All Blog
“ยออุน โดดเดี่ยวไร้เทียมทาน” (ฟิค Warrior Baek Dong Soo) ตอนที่21
“ยออุน โดดเดี่ยวไร้เทียมทาน” (ฟิค Warrior Baek Dong Soo) ตอนที่21








“ข้าเคยสงสัยมานาน  แม่นางกูฮยาง นอกจากวิชาแพทย์ของท่านแล้ว ท่านเอง ก็รู้วิชาต่อสู้ใช่มั้ย นอกจากเป็นสายลับแล้ว ท่านยังเป็นนักฆ่าด้วยรึเปล่า” ฮวางจินจูตั้งข้อสังเกต

“มิได้เจ้าค่ะ สายลับมูยองเกสำนักโคมดำ จะไม่ทำงานของมือสังหาร และข้าก็ยังไม่เคยฆ่าคนมาก่อน”

“ข้าไม่สนเรื่องนั้นหรอก....จินจู ข้าแค่ห่วงอุน...... ทูตต้าชิงคนนั้น มีเป้าหมายเพื่อเล่นงานเจ้ารึเปล่า แล้วเจ้าจะรับมือมันได้มั้ย จักรโลหิตนั่น ร้ายกาจแค่ไหน ก็ยังไม่เคยเห็น”

“จักรโลหิต เป็นอาวุธของมือสังหารต้าชิง ที่ตั้งแต่สมัยอดีตฮ่องเต้หย่งเจิ้นเคยใช้ไล่ล่าสังหารพวกกบฏมาก่อน นายท่านของข้าเคยไปเยือนต้าชิงสมัยยังหนุ่ม และมีโอกาสสู้กับมือสังหารคนนึงมาก่อนด้วย แต่ไม่รู้ว่าผลเป็นยังไง รู้แต่ว่า ในบันทึกเพลงดาบนภาของนายท่าน มีกระบวนท่าต่อสู้กับจักรโลหิตเขียนไว้เหมือนกัน”

“จู่ๆต้าชิง ก็ส่งทูตที่เคยเป็นอดีตมือสังหารมาโชซอน คงไม่มีเจตนาดีเท่าไหร่ ไหนจะเรื่องถังอี้ หวังว่าคงไม่ต้องรับมือกับสองคนนี้พร้อมกันนะ” เพ็กทงซูเปรยออกมา

“ก็ไหน...โชริปบอกว่า ทางต้าชิงกำลังจัดงานพระบรมศพของใครนะ .... ที่ทรงเป็น..... เรียกว่าอะไรนะ...อ๋อ...แม่ของพระราชา เหมือนกับตำแหน่งพระพันปีเฮคยอง อยู่ไม่ใช่เหรอไง” จินจูสงสัย

“พระนางฉงชิ่งฮองไทเฮาเจ้าค่ะ......ทรงเป็นพระชนนีของเฉียนหลงฮ่องเต้” กูฮยางบอกจินจู

“แล้วทางโน้นจะมาสนใจเรื่องของโชซอนทำไมล่ะ.....ทงซู” จินจูถามทงซู ซึ่งก็สงสัยเช่นเดียวกัน

“ข้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องวังวนการเมืองต้าชิงนักหรอกนะ....... ข้าว่า เรื่องพวกนี้.... แม่นางกูฮยาง น่าจะรู้ดีที่สุด”

“ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจเจ้าค่ะ แต่สำนักโคมดำ กับขุนนางฝ่ายโนรอน และขุนนางกังฉินบางส่วนของต้าชิง มีผลประโยชน์ร่วมกันมานานแล้ว สมัยก่อน สำนักโคมดำ ก็เคยอยู่ภายใต้ราชสำนักต้าชิง อดีตชอนจูก็เคยรับคำสั่งจากราชทูตต้าชิง ส่วนการเปลี่ยนราชทูตครั้งนี้ อาจจะไม่เกี่ยวกับฮ่องเต้ แต่เป็นขุนนางของต้าชิงจัดการเอง เพื่อหวังจะแสวงหาผลประโยชน์ที่เคยได้สมัยใต้เท้าฮงแทจูยังมีอำนาจกลับไปเป็นของพวกตนอีกก็ได้..เจ้าค่ะ”

