี้ผมกำลังจะได้ทุนเรียนช่างเทคนิคปิโตรฯ รุ่นที่10ครับ(ยังไม่ได้100%นะครับ เหลือผลการตรวจร่างกาย) หลังจากเรียนจบจากทุนช่างเทคนิคปิโตรเลียมอะครับ ผมรู้ว่าต้องไปทำงานกับบริษัทที่เป็น contract ของ PTTEP หรือไม่ก็ของ chevron ซึ่งผมจะไม่ใช้พนักงานของเขาโดยตรง ผมอยากรบกวนถามพี่นกว่า 1.ถ้าทำงานไปแล้วซักพักโอกาสที่จะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำของ PTTEPหรือ Chevron จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ อันนี้ก็ขึ้นกับจังหวะและโอกาสน่ะครับ ผมเห็นมาทั้งสองแบบคือ ทำไปสักพักมีตำแหน่งว่างเบื้องบนอนุมัติอัตรามาก็เสียบเลย หรือ ห้อยไปโหนมานานหลายปีก็ยังไม่มีโอกาส เป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอยู่หลายปีก็มี กว่าจะได้เข้ามาทำประจำ ผมอยากให้คุณคิดว่า ถ้าคุณเป็น PTTEP หรือ CV ถ้ามีตำแหน่งนั้นๆว่าง มีอัตรา คุณจะไปเสียเวลาหาคนใหม่คนนอกมาหัดให้ เสียเวลา เสียเงิน และเสี่ยงงานเจ๊งทำไม ก็เอาคนที่เป็นลูกจ้างรายปี (contractor) นั้นแหละ เอาคนที่มันมีทัศนะคติดีๆ ขยันๆ งานดีๆ เสียบเลย win-win ยกเว้นแต่ถ้าเป็น ลูกจ้างรายปี (contractor) ที่จ้างผ่านบ.นายหน้า พวกบ.นายหน้าจะมีเขียนในสัญญาว่าถ้าเช่าชั่วคราวรายคืนแล้วติดใจอยากตบแต่งเป็นเมีย เอ๊ย เอาไปจ้างเป็นพนักงานประจำ ต้องจ่ายค่าสินสอดกี่เดือนๆ อย่างนี้ PTTEP หรือ CV ก็คิดหนัก แต่คิดว่าคงไม่ใช่ในกรณีคุณ2.พี่นกคิดว่าระหว่าง 2 บริษัทนี้มีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้างครับ(เพื่อผมมีโอกาสเลือกครับ) ผมกังวลเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการและความมั่นคงในอนาคตอะครับก็เลยอยากรบกวนพี่ให้ช่วยตอบหน่อยครับ คำถามนี้ล่อเป้า(ว่ะ) เอาว่า PTTEP ก็บ.ไทยๆ CV ก็เป็นบ.อเมริกัน ความแตกต่างกันนั้นมีชัดเจน เขียนอยู่ในตำราแล้ว หาอ่านเอา เป็นความจริงเหมือนในตำราที่ไม่หนีจากนั้นเท่าไร แต่ที่อยากจะบอกคือ PTTEP มีอีกบ.ย่อยที่รับช่างเทคนิคคือ PTTEP service นะครับ ซึ่งไม่ใช่ PTTEP ตัวแม่ เรื่อง PTTEP service ผมตอบไว้ในบล๊อกพอควรแล้ว หาอ่านเอาได้ ไม่ทราบว่ากรณีช่างเทคนิคอย่างคุณจะเข้าข่ายต้องจ้างโดย PTTEP service หรือ PTTEP ตัวแม่ เพราะผมก็เห็น PTTEP ตัวแม่จ้างช่างเทคนิคเหมือนกัน ผมเลยไม่รู้ว่าเขาเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ว่างานไหนใครจ้าง ... ไว้ข้ามจีบเด็ก HR สวยๆ ที่นั่น ได้แล้วจะแอบถามให้ (คงไม่มีทาง หูยานก่อนแน่ เอิ๊กๆ) แต่ถ้าคุณเลือกสวัสดิการและความมั่นคง ผมคิดว่า บ.ไทยๆน่าจะไปสวยกว่านะครับ ... โชคดีนะครับ ... พี่นก ====================================สวัสดีครับพี่นก ผมเขียนมาหาพี่เมื่อปีที่แล้ว ถ้าพี่จำผมไม่ได้จริงๆก็อ่านจากเมล์ฉบับก่อนๆนะครับ ขอบคุณพี่มากที่ให้คำแนะนำผม ผมก็ทำตามที่พี่บอกครับ ลำบากลำบนมาเกือบปี ตอนแรกก็ไปเป็น Floorman ให้ xxx ที่คูเวตเกือบครึ่งปี จากนั้นก็มาทำให้ xxx ตำแหน่ง AD Training ครับ คือมันเป็นโปรแกรมฝึกคนของ xxx เขาครับ เอาคนจบใหม่พอมีแววไปฝึกเป็น AD ใช้เวลา 3-4 ปีก็ออกมาเป็น AD ได้ครับ ผมมีคำถามอยากถามพี่ดังนี้น่ะครับ ยินดีด้วยครับที่กระบวนการล่าฝันของคุณเข้ารูปเข้ารอย ถ้าคุณจะไปเป็น company man คุณมาถูกทางแล้วครับ เริ่มจากการเป็นกรรมกร (floorman) นั่นแหละครับ ซึ่งคุณก็เป็นมาแล้ว คุณจะสั่งใคร(หรือด่าใคร)ได้ คุณต้องทำเองเป็นก่อน หลักการเป็น company man มันก็มีแค่นี้แหละครับ1.ผมมีเป้าหมายว่าต้องผ่านโปรแกรมนี้เพื่อให้เป็น AD ให้ได้ก่อนครับ พอมีประสบการณ์มากพอแล้วจึงออกมาทำบ.น้ำมันตำแหน่ง Companyman อยากทราบว่าต้องสะสมประสบการณ์กี่ปีในตำแหน่ง AD ครับ ถึงจะพอสมัครตำแหน่ง Companyman หรือว่าต้องขึ้นตำแหน่งสูงกว่านี้ เช่น Driller หรือ Tool pusher ก่อนถึงจะรับพิจารณาครับ ใจเย็นๆครับ อีกไกลครับ แค่ AD คุณต้องผ่าน driller->tour pusher -> tool pusher -> rig manager หรือ OIM (offshore installation manager คือเทียบเท่ากับ company man บนแท่น แต่เป็นตำแหน่งของบ.แท่น คือเอาไว้ต่อกรกับ companyman ดูแลการทำงานของแท่น พูดง่ายๆ OIM รักษาผลประโยชน์บ.แท่น แต่ Company man รักษาผลประโยชน์ของบ.น้ำมันที่เช่าแท่นมาอีกที ดังนั้น 2 ตำแหน่งนี้จะต้องกึ๋นใหญ่ทันเกมกัน ลูกน้องมือขวาของ OIM ก็คือ tool pusher) อย่างน้อยๆต้องเป็น tool pusher ครับ ถ้าเป็น OIM ได้ก็การันตว่าส่งใบสมัครไปบ.น้ำมันได้เป็น company man แน่นอน2.ถ้าผมทำ AD ได้ซัก 5 ปีแล้วมาเรียนต่อโททางปิโตรเลียม จบออกมาพี่ว่าน่าสมัคร Companyman ได้มั๊ยครับ company man เป็นงานใช้ประสบการณ์เป็นหลักครับ ป.โทฯ ที่ไหนๆก็ไม่ได้ช่วย company man จบแค่ตรี หรือ รุ่นเก่าๆผมเห็นมาจบปวส. หรือจบแค่เกรด 12 (คือ ม.6 บ้านเรา) ก็เยอะครับ เท่าที่ผมเห็นๆ company man เจ๋งๆ ต้องอยู่ในสนามมาตั้งแต่เป็นกรรมกรรวมๆแล้วต้อง 15+ ปีขึ้นทั้งนั้น ที่น้อยกว่า15ปี นี้ก็มีเป็น company man แต่เป็นแบบหลักสูตรรวบรัด ไม่ cool ไม่เจ๋งเท่าไร เจออะไรโหดๆยากๆน๊อตหลุดหมดพวกเร่งรัดนี่ สติแตกนั่นแหละว่าง่ายๆ ของแบบนี้มันเป็นเรื่องประสบการณ์ครับ3.