All Blog
[CR]รีวิว Illamasqua Blush/Lips/Cream Pigmentค่า



สวัสดีค่าทุกๆคน


นี่ก็จะหมดเดือนมกราคมแล้ว ไนซ์เพิ่งรู้ตัวว่าห่างหายจากการรีวิวไปเลย ฮ่าๆ


พอเปิดเทอม เรียนเสร็จกลับมาก็หมดแรงแล้วค่ะ


เรียนตั้งแต่ 8:30-17:30เลยด้วยซ้ำในบางวัน


ที่จริงรีวิวนี้ถ่ายรูปไว้นานแล้ว(อีกแล้ว ฮ่าๆ) แต่ไม่มีเวลาจัดรูปเลย


พออาทิตย์ที่แล้วเริ่มปรับตัวกับการเรียนได้


จึงว่างมาทำรูป จึงเป็นที่มาของรีวิวนี้ค่ะ


ที่จริงจะสอบมิดเทอมแล้ว เลยมารีบรีวิวไว้ก่อน ก่อนที่จะหายไปนานกว่านี้



เอาล่ะ ไร้สาระมาเยอะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ


วันนี้ไนซ์จะมารีวิวแบรนด์ Illamaquaค่ะ


ซึ่งไนซ์ได้ออเดอร์ไปตั้งแต่ช่วงแบล็กฟรายเดย์นู้นนนน


แต่ที่เพิ่งมารีวิว เพราะอยากลองใช้ดูก่อนว่าผลเป็นอย่างไร ฮิๆ(ข้ออ้างชัดๆ)