“แล้วตอนนี้ ไม่มีขุนนางอ้วนฮงแทจูแล้ว แถมพระอัยกาฮงพงฮันก็ถูกเนรเทศไปอีก แล้วโชซอนยังจะเหลือใครที่ติดต่อกับต้าชิงได้อีกล่ะ” จินจูแปลกใจ แล้วหันไปมองยออุน รอคำตอบ

“ยังมีอยู่คนนึง คนผู้นี้มีอิทธิพลในราชสำนักมาหลายปีและยังคงมีอำนาจอยู่จนทุกวันนี้ สมัยก่อน ก็เคยร่วมมือกับฮงแทจูด้วย คนที่เจ้าเคยช่วยชีวิตไว้ยังไงล่ะ ..... ทงซู”

“เจ้าคงไม่ได้หมายถึงพระหมื่นปีจองซุนหรอกนะ”

“ข้าว่า......พระนาง กับใต้เท้าคิมฮันกู..... จะยังคงเป็นหอกข้างแคร่ที่น่ากลัวของพระราชาแน่นอน คราวที่แล้วทรงรอดตัวไปได้ แต่ข้าว่า พระนางจะต้องมีแผนการอะไรอีก ข้าเคยพบพระนางมาแล้ว เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและน่ากลัวมากจริงๆ คิมฮันกูเอง ก็คงแค้นเจ้ากับข้าอยู่ไม่น้อย และอาจจะยังมีความคิดลอบปลงพระชนม์อีกก็เป็นได้ ที่จริง ก็เป็นเพราะข้า ข้าช่วยพระนางทำลายหลักฐานที่ทรงร่วมมือกับฮงแทจู ไม่อย่างนั้น คงกำจัดพระนางได้แล้ว”

“ก็ตอนนั้น.......พระหมื่นปีใช้ชีวิตของพวกข้ามาขู่เจ้า........ อิทธิพลของพระนางมีล้นฟ้า เจ้ากลัวคนของพระนางจะมุ่งเป้ามาเล่นงานพวกข้า เจ้าถึงจำเป็นต้องยอมช่วยพระนาง” ฮวางจินจูพูดปลอบยออุนที่รู้สึกผิดต่ออดีต

“แล้วพระนางเกี่ยวข้องกับพวกทูตต้าชิงคนใหม่รึเปล่า..... ว่าไงล่ะ....แม่นาง” เพ็กทงซูถามกูฮยาง

“เรื่องของพระหมื่นปี ยังคงหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เจ้าค่ะ แต่เรื่องที่ประมุขถัง นั่งเรือลำเดียวกันกับราชทูตต้าชิง ดูเหมือน จะเป็นที่เปิดเผย ไม่แน่ว่า ทั้งสองท่านนี้ อาจจะรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน เพราะต่างก็รู้เรื่องของสำนักโคมดำทั้งคู่ เกรงว่าเป้าหมายครั้งนี้ มุ่งมาที่นายท่านมากกว่านะเจ้าคะ”

“ถึงจะเป็นยังงั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก ข้าเคยตายมาแล้วครั้งนึง ข้าจะไม่ยอมตายง่ายๆอีก ที่ข้ากังวลก็คือเรื่องคิมฮันกูมากกว่า ใต้เท้าคนนั้น เคยเป็นผู้ช่วยราชทูตโชซอน เดินทางไปต้าชิง ความใกล้ชิดกับทางต้าชิงคงไม่ธรรมดา”