ถ้าจะเรียนต่อป.โททางปิโตรเลียม ที่ไหนเหมาะที่สุดครับในการจะเอาไปสมัคร Companyman ครับ ตอบไปแล้วครับ ไม่ช่วยเลยครับ4.อยากทราบ scope งาน, ความรับผิดชอบและรายได้โดยประมาณของ Companyman ครับ ว่ามันเหมือนกับที่ผมทราบมารึเปล่า คือ ผมทราบมาว่าเป็นคนที่มาควบคุมงานตอนเจาะให้เป็นตาม Well Layout ต้องรู้ขั้นตอนงานทุกอย่าง คอยควบคุมหลุมเวลา Blow out งานหนักความรับผิดชอบสูง แต่ค่าตอบแทนก็หลักหลายแสนถึงล้านต่อเดือน มันใช่ตามที่ผมทราบมาอย่างนี้ไหมครับ คุณอยู่ในสนามเป็น AD ก็คงพอรู้ company man เป็นลูกจ้าง(ประจำหรือมือปืน) ของบ.น้ำมัน ลงมาดูแลการขุดตั้งแต่ต้นจบจบ รักษาผลประโยชน์ในนายจ้าง(บ.น้ำมัน) แน่นอนครับ ความกดดัน และความรับผิดชอบสูงมากๆ ทั้งชีวิตคน ทั้งแท่นทั้งตัวหลุมและสิ่งแวดล้อม ถ้าเป็นมือปืนรับจ้าง ตอนนี้รับกันที่ราวๆ วันล่ะ 1000 - 3500 เหรียญ ต่อวัน (สุทธินะครับเนี่ย เข้ากระเป๋าเต็มๆ) ขึ้นกับประสบการณ์และประเภทของแท่นจากง่ายไปยากตามนี้ แท่นบก - offshore tender / barge - jack up - semi sub - drill ship และประเภทหลุม หลุมพัฒนา (delvelopment) จะไม่แพง เพราะเจาะง่ายรู้ๆอยู่แล้ว แต่ถ้าหลุมสำรวจ (exploration) ก็จะแพงเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้สุดท้ายนี้ขอบคุณพี่มากนะครับที่ให้คำแนะนำในคราวที่แล้วมา มีประโยชน์มากครับ มันทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ ผมไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถามมาก็ตอบไป คุณแสวงหา และ ลุยเองทั้งนั้น อย่าชิงสุกก่อนห่ามถ้าจะเป็น companyman ไม่มีทางลัดนะครับ หยาดเหงื่อ แรงกายเท่านั้นนะครับ ประสบการณ์ล้วนๆ เขี้ยวไม่เขี้ยวก็ตรงนี้แหละ อ่านมาไม่เหมือนลงมือทำจริง ตำแหน่งนี้เน้นประสบการณ์ล้วนๆ โชคดีนะครับ =================================ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ xxx อายุ 27 ปี จบ ป.ตรี xxx และ ป.โท xxx ประสบการณ์การทำงานที่ xxx x ปี ในตำแหน่ง HSE Engineer และปัจจุบันนี้ทำงานที่ xxx มาได้ 8 เดือนแล้ว ตำแหน่ง Safety Officer ผมได้ติดตามอ่านบล็อกของพี่นกเห็นว่ามีประสบการณ์ด้าน Oil & Gas จึงอยากขอคำปรึกษาครับ คือทาง HR ของบริษัท Pan Orient Energy ได้โทรมาเรียกผมไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่ง Senior Asset HSE Coordinator แต่ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้ในประเทศไทยมีน้อยมาก ผมจึงอยากเรียนถามดังนี้ครับ ความมั่นคงของบริษัท เนื่องจากเป็นบริษัทเล็กๆแล้วได้รับสัมปทานจำนวนไม่มาก ผมกลัวว่าทำไปเรื่อยๆแล้วบริษัทอาจปิดตัวลงในอนาคตสำหรับประเทศไทย แน่นอนอยู่แล้วครับสำหรับธรรมชาติของบ.น้ำมัน เหมือนตั๊กแตนที่เร่ร่อนหาสัมปะทาน หากินกับทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัด หมดแล้วก็บินต่อไปไร่ข้าวโพดไร่อื่นต่อไป ถ้าเอาเรื่องนี้มาเป็นปัจจัย เราก็คงไม่ต้องทำกับบ.น้ำมันที่ไหนเลย เพราะมันเหมือนกันหมด แม้แต่เจ้าใหญ่ขาโจ๋อย่าง BP CV ถ้าจะมีก็แต่บ.แห่งชาติ ชาติใครชาติมัน อย่างบ้านเราก็ ปตท.สผ. ซึ่งก็เข้ายากเข้าเย็น ผมกลับมองว่า ความมั่นคงขึ้นกับความสามารถของเรา อย่าง PAN เป็น บ.เล็กแปลงสัมปะทานจำกัดก็จริง แต่ด้วยความเล็ก เขาก็ประมูลแปลงใหม่ๆไปได้เรื่อยๆ ถ้าคุณมีความสามารถจริง วันที่ PAN ต้องทิ้งประเทศไทยไป คุณก็ไปอยู่บ.น้ำมันอื่นได้นี่นา ผมกลับมองว่าความมั่นคงในอาชีพขึ้นอยู่กับความสามารถของคนๆนั้นมากกว่า และที่คุณอาจจะไม่รู้ก็คือแปลงนาสนุ่นที่ PAN ตักตวงสูบจ๊วบๆอยู่ทุกวันนี้ก็คือแปลงที่บ.ขาใหญ่ขาหนึ่ง(ไม่บอกว่าใคร)คืนสัปประทานให้กับกรมเชื้อเพลิง(คืนประเทศไทยนั่นแหละพูดง่ายๆ) เพราะนักธรณีบ.นั้น(เก่งๆกันท้างน้าน)บอกว่าไม่มีศักยภาพทางปิโตรฯ พูดง่ายๆว่าไม่มีน้ำมันนั่นแหละ แล้วไงเศษๆแปลงแบบนี้ PAN มาประมูลไปเหมือนได้เปล่า แล้วไงทุกวันนี้ นักธรณีเก่งๆหลายๆคนของบ.ใหญ่บ.นั้นหน้าชาเหมือนโดนเปลือกทุเรียนตบซ้ายขวา อึ้งไปตามๆกัน PAN เจอน้ำมันในแปลงนั้นเยอะเสียด้วยจะบอกให้ ขอมูลกึ่งลับที่ลอยๆมาบอกว่าปริมาณผลิตไม่กี่สิบหลุมเท่ากับ 1/3 ของแปลงบกของบ.ใหญ่แห่งหนึ่งรวมกันทั้งหมดเลย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าดูถูกบ.เล็กๆ ...จาก Qualification ที่อ่านมาค่อนข้างจะห่างจากผมคือ กำหนดอายุ 30-45 ปี และประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปี แต่ผมอายุ 27 ปี และมีประสบการณ์ 3 ปี 8 เดือน จึงอยากทราบว่า Rate เงินเดือนบริษัทแนวนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไรครับ //th.jobsdb.com/TH/EN/Search/JobAdSingleDetail?jobsIdList=300003000173329 เขากล้าเสนอตำแหน่ง senior ให้ก็อย่าไปกังวล เขาดูแล้วว่าคุณเจ๋งพอ ทิ้งเรื่องอายุกับประสบการณ์ที่บ.