ลูกมอดินแดง: สามปีในฐานะเด็กม.ปลาย ตอนสาม
นอกจากเรื่องเจ็บป่วยแล้วเนี่ยะ เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ ก็เป็นเรื่องประทับใจของเราต่อพี่ๆ สตาฟกีฬาสีน่ะ แล้วก็ต่อไปถึงความสามารถด้านกีฬา จะน่าประทับใจขนาดไหน ก็ลองอ่านดูเองนะ
เรา... กับความสามารถทางด้านกีฬา
ถ้าจะพูดถึงเรื่องของกีฬาเนี่ยะ เราก็เป็นคนนึงแหละที่ค่อนข้างจะมีทักษะ แล้วก็พรสวรรค์ทางด้านนี้ กีฬาอะไรขาดคน ขอให้บอกเถอะ...เราเป็นลงเล่นให้หมด ถ้าเล่นเป็นน่ะนะ เรามาเริ่มนับกันเลยดีกว่าว่าเราเล่นอะไรเป็นมั่ง ...อันแรกเนี่ยะ ก็เป็นการวิ่งแข่งในช่วงงานกีฬาสีโรงเรียน....เราอยู่สีแดง มีสโลแกนว่า Red Indian เสื้อก็น่ารัก แขนสั้นมีหมวก ด้านหลังมีรูปแล้วก็ข้อความว่า Youll never walk alone ซึ่งมาตอนหลังเราถึงรู้ว่าเป็นสโลแกนของทีมลิเวอร์พูลนี่เอง
เราลงแข่งวิ่งเกือบทุกระยะ เว้นมาราธอนเอาไว้ซักอันแล้วกัน แบบว่าเราถนัดแต่การวิ่งระยะสั้นน่ะ ห้าสิบเมตรเนี่ยะ โปรดสุดๆ แล้ว แต่วันนั้นเพราะเห็นใจรุ่นพี่ที่เค้าต้องเตรียมงานกันหนักจนเช้า เราก็เลยแสดงสปิริตด้วยการลงแข่งวิ่ง สี่คูณสี่ร้อย แล้วก็แปดร้อยด้วย รู้สึกว่าจะได้เหรียญทองทั้งคู่น่ะ ส่วนระยะสั้นก็วิ่งกันตามระเบียบ...สรุปได้ว่า กลับไปบ้านนวดเคาน์เตอร์เพนจนไม่ได้นอนเลย แบบว่านวดแล้วก็เย็น แถมเป็นหน้าหนาวอีก...บรื๋อ...ทรมานสุดๆ ตอนอยู่ม.สี่เทอมต้น เรียนว่ายน้ำ อ.โกมล ครูสอนว่ายน้ำ ก็ให้เราว่ายกบให้เพื่อนๆ ดูเป็นตัวอย่าง บอกว่าท่าสวย...เล่นชมกันแบบนี้ สู้ตายค่ะ ...จากนั้นพอเทอมสองเราก็แสดงบทบาทเป็นพิทเชอร์ฝีมือดี มีทีมเป็นของตัวเองว่า Omega แข่งขันระหว่างกลุ่มหาผู้ชนะ แล้ววีรกรรมที่ทำให้พี่ๆ ที่อยู่ข้างสนามโจทย์ขานก็คือ การรับลูกที่ตีออกจากไม้..ด้วยมือเปล่า..ณ ตำแหน่งของพิทเชอร์ ซึ่งเค้าจะรู้กันว่าลูกจะค่อนข้างแรง ไม่มีคนบ้าที่ไหนทำอย่างเราหรอก...แต่ที่ทำเพราะว่ามันเกิดขึ้นเร็วมาก รู้แต่ว่าเราต้องรับลูกนั้นให้ได้ ถ้าไม่ได้ เราก็คงต้องเหนื่อยอีกนาน เพราะพอเรารับได้ก็ครบสามเอาท์พอดี จะเอื้อมมือซ้ายไปรับก็...ไม่ทันซะแล้ว... หลังจากที่มีเสียงดัง ตั้บ...ในสนามเงียบเสียงไปครู่ใหญ่ ...พี่ๆ ที่ซ้อมโยนลูกอยู่ใกล้ๆ หันมามองแบบอึ้งๆ ยังทึ่งตัวเองไม่หายเหมือนกัน ... ฮ่าๆ หลังจากซอฟท์บอล เราก็เล่นวอลเล่ย์, แบดมินตัน(โชคร้ายที่ดันมาเรียนหลังซอฟท์บอล เพราะเราคว้ารับลูกดะเลย ถ้ามันเข้ามาช่วงลำตัว ต้องหัดเอามือไพล่หลังอยู่นานเหมือนกัน), เปตอง ... ตอนนั้นอดเรียนเทนนิส เพราะเค้าเพิ่งทุบสนามสร้างใหม่น่ะ แต่หลังจากนั้น เราก็หัดเล่นเอง ตอนนี้ก็เล่นเป็นเกือบทุกอย่างแล้วนะ ที่เป็นกีฬาคนเดียว แล้วไม่ต้องอาศัยเงินซื้ออุปกรณ์มากนัก
อีกตอนเดียวก็จะจบแล้ว ยังไงก็อย่าลืมติดตามตอนต่อไปล่ะ
Create Date : 24 ตุลาคม 2548 | | |
Last Update : 23 เมษายน 2554 13:25:14 น. |
Counter : 465 Pageviews. |
| |
|
|
|