“คิมควีจีก็ไม่น่าไว้ใจนะเจ้าคะ ใต้เท้าคนนี้แอบสับเปลี่ยนกำลังในกองทหารของตนมาพักใหญ่แล้ว แถมยังซุ่มกองกำลังไว้จำนวนมากตั้งแต่ก่อนที่ฮงซังบอมจะก่อการเสียอีก ว่ากันว่าขุนนางฝ่ายโนรนที่เหลือก็เข้าร่วมด้วย และยังมีการประชุมลับที่บ้านใต้เท้าคิมอยู่หลายครั้ง”

“ทำไมเจ้าไม่รายงานข้าก่อนหน้านี้”

“ตอนนั้น ใต้เท้าเพ็กทงซูถูกพิษอาการสาหัส นายท่านก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร แล้วพอหลังพระราชพิธีฉลองราชาภิเษก พวกท่านสองคนก็วางแผนจะไปจากฮันยาง ข้าคิดว่า เรื่องนี้ใต้เท้าฮงกุกยงคงจัดการเองได้ เลยไม่ได้รายงานเจ้าค่ะ แต่เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เพราะประมุขถังกับราชทูตต้าชิงคนใหม่ ข้าก็เลยต้องรายงานให้ท่านทราบ”

“มีแต่ข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีทั้งนั้นเลย แล้วนี่จะยังมีข่าวร้ายอะไรอีกมั้ยล่ะเนี่ย” ฮวางจินจูเริ่มบ่น

“มีแต่คนที่น่ากลัวเข้ามาฮันยาง......ไม่รู้ว่าเมืองหลวงแห่งนี้ จะนองเลือดอีกมั้ย.........แล้วฝ่าบาทจะทรงปลอดภัยรึเปล่า..........อุน......เจ้าคิดยังไง”

“ข้าคิดอย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ...........เรื่องการวางมือจากวงการต่อสู้และแผนการเดินทางเพื่อเร้นกายของพวกเรา คงต้องเลื่อนไปก่อนแล้วล่ะ....ทงซู” ชายหนุ่มทั้งสองต่างก็มองตากันอย่างคนที่เข้าใจ

“พวกเรากลับไปปรึกษากันที่บ้านเถอะ เผื่อท่านพ่อกับท่านอาจะมีความเห็นอะไรบ้าง”

“พวกเจ้ากลับกันไปก่อนนะ จินจู ทงซู คืนนี้ ข้าจะกลับไปสำนักโคมดำ”

“แล้วไม่กลับไปนอนด้วยกันหรอกหรอ.......” เพ็กทงซูถามยออุนด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

“เป็นอะไรของเจ้า....ทงซู ห่างกับอุนแค่คืนเดียว จะเป็นจะตายรึยังไง”

“ข้ามีบางอย่างต้องไปทำ แล้วพรุ่งนี้ ข้าจะไปหานะ”

“ให้ข้าไปสำนักโคมดำเป็นเพื่อนเจ้ามั้ย ว่าแต่............เจ้าปิดสำนักโคมดำไปแล้วไม่ใช่หรอ”

“อา.......ป่านนี้คงจะรกร้างมากแล้วล่ะ เพราะกูฮยางก็ไปพักที่อื่นแล้ว แต่.....เอาเถอะ ข้าจะไปกับกูฮยาง แวะไปที่นั่นซะหน่อย พวกเจ้ากลับไปก่อนนะ ทงซู.......ข้าขอโทษด้วย ที่วันนี้มีแต่เรื่องจนทำให้เจ้าเสียโอกาสที่จะ.......”

“เสียโอกาส อะไร พวกเจ้าจะทำอะไรกัน ทำไมถึงเสียโอกาส......โอ้...ไม่นะ......อุน...นี่เจ้า.......ไม่จริงใช่มั้ย พวกเจ้าสองคนคงไม่ได้คิดที่จะ........ข้าอุตส่าห์คิดว่าเจ้าบ้าเพ็กทงซูนี่บ้ากามคนเดียวซะอีก นี่เจ้า...อุน....เจ้าก็...ด้วยหรอ.....”