ต่างลงนสพ.หาเถอะ เพราะนั่นเป็นแนวคร่าวๆเท่านั้น ถ้าใครเก่งจริง ประสบการณ์ตรงจริงๆ บ.พวกนั้นก็หลับตาเสียข้างนึงจ้างได้เหมือนกัน คุณสมบัติเหล่านั้นเป็นแค่แนวทางกว้างๆเท่านั้นครับ เรื่องเงินเดือนนี่ก็ถามกันจัง ผมก็อยากรู้ครับ ... แฮ่ๆ ... ถ้าดีก็อยากจะเปลี่ยนไปทำเหมือนกันครับ ...บริษัทนี้เป็นที่รู้จักไหมครับ ส่วนมากได้ยินแต่ PTTEP กับ Chevron ในวงการฯ เป็นที่รู้จักแน่นอนครับ ในวงการฯใครไม่รู้จัก PAN ก็แย่ครับ แหม เป็นหนูที่ไม่รู้ว่าเก่งหรือเฮง คว้าพุงปลา(ที่บ.ใหญ่แห่งหนึ่งทิ้ง) เอามากินปากมันเชียว ... ==========================ผมชื่อ xx น่ะครับพึ่งจบใหม่จาก xxx ผมมีปัญหาเรื่อง CV ครับ คือผมไม่มีประสบการทำงานครับ แต่ผมเคย ทำงาน parth Time ทำจันทร์-ศุกร์ ครับ กับบริษัท Inspection ชื่อ xxx ครับๆๆๆ ทำแนวๆๆเช็คเกลียว ดูความหนาเหล็ก พวก drilling tool ซึ่งผมเคยฝึกงานมาก่อน แล้วพอผมกำลังเรียน ผู้ช่วยไม่พอ เลยตามผมไปทำงานๆ เป็นลูกมือครับ ผมจะพบปัญหาจากการถูกสัมภาษณ์คือ การขอรับใบรับรองการทำงาน ครับ ทางบริษัทผมไม่สามารถออกให้ได้ครับ เนื่องจากผมไม่ใช่พนักงานประจำ และใน CV ผม ผมไม่สามารถจะสื่อสารไปได้ว่าผม ทำงานแบบ นอกเวลา ให้พี่ช่วยดูและคอมเม้นด้วยครับ ไม่ยากครับใช้คำว่า Part time job ตรงๆไปเลย คนอ่านรู้ครับ ใน CV ผมก็แก้ให้ไปแล้ว ใน CV ไม่ต้องพูดถึงใบรับรองการทำงานครับ ถ้าสัมภาษณ์ค่อยอธิายถ้าโดนถามถึงผมอยากทราบข้อมูลว่า 1. ขณะนี้ บริษัทที่รับคนลง rig เป็นแนว รัสเบาวส์ ราฟเน็ก เป็นบริษัทอะไรบ่างครับ โห ... ถามรุ่นพี่คุณได้เลย บ.เดิมๆ บ.นายหน้าขาโจ๋ทั้งนั้น ก็พวก JST อมฤต อดิสร OPS ฯลฯ เยอะแยะครับ2. การทำงานด้าน Inspector มีโอกาศก้าวไกลไหมครับ (แต่ที่ผมทำมา คนไทยไม่มีโอกาศเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นอินโด และ ฟิลิปปินส์ แล้วมีบริษัทด้าน inspector ด้านไหนบ่างครับ มีบริษัทไรบ้าง โดยธรรมชาติแล้วมันเป็นงานที่ใช้เครือข่ายรู้จักกัน (connection) ส่งงานกัน ก็คนไทยๆหน้าเหลืองๆนี่แหละครับที่ทำๆกัน เริ่มจากเป็นลูกมือเหมือนคุณๆนี่แหละ พอเป็นพอเก่งแล้วก็ติดต่อลูกค้า พอลูกค้าไว้ใจในฝีมือและคุณภาพ พอมีทุนก็แยกมารับงานเอง บ.ไทยๆเท่าที่ผมเห็นก็ SOS (sense of siam) รู้สึกว่าเจ้าของเป็นคนไทยด้วย โอกาสก้าวหน้ามีแน่นอนครับ ขึ้นกับฝีมือครับของแบบนี้ผมเลยอยากทราบว่าจะต้องแก้ cv ยังไงแล้วเวลาสัมภาษณ์ จะอธิบายยังไง ว่าเราทำงานเป็นนอกเวลา ขณะเรียน ไม่ได้ทำงานประจำครับ CV แก้ให้แล้ว ส่วนเวลาสัมภาษณ์ถ้าโดนถามว่าทำไมไม่มีหนังสือรับรองการทำงานให้ตอบว่า "Due to the company policy, they don't provide certificate of employment for part time employee. However, if your HR call their HR, I believe they are willing to provide my information during my part time work" .... เอ้า ท่องไปเลยครับ ยังหนุ่มยังแน่น ลุยไปเลย ... โชคดีนะครับ ... =======================ผมจบ วศบ.โยธา และ ทำงานมา 6 ปีแล้วครับ และก็ได้เข้าไปอ่าน blog ของพี่ ก็เลยไปเจอคำถามที่มีคนจบสาขาเดียวกับผมสนใจทำงานและเรียนต่อด้าน oil&gas แต่ใน blog เขาถามเน้นไปทาง subsea แต่ผมอยากทำในด้าน drilling ครับ ตอนนี้ผมเล็งไว้ที่สก๊อตแลนด์ครับ ที่ Robert gordon university เป็น MSc Drilling & well engineer จึงอยากรบกวนถามและปรึกษาดังนี้ครับ 1. MSc Drilling & Well engineer ผมจบ วศบ.โยธามาจะสามารถสมัคร หรือ เรียนได้ไหมครับ มหาลัยจะรับผมเข้าเรียนไหมครับ(กำลังเขียน SOP อยู่ครับ) อีกอย่างนึงผมเห็นทางเชฟร่อน ประกาศรับ drilling engineer เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา มีสาขาโยธาก็เป็นนึงในนั้นด้วย ผมเลยเข้าใจว่าหลังจากได้เข้าไปทำงานก็ต้องเรียนหรือฝึกเพิ่มเติม ผมเลยคิดว่าอยากจะทำด้าน drilling ครับ จึงทำให้ผมคิดว่าโยธาก็น่าจะเรียน drilling ได้ผมเข้าใจถูกไหมครับ จบโยธาเรียน drilling eng ได้แน่ๆครับ หายห่วง แต่ถ้าไม่แน่ใจก็คลิ๊กไปดูหน้าที่เกี่ยวกับคุณสมบัติที่ยูเขาจะรับซิครับ น่าจะเขียนเอาไว้ตรงนั้นว่ารับป.ตรีอะไรบ้างแต่ผมค่อนข้างแน่ใจว่าโยธานี่นอนมารับแน่ๆ2. ถ้าสามารถสมัครเข้าเรียนได้ หมายถึงว่ามหาลัยรับผมเข้าเรียนแล้วตามข้อแรก ผมจะต้องมีพื้นฐานด้านวิชาอะไรบ้างครับ จะอ่านตำราตั้งแต่เนิ่นๆ (เป็นห่วงเรื่องพื้นฐานมากเลยครับ เพราะคิดว่าตัวเองจบโยธามา กลัวจะมีปัญหากับการเรียนน่ะครับ) ไปเลยครับ ไปโหลดตำราในบล๊อกห้องสมุดภาค 1 ของผมในบล๊อกนี่แหละครับ เป็นตำราประถม ก. กา ของพวกเรา (ลูกอีช่างขุด) พิมพ์ออกมาถ้าพิมพ์ 2 หน้าจะหนาเกือบนิ้ว เอาไปหนุนหัวหรือฉีกต้มน้ำกินก็ได้ (ฮ่า)3. Robert gordon university ที่aberdeen สก๊อตแลนด์ เป็นที่ยอมรับในสายงานนี้ไหมครับ ตอบตรงๆว่าไม่เคยได้ยินชื่อครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยได้รู้จักอะไรมากนักทางฝ่ายวิชาการ เพราะผมไม่ได้จบมาโดยตรง เลยไม่ค่อยรู้ว่าที่ไหนมีอะไร แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะครับ ที่แน่ๆ กพ.