Silly Computer Engineer.
Lin~Jing~Sen
Something as small as the flutter of the butterfly's wing
can ultimately cause a typoon half way around the world

Group Blog
 
All Blogs
 

GSM CDMA จะถูกแทนที่ด้วย VoIP แน่นอน

จากคุณสมบัติการสื่อสารที่มีต้นทุนคงที่หรืออาจเรียกได้ว่าไม่มีมูลค่า เพราะ VoIP ไม่ได้คิดราคาตามระยะทางอีกต่อไป ทำให้มีราคาถูก จึงมีคำพูดว่า ผู้ชนะที่แท้จริงคือผู้ที่ครอบครองเครือข่ายราคาถูก

ปัจจุบันมี handheld บางรุ่นสามารถเชื่อมต่อ Wifi และมีโปรแกรม Skype มาให้ด้วย เมื่อ WiMax เข้ามา ทำให้ทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ ก็ย่อมสามารถใช้ VoIP ได้เช่นกัน และในอีก 6 ปีข้างหน้า มันจะเข้ามาแทนที่ GSM , CSMA

อุปสรรคที่ตามมาของ VoIP คือ ราคาของอุปกรณ์และด้านความปลอดภัย ซึ่งการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต ย่อมสามารถถูกโจมตี(Attack) ดักฟัง(Eavesdroping) ปลอมตัว(Spoofing) เปลี่ยนแปลง(Modify) ได้ง่ายกว่าผ่านอากาศ

นึกไม่ออกว่า ถ้าอีกหน่อยบริษัทที่ให้บริการมือถือต้องเจ๊ง จะเกิดอะไรขึ้น




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2548    
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 22:50:36 น.
Counter : 301 Pageviews.  

google มันรู้ลึกจริงๆ เข้ามาดู

สุดยอดเว็บค้นหา รู้ลึกจริงๆ(หรือเปล่า)
ลองทำตามนี้ ไปที่ หน้าการหารูปด้วย google แล้วลองหาคำว่า นมยาน
ท่านคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้คือรูปอะไร ????

ไม่ได้ลบหลู่นะครับ เอามาจากอีกเว็บนึงคร๊าบบ




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2548    
Last Update : 14 ตุลาคม 2548 22:24:36 น.
Counter : 384 Pageviews.  

สุดยอดรางวัล Ig (nore) nobel 2005 รางวัลวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง

นิวไซแอนติส/เอเอฟพี/ดิเอจ – เพนกวินปู้ด...ดดด ได้ไกลแค่ไหน แล้วระหว่างน้ำเชื่อมกับน้ำธรรมดามนุษย์จะว่ายในน้ำไหนได้ไวกว่ากัน พร้อมทั้งสิ่งประดิษฐ์สุดบรรเจิดอัณฑะปลอมของหมาและนาฬิกาปลุกหนีคนขี้เซา เหล่านี้ล้วนคว้ารางวัล “อิก โนเบล” ครั้งที่ 15 ไปครอง นับเป็นรางวัลเกียรติยศอีกซีกด้านหนึ่งของความเป็นอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์แบบสติเฟื่อง

ระหว่างสัปดาห์แห่งการประกาศผลรางวัลโนเบล อันเป็นรางวัลเกียรติยศแห่งวงวิชาการที่ทุกคนเฝ้าจับตาในแต่ละปี แต่อีกฟากหนึ่งของความอัจฉริยะก็ยังมีผลงานความคิดบรรเจิดหลุดกรอบ ชนิดคิดได้ไงอย่างมากมายในแต่ละปี ซึ่งด้วยความเสียดายไอเดียเก๋ๆ จึงเกิดรางวัล “อิก โนเบล” (Ig Nobel) ขึ้นโดยต้องการมอบรางวัลให้แก่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ “ไม่สามารถหรือไม่น่าจะลอกเลียนแบบได้”