“รู้แล้วยังจะพร่ำเพ้ออะไรอีก จินจู..... เจ้านั่นแหละ มาผิดเวลา ข้าก็เลยอด”

“ฟ้าผ่าสิ........เรื่องอย่างว่า........ทำยังไงล่ะ ขนาดเรื่องชายหญิง ข้ายังไม่ค่อยจะรู้ แล้วเรื่องของพวกเจ้าสองคน ทงซู.....อุน..........ยังไงล่ะเนี่ย เป็นไปได้หรอ แล้ว........คือ ข้าเข้าใจนะ ที่พวกเจ้าจะรักกันขึ้นมาได้จริงๆ แต่เรื่องอย่างว่า......”

“แม่นางอย่าเพิ่งคิดฟุ้งซ่านไปไกลเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยขอตัวนะเจ้าคะ” กูฮยางลาเพ็กทงซูกับฮวางจินจู แล้วเดินออกไปก่อนอย่างรวดเร็วแต่ฝีเท้าเบามาก

“ข้าว่านางต้องมีฝีมือไม่น้อยเลยล่ะ” จินจูบ่นอยู่คนเดียวขณะหันไปมองหมอหญิงสายลับที่เพิ่งเดินจากไป โดยไม่ใส่ใจที่เพ็กทงซูที่กำลังยกมือโบกให้หมอหนุ่มอย่างอาลัยอาวรณ์

...

..

..

เรือนพำนักของชอนจูแห่งสำนักโคมดำไม่ได้ทรุดโทรมไปมากอย่างที่คิด ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง จึงตั้งตระหง่านมาได้กว่าร้อยปี แม้จะมีหยากไย่และฝุ่นจับหนาเฉกเดียวกับตัวสำนักที่ร้างผู้คนไปนานเกือบสองปี เพราะเมื่อไม่มีชอนจูและเหล่านักฆ่าพักอาศัย ก็จำต้องถูกปล่อยให้รกร้าง เพราะความที่ ที่ตั้งของสำนักโคมด้เป็นความลับสุดยอด ที่แม้แต่ฮงแทจูก็ยังไม่เคยทราบ และคนของสำนักโคมดำทุกคนก็ปกป้องความลับนี้เป็นอย่างดี แม้เวลาจะผ่านไปนาน แม้เหล่านักฆ่าบางส่วนจะถูกจับได้ แต่ก็ไม่มีใครเปิดเผยที่ตั้งของสำนักออกไป และโดยเฉพาะ เรือนพำนักส่วนตัวของชอนจู ที่มีทางเข้าลับพิเศษ ที่มีเฉพาะชอนจูและคนสนิทเท่านั้นที่จะเข้ามาได้

เรือนแห่งนี้ มีตำราและของประหลาดซ่อนอยู่ไม่น้อย ทั้งตำราแพทย์ ตำราพิษ ตำราอาวุธตำราอาวุธลับ บัญชีรายชื่อขุนนาง บัญชีการเงินของหน่วยสนับสนุน บัญชีความผิดที่ปกปิดไว้ของเหล่าขุนนางชั่ว หรือแม้แต่บัญชีรายชื่อของคนที่ถูกสังหารโดยนักฆ่าของสำนักโคมดำก็ตาม ที่ตั้งอยู่บนหิ้ง คือแท่นวางดาบของอดีตชอนจูท่านหนึ่ง ดาบของอดีตชอนจูท่านก่อนหน้าถูกยออุนนำไปทำเป็นป้ายชื่อลีพยองอันไปแล้ว เพราะยออุนอยากให้อดีตยอดนักฆ่าผู้เป็นเสมือนอาจารย์คนหนึ่งของตนได้สงบสุขในสัมปรายภพ จึงนำดาบที่อาบเลือดของคนมากมายไปทำป้ายชื่อสงบสุขแทน แต่ดาบบนแท่นวางดาบเล่มนั้น มีอักษรสลักไว้ทั้งที่ใบดาบและฝักดาบว่า“ดาวหาง” เป็นดาบที่ทำจากโลหะชนิดพิเศษ มีความคมและความแข็งแกร่งกว่าดาบทั่วไป แม้จะสั้นกว่าดาบยาวของอดีตชอนจู แต่ก็ยังยาวกว่าดาบคู่ของชอนจูหนุ่มอยู่เกือบหนึ่งคืบ อดีตชอนจูเคยบอกยออุนว่า นี่คือดาบของผู้เฒ่าดาวตก ชอนจูคนแรกของสำนักโคมดำ ท่านใช้หินอุกกาบาตมาตีเป็นดาบเล่มนี้ แต่ถึงดาบเล่มนี้จะเคยเป็นสมบัติของชอนจูมาหลายคนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เคยอาบเลือดสังหารผู้คนแม้แต่คนเดียว ชอนจูหนุ่มหยิบดาบมาวางบนโต๊ะอย่างเบามือ