เราน่าจะรับรองนะครับ4. พี่นกพอจะมีเครือข่ายที่กำลังเรียน drilling engineer ที่ Robert gordon university บ้างไหมครับ ผมมีแต่ geotech ที่โน้น แต่ไม่ใช่ยูนี้อีเมล์ไปถามได้ครับ tawatchai_a@hotmail.com ไม่รู้ตอนนี้จบกลับมาหรือยัง geotech ก็วงการฯเดียวกัน น่าจะมีข้อมูลบ้าง อีเมล์ไปได้เลย บอกว่ามาจากบล๊อกพี่นก5. ถ้าไม่สามารถเข้าเรียน drilling ได้ ผมจะต้องเรียนสาขาอะไรได้บ้างครับ ที่จะได้ทำงานบนแท่นขุดเจาะครับ ไปนี่เลย ป.โทฯปิโตรเลียม หรือ geotech เมืองไทยก็มี เมืองนอกก็เยอะ กูเกิลเอาได้เลย ในห้องสมุดผมก็มีคนจัดอันดับยูทางนี้ไว้ด้วย แต่ถ้าให้ล่าสุดจริงๆต้องอากู๋กูเกิลชัวร์กว่า6. อายุจะมีผลต่อการรับสมัครเข้าทำงานด้าน drilling ไหมครับ เพราะตอนนี้ผมอายุ29แล้วครับ อีก 2-3 ปีจบมาก็ 31 หน้าแก่ไปหน่อยแต่โดยยังเด็กๆครับ แต่อย่าให้เกิน 35 เป็นใช้ได้ รีบๆตัดสินใจนะ อีก 2-3 ปีกลับมาอาจจะได้เจอกัน ...หรือไม่แน่คุณอาจจะหางานทำที่โนเลยก็ได้ถ้ามีโอกาสก็อย่าให้ปล่อยเลยไป เป็นประสบการณ์ประดับ CV บ้านเรายิ่งเห่อเด็กนอกอยู่ ... โชคดีนะครับ ================================ผมชื่อ xxx ครับเรียนสาขาวิศวกรรมเครื่องกล อยู่ที่ xxx กำลังจะขึ้นปี4 ครับ เกรดเฉลี่ยมรวมตอนนี้ก็ เกิน 3.5 แต่ว่าผมมีจุดอ่อนตรงภาษาอังกฤษ ตอนนี้กำลังพยายามฝึกฝนอยู่ครับ ผมสนใจอยากจะทำงาน Drilling engineer เพราะรู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายดี ตอนนี้ผมวางแผนไว้ว่า พอเรียนจบ จะลองไปสมัครที่ Horizon program Drilling Engineer ของ chevron ดูครับ แต่คาดว่าคงจะไม่ผ่านการสัมภาษณ์เพราะว่าภาษาอังกฤษของผมค่อนข้างไม่แข็งแรง ผมเลยวางแผนไว้คือ ในช่วง เดือน พ.ค. ปี 55 น่าจะมีการเปิดอบรม Drilling school รุ่น 6 ของ TPTI ซึ่งเป็นหลักสูตร 6 เดือนเสร็จก็ราวๆปลายปี 55 ในช่วงนั้นผมน่าจะเห็นภาพรวมของการทำงานมากขึ้นระหว่างนั้น ก็ฝึกภาษาไปด้วย เมื่อจบการอบรมคราวนี้ผมจะลองสมัครใหม่อีกครั้ง คราวนี้ จะลองสมัครหลายๆบริษัทที่เกี่ยวข้องในวงการนี้ ถ้าโชคร้ายเกิดไม่ได้งานอีก ผมก็เตรียมแผน 2 ไว้ครับคือ ไปชุบตัวเรียนต่อในช่วงเดือนสิงหา ที่ AIT สาขา Geosystem Exploration and Petroleum Geoengineering เพราะว่าน่าจะขอทุนเรียนฟรีได้ อยากจะขอคำแนะนำเกี่ยวแผนการที่ผมวางไว้ครับว่าควรจะปรับแก้ตรงไหนบ้าง และอยากจะขอคำแนะนำครับว่าถ้าเกิดใน ปี 55 ไม่มีการเปิดอบรม Drilling school รุ่น 6 หรือว่าผมไม่ได้รับเลือกให้อบรม ผมจะมีเวลาราวๆ 1 ปี ก่อนที่จะสามรถเรียนที่ AIT ไม่ทราบว่า 1 ปีนี้ผมควรจะไปทำงานด้านไหนก่อนดีครับ ขอรบกวนอีก 1 คำถามนะครับ เกี่ยวกับ senior project ที่จะทำตอนปี 4 ไม่ทราบว่าควรทำเกี่ยวกับด้านไหนครับถึงจะดูน่าสนใจสำหรับวงการนี้ ผมฟันธงล่วงหน้าได้เลยครับว่าน้องคนนี้ (ขอเรียกน้องเพราะอ่อนกว่าผมแน่ๆ) อนาคตใส เพราะ 1. รู้ชัดมากๆว่าตัวเองต้องการทำอะไร ไม่เหมือนบางคนที่รู้แต่ว่าอยากทำงานนอกชายฝั่ง 2. รู้จักจุดอ่อนของตัวเองและกำลังแก้ บางคนรู้จุดอ่อนตัวเองแต่ไม่ทำอะไรกับมัน และที่สำคัญคือ 3. รู้จักวางแผนที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมเพื่อจะไปให้ถึงฝัน มีแผนสำรองเสร็จสรรพด้วย งั้นผมขอวิจารณ์แผนน้องเลยนะครับ อย่างแรก คุณอย่ารอที่จะไปฝึกภาษาตอนที่เรียน Drilling school รุ่น 6 ของ TPTI เพราะไม่ทัน ภาษาเป็นเรื่องที่ต้องสะสม เริ่มวันนี้ครับ สมัยผมเป็นเด็กม.ปลาย หัวผมก็ทื่อๆและเกลียดภาษาที่สุด ผมคิดแบบโง่ๆ(แต่อึด)ว่า สอบเอ็นฯสมัยผม ผมต้องรู้ศัพท์อย่างน้อย 500 คำ (ศัพท์จริงๆนะครับ ไม่ใช่พวก house dog cat พวกนี้ไม่นับ ถ้าผมท่องศัพท์วันล่ะ 10 คำ ท่อง(แม่มมัน) 3 เดือนครึ่ง ก็ได้ 1000 คำ หัวทื่อๆแบบผมเนี่ยตีซะว่าทำได้ครึ่งนึงลืมครึ่งนึง อย่างเลวๆตั้งติดหัวผมสัก 500 คำ ว่าแล้วผมก็กว้านซื้อและยืม (ส่วนมากยืม) หนังสือรวมศัพท์สอบเอ็นฯมาจดๆใส่กระดาษพับใส่กระเป๋าตังค์แล้วเริ่มท่อง ไม่เว้นเสาร์อาทิตย์และวันหยุดใดๆ เรียกว่าพรสวรรค์ไม่มีอาศัยพรแสวงเข้าว่า อึดแบบควายเรียกพี่ว่างั้นเถอะ เชื่อไหมว่าอานิสงฆ์ของความอึดวันนั้นเป็นบันไดอย่างดีให้ผมมีวันนี้ ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้ศัพท์ 1000 คำนั่นอยู่ ที่เล่ามายาว อยากจะให้คุณเริ่มวันนี้ หาซีดีมาฟัง ดูหนังมีพากย์ก่อนรอบนึงแล้วดูแบบไม่พากย์อีก 20 รอบหรือจนกว่าจะเป็น แนะนำหนังการ์ตูน เพราะภาษาง่ายดี เอาสำเนียงคุ้นหูเข้าว่า สารพัดเทคนิดไปหาอ่านเอามีตำรามากมาย แต่สำคัญที่สุดของที่สุดคือ "เริ่มวันนี้" ถ้าคุณกำลังขึ้นปี 4 ก็เหลือ 2 เทอมที่จะรักษาเกรดให้สูงกว่า 3.5 ไว้ คุณจะมีโอกาศหางานได้ดีขึ้น ตอนนี้เหลือ 1 ปี พอเรียนจบ เกรดค่อนข้างสูง