เช่นกันในปีนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (7 ต.ค.) คณะกรรมการพิจารณางานวิจัยที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ประจำปี (Annals of Improbable Research) ได้จัดพิธีประกาศผลรางวัล “อิก โนเบล 2005” ณ โรงละครแซนเดอร์ ในฮาร์วาร์ด โดยมีเจ้าของรางวัลโนเบล (ของจริง) ปีก่อน 4 ท่านได้ออกมาประกาศรางวัลในสาขาต่างๆ ท่ามกลางผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีราว 1,200 คน ซึ่งปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลอิก โนเบลจาก 10 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ฮังการี ญี่ปุ่น นิว ซีแลนด์ ไนจีเรีย และสหรัฐอเมริกา

ให้ตายเหอะ...มนุษย์ว่ายน้ำเชื่อมไวกว่าในน้ำธรรมดา

อิก โนเบล สาขาเคมีได้แก่ เอ็ดวาร์ด คัซเลอร์ (Edward Cussler) และไบรอัน เกตเทลฟิงเกอร์ (Brian Gettelfinger) จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา (University of Minnesota) สหรัฐฯ ทั้งคู่พยายามหาคำตอบว่า มนุษย์สามารถว่ายน้ำในน้ำเชื่อมได้เร็วกว่าในน้ำธรรมดา ซึ่งสมมติฐานนี้ทำให้เกตเทลฟิงเกอร์ลุกขึ้นมาคิดค้นวิธีเพิ่มความเร็วในการว่ายน้ำ ขณะซ้อมว่ายน้ำเพื่อเข้าแข่งโอลิมปิก

ทั้งคู่เตรียมการทดลองขึ้นโดยใช้สระว่ายน้ำขนาด 25 หลาจำนวน 2 สระในมหาวิทยาลัย (ซึ่งต้องทำเรื่องขออนุญาตนู่น นี่นั่นถึง 22 ขั้นตอน) จากนั้นพวกเขาก็ต้องการน้ำเชื่อมจากข้าวโพดผสมกับน้ำจำนวน 20 คันรถเพื่อนำมาเติมลงไปในสระ แต่ทางเทศบาลเมืองก็แจ้งว่าพวกเขาจะต้องจ่าย 20,000 เหรียญ ถ้าหากปล่อยน้ำเชื่อมจำนวนมากมายขนาดนั้นเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย...ทำให้แผนการทดลองของทั้ง 2 ต้องมีอันพับไป

แต่ความพยายามของทั้งคู่ยังไม่จบลงง่ายๆ พวกเขากวนแป้งมัน 310 กิโลกรัมจนเหนียวหนึบลงในสระว่ายน้ำ “พอเช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นมาดู มันแหวะ ทั้งสระเต็มเหมือนไปด้วยน้ำมูกใสๆ” คัซเลอร์เล่าถึงความพยายามสร้างการทดลองนี้ขึ้นมา

แม้สระว่ายน้ำที่มีแป้งมันเหนียวๆ จะหน้าตาไม่น่าดู แต่ก็หาทำให้ความพยายามของอาสาสมัครทั้ง 16 รายย่อท้อไม่ อาสาสมัครทุกคนจะต้องลงว่ายน้ำใน 2 สระเพื่อเปรียบเทียบ โดยหลังจากว่ายในสระน้ำเหนียวๆ แล้ว พวกเขาจะต้องไปอาบน้ำทำความสะอาดตัว และลงว่ายต่อในสระน้ำธรรมดา

จากการจับเวลาและเปรียบเทียบอาสาสมัครทุกคน คัซเลอร์พบว่า ของเหลวที่มีความหนาแน่นกว่าช่วยเพิ่มพลังในการจ้วงว่ายแต่ละช่วงแขน ซึ่งทำให้แรงในการลากลำตัวพุ่งหน้าในน้ำไปข้างหน้าเพิ่มมากขึ้น

”การทดลองช่างสนุกสนาน แต่ให้ตายเหอะ ท้ายที่สุด มันก็โค_ร..ไร้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง” คัซเลอร์กล่าวภายหลังจากได้รับรางวัล