“ดาบดาวหาง ท่านคิดจะใช้ดาบนี้รับมือจักรโลหิตหรือเจ้าคะ”

“อา......ข้าตั้งใจจะฝึกเพลงดาบนภาของนายท่านอย่างจริงจังซักที และดาบเล่มนี้ก็น่าจะเหมาะที่สุดแล้ว”

“ทั้งๆที่ท่านเคยสาบานไว้ ว่าจะเลิกใช้ดาบ แต่แล้ว....ก็ยังหลีกชะตานักฆ่าไม่พ้น”

“ไม่ใช่นักฆ่า......กูฮยาง... นักสู้ต่างหาก เป็นนักดาบที่ใช้ดาบช่วยคน ไม่ได้ฆ่าคนอีก”

“แต่ปกติ นายท่านใช้ดาบสั้นคู่ ไม่ได้ใช้ดาบยาว ถึงจะเคยฝึกก็ตาม อันที่จริง ดาบคู่ของนายท่าน ก็เคยเอาชนะอดีตชอนจูมาแล้วด้วยซ้ำ”

“ข้ารู้ แต่ครั้งนี้ ศัตรูมีอาวุธพิสดารยิ่งนัก ถึงจะข้าจะเคยหยิบจับของหลายอย่างมาใช้แทนอาวุธ แต่ก็คงไม่อาจเทียบได้กับอาวุธที่ดีหรือดาบที่ดีซักเล่ม ข้าว่า จะลองประสานวิชาดาบนภาของอดีตชอนจูกับวิชาที่ข้าฝึกฝนมาด้วยตนเองดู บางที อาจจะได้วิชาใหม่ที่เหนือกว่าวิชาดาบคู่ของข้าก็ได้” พูดจบ ร่างโปร่งของชอนจูหนุ่มก็เดินไปหยิบบันทึกดาบนภามาอ่านอย่างละเอียด โดยเฉพาะบันทึกการต่อสู้ของดาบนภากับจักรโลหิตที่อดีตชอนจูเคยบันทึกไว้ พร้อมกับร่ายรำเพลงดาบด้วยความมุ่งมั่นมีสมาธิแรงกล้า แต่ท่วงท่าก็ยังคงสง่างามราวกับพญาหงส์ขณะเหิรบินบนฟ้าก็ไม่ปาน

ขณะที่ชอนจูหนุ่มกำลังฝึกฝนเพลงดาบอยู่ กูฮยางก็เก็บกวาดทำความสะอาดเรือนแห่งนี้ให้เป็นที่พักที่สะอาด ตลอดจนโถงบัญชาการสำนักโคมดำที่ด้านนอกด้วย แม้จะง่วนอยู่กับการซ้อมดาบและทำความสะอาด แต่โสตประสาทที่ปราดเปรียวของชายหญิงทั้งคู่ก็พลันได้ยินสิ่งแปลกปลอม กูฮยางที่อยู่ใกล้ต้นกำเนิดเสียงมากกว่าดึงปิ่นปักผมของนางออกมาแล้วซัดไปเต็มแรง

“อ้ากกกกก...................” เสียงร้องของชายวัยกว่าสี่สิบ ดังอยู่หน้าประตู ทั้งยออุนและกูฮยางรู้สึกคุ้นเสียงจึงรีบรุดออกไปดู

“ท่านเองหรอ.....” กูฮยางเอ่ยทักผู้มาเยือน พลางรีบดึงปิ่นปักผมออกจากบริเวณหัวไหล่ของชายผู้นั้น

“เจ้าอยู่ที่นี่นั่นเอง ข้าไปหาที่รังลับแล้วไม่พบ เลยแวะมาดูที่นี่” พูดกับกูฮยางเสร็จ ก็หันไปเห็นร่างโปร่งของชายหนุ่มอีกคนที่เดินออกมาให้เห็นตัวพอดี

“นายท่าน................” ชายผู้นั้นเอ่ยเรียกชอนจูของตนพร้อมโค้งคำนับ

“จางแทซัน..... เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วบาดแผลพวกนี้ .... ใครทำร้ายเจ้า” ยออุนสังเกตเห็นบาดแผลที่ปรากำอยู่ทั่วร่างของจางแทซัน ที่ไม่ใช่แค่รอยปิ่นปักผมของกูฮยาง แต่ยังมีร่องรอยการบาดเจ็บจากการถูกฟันด้วยดาบอีกหลายแผล

“ข้าต้องการมาพบนายท่าน......มีเรื่องจะต้องรีบรายงาน......”

“อย่าเพิ่ง....ไม่ใช่ตอนนี้............” ชอนจูหนุ่มอุ้มร่างลูกน้องของตนไปวางบนโต๊ะใหญ่ ก่อนจะหยิบเข็มทองที่พกติดตัวมาฝังเข็มสกัดจุดให้จางแทซัน ขณะที่กูฮยางเองก็รู้หน้าที่ รีบไปหยิบหีบยามาทันที ด้วยฝีมือของแพทย์ผู้ชำนาญสองคน ไม่นาน จางแทซันก็มีอาการดีขึ้น ดูแข็งแรงกว่าทีแรกที่มาถึงสำนักโคมดำไม่น้อย

“ขอบคุณนายท่าน............แม่นางหมอหญิง...............ข้ามาที่นี่ เพราะมีเรื่องด่วนจะรายงานขอรับ”

“เรื่องอะไร เกี่ยวข้องกับคนที่ทำร้ายเจ้าใช่มั้ย”

“ขอรับ..............เมื่อเดือนที่แล้ว ข้าน้อยอยู่ที่คยอนจู ล่านักโทษค่าหัวเลี้ยงชีพ หนึ่งในนั้นมีผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าอยู่รายนึง ชื่อว่าซอนัมซุน ข้ามองภาพวาดครั้งแรกก็ตกใจ ใบหน้าของเจ้านั่นคลับคล้ายนายท่านมากเหลือเกิน ทั้งโครงหน้า จมูก โหนกแก้ม ต่างกันที่แววตา เพราะแววตาเจ้านั่นดูเหี้ยมเกรียมและดุดันมากกว่า ส่วนสูงก็มากกว่าด้วย แต่ภาพวาดก็เป็นภาพวาด อาจผิดพลาดได้ ข้าจึงตระเวนตามหาทั่วทั้งคยอนจูและอันดง แต่ก็ยังไม่พบ”

“มีจริงๆเหรอนั่น คนที่ใบหน้าคล้ายกับข้ามาก”

“นายท่านเคยได้ยินเรื่องนี้เหรอเจ้าคะ”

“นานมาแล้วน่ะ แทซัน.... แล้วยังไงต่อ”

“ต่อมา ข้าน้อยก็ได้รับข่าวที่บัณฑิตหน้าหยกส่งมาบอกว่า นายท่านยังไม่ตาย และอยู่ที่ฮันยางนี่ ข้าก็เลยคิดจะกลับฮันยาง ระหว่างทางผ่านร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่เคยเป็นรังโจรของพวกสำนักดาบอสูรมาก่อน ก็เลยแวะไปซะหน่อย”

“สำนักดาบอสูร ซอนัมฮง ที่เคยพ่ายแพ้ให้กับท่านดาบเทพยดาคิมกวางเทคน่ะรึ”

“ขอรับ.......แต่ที่รังโจรนี่ เหลืออยู่ไม่กี่คน พวกดาบอสูรส่วนใหญ่ถูกฮงแทจูกวาดล้างไปตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว”

“เจ้าขุนนางอ้วนนั่น ก็ทำดีเหมือนคนอื่นเค้าเป็นด้วยเหรอ”

“เรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่บัณฑิตหน้าหยกกำลังสืบข่าวอยู่”

“แล้วเรื่องซอนัมซุนล่ะ.......เจ้าเจอเค้ามั้ย”

“ขอรับ........ ข้าได้ยินพวกในร้านคุยกันว่า มีข่าวเรื่องชอนจูสำนักโคมดำยังไม่ตาย แต่ปรากฏตัวที่ฮันยาง แล้วหนึ่งในพวกนั้นจะนำข่าวไปบอกกับซอนัมซุน ข้าก็เลยแอบสะกดรอยตามเจ้านั่นไป”

“เจ้าสะกดรอยตามไป แต่ถูกพวกมันจับได้อย่างนั้นหรือ” กูฮยางเอ่ยถามบ้าง

“ไม่ใช่...... ข้าตามไปจนถึงที่ซ่อนของเจ้านั่น รอให้คนที่ร้านเหล้าแจ้งเรื่องของชอนจูเสร็จแล้ว ก็กะจะหลีกไป เพราะข้าเห็นท่วงท่าของมันแล้ว ก็เกิดไม่มั่นใจจะชนะขึ้นมา”

“นี่หมายความว่า ซอนัมซุนอะไรนั่น รู้ว่าเจ้าแอบซ่อนตัวอยู่” ยออุนสีหน้าครุ่นคิด

“ขอรับ.......ข้าว่าข้าซ่อนตัวดีแล้ว แต่เจ้านั่นกลับได้ยินเสียงก้าวเท้าของข้าเข้า ข้าก็เลยจำเป็นต้องสู้กับเจ้านั่นซักตั้ง”

“ฝีมือมันเป็นไงบ้าง” ยออุนเป็นฝ่ายถาม

“เพลงดาบอสูรร้ายกาจยิ่งนัก ข้าเคยสู้กับเดนตายสำนักดาบอสูรบางคน แต่ไม่มีใครเก่งเท่าเจ้านั่นเลย มันทำร้ายข้าบาดจ็บหลายแผล แต่ก็ยั้งมือให้ และปล่อยข้ามา”

“ทำไมมันไม่สังหารเจ้าซะล่ะ” กูฮยางถามบ้าง

“มันถามคำถามข้า แล้วข้าก็ตอบมัน”

“มันถามเจ้าเรื่องอดีตชอนจูอย่างนั้นหรือ”

“นายท่านทราบได้ยังไงขอรับ....... มันเห็นตราสำนักโคมดำที่ข้าพกติดตัว เลยรู้ว่าข้ารับใช้สำนักโคมดำ แต่ทำไม นายท่านถึงทราบว่า มันสนใจเรื่องของอดีตชอนจูล่ะ”

“เพราะสิบแปดปีก่อน เค้าเคยรอดตายใต้คมดาบของอดีตชอนจูน่ะสิ” ชอนจูหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิด

“คนๆนั้นฝากบอกอะไรมาถึงข้ามั้ย” ยออุนถามต่อ

“ขอรับ.......เจ้านั่น ฝากหนังสือท้าดวลมาให้ขอรับ” พูดจบก็ยื่นจดหมายให้ยออุนฉบับนึง

“แล้วเจ้าซอนัมซุนนั่น ...รู้จักชื่อของนายท่าน หรือเรื่องที่มีใบหน้าคล้ายนายท่านรึเปล่า” กูฮยางถาม

“ข้าไม่แน่ใจ แต่เค้ารู้ว่าอดีตชอนจูตายแล้ว ท่าทางผิดหวังมาก สงสัยอยากแก้แค้น และก็ยังรู้ว่าชอนจูคนใหม่เป็นชายหนุ่มคนนึงที่มีเพลงดาบล้ำเลิศ ซอนัมซุนไม่ได้เอ่ยถามชื่อท่าน แต่เรียกว่าชอนจู ทุกครั้งที่กล่าวถึง ข้าว่า ไม่น่าจะรู้นะ แต่ก็ยืนยันไม่ได้”

“เขาไม่ได้เอ่ยชื่อของข้าในหนังสือท้าดวล แทซัน.............เจ้าพอจะจำเพลงดาบของซอนัมซุนได้มั้ย”

“ได้ขอรับ”

“คืนนี้พักผ่อนรักษาตัวให้ดี พรุ่งนี้แสดงให้ข้าดู ข้าอยากรู้จักดาบอสูรให้มากกว่านี้อีก” พูดจบก็พลิกบันทึกดาบท่องนภาเพิ่มเติม ดูบันทึกการต่อสู้ของอดีตชอนจูกับซอนัมซุนเมื่อสิบแปดปีก่อน ซึ่งมีไม่มาก เพราะสมัยนั้น อดีตชอนจูสามารถเอาชนะซอนัมซุนอย่างง่ายดายเกินไป

“จะบอกเรื่องนี้ ให้ท่านผู้นั้นทราบมั้ยเจ้าคะ”

“รอให้บัณฑิตหน้าหยกสืบเรื่องความสัมพันธ์ของฮงแทจูกับสำนักดาบอสูรมาได้ก่อน ว่าเกี่ยวข้องกันยังไง แอบสืบประวัติซอนัมซุนมาให้ด้วย ว่าคนๆนั้นเป็นใครมาจากไหน”

“ดูนายท่านจะสนใจคนผู้นั้นมากนะเจ้าคะ”

“ข้ามีลางสังหรณ์บางอย่าง............ ความรู้สึกตื่นกลัวแบบนี้ ข้าก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน”

...

..

..




Create Date : 09 สิงหาคม 2557
Last Update : 9 สิงหาคม 2557 0:13:38 น.
Counter : 1290 Pageviews.

3 comments
  
ง่า เริ่มมาได้ 3 ตอน จะต้องออกสู้รบอีกแล้ว แถมคราวนี้ ทำไมเหมือนศัตรูมันมาจากทั่วสารทิศละเนี่ย แถมน่ากลัวๆ ทั้งนั้นเลย เมื่อไหร่อุนจะได้อยู่สงบสุขกับคนอื่นเขาสักที

อ้อ ชอบกูฮยางนะ นางเป็นผู้หญิงที่รัก ซื่อสัตย์และหวังดีกับอุนจริงๆ แถมทั้งเก่ง ทั้งฉลาด
โดย: bee boa วันที่: 9 สิงหาคม 2557 เวลา:0:47:28 น.
  
มีเรื่องมากมายถาโถมเข้ามา อ๊ากกกกกกกกกกก
ติดตามอยู่เน้อ
รีบมาอัพไวๆน๊าาาาา
โดย: pp IP: 27.55.236.235 วันที่: 9 สิงหาคม 2557 เวลา:23:38:52 น.
  
ติดอุนหนึบเลยน้าทงซู..เอาเป็นว่าจะยอมเข้าใจล่ะกัน ว่ากำลังข้าวใหม่ปลามัน😆
โดย: ณ ฟ้า IP: 49.230.67.1 วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:20:25:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niramitr
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สาวก"รักแห่งสยาม"

New Comments