คุณมีโอกาสดีทีเดียวสำหรับ Horizon program Drilling Engineer ของ chevron ถ้าคุณเริ่มเอาจริงเอาจังกับภาษาฯของคุณวันนี้ คุณมีเวลา 1 ปี ซึ่งเพียงพอมากๆกับภารกิจ "กำจัดจุดอ่อน" เพลอๆช๊อตเดียวคุณอาจจะได้ที่นี่เลยก็ได้ ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง drilling school ของ TPTI เท่าไร ทราบแต่ว่าเปิดทุกปี เพราะเป็นของเอกชน ถ้ามีคนเรียนคนจ่ายตังค์ก็เปิดสอน แต่ผมก็คุ้นๆว่า drilling school ของกรมเชื้อเพลิงก็มี ไม่รู้ว่าเป็นหลักสูตรเดียวกันหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็คิดว่าเป็นแผนสองที่ดีมากๆ ส่วน ที่ AIT สาขา Geosystem Exploration and Petroleum Geoengineering เป็นทางเลือกที่แจ่มมาก แต่อยากให้ดูที่อื่นๆในระนาบเดียวกันไว้ด้วย เช่น โท.ปิโตรฯที่จุฬา หรือ หลักสูตรดีๆใหม่ๆที่ม.สุรนารี คราวนี้ถ้าแห้วจาก drilling school ผมแนะว่าอย่างอยู่เฉยๆ เพราะ วศบ.เครื่องกล GPA 3.5 ภาษาอังกฤษดี (ถ้าเริ่มวันนี้) ร่อนใบสมัครไปเลยครับบ.service ดังๆดีๆเยอะแยะ แล้วคุณค่อยวกกลับมาเป็น drilling eng ก็ได้ ครับ ทุกวันนี้กว่าครึ่งของ drilling eng ไม่ได้เป็น drilling eng ตั้งแต่จบ ครึ่งนึงก็แปรพักตร์เอ๊ยเปลี่ยนมาจาก บ. service ทั้งนั้น (ผมล่ะคนหนึ่ง) แต่บ. service ที่ทำก็ควรจะดูด้วยว่าต้องอยู่ในสาขาที่เกี่ยวเนื่อง เช่น น้ำโคลน ซีเมนต์ directional drilling, drill bit ฯลฯ ไม่ใช่ไปเป็น sale หรือ marketing senior project ที่จะทำตอนปี 4 ... อืม ... เนื่องจากภาคคุณเป็นเครื่องกล คงไม่มีโครงงานที่เกี่ยวเนื่องกับทางฝั่งของวงการฯเท่าไร ผมแนะนำให้ทำอะไรพื้นๆไม่ต้องไฮเทคมาก แต่เน้นเอาไปทำงานได้จริงมากกว่า พวกที่ขึ้นต้นหัวข้อด้วย "การเพิ่มประสิทธิภาพ ..." ก็เป็นเรื่องดีนะครับ เบสิกๆแต่ใช้งานได้จริง เอาล่ะครับ เรามองล่วงหน้าไปไกลแล้ว กลับมาเริ่มง่ายๆ จัดลำดับความสำคัญของเรื่องใกล้ๆก่อน ผมจัดให้อย่างงี้เลย เป้าแรก คงเกรดเฉลี่ยตอนจบให้ได้ 3.5 หรือมากกว่า และ เป้าที่สองคือ เริ่มกำจัดจุดอ่อนคุณตอนที่อ่านคำตอบผมจบแล้วทันที ผมพอมองออก คนอย่างคุณไม่ต้องการคำอวยพรหรอกครับ และคนแบบคุณไม่ต้องพึ่งดวงหรือพรแน่ๆ คุณทำได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ผมเชื่ออย่างนั้น ... พี่นก ==========================ตอนนี้ผมเป็นsafety อยู่ที่offshore บริษัทหนึ่ง อยากทราบว่า การที่เป็นsafety ในงานออฟชอนี้ มันค่อนข้างตันไหมครับ หมายถึงสามารถที่จะเติบโต ในสายงานนี้ เซพตี้ หรือสามารถที่จะนำความรู้นี้ไปต่อยอดทำตำแหน่งอื่นได้ไหมครับ ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจการทำงานในเชิงกว้างก่อนว่า ในทุกๆวงการฯการทำงานมีสายงานหลัก(line ซึ่งแน่นอนว่าเสียงดังและโอกาสกาวหน้าสูง) และสายงานสนับสนุน(support ซึ่งมักจะด้อยกว่าในเกือบทุกด้าน)ประกอบกันเสมอ ทุกลักษณะอาชีพสามารถเป็นได้ทั้งสายหลักและสายสนับสนุน ผมชอบยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆคืองานบัญชี ทั่วๆไปมักจะเป็นสายงานสนับสนุน แต่ถ้านักบัญชีคนนั้นไปทำงานในบ.ผู้ตรวจสอบหรือรับทำบัญชีก็จะเป็นสายหลักของบ.นั้นไปทันที ในขณะที่วิศวกรมักถูกมองว่าเป็นสายหลัก แต่ถ้าไปทำงานธุรกิจโรงแรม ก็เป็นได้แค่สารพัดช่างซ่อมโน้นซ่อมนี่ไปวันๆ อีกตัวอย่างที่ชัดๆคือฝ่ายบุคคลที่มักจะเป็นสายสนับสนุน แต่ถ้าเป็นบ.จัดหางานล่ะ ก็เป็นสายหลักได้ หรือนักกฏหมายถ้าอยู่บ.ทนายความก็เป็นสายหลักไปเหมือนกัน แต่ถ้ามาอยู่บ.อื่นก็เป็นแค่สายสนับสนุน กฏอุปสงค์อุปทานก็เข้ามามีส่วนต่อไปตรงที่ งานในสายสนับสนุนหาง่าย แต่ผลตอบแทนและโอกาสก้าวหน้ามักไม่มาก งานอาชีพเดียวกันในสายหลักหายากแต่ผลตอบแทนสูงและความก้าวหน้าสูง ซึ่งเป็นธรรมดาของระบบตลาดแรงงานเสรีในระบบทุนนิยม ผมกำลังบอกว่าโดยตัวอาชีพแล้วไม่มีงานไหนเป็นสายหลักหรือสนับสนุนเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าบ.นั้นๆทำธุรกิจอะไร ผลตอบแทนและความก้าวหน้าก็จะล้อกันไปอย่างที่ว่าไว้ ถามสั้นแต่ที่ตอบยาวนี่เพราะอยากให้วิเคราะห์มองให้เห็นภาพใหญ่ๆของตลาดแรงงานก่อนวกเข้ามาตอบคำถามของคุณ บางทีผมไม่ทันตอบคุณอ่านถึงตรงนี้ก็พอรู้คำตอบเองแล้ว ใช่ครับงาน safety ที่คุณทำอยู่เป็นสายสนับสนุนของกิจการนั้นๆ (ไม่ว่าบ.นั้นๆจะเน้นว่างานความปลอดภัยมาอันดับหนึ่งก็ตามเถอะ) คำตอบคือไปต่อได้ แต่ก็ไม่ไกลแน่ๆครับ ถ้าคุณอยากไปไกล คุณก็ต้องไปอยู่พวกบ.ฝึกอบรมด้านความปลอดภัย (training) บ.ตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย (audit, inspection, certity) หรือไม่ก็เป็นบ.ผู้คุ้มกฏไปเลย (regulator - ส่วนมากงานราชการครับ) ถ้าอยากก้าวหน้า คุณมีทางเลือกสองทางคือ ทางแรกออกมาจากบ.ปัจจุบันแล้วหางานที่งานความปลอดภัยเป็นสายงานหลักชององค์กรเช่นที่ยกตัวอย่างข้างต้น หรือ ทางที่สอง เปลี่ยนแนวงานซะ หาเวลาเรียนรู้ด้านอื่นเพิ่มเติม เรียนต่อ หรือลดวุฒิและประสบการณ์ไปฝึกงานอื่นที่เป็นสายหลักในบ.