ไนซ์สั่งมาทั้งหมด 4 ชิ้นนะคะ เป็นบลัชออน1 ลิป2 และ ครีมพิกเม้นต์ค่ะ


เนื่องจากเคยเห่อไว้แล้ว ไนซ์เลยขอยืมรูปเก่ามาเสริมนะคะ 


ขอแปะลิ้งค์ที่เคยเห่อไว้ด้วยค่ะ









[Hual]เห่อรวมๆหลายสัญชาติกับของที่ได้มาในเดือนนี้ต้อนรับปีใหม่ค่า







เริ่มที่ Blush on กันก่อนเลยดีกว่า



Illamaqua Powder Blusher - Tweak


เป็นสีชมพู Hot pink เนื้อแมทต์ค่ะ พิกเม้นต์จัดจ้าน


แตะนิดเดียวปัดได้ทั้งแก้มค่า เบามือกันด้วยนะคะ



มาดูสีกันค่า



ในภาพใช้แปรง Fiber Duoปัดเบาๆนะคะ


เนื่องจากแสงไม่พอ สีที่ถ่ายมาเลยดูไม่ชัดนะคะ


แต่ของจริงพิกเม้นต์จัดมากๆค่ะ


เนื้อบลัชไม่แป้งมากนะคะ ติดทนทั้งวันจริงๆ


สำหรับไนซ์มันทนกว่านาร์ส กว่าแมคอีกค่ะ รักเลยจริงๆ


เสียที่หาไม่ได้ในประเทศไทย นอกจะสั่งจากเว็บเขา หรือพรีออเดอร์ค่ะ


สำหรับไนซ์สั่งเอง จ่ายเอง โดนภาษีเอง สาหัสเหมือนกันค่ะ Smiley



ต่อที่ลิปนะคะ 



Illamasqua intense lip gloss - Move/Frenzy


 (ลอกจากอันเก่า)กลอสรุ่นนี้สามารถทาเดี่ยวๆได้เลย เนื่องจากเม็ดสีแน่นมากจริงๆ


กลบสีปากได้มิดชิด และเนื้อสัมผัสไม่เหนียวมาก แต่ติดทนในระดับนึง



มาดูทีละสีนะคะ


Illamasqua intense lip gloss - Move



จะออกเป็นสีชมพูอมม่วงนะคะ เป็นสีที่ไม่เคยมีในครอบครอง 


สีสวยมากกกกกก ไม่ผิดหวังที่สั่งมาค่ะ


ทาแล้วหน้าไบร์ทมาก ไม่ทำให้ดูฟันเหลืองด้วยค่ะ Smiley


ขออภัยนะคะ ตอนทำรีวิวนั้นไนซ์เป็นหวัด ต้องหายใจทางปาก


ปากจึงแห้ง แตก ลอก มาครบเลยค่ะ ลิปบาล์มอะไรก็เอาไม่อยู่


ซึ่งหลังทาออกมาแล้วก็ไม่ได้ทำให้ปากแห้งขึ้น


แต่สามารถปกปิดรอยแห้ง ร่องปาก แต่ขุยนี่ไม่ไหวจริงๆ ขออภัยอีกรอบค่ะ 



Illamasqua intense lip gloss - Frenzy



สีนี้ในหลอดเป็นชมพูจัดจ้านมาก


พอทาออกมาสีจะอ่อนกว่านิดเดียว ไม่แรงเท่าในหลอดค่ะ 



เทียบทั้งสองสีกับปากเปล่าๆค่า



ทั้งสองสีติดทนมาก เทียบกับลิปกรอสทั่วไปนะคะ


ถ้าไม่ทานข้าว เลียปาก ดื่มน้ำ จูบผู้ชาย ก็สามารถอยู่ได้นานพอสมควร


ไม่ต้องเติมซ้ำบ่อยๆค่ะ



สิ่งสุดท้ายของรีวิวนี้คือ


Illamasqua Cream Pigment - Androgen




(ลอกมาจากอันเก่า)ตัวนี้เป็นพิกเม้นต์เนื้อครีมสารพัดประโชน์ค่ะ



เอามาทาตา ทาแก้ม ทาปากได้หมดค่า



ไนซ์เอามาทาปากได้สีออกนู๊ดๆชมพู น่ารักมากค่า



เนื้อไม่แห้งมากนะคะ ทาปากแล้วแอบเป็นคราบเล็กน้อย



แต่ช่วงนั้นไนซ์เป็นหวัดปากแย่มาก จึงไม่แน่ใจว่าถ้าปกติจะเป็นคราบมั๊ย



เอามาทาแก้มเป็นบลัชก็สวยค่ะ ติดทนในระดับนึง แต่ไนซ์หน้ามันด้วยก็เลยไม่อยู่ทั้งวัน



swarchสีค่า



เนื่องจากเขาออกแบบมาให้สามารถนำมาทาแก้มได้ด้วย


จึงทำให้มีเนื้อแห้ง ทาปากได้แต่ต้องบำรุงดีๆนะคะ


แต่ไนซ์ว่าทาเป็นครีมบลัชแล้วปัดแบบฝุ่นทับเพื่อความติดทนเวิร์คสุดค่ะ



 วันนี้ก็ขอจบการรีวิวเท่านี้นะคะ


เนื่องจากที่ไนซ์สั่งล็อตนี้ไปได้ส่วนลด 15%มา ซึ่งหมดอายุ 16 มกราคมที่ผ่านมา


ไนซ์จึงได้แอบสั่งไปอีก หุหุหุหุ ซึ่งตอนนั้นทางเว็บก็เซลล์อยู่ด้วยเข้าทางไนซ์เลย


เอารูปมายั่วไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวจะมาเห่อเร็วๆนี้ค่า




สวัสดีค่ะ 










Free TextEditor



Create Date : 29 มกราคม 2555
Last Update : 29 มกราคม 2555 23:31:10 น.
Counter : 4432 Pageviews.

5 comment
[CR]รีวิวเปรียบเทียบ 3 พาเลทจากสามแบรนด์ดัง! Sigma/Urban Decay/ThaBalm ค่า



สวัสดีค่าาา เพื่อต้อนรับปีใหม่ปี 2555


ไนซ์ขอทำการรีวิว 3 พาเลทจากสามแบรนด์ดัง


หนึ่งในนั้นก็คือ Naked Palette 1 พาเลทยอดนิยมของสาวๆนั่นเองค่ะ


ซึ่งก่อนหน้านี้ไนซ์เคยรีวิวพาเลทของ ThaBalm Nude Tude' ไปแล้ว


คราวนี้มีโอกาสกลับไปที่หอ จึงไปคว้า Naked1 มา swatch เปรียบเทียบให้ดูกันชัดๆค่า 



เริ่มที่รูปรวมทั้งสามพาเลทนะคะ 



 เรียงจากบนสุดไล่ลงมานะคะ


Sigma Eye Shadow Palette - Dare


Urban Decay Naked Palette 1


ThaBalm Nude Tude' Palette



ขอเริ่มที่ Swatchสีของพาเลท Dareก่อนนะคะ


ตัวที่ไนซ์เพิ่งเห่อไปเมื่อวันก่อนพร้อมกับของอื่นๆ ขออนุญาตแปะลิ้งค์ค่ะ


[Hual]เห่อรวมๆหลายสัญชาติกับของที่ได้มาในเดือนนี้ต้อนรับปีใหม่ค่า


มาดูตัวพาเลทกันเลยค่า




(ขอยืมรูปจากครั้งที่แล้วนะคะ)



สีชัดๆ




 แปรงที่มากับพาเลตค่ะ



เป็นแปรงสองด้านนะคะ เรื่องแปรงของSigmaนั้น ไม่ต้องพูดถึงค่ะ


แบรนด์นี้เค้าดังเรื่องแปรงอยู่แล้ว ตัวที่มากับพาเลทด้านหนึ่งเป็น


E20 เป็นแปรงลักษณะแบนๆ ขนแน่น แปรงลักษณะนี้จะแพคสีตาได้ดี


เพราะสามารถจับเนื้อของอายแชโดว์ขึ้นมาได้ดีค่ะ


อีกด้านเป็น E45 ด้านนี้หัวแปรงจะเป็นทรงโดมนะคะ ตัวนี้ใช้คัดเบ้าได้ดี ขนาดพอดีกับเบ้าตาของไนซ์เลยค่ะ


จริงๆตัวนี้จะคล้ายตัว pencil brush ซึ่งบางคนอาจจะใช้ตัวนี้เขียนวีเชฟและคัดเบ้า


แต่ E45 จะใหญ่กว่า และเข้ากับเบ้าตาได้ง่ายกว่าค่ะ 



มาดู Swatch กันนะคะ



เม็ดสีชัดพอๆกับ UDเลยค่ะ ติดทนดีเลยทีเดียว


ไนซ์ลองทาแบบไม่ใช้อายไพร์มเมอร์ ก็ติดทนทั้งวันนะคะ


และที่สำคัญไม่เป็นคราบที่ชั้นเปลือกตาด้วยด้วย เนื่องจากไนซ์เป็นคนเปลือกตามันมากกกก


ตัวแพคเกจเป็นกระดาษแข็งๆ เหมือนTheBalmค่ะ ตัวล็อคเป็นแม่เหล็ก แป๊ะๆ


แต่มีกล่องให้สอดเข้าไปเพื่อความหนาแน่นมากขึ้น 


สีของแชโดว์จะเป็นสีด้านๆเหลือบๆ ซึ่งบางสีก็ด้านสนิท บางสีก็ออกเป็นเนื้อซาตินค่ะ


ไม่มีกลิตเตอร์หรือวิ้งใดๆทั้งสิ้น เหมาะกับคนที่ชอบอายแชโดว์เนื้อด้านค่า



มาถึงสิ่งที่ทำให้เกิดรีวิวนี้ขึ้นมาดีกว่าค่ะ


คือการเปรียบเทียบระหว่าง TheBalm Nude Tudeและ Urban Decay Naked Paletteนั่นเอง


ขอแปะลิ้งรีวิว TheBalmค่ะ


[Hual+Review]รีวิวสวนกระแส Naked2 ด้วย ThaBalm 'Nude' tude' และเห่อลิป Macด้วยค่า 




 เริ่มจากสีอ่อนก่อนเลยนะคะ



เซตนี้จะออกน้ำตาลอมชมพูอมเทา ฮ่าๆๆ 



มาแยกดูชัดๆนะคะ



จะเห็นว่าแต่ละสีจะไม่เหมือนกันเลยทีเดียว แต่จะไล่ๆ ใกล้ๆกัน


Virgin จะออกขาวมุกเหลือบๆ


Sin กับ Stand-offish สีใกล้เคียงกันมากๆ แต่ Sin จะอมน้ำตาลมากกว่าค่ะ


Stubborn ออกชมพูเหลือบๆนะคะ เอามาทาหัวตาสวยมากค่ะ


ถ้าเอามาไฮไลท์หัวตาระว่าง Virgin กับ Stubborn


Stubborn จะให้สีที่ใส เป็นธรรมชาติมากกว่าค่ะ



สามสีถัดไปค่ะ



สามสีนี้ไม่เหมือนกัน แต่ไนซ์ชอบมากค่า ฮ่าๆ


เอามา Compliment รวมๆกันแล้วสวยสุดๆ



สีด้านของทั้งสองพาเลทค่ะ 



ทั้งสามสีนี้เหมือนไล่สเต็ปมาด้วยกัน ฮ่าๆๆ


สองบริษัทนี้เค้าผลิตมาด้วยกันรึเปล่าเนี่ย


ทั้งความด้าน ทั้งtexture เหมือนกันอย่างกับแกะ ><



 เซตต่อมาจะออกน้ำตาลเหลืองนะคะ



 เซตนี้ใช้เป็นสีที่ไว้ลงตรงช่วงหางตาจนถึงกลางตาจะสวยมากค่ะ


ไนซ์จะลงเพื่อเพิ่มมิติให้ดูตาลึกมากขึ้นก่อนจะใช้สีเข้มกว่าคัดเบ้าค่ะ


หรือใครจะใช้คัดเบ้าเบาๆอ่อนๆก็สวยค่ะ 



เทียบให้ดูจากพาเลทค่ะ 




Smog และ Schitzo สีใกล้เคียงกันมาก แทบจะไม่ต่างกันเลย



เซตสีเข้มค่า




เทียบจากพาเลท 



Silly และ Hustle จริงๆแล้วคล้ายกันมาก เป็นสีอมม่วงทั้งคู่ค่ะ


แต่ถ่ายออกมาแล้วไม่ค่อยเห็น Silly จะเป็นกลิตเตอร์เงิน


ส่วน Hustle วิ้งเยอะกว่า และเป็นกลิตเตอร์สีทองค่ะ



Darkhourse กับ Sophisticated ก็คล้ายกันค่ะ


แค่ Darkhourseจะเหลือบทองมากว่าจึงอ่อนกว่าค่ะ 



สีชัดอีกสักรอบของเซตนี้ค่ะ




และสุดท้ายเป็นสีโทนม่วงที่แอบคล้ายกัน ทั้งๆที่บนพาเลทไม่เหมือนกันเลย



Surrender จาก Dare Paletteนะคะ จากที่ดูจะมีวิ้งเงินเล็กผสมอยู่นิดหน่อย


แต่ตัว Sexy จะเป็นม่วงด้าน ซึ่งSwatchแล้วเหมือนกันโดยบังเอิญ ฮ่าๆ




สรุป : ความเห็นส่วนตัวนะคะ ไนซ์ว่า ThaBalm และ UD สีใกล้เคียงกันมาก


สามารถใช้แทนกันได้เลย เม็ดสีและเนื้อสัมผัสไม่ต่างกันเลย


TheBalmจะมีสีด้านมากกว่า สีสันชัดเจนกว่า ไม่ไล่กันเท่า UD


และตัวนี้ติดอันดับ Top10 of Eyeshadow Palettesของสาว Christine แห่ง temptalia.com ด้วยนะเอ้อ


ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยการันตีคุณภาพของ ThaBalmว่าไม่แพ้ UD เลยนะคะ



ส่วน Sigma Eye Shadow Palette - Dare นั้น ไนซ์ไม่เคยเห็นใครรีวิวมาก่อน


(ไนซ์อาจจะมองข้าม+ดูไม่ครบก็ขออภัยค่ะ)แต่เรื่องพิกเม้นต์และคุณภาพนั้น


ไม่แพ้ทั้งสองพาเลทข้างบนเลยค่ะ ที่ไนซ์ไม่เอาตัวนี้ Swatch เข้าไปด้วยนั้น


เพราะสีคนละโทนกันและtextureต่างกันค่ะ พาเลทซิกม่านี้จะเน้นสีสันเล็กน้อย


textureส่วนใหญ่จะให้ความแมทต์ ซึ่งใช้แต่งทุกวันก็ได้ หรือถ้าอยากเปรี้ยว


เล่นสีแปลกๆบ้างก็ได้ เพราะสีเขาก็ไม่ได้ใช้ยากมาก


อย่างสีเหลือง สีแดง ไนซ์ก็ใช้แต่งหน้ามาแล้ว ซึ่งสีไม่ได้โดดจนน่าเกลียด


เป็นอีกพาเลทที่ใช้ง่ายค่ะ มีทั้งสีเบสิกและสีเปรี้ยวๆให้เลือกใช้



สุดท้ายนี้ไนซ์ก็หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจ หรือตามหาพาเลทที่ใช่อยู่


วันนี้ก็ขอตัวไปพักผ่อนในวันปีใหม่ ก่อนจะเปิดเทอมในเร็ววันค่า


สวัสดีปีใหม่ค่ะ! 















Free TextEditor



Create Date : 01 มกราคม 2555
Last Update : 1 มกราคม 2555 22:45:06 น.
Counter : 9853 Pageviews.

3 comment
[Review]NYX soft matte lip cream ทั้ง 11สี พร้อมswatchค่า^^

สวัสดีค่าาาาาาาSmiley


วันนี้ไนซ์จะมารีวิวของที่ได้มาสักพักแล้ว ทำรีวิวไว้แล้ว


แต่ตอนอยูาเขาใหญ่ไม่มีกล้องค่ะ น้องไอโฟนก็ไม่ค่อบชัด


พอกลับมาบ้านเลยทำใหม่ ถ่ายใหม่ ก็ยังไม่ชัดอยู่ (อ้าวววว)


แต่สีเห็นชัดกว่าเดิมค่า แหะๆๆ


ขอออกตัวเขินก่อนเลยนะคะ ว่าวันนี้จะมาโชว์ปากSmiley ให้ดูกันค่า


ปากอาจจะไม่สวย มองข้ามกันไปนะคะSmiley



มาดูรูปรวมก่อนนะคะ



 เป็นProductของ NYXทั้งหมดนะคะ


ไนซ์ได้ทุกตัวมาจาก Ebayค่ะ พอคำนวนค่าส่งแล้วก็ยังถูกกว่าเว็บพรี


เลยจัดมาเซ็ตใหญ่ เพราะเขาจะลดค่าส่ง ถ้าเราสั่งหลายๆตัวรวมกันค่า


ค่าเสียหายทั้งหมดอยู่ที่ $65.90 ค่า รวมค่าส่งแล้วนะคะ


พอคิดไปคิดมา ก็แพงอยู่ แต่ได้ลิปมา12แท่งกับราคาเกือบสองพัน


แถมมีอายแชโดว์สติ๊กอีก ในความคิดไนซ์ก็ถือว่าคุ้มแล้วค่ะ



มาเริ่มกันที่ NYX Soft Matte Lip Cream ทั้ง 11แท่งก่อนเลยดีกว่า อิอิ



แพคเกจจิ้งส่วนหัวจับเป็นสีดำด้าน ส่วนล่างเป็นพลาสติกใส ดูดี ไม่ก้องแก้งค่ะ



โชว์ตรูดค่า




รุ่นนี้จะมีทั้งหมด 11 สี ไนซ์ก็สั่งมันมาทุกสี เพราะตอนนี้บ้าลิปเนื้อแมทมากSmiley


เอาจากในเว็บมาให้ดูค่ะ





เขาบอกไว้ว่าตัวนี้ไม่ใช่ทั้งลิปสติกและลิปกรอส แต่เป็นลิปเนื้อครีม เอ่อะ! เข้าใจพูด ฮ่าๆๆ



ปาดบนแขนค่า




เอ่ออ พอดีตอนทำรูปสับสน ฮ่าๆๆ ดูสีเริ่มจากทางขวาก่อนนะคะ 


Textureรวมๆ เป็นเนื้อครีมค่ะ สามารถปิดสีปากจริงได้ดี


ต้องใช้เวลาเซ็ตตัวให้แมทค่ะ พอแห้งแมทแล้วจะติดทนอยู่ค่ะ


ไนซ์ยังไม่ได้แต่งหน้าไปไหน เลยไม่มีโอกาสทดสอบความติดทน


แต่โดยรวมชอบค่ะ ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง เนื้อเบาบาง ตอนทาใหม่ๆชุ่มชื่นดีค่ะ



มาดู swatch บนปากกันดีกว่าค่า Smiley


สีปากปกติ



สีปากไนซ์จะมีสีเข้มช่วงบนค่ะ หรือเรียกว่าคล้ำก็ว่าได้ Smiley



สีแรก SMLC01 AMSTERDAM



สีแดง แร๊งงงค่ะ ฮ่าๆๆ เป็นสีที่ไนซ์ชอบเลยค่ะ แดงน้ำเงินไม่ใช่แดงส้ม


สวยค่ะ กลบสีปากมิด ถ้าแมทคงสวยกว่านี้ แต่ไม่ได้รอ ฮ่าๆ



SMLC02 STOCKHOLM



เป็นสีนู๊ด ไม่ป่วยค่ะ กลืนไปกับสีผิว เหมือนไม่ได้ทา ไม่มีปาก เอ่อะ ฮ่าๆ


ธรรมชาตสวยค่ะ



SMLC03 TOKYO



สีชมพูนู๊ดไม่มาก ยังออกชมพูเยอะอยู่ค่ะ ทาแล้วเหมือนสีปากเป็นสีชมพูอยู่แล้ว อิอิ


เม็ดสีไม่แน่นเหมือนตัวอื่น อาจต้องทาย้ำๆหน่อยค่ะ



SMLC04 LONDON




 อันนี้สีในรูปอาจจะไม่ตรงกับสีจริงนะคะ จริงแล้วจะออกเป็นนู๊ดน้ำตาลค่ะ


เหมือนสีปากจริง สำหรับบางคนปากอาจดูคล้ำลงหน่อย แต่พอดีกับปากไนซ์ค่ะ นู๊ดสวยมาก


เหมาะแต่งตาจัดๆ สโมคกี้ฟุ้งๆ ฮ่าๆ สีนี้จะอมน้ำตาลมากกว่าSMLC02 STOCKHOLM ค่ะ



SMLC05 ANTWERP



สีนี้ทาแล้วปลื้มมากค่ะ ดูปากธรรมชาติๆ


แต่กลบสีปากจริงไม่ค่อยมิด ต้องทาซ้ำอีกรอบถึงจะกลบมิดค่ะ ทาแล้วหน้าสว่าง สวย อิอิ



SMLC06 ISTANBUL




 เป็นชมพูอ่อน จะออกชมพูตุ่นๆกว่า SMLC03 TOKYO ค่ะ


 แต่ทาออกมาแล้วไม่ค่อยต่างกัน ฮ่าๆ ถ้าผิวคล้ำหน่อย ไนซ์แนะนำตัวนี้ดีกว่าค่ะ



SMLC07 ADDIS ABABA


 



สีชมพูบานเย็นค่ะ เหมือนสีจะแรง แต่ไม่แรงเท่าในแท่ง ฮา


ถ้าอยากได้แรงๆ สามารถทาทับอีกรอบค่า แต่ทาครั้งเดียวก็สวยแล้ว


แต่ของจริงสีจะแรงกว่าในรูปนิดนึงค่ะ อันนี้ไนซ์เอาทิชชู่ซับเบาๆรอบนึง ได้มาเยี่ยงนี้ค่า



SMLC08 SAN PAULO



ไนซ์ทำรูปสลับกันค่ะ เรียงสีผืดตั้งแต่swatch เลย เหอๆ


เพราะฉะนั้นอย่าสนใจตัวเลขในรูปของให้มองข้ามไป สนใจแต่ปากไนซ์ก็พอค่ะ ฮ่าๆๆ


สีนี้ดูในแท่งจะดูชมอมแดงตุ่น แต่พอทาแล้วสีสดค่ะ สวยมากกกกกกก


เป็นชมพูอมแดงสว่าง ทาแล้วหน้าสว่าง ดูผู้ดี เม็ดสีแน่น จุ่มครั้งเดียวปาดจบ!!


อ่อ! สีนี้ตอนถ่ายกล้องแบตหมด เลยได้ทิ้งไว้นานเลยค่ะ พอแมทแล้วสวยมาก >< 



SMLC09 ABU DHABI




 (รูปนี้ก็ช่วยมองข้ามตัวเลขในรูปไปนะคะ)นู๊ดน้ำตาลอีกแล้วค่ะ สีนี้อมน้ำตาลเข้มสุด


แต่ทาแล้วเข้ากับสีปากไนซ์ได้ดีค่ะ ปากไม่คล้ำ ไม่ป่วย สวยค่ะ ปลื้ม!!!


ชอบสีนี้ที่สุดในโทนนู๊ดน้ำตาลเลยค่า Smiley



SMLC10 MONTE CARLO


 



  ในแท่งดูเป็นสีแดงเลือดหมู แต่พอปาดลงที่ปากจะเป็นชมพูอมแดงเข้ม


เป็นแดงที่เหมาะสำหรับอันเดอร์โทนผิวเป็นสีเหลืองของคนเอเชียค่ะ สวยมากกก


สีจริงจะเข้มกว่านี้นิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับแดงน่ากลัว เหมือนเพิ่งไปทานตับสดมา ฮ่าๆๆ


ทาแล้วสวยค่ะ สีสดมาก เม็ดสีชัดสุดๆ 



สีสุดท้ายค่ะ SMLC11 MILAN




เป็นชมพูตุ่นค่ะ สวยมาก ไนซ์ไม่เคยมีสีโทนนี้เลย เป็นชมพูสว่างที่ออกตุ่นๆ


เอ่อะ สวยค่ะ จบ! ฮ่าๆ เหมือนชมพูที่ผสมสีม่วงนิดนึงอ่ะค่ะ


ทาแล้วแอ๊บเด็กได้เลยค่า Smiley



ทีนี้มาเทียบกันจะๆนะคะ ว่าสีไหนสวยกว่ากัน




จบที่ soft lip cremค่ะ ต่อกันด้วย Matte Lipstick แท่งเดียวที่สั่งมา




เอาสีทั้งหมดในเว็บมาให้ดูกันนะคะ





Swatch ค่ะ ซ้ายสุดนะคะ



 


 


 สีที่ไนซ์เลือกมาคือ MLS04 PALE PINK ค่ะ


เป็นชมพูอ่อนมากๆ บาร์บี้สุด ชมพูอมม่วงชัดเจนค่ะ


เนื้อตัวนี้จะแมทจากแท่งเลยนะคะ เยื้อหนา แต่ไม่แห้งค่ะ ชุ่มชื่นดี



มาดูตอนทาบนปากกันค่ะ



สีจริงจะอมชมพูมากว่านี้นะคะ ส่วนตัวแล้วสีนี้มันไม่เข้ากับไนซ์เลย


แต่เนื้อเขาชุ่มชื้นดี ไม่ทำให้ริมฝีปาก แห้งแตกค่ะ



 ส่วน 


JUMBO EYE PENCIL ทั้งสองแท่ง


เป็นสี JEP620 BRONZE กับ JEP621A PURE GOLD 


 ขอใช้รูปเดิมนะคะ



ไนซ์ลองใช้ทั้งสองตัวแต่งหน้า แบบไม่ใช้อายไพร์มเมอร์


ไนซ์ว่ามันไม่ค่อยติดทนค่ะ หรือเปลือกตาไนซ์มันมากก็ไม่รู้


แต่เม็ดสีแน่นจริงค่ะ สีสวยมาก สองสีนี้เอามามิกซ์กันได้พอดี


เดี๋ยวจะลองใช้อายไพร์มเมอร์ลงก่อน แล้วจะมาบอกกันอีกทีนะคะว่าเป็นอย่างไร




วันนี้ขอตัวไปนอนก่อน ราตรีสวัสดิ์ค่าSmiley



 


 



 




Free TextEditor



Create Date : 01 ธันวาคม 2554
Last Update : 1 ธันวาคม 2554 0:58:48 น.
Counter : 36353 Pageviews.

4 comment
[Review]รีวิวหนีน้ำภาคสุดท้าย 'Lips and Brush'ค่า

มาพบกับรีวิวสุดท้ายของซีรีย์หนีน้ำนะคะ


ภาค 'Lips and Brush' นะคะ


รู้สึกโหวงๆเหมือนกันนะ ว