“เพนกวิน” มีพลังรมปราณปู้ด..ออกทวารแรงกว่าคนอีก

ส่วนรางวัลในสาขาพลศาสตร์ของไหลเป็นของเบนโน เมเยอร์-รอคฮาว (Benno Meyer-Rochow) จากมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งเบรเมน (International University of Bremen) เยอรมนี และยอซเซฟ กัลป์ (Jozsef Gal) จากมหาวิทยาลัยโลแรนด์ ออตวอส (Lorand Eötvös University) ในฮังการี ทั้งคู่เป็นเจ้าของทฤษฎีวิเคราะห์แรงปู้ดของเพนกวิน (penguin poop propulsion)

เมื่อธรรมชาติเรียกร้องเจ้าแพนกวินแห่งชายฝั่งอเดลี (Adélie) ในแถบแอนตาร์กติกาก็จะทำท่าอึกๆ อักๆ เดินต้วมเตี้ยมๆ ออกจากรัง เพื่อไปปลดทุกข์ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ซึ่งเจ้าของรางวัลอิก โนเบลได้สังเกตว่า ขณะถ่ายทุกข์เจ้าเพนกวินจะกระดกก้นขึ้น ยกหางและปล่อยสิ่งของไม่พึงประสงค์ออกมา โดยแรงปู้ด...ดดด ที่ปลดปล่อยจากปลายทวารหนักของเพนกวินนั้น มีแรงระเบิดทำล้ายร้างไกลถึง 40 เซนติเมตร

อย่างไรก็ดี ถ้าเปรียบเทียบกับสัดส่วนความสูงและลักษณะทางอนาโตมีของเพนกวินตัวเตี้ยๆ กับพลังลมปราณทางทวารหนักที่ปล่อยออกมาทั้งในแง่ความแรงและความเหนียว (ของสสารที่ตามออกมาด้วย) ทำให้นักวิจัยพบว่า แรงดันภายในช่องทวารของเพนกวินอยู่ที่ประมาณ 10-60 กิโลปาสคาล (หรือแรงประมาณ 1.45 - 8.7 ปอนด์ต่อ 1 ตารางนิ้ว) นับได้ว่าพลังลมปู้ด...ดดด ของเพนกวินนั้นมีกำลังแรงกว่ากำลังปลดปล่อยสูงสุดของมนุษย์ขณะถ่ายทุกข์เช่นกัน

แต่ถ้าใครคิดดูเหมือนว่าจะเป็นผลงานที่ไม่มีสาระทางวิทยาศาสตร์ เมเยอร์-รอคฮาวกล่าวอย่างมั่นใจว่า แน่นอนที่น้อยคนจะรู้ว่ามีประโยชน์อย่างไร ซึ่งถ้าสิ่งที่พวกเขาอธิบายได้รับความสนใจจากผู้ดูแลสวนสัตว์ นักสัตว์และพืชดึกดำบรรพ์ วิศวกร นักสรีรศาสตร์มนุษย์ คนเหล่านี้ก็สามารถนำข้อมูลไปตรวจสอบการสภาพของร่างกายว่าสมบูรณ์หรือไม่ด้วยการดูแรงปลดปล่อยของเหลวผ่านรูทวารต่างๆ นับเป็นสิ่งธรรมดาที่สำคัญ

อิก โนเบล...งานวิจัยฮาๆ อีกสารพัดสาขา

• สาขาเศรษฐศาสตร์ ยกให้กับผลงาน “นาฬิกาหนีคนขี้เซา” เป็นของกาวรี แนนดา จากสถาบันเทคโนโลยีเมสซาซูเซ็ตส์ (Massachusetts Institute of Technology : MIT) ได้ประดิษฐ์ “คล็อกี้” (Clocky) นาฬิกามีล้อสำหรับผู้ที่นอนขี้เซาในตอนเช้า หากตั้งปลุกแล้ว เจ้าของขี้เซาเกิดกดปุ่ม “สนูซ” (snooze) ขอเวลานอนอีก 5 นาทีแล้วค่อยปลุกต่อ นาฬิกาตัวนี้ก็จะหนีไปซ่อน แน่อนนว่าพอร้องเตือนในอีก 5 นาทีถัดไป เจ้าของต้องลุกขึ้นมาหา รับรองตอนนั้นต้องตื่นแล้วแหง๋ และถ้ายังหานาฬิกาไม่เจอ เสียปลุกมันก็ดังสนั่นไหว ไม่ตื่นไม่ได้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการตัดสินรางวัลเห็นว่าแม้จะยังเป็นแค่แนวคิด แต่นี่ก็ช่วยให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม...จึงสมควรได้รับในสาขาเศรษฐศาสตร์ไป

• สาขาฟิสิกส์ ยกให้กับการทดลอง “หยดกากน้ำมันดิน” (pitch drops) ที่ต้องใช้เวลาทดลองมาหลายสิบปี โดยรางวัลนี้เป็นของโทมัส พาร์เนลล์ (Thomas Parnell) ที่เคยทำการทดลองไว้ที่มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (University of Queensland) เมื่อปี 1927 และจอห์น เมนสโตน (John Mainstone) ก็มาช่วยพัฒนาต่อ

ทั้งนี้ กากน้ำมันดินที่เหนียวๆ ซึ่งตามทฤษฎีของเหลวนั้น แต่ดูเหมือนว่ามีพฤติกรรมเหมือนของแข็ง เพื่อแสดงให้เห็นว่ากากน้ำมันดินเป็นของเหลว พาร์เนลได้ละลายกากน้ำมันดินแล้วนำไปใส่กรวยที่เย็นตัว จากนั้นเขาก็รอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ กระทั่ง 8 ปีผ่านไปกากน้ำมันดินหยดแรกก็หลุดออกมาจากกรวย ส่วนหยดที่ 2 ตามมาในอีก 9 ปีถัดจากนั้น และในปี 2000 ก็เพิ่งจะได้เห็นหยดที่ 8 ขณะที่เมนสโตนก็รับช่วงต่อรอหยดที่ 9

• สาขาแพทยศาสตร์ปีนี้ เป็นของ เกรก มิลเลอร์ (Gregg Miller) จากมิสซูรี ที่สามารถประดิษฐ์อัณฑะเทียมของสุนัขเพื่อใช้แทนของจริง อีกทั้งอัณฑะเทียมดังกล่าวมีให้เลือกถึง 3 ขนาด และมีความฟิตถึง 3 ขั้น

• สาขาผู้ปรารถนาสันติภาพเป็นอย่างยิ่งเป็นของ 2 นักวิจัยชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล (Newcastle University) ที่เฝ้าจับตาดูกระแสไฟฟ้าอันเกิดจากกิจกรรมในสมองของแมลงจำพวกตั๊กแตนตัวหนึ่งขณะกำลังชมบางตอนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ส...ก็อยากรู้ว่าตั๊กแตนจะเครียดแค่ไหน หากดูหนังสงคราม

• สาขาชีววิทยา ตกเป็นของกลุ่มนักวิจัยจำนวนมากมายและอีกหลายสถาบันที่พยายามดมกลิ่มและจัดทำรายชื่อกลิ่นของกบ 131 สายพันธุ์ ขณะที่กบเหล่านี้อยู่ในภาวะตึงเครียด...กบจะมีกลิ่นอย่างไรบ้าง

• สาขาวรรณกรรม เป็นของกลุ่มชาวไนจีเรียเจ้าของอีเมล์ลูกโซ่ ที่ส่งอีเมล์ถึงผู้ใช้นับล้านๆ คนทั่วโลก ซึ่งถ้าใครได้รับอีเมล์ที่มีใจความแบบนี้ "cast of rich characters ... each of whom requires just a small amount of expense money so as to obtain access to the great wealth to which they are entitled" ... แน่ใจได้เลยว่า คุณได้อ่านวรรณกรรมระดับ (อิก) โนเบลเรียบร้อยแล้ว !@!

อย่างไรก็ดี ในแต่ละปีผู้ที่ได้รับรางวัลต่างก็ยินดีที่จะเดินทางมาร่วมพิธี และจะมีโอกาสขึ้นไปกล่าวอะไรเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น โดยมีเด็กน้อยวัย 8 ขวบเป็นผู้ควบคุมพิธีการ ถ้าหากผู้ได้รับรางวัลกล่าวสุนทรพจน์เกินเวลา เด็กน้อยก็จะตะโกนออกไปว่า “กรุณาหยุดได้แล้ว หนูเบื่อเต็มที !!”

แต่เมเยอร์-รอคฮาวและกัลล์ เจ้าของรางวัลอิก โนเบลสาขาฟิสิกส์ ไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ส่งวิดิโอเทปกล่าวสุนทรพจน์มาฝากเปิดในงาน แถมยังบอกถึงเหตุผลที่มาร่วมงานไม่ได้ว่า เพราะขอวีซาเข้าสหรัฐฯ ไม่ได้ (ฮา....)

ขณะที่เมนสโตนขึ้นมารับรางวัลด้วยอาการเริงร่าพร้อมทั้ง กล่าวว่า ช่างน่าปิติยินดีนักที่เขาได้รับรางวัลอิกสาขาฟิสิกส์ ซึ่งการทดลองที่เขาทำนั้นเริ่มมาตั้งแต่ปี 1927 (พ.ศ.2470) ซึ่งรอก้อนกากน้ำมันดินหยดด้วยอัตราความถี่ 1 หยดต่อ 9 ปี แต่ก็น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่พาร์เนลล์ผู้ร่วมงานและร่วมรับรางวัลกับเขา เสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้าหลังผ่านหยดที่ 2 ไปแล้ว ส่วนเมนสโตนก็เดินทางมารับรางวัลพร้อมกับภรรยาแต่ ดันไปบอกเมียรักว่าจะพามาเที่ยวฮาร์วาร์ด ซึ่งภรรยาของเมนสโตนเพิ่งรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงเมื่อเครื่องบนลงจอดแล้ว เธอก็แสดงความประหลาดใจแนวขำๆ

ทั้งนี้ รางวัลอิก โนเบลตั้งขึ้นเมื่อปี 1991 โดยมาร์ก อับราฮัมส์ (Marc Abrahams) บรรณาธิการนิตยสารวิทยาศาสตร์ โดยต้องการมอบรางวัลอิก โนเบลในแต่ละปีให้แก่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ “ไม่สามารถหรือไม่น่าจะลอกเลียนแบบได้”

”งานบางชิ้นช่างดูเพี้ยนๆ แปลกๆ นั่นแหละจะทำให้พวกคุณหัวเราะปกฮา และจากนั้นมันก็จะทำให้คุณได้คิด ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะได้คิดอะไรแปลกๆ ต่อไป” ผู้ก่อตั้งรางวัลอิก โนเบลกล่าว อีกทั้งอับราฮัมส์ตั้งรางวัลนี้ขึ้นมา เพื่อฉายแสงให้กับโครงการวิทยาศาสตร์แปลกๆ ประหลาดที่ถูกโยนทิ้งจากกองบรรณาธิการนิตยสารวิทยาศาสตร์ และงานวิจัยแปลกๆ เหล่านี้อาจสูญหายไปในอนาคต

รางวัล “อิก โนเบล” นับเป็นเป็นอารมณ์ขันของนิตยสารวิทยาศาสตร์ฉบับหนึ่ง แต่ได้รับความนิยมและสนใจอย่างแพร่หลาย นั่นก็เพราะจุดประสงค์อันกิ๊บเก๋ ที่ต้องการพิจารณาให้รางวัลผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ “ผู้คนได้หัวเราะ และจากนั้นก็จะก่อไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง”




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2548    
Last Update : 13 ตุลาคม 2548 22:54:35 น.
Counter : 483 Pageviews.  

SMAC

กำลังอ่าน paper SMAC อยู่อะ

ก็เป็น MAC protocol สำหรับ sensor network โดยเฉพาะ ใน sensor network จะคำนึงถึงเรื่องพลังงานและ scalability เป็นหลัก ส่วนเรื่อง fairness, latency, throughtpuy,bandwidth utilzation เป็นรอง

แต่ละโหนดใน sensor network จะทำงานเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน หรือทำงานอย่างเดียวกัน ทำให้ ณ เวลาหนึ่งๆ โหนดอาจมีข้อมูลที่จะส่งมากกว่าอีกโหนดหนึ่ง(เมื่อมันตรวจจับอะไรบางอย่างได้) ทำให้เรื่องของ fairness ไม่ใช่ประเด็นหลัก

Sensor MAC ถูกออกแบบเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจาก

1.overhearing ได้รับแพ็คเก็ตคนอื่น
โดยการทำให้โหนดหลับ(ปิดวิทยุ) เมื่อได้ยิน RTS/CTS ของโหนดอื่น

2.Idle time ตอนอยู่เฉยๆเพื่อฟังช่องสัญญาณว่ามีใครส่งอะไรมาให้เราไหม
โดยการ sleep-wakeup และทำการ broadcast schedule ของตนเองให้โหยดอื่น เพื่อป้องกันการหลับพร้อมกัน

3.Collision การชนกัน
ใช้ feature ของ 802.11 และ collision avoidance

4.control packet overhead
ใช้ concept ชื่อ message passing โดยการแบ่งข้อมูลใหญ่ๆออกเป็น pkt ย่อยๆ และส่งไปทีเดียวให้หมด ต่างจาก 802.11 ตรงที่เมื่อการส่งผิดพลาด 802.11 จะหยุดส่งและเปิดโอกาสให้โหนดอื่นแย่งช่องสัญญาณ(เพื่อความเท่าเทียม) แต่ของ SMAC จะพยายามส่งต่อไป




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2548    
Last Update : 6 ตุลาคม 2548 23:31:26 น.
Counter : 545 Pageviews.  

ทดสอบ live broadcast เสร็จแล้ว

ทดสอบ live broadcast เสร็จแล้ว สำเร็จๆ อิอิ ขอบคุณพี่โอ๋ แห่ง www.googig.com มา ณ ที่นี้ ที่แนะนำ Windows Media Encoder 9.0 ครับป๋ม

ไว้ไปที่แล็บก่อน จะถ่ายทอดให้ดูนะ ตั้งใจให้เพื่อนและที่บ้านดูด้วย จะได้ไม่ต้องเสียตังค์โทรมาตามว่าเมื่อไหร่จะกลับ ถ้าเห็นนั่งอยู่ก็แปลว่ายังไม่กลับ

วิธีใช้ก็แสนง่าย ไม่ต้องใช้ Windows Media Server ก็ได้ โดย
1.ต่อกล้อง , เปิดโปรแกรม
2.สร้าง session ใหม่ (ทำตาม wizard ก้อได้)
3.เลือก Broadcast Method เป็น PULL (กำหนดภายหลังที่ propoties ของ session ก้อได้)
4.กำหนด port สมมุติเป็น 5678
5.แล้วก็กำหนดค่านิดหน่อย พวกขนาด video , bit rate , วิธี encode
6.start encoding ได้เลย
7.จากนั้นใช้โปรแกรม WIndows media player --> Open URL --> ใส่ว่า //localhost:5678 ก็เรียบร้อย
หรือว่าใช้เป็น object บนเว็บก้อได้

enjoy live show




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2548    
Last Update : 12 สิงหาคม 2548 2:16:52 น.
Counter : 352 Pageviews.  

1  2  3  4  

nmapxp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Friends' blogs
[Add nmapxp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.