นั้นๆซะเลย เช่น เรียนปิโตรฯ ธรณีฯ drilling school ฯลฯไปเลย แล้วแต่พื้นฐานคุณใกล้กับอะไรมากที่สุด ... พี่นก ... ================พอดีผมเพิ่งได้อ่าน blog ของพี่ เพราะผมกำลังหาที่เรียนต่อน่ะครับ นั่งดูทุกหน้าแล้วแต่ยังไม่ค่อยตรงน่ะครับ ว่าจะรบกวนถามบางอย่างหน่อย ตอนนี้ผมทำงานที่ บ. ญี่ปุ่นที่นึง ทำมาได้ 3 ปีละครับตั้งแต่จบ ยังไม่ได้เปลี่ยนงานเลย ผมจบ วิศวะ เคมี งานที่ทำเป็นพวก technical engineer คอย transfer technology มาแล้ว set up ให้ production ครับ ทีนี้เรื่องมีอยู่ว่าผมอยากจะเปลี่ยนงาน เพื่อ อัพ ฐานเงินเดือนตัวเอง ซึ่งตอนนี้ผมรับอยู่ 22xxx เป้าหมายที่ผมอยากไปคือ สายพลังงาน ที่หวังเงินเดือนไว้ที่ 40xxx up แต่เกรดตอนเรียน ป.ตรี ของผม อยู่ที่แค่ 2.30 ทำให้ผมไม่สามารถที่จะสมัคร บ. พวกนี้ได้ ทีนี้ ผมเห็นของจุฬามีเปิดให้เรียน ป.โท เคมี, ปิโตร ตอนนี้ใจผมไปอยู่ที่ ปิโตรเลียม พี่ว่าถ้าเรียน ผมจะได้งานพวกสายนี้ไม๊ครับ ตอนนี้เก็บเงินมาได้ก้อนนึงแล้ว เลยอยากรีบเรียนเลย แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะให้เรียน รึเปล่า เพราะเกรด ป.ตรี นั้นน้อยมาก ถ้าตามที่ผมคิดและหวังไว้ คือ ผมเรียนโทให้จบ แล้วไปสมัคร เชฟรอน หรือ ปตทสผ ผมมีโอกาสที่จะเข้าได้ไม๊ครับ หรือ ผมเข้าใจอะไรผิด ไม่รู้จะงงไม๊นะครับ ถ้าแยกเป็นข้อน่าจะประมาณนี้ 1. เกรด ป.ตรี ผม 2.3 ผมจะได้ต่อโท ที่จุฬาไม๊ครับ 2. ผมอยากต่อปิโตรเลียม อยากไปทำงานที่แท่น จะมีสิทธิ์นั้นไม๊ครับ 3. หรือมีที่ไหนที่แนะนำไม๊ครับ ที่เรียน วัน เสาร์ อาทิตย์ แล้วจบมาได้ทำงานสายพวกนี้ 1. เกรด ป.ตรี ผม 2.3 ผมจะได้ต่อโท ที่จุฬาไม๊ครับ พูดตรงๆ โท.ปิโตรจุฬา นั่นเขาสวยเลือกได้ อ.เขาก็คงอยากได้เด็กที่มีพื้นพอๆกัน น่าจะลำบากนะครับ แต่คนเราถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่ซื้อหวยแล้วจะถูกได้ไง สมัครไปก่อนเถอะครับ อย่าตีตนไปก่อนไข้ แต่ก็เผื่อใจไว้ด้วย ถ้าไปทางโทฯปิโตรไม่ได้ ไปชุบตัวเป็นโทฯเคมี ทำเกรดมาใหม่ ก็น่าจะมีสิทธิ์มากกว่านะครับ เพราะเราก็มาตรีเคมีนี่นา แล้วเอาโทฯเคมี GPA 4.00 (ถ้าทำได้) ไปหางาน ที่ผ่านมาแล้ว แก้ไขไม่ได้อย่าไปคิดมา คิดถึงข้างหน้าดีกว่าว่าจะเพิ่มความน่าสนใจ(มูลค่า)ของ(สินค้า)ตัวเองได้อย่างไร อ้อ ... อีกอย่าง ภาษาครับ เอาด้านนี้เข้าสู้ได้เหมือนกันนะครับ เรียนภาษาจีนกลางให้พูดเขียนคล่องๆ แล้วทำบ.น้ำมันจีนก็ได้ครับ ถึงจะไม่ดีเท่า แต่ก็ใช้เป็นสะพาน พอมีความรู้ทางเทคนิค มีประสบการณ์ตรงๆเฉียดๆบ้าง แล้วค่อยกระแซะๆข้ามมาบ.ตะวันตกทีหลัง2. ผมอยากต่อปิโตรเลียม อยากไปทำงานที่แท่น จะมีสิทธิ์นั้นไม๊ครับ ถ้าคุณเรียนต่อปิโตรฯ(ต้นน้ำ)ได้ คุณก็มีสิทธิ์ครับ ดูหลักสูตรดีๆนะครับ โทฯปิโตรฯหลายที่เป็นปลายน้ำ ไม่แน่ใจก็โทรฯถามเจ้าของหลักสูตรตรงๆไปเลยก็ได้ครับ เขาตอบอยู่แล้ว ดูที่มาที่ไปของคุณแล้ว น่าจะต้องใช้ความพยายามสูงอยู่นะครับ ถ้าจะเข้ามาในวงการฯ แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีความุ่งมั่นทางที่ใกล้ที่สุดคือหาที่เรียนต่อ GPA 2.3 ก็ 2.3 เถอะ เมืองไทยไม่มี พอไปเมืองนอกไหวไหมครับ ไม่งั้น ก็ต้องไปเริ่มงานกับบ. service ล่ะครับ แล้วคอยๆหาลู่ทางเอาทีหลัง ทำใจนิดครับ มันต้องเดินอ้อมๆเอา แต่ถ้าไม่หยุดเดิน วันนึงมันก็ถึงครับ 3. หรือมีที่ไหนที่แนะนำไม๊ครับ ที่เรียน วัน เสาร์ อาทิตย์ แล้วจบมาได้ทำงานสายพวกนี้ เท่าที่ทราบไม่มีนะครับ ส่วนมากจะเต็มเวลา หรืออาจจะมีก็ได้ ลองๆดูที่ มจธ. AIT หรือ สุรนารี ซิครับ เว็บไซด์มี กูเกิลมี โทรฯมี ทำการบ้านเยอะๆครับ เราไม่มีแต้มต่อ แต่เราต้องมีแต้มอึด จริงไหม ... สู้ๆนะครับ ... ===================พี่นก หนูได้ไปอยู่แผนก well service อ่ะค่ะ หนูอยากรู้ว่า well service ทำอะไรบ้างอ่ะค่ะ หนูอยากมีความรู้พื้นฐานกับตำแหน่งนี้อ่ะค่ะ เพื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์ต่อการสัมภาษณ์อ่ะค่ะ หนูอยากจะขอคำแนะนำจากพี่นกหน่อยอ่ะค่ะ งาน well service หรือบางทีพวกเราเรียกสั้วๆว่า well เป็นส่วนหนึ่งของงาน well construction ถือว่าเป็น subsurface construction งาน well construction มีสองส่วน ส่วนแรกคือ drilling จะเป็นพวกบุกเบิก ขุดพื้นโลกให้เป็นรูไปในทิศทางที่นักธรณีชี้เป้าไว้ ขุดเสร็จก็จะเอาท่อเหล็กที่เรียกว่า casing หรือ ท่อกรุสอดไว้กันดินหินถล่ม จากนั้นก็จะเอาท่อผลิตใส่ลงไป (run production tubing) ขั้นตอนที่ถัดจากและหรือรวมถึงการเอาท่อผลิตใส่ลงไปในท่อกรุนั้น บางบ.ก็จะให้เป็นงานของฝ่ายขุดเจาะ บางบ.ก็ให้เป็นของ well service จากนั้นก็จะเป็นงานของ well service ทั้งหมดไปจนจบอายุของหลุม ซึ่งรวมการบำรุงรักษาซ่อมแซมให้คงการผลิตได้ตามตารางการผลิตที่วิศวกรแหล่งหรือวิศวกรผลิตวางแผนไว้ หรือที่เราเรียกว่า workover นั่นแหละครับ เช่น ถอดท่อผลิตเก่าที่ติดตั้งไว้หลายปีขึ้นมา ซ่อม หรือ เอาท่อใหม่ เทคโนฯใหม่ ฯลฯ ใส่ลงไปเผื่อทำให้หลุมผลิตได้ต่อไป เป็นต้น ผมเองตอบตรงๆก็รู้บ้างแบบเป็นๆเกี่ยวกับงาน well เพราะว่าโดนเนื้องานผมแล้วผมอยู่กับพวกขุดครับ งาน well ก็รู้แบบอือๆเออๆเคยเห็น เคยได้ยิน เข้า cนีพหำ ระยะสั้น ฯลฯ ประมาณนั้นมากกว่าครับ เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนสร้างบ้านนะครับ พวกขุดเจาะเนี่ยก็ตั้งแต่หักร้างถางพง ตอกเสาเข็ม ต่อม่อ เสา คาน ผนัง หลังคา แล้วที่เหลือจากงานสีเป็นต้นไปก็เป็น well service ไปจนถึงซ่อมบำรุง ท่อแตก ไฟดับ แอร์เสีย จัดสวน ติดประตู ลิฟต์ ฯลฯคราวนี้จุดแยกระหว่างงานขุดกับงาน well นั้นก็แล้วแต่โครงสร้างและความพร้อมของแต่ล่ะบ.นะครับ กลับมาเรื่องของ well ถ้าจะตอบจริงๆว่างาน well ทำอะไรบ้าง มันก็จะมีแต่ศัพท์แสงเฉพาะเยอะมาก บอกไปหนูก็ต้องถามกลับว่า แล้วมันคืออะไรอีก ตอบกันไม่จบ ผมว่าเอา concept เอาแนวๆไปดีกว่า อ้อ ตย.ที่เห็นชัดอีกอย่างที่ตอนนี้ดังในวงการ well ของไทยคือ เทคโนฯที่เรียก DeepLift หาอ่านได้ที่นี่ครับ รู้ไปก่อน รับรองว่า คนสัมภาษณ์อึ้ง ... //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=02-05-2011&group=6&gblog=77 ผมว่าแสดงความมั่นใจให้เต็มร้อย ฉะฉานชัดเจน มีหลักการ ผมก็ว่าน่าจะผ่านรอบนี้ได้ไม่ยาก ... โชคดีนะครับ ถ้าเราดวงตรงกัน อาจจะเดินสวนกันในวงการฯบ้าง วงการฯนี้ไม่ใหญ่เลยครับ ... พี่นก ========================ตอนนี้ผมเรียนวิศวกรรมการผลิต ผมสนใจงานด้าน offshore มากครับ ผมอยากทราบว่า 1- welding engineer welding inspcetor ลักษณะงานเป็นยังไงบ้างครับ ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมเพิ่งได้ยินว่ามี welding engineer ส่วนมากที่ผมรู้จักก็ welder เสียมากกว่าครับ ส่วนงาน inspector ก็งานตรวจสอบ ส่วนมากทำบนฝั่งที่ๆเขาต่อแท่น (ที่เรียกว่า dry dock) หรือที่ๆเขาเอาแท่นมาเข้าซ่อมบำรุงตามกำหนดเวลา2-ผมจะเดินไปถึงจุดนั้นได้ไง คือ ควรเรียนต่อที่โท welding engineer บางมด หรือว่าควรทำงานหาประสบการณ์ก่อน แนะนำบริษัทด้านนี้ด้วยครับ หลักสูตรที่คุณควรจะมองหาควรจะเป็นวิศวกรรมนอกชายฝั่งของ AIT วิศวปิโตรฯของจุฬา geo tech สุรนารี หรือ อะไรสักอย่างของบางมด ลองเข้าไปดูในเว็บต่างๆของสถาบันเหล่านี้ดู ไม่เข้าใจหลักสูตรไหนก็ถามมาได้ครับ ส่วนบริษัทนั้น อยู่ในห้องสมุดในบล๊อกของผมครับ โหลดได้เลยครับ แต่ก่อนอื่นแนะนำให้อ่านเรื่องที่ผมแบ่งลักษณะบ.ในวงการออกเป็นกลุ่มๆก่อนนะครับ อยู่ในบล๊อกนี่แหละครับ รู้สึกว่าจะเริ่มจากบล๊อกที่เขียนเรื่องของดีของการทำงานนอกชายฝั่ง น่ะครับ3-และในเรื่องของใบ cert ด้าน welding inspector นิยมใช้ ใบไหน ถึงจะมีโอกาศงานที่กว้างครับ ตอบได้ทันทีเลยครับว่าไม่ทราบ เพราะผมไม่ได้อยู่วงการนี้เลยครับ4-พี่มีความคิดเห็นอย่างไรกับ offshore engineer บ้างครับ คือจบมาทำอะไรได้บ้างครับ ผมไม่ทราบว่าคุณกำลังหมายถึงหลักสูตรอะไรที่ไหน พอมีลิงค์หลักสูตรให้ผมได้ดูไหมครับ เพราะหลักสูตรชื่อเดียวกันแต่เอาเข้าจริงๆเรียนกันคนล่ะเรื่อง แบบนั้นผมก็เคยเจอมาแล้ว งานก็เหมือนกัน ชื่องานเดียวกัน แต่ทำงานจริงๆต่างกันมากFAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11 FAQ #12 FAQ #13 FAQ #14 FAQ #15 FAQ #16 FAQ #17 FAQ #18 FAQ #19 FAQ #20 FAQ #21 ห้องสมุดเล็กๆของผม <=== คลิ๊กรวบรวมตำราการขุดเจาะ คลิ๊ปการทำงานในบางตำแหน่ง แบบประเมินความเหมาะสมกับงานในสนามเบื้องต้น วิธีเขียน resume ที่ไม่โดนโยนทิ้งตะกร้า รายชื่อบริษัทฯในวงการ และ อื่นๆอีกมากมาย มีคลิปการทำงานของบางตำแหน่งให้ดูเป็นน้ำจิ้ม มีตำราวิศวกรการขุดเจาะให้ดาว์โหลดเป็นบทๆ มีความหวังดีและเอื้ออาทรเสมอ ถ้ารู้สึกขอบคุณ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผม แค่คุณจะแบ่งปันสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นต่อไป ผมก็รู้สึกว่าคุณได้ตอบแทนผมแล้ว
Create Date : 09 เมษายน 2554
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:32:02 น.
38 comments
Counter : 2176 Pageviews.
โดย: expert IP: 58.9.173.192 วันที่: 9 เมษายน 2554 เวลา:23:52:52 น.
โดย: mesommY IP: 101.108.237.102 วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:12:14:28 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:14:33:50 น.
โดย: TEE IP: 124.122.87.29 วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:14:41:47 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:14:49:32 น.
โดย: คนขี้สงสัย IP: 58.9.70.28 วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:20:51:34 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:20:44:44 น.
โดย: Aii IP: 58.8.205.155 วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:20:10:26 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:12:35:15 น.
โดย: ิอยากรู้ไปหมด IP: 223.205.31.189 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:15:17:16 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:17:08:54 น.
โดย: อยากรู้ไปหมด IP: 49.49.77.7 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:17:31:45 น.
โดย: อยากรู้ไปหมด IP: 180.180.94.155 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:20:20:02 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:9:58:51 น.
โดย: ช่วนด้วยครับ IP: 223.205.31.189 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:21:48:36 น.
โดย: Mot Plathong (WF2) IP: 111.84.97.187 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:22:14:14 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:22:53:13 น.
โดย: ช่วยด้วยครับ IP: 223.204.2.62 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:23:02:29 น.
โดย: Aii IP: 118.173.235.253 วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:22:18:46 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:23:04:18 น.
โดย: บอย IP: unknown, 61.90.15.46 วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:14:55:51 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:21:52:03 น.
โดย: บอย IP: unknown, 115.87.234.193 วันที่: 22 เมษายน 2554 เวลา:13:56:32 น.
โดย: homkung IP: 113.53.57.235 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:11:39:38 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:41:43 น.
โดย: ปิแอร์ IP: 58.137.37.100 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:12:49 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:43:53 น.
โดย: maii IP: 49.48.128.183 วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:43:59 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:52:24 น.
โดย: nui IP: 124.120.152.95 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:17:02:42 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:7:32:57 น.
โดย: KK IP: 146.23.250.105 วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:18:12:48 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:23:21:06 น.
โดย: KK IP: 146.23.250.105 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:19:08:05 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:20:10:59 น.
โดย: James IP: 146.23.250.105 วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:9:46:52 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:14:19:27 น.
โดย: KK IP: 146.23.250.105 วันที่: 20 ธันวาคม 2554 เวลา:6:39:29 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [? ]
... Blog นี้ ... แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร เธอ ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้มเธอ ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล ... และ ...เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม ---------------------------------------------
หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?
หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?
แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย
แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...
แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ
ถ้าอยากประกอบธุรกิจส่วนตัว แนะนำให้ไปทำที่ให้เงินมากกว่าเพื่อที่จะได้มาทำทุนกับงานที่เชี่ยวชาญหรือที่ทางบ้านมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจเลย ทั้ง 2 ที่ไม่น่าทำทั้งนั้น หัวใจของธุรกิจคือตลาดกับลูกค้า สนใจด้านนี้ต้องไปทำงานด้านการขาย ไปเป็นเฃลล์ หรืองานมางด้านบริการ เพื่อที่จะได้มุมมองทางการค้าสำหรับไปต่อยอด
ประสบการณ์ของ Turbine maintenance กับ DSM นั้นไม่ช่วยเลย Turbine maintenance ทั้งวันก็จะอยู่แต่กับเครื่องจักร ราคาของ turbine ก็แสนแพง ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่มักจะใช้ vendor rep หรือไม่ก็มือเก๋าๆของ EGAT มาทำการ troubleshoot และ overhual ส่วน preventive maintenance เล็กๆน้อยๆ ก็ทำเอง
DSM ยิ่งแย่ใหญ่ อยู่แต่บน rig ทำงานเป็น company rep มีของทุกอย่างเพียบพร้อม support ก็เพียบ rig contractor ก็เกรงใจ ถ้าเป็นลูกค้าก็เป็นลูกค้าที่มักจะเอาแต่ใจ วิธีคิดของ DSM จะถูกสอนให้ทำตาม procedure ไม่เสี่ยงอะไรทั้งนั้น ไม่พร้อมไม่ทำ ถ้าติดไปเป็นนิสัยมันอาจจะไม่เหมาะที่จะไปทำธุรกิจเอง ส่วนข้อดีของตำแหน่งนี้คือ คุณมีช่วงเวลาพักที่ยาวทำให้สามารถมีเวลาไปหาความรู้หรือทดลองอะไรได้
ถ้าไม่อยากเป็นนักธุรกิจ DSM จะดีกว่ามากแบบที่พี่นกพูดเป๊ะเลย