♥ ความสุขของการเดินทาง ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่เราจะไป แต่มันอยู่ที่ เพื่อนร่วมเดินทาง และบรรยากาศที่เราได้ไปสัมผัสต่างหาก ♥
Group Blog
 
All blogs
 
วันที่ 1 ออบหลวง - สวนสน - ทุ่งดอกบัวตอง


ลาพักร้อนวันที่ 17-20 พ.ย.คะ ทริปนี้จะพาไปเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน เอกลักษณ์ของ จ. แม่ฮ่องสอน คือมีหมอกให้เห็นทุกฤดูกาล จนได้รับฉายาว่า “เมืองหมอกสามฤดู” บ้างก็เรียกว่า “เมืองสามหมอก” หรือไม่ก็ “เมืองในหมอก”

หมอกนี้มาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

หมอกแรกคือหมอกควันจากการเผาไร่ เผาป่าของชาวบ้านในช่วงฤดูร้อน หมอกสองคือหมอกไอความชื้นในฤดูฝน ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังฝนตก และหมอกสุดท้ายคือหมอกน้ำค้างที่ลอยอ้อยอิ่งในฤดูหนาว แม่ฮ่องสอนตั้งอยู่ในหุบเขาถนนธงชัยที่สูงสลับซับซ้อน จึงมีอากาศหนาวเย็นและมีความชื้นสูงที่เอื้อต่อการเกิดหมอก (คัดลอกมาจากเวฟนายรอบรู้คะ)

เริ่มวันแรกกันเลยนะคะ เช้าวันจันทร์ออกเดินทางจากเชียงใหม่ 6 โมงเช้าเลยคะ แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือ วันนี้อากาศมันดันไม่หนาวซะแล้ว หลังจากที่มันเริ่มหนาวมาอาทิตย์หนึ่ง พอเราเริ่มเดินทางมันหายหนาวเลยอ่ะ แอบเซ็งเล็กน้อยคะ เราออกเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 108 สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงหลักกม.ที่ 17 รวมระยะทางประมาณ 105 กม. ก็ใกล้ถึงอุทยานแห่งชาติออบหลวง จึงแวะตลาดเช้าแถว ๆ นั้นเพื่อซื้ออาหารเช้า ไปทานกันที่อุทยานคะ



มาถึงแล้วคะอุทยานแห่งชาติออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ความสวยงาม และความน่ากลัวไว้ในจุดเดียวกัน คือ เบื้องล่างเป็นแม่น้ำสลักหินที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ตรงออบหลวงช่องเขานี้มีลักษณะเป็น หน้า ผาสูงชัน และแคบมากบีบทางน้ำไหล ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด แต่อากาศในนี้จะดีมาก ถ้าหน้าหนาวก็ค่อนข้างหนาวมากเลยคะ



จึงมีคนนิยมมาตั้งเต็นท์ริมแม่น้ำกันคะ อุทยานแห่งชาติ ออบหลวง มีบ้านพัก ร้านอาหารและจัดสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว




ใครจะเชื่อว่า เบื้องล่างที่แม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่าน จะเกิดประติมากรรมมหัศจรรย์ "ภูเขาหินจูบกัน” ที่นี่



หลังจากอิ่มท้องในมื้อเช้ากันแล้ว ก็ถ่ายรูปกันเล็กน้อย ก็ออกเดินทางต่อคะ เดินทางไปไม่เกิน 10 นาที แวะไปถ่ายรูปกันคะที่สวนสนบ่อแก้ว



สวนสนบ่อแก้ว อยู่บนเส้นทางสายฮอด - แม่สะเรียง กิโลเมตรที่ 36 (อยู่เลยออบหลวงไปไม่ไกลคะ) สวนสนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษและเป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสนสามใบ และยูคาลิบตัส ในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี
สวนสนบ่อแก้ว สวยงามด้วยทิวสนที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบงามตา จึงทำให้บริเวณสถานีปลูกต้นสนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง

ใช้เวลาถ่ายรูปกันที่นี่ประมาณ 10 นาที ก็ออกเดินทางกันต่อเลยคะ มุ่งตรงไป อ.ขุนยวม เพื่อไปดอยแม่อูคอ ไปเยี่ยมชมทุ่งดอกบัวตองที่กำลังบานกันคะ



การเดินทาง โดย รถยนต์ เส้นทางเข้าสู่ทุ่งบัวตองมี 2 เส้นทาง คือ
ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 201 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข1263 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าทางสายบ้านนางิ้ว-บ้านหัวฮะ ไปอีก 14 กิโลเมตร
จากอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข 1263 (แม่แจ่ม-ขุนยวม) ถึงทางแยกเข้าบ้านนางิ้ว-บ้านหัวฮะ ระยะทาง 76 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าไปอีก 14 กิโลเมตร เราเดินทางมาถึงดอยแม่อูคอประมาณ 12.50 น.





ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ บานสะพรั่งในเดือนพฤศจิกายน สวยจนไม่รู้จะสวยยังไง มีเวลาให้ชมเพียง 4-5 สัปดาห์เท่านั้นเองคะ โชคดีที่เรามาเจอตอนที่ดอกบานเต็มที่พอดี



นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือน จ. แม่ฮ่องสอนในช่วงฤดูหนาว ย่อมไม่พลาดชมความงดงามของทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม ที่พร้อมใจกันผลิบานทั่วทั้งดอยแม่อูคอ อ. ขุนยวม และดอยแม่เหาะ อ. แม่สะเรียง กินพื้นที่ครอบคลุมกว้างขวางนับพันไร่





ชื่นชมกับทุ่งดอกบัวตองกันพอสมควรแล้วคะ ก็ขออำลาเพื่อเดินทางต่อไปยังตัวเมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพราะเราต้องไปเอาบัตรผ่านเข้า "ปางอุ๋ง" ที่ศูนย์ศิลปชีพ ใน ตัว อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ก่อน 5 โมงเย็นคะ ไม่งั้นเค้าจะปิดทำการคะ เดินทางมาถึง ในตัวเมืองก็ประมาณ 4 โมง ก็วนรถหาศูนย์ศิลปชีพจนเจอ เพื่อไปเอาบัตรผ่านเข้าปางอุ๋ง จัดการเรียบร้อยแล้ว เรายังพอมีเวลาเหลือเล็กน้อยก่อนที่จะค่ำ ก็เลยถามทางที่จะไปหมู่บ้านกระ เหรี่ยงคอยาว ซึ่งไม่ไกลมากจึงมุ่งหน้าไปเที่ยวหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวกันคะ หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีอยู่ 3 หมู่บ้านคะ (แต่ที่เราจะไป ใกล้ที่สุดคือ บ้านห้วยเสื่อเฒ่าคะ)

1.บ้านห้วยเสื่อเฒ่า อยู่ใกล้กับตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางจากตัวเมืองไปทาง อ.ขุนยวมผ่านหน้าศาลากลาง ถึงแยกไฟแดงซ้ายมือจะมีป้อมตำรวจ เล็ก ๆ ตรงมุมถนนให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 12 ก.ม. ก็ถึงบ้านห้วยเสือเฒ่า คะ

2.บ้านน้ำเพียงดิน ถ้าจะให้ตื่นเต้นเร้าใจก็ต้องเดินทางไปด้วยเรือรับจ้าง เหมาเรือหางยาวที่ท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ เรือจะล่องไปตามลำน้ำปาย ใช้เวลาประมาณ 1- 1 ชั่วโมงครึ่ง ( ถ้ามีเวลาให้นั่งเรือไป จะได้สัมผัสบรรยากาศ 2 ข้างทาง ซึ่งบรรยากาศดีมาก ๆ คะ เพราะเคยไปหลายปีก่อน ติดใจคะ )

3.บ้านในสอย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 33 กม. ไปทาง อ.ปางมะผ้าผ่านบ้านปางหมู ข้ามสะพานแม่น้ำปายบริเวณหลัก กม.ที่ 199 แยกซ้ายมือไปตามถนน รพฃ.1 กม. เมื่อพบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปตามทาง รพช.สายบ้านในสอยอีก 17 กม. บ้านกระเหรี่ยงคอยาวจะอยู่เลยตัวชุมชนบ้านในสอยไปประมาณ 3 กม.





หลังจากเยี่ยมชมหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว ที่บ้านห้วยเสือเฒ่ากันแล้ว เราก็มาเช็คอินท์ที่โรงแรมกันคะ วันนี้เราพักกันที่โรงแรม ใบหยกชาเลย์ คะ ราคาก็ 1,280 บาท พร้อมอาหารเช้า ไปดูสภาพภายในห้องกันคะ ก็ไม่หรูหรามากมายนะคะ แต่ดีตรงที่สามารถเดินไปเที่ยวถนนคนเดิน ของ จ.แม่ฮ่องสอนได้สบาย ๆ เลยคะ เพราะอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมแค่นี่เอง


หน้าโรงแรมคะ





ภายในห้องนอน



ภายในห้องน้ำ



ตรงข้ามโรงแรมเป็นถนนคนเดินคะ


เช็คอินท์เรียบร้อยแล้ว เราไปหาอาหารมื้อเย็นทานกันเถอะคะ มีคนแนะนำ "ร้านไข่มุก" อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม แต่เดินเข้าซอยไปอีกนิดหน่อยก็ถึงคะ มาดูกันคะว่าอาหารร้านนี้น่าทานหรือป่าว


ต้มยำปลาน้ำปาย



น้ำพริกปลาสด



ผัดเผ็ดกบ (กบตัวใหญ่มาก ๆ แต่มีกลิ่น ตุ ๆ )



ปลาช่อนไส้อั่ว


มื้อนี้ค่าเสียหาย 566 บาทคะ ถามว่าอร่อยมั้ย ไม่อร่อยคะ มื้อเย็นนี้เป็นมื้อที่หิวมากคะ เพราะว่ามื้อเที่ยงไม่ได้ทานข้าว เพราะอยู่ในช่วงเดินทางเลยกินแต่ขนมไป แต่ขนาดว่าหิวมาก อาหารมื้อนี้ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่คะ นี่ถ้าไม่หิว คงแย่กว่านี้คะ ทานเสร็จเราก็ไปเดินย่อยอาหารกันดีกว่าคะที่ถนนคนเดิน แม่ฮ่องสอน คนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่คะ เดิน ๆ ไป เจอขนม ของไทยใหญ่ เป็นขนมแปลก ๆ ก็เลยซื้อมาลองทาน ก็อร่อยดีนะคะ ห่อละ 10 บาทเอง


ข้าวยาคูลย์ ( ถ้าจำไม่ผิดนะ )



อันนี้เรียกอะไรไม่รู้คะ จำไม่ได้ แต่ก็อร่อยดีคะ


เดินมาจนเมื่อย แถมอิ่มมากแล้ว ก็ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ เพราะวันนี้เดินทางมาทั้งวัน เหนื่อยมาก ๆ คะ พรุ่งนี้เราจะขึ้นปางอุ๋งกันคะ


Create Date : 24 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 0:53:29 น. 4 comments
Counter : 3468 Pageviews.

 
น่าไปเนอะเคยไปปายไม่เคยไปที่อื่นๆ ในแม่ฮ่องสอนเลย


โดย: Try to be Top form วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:32:27 น.  

 
สวยจังเลย น่าไปมั่กมั่ก
อาหาร ปลาช่อนไส้อั่ว อยากกินจัง


โดย: pekei วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:13:07:25 น.  

 
ผัดกบแอบน่ากลัวอ่ะ


โดย: ยัยลูกหมู วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:14:57:34 น.  

 
ไปสิงอยู่ FB ไม่กลับกันมาเลยนะ


โดย: ยัยลูกหมู วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:17:02:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NOKKIE-CM
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สาวราศีมีนค่ะ รักความอิสระ มีโลกส่วนตัวสูง ชอบท่องเที่ยว ชอบเขียนไดอะรี่ วาดภาพ สนใจเรื่องสุขภาพ ตอนนี้พักเรื่องเที่ยว หันมาสนใจเรื่องลดน้ำหนัก เนื่องจากเป็นสาวอวบมานาน

***สูงแค่ 155 ซ.ม. น้ำหนักก่อนลด 52.2 ก.ก. คร๊า***

Part 1 เริ่มลดตั้งแต่ เดือน ก.ย.- ธ.ค. 51 จาก นน. 52.5 ก.ก. ภายใน 4 เดือน ลดลงเหลือ 51.1 ก.ก. สรุป 4 เดือน ลดไปแค่ 1.4 ก.ก.คะ

เป้าหมาย Part 2 ปี 2552 ลดแบบเรื่อย ๆ ไม่คิดมาก ให้ลงมาเจอเลข 4 บ้าง คือว่าไม่ได้เจอเลข 4 มานานแล้วอะ ขอแค่ 48-49 ก.ก. ก็พอใจแล้วแหละคะ

**ถ้าต้องการรักษาระดับน้ำหนัก**
ต้องการพลังงานเท่ากับ 51.1 x 2.2 x 14 = 1,574 kcal.

**ถ้าต้องการลดน้ำหนัก**
ต้องการพลังงานเท่ากับ 51.1 x 2.2 x 10 = 1,125 kcal.
(ไม่ควรทานต่ำกว่า 1,200 kcal ต่อวันดังนั้นน่าจะทานประมาณ 1,200 kcal.)

**น้ำหนักที่จะลดได้ใน 1 วัน**
kcal ที่รักษาระดับน้ำหนัก - kcal ที่ต้องการลดน้ำหนัก = แคลอรี่ที่ลดได้
1,574-1,200 = 374 kcal.

**น้ำหนักที่จะลดได้ใน 1 เดือน**
374 x 30 วัน เท่ากับ 11,220 kcal.
คิดเป็น 11,220/7,700 = 1.45 กก.

ถ้าสามารถทำได้ตามเกณฑ์นี้ภายใน 3 เดือน ( ม.ค-มี.ค.52) ก็จะลดไป 4.35 ก.ก. ( น.น.จะเหลือ 46.75 ก.ก. โอ้พระเจ้าจอร์น น้ำหนักในฝันคะ มาติดตามกันคะว่าจะทำได้ตามเกณฑ์นี้หรือป่าว )

1 ม.ค.52 น้ำหนัก 51.1 ก.ก.
1 ก.พ.52 น้ำหนัก 51.0 ก.ก.
1 มี.ค.52 น้ำหนัก 50.9 ก.ก.
1 เม.ย.52 น้ำหนัก 50.4 ก.ก.
1 พ.ค.52 น้ำหนัก 51.2 ก.ก. (น่าอายมั้ยเนี่ย )

My Weight Chart:
Weight Chart
Friends' blogs
[Add NOKKIE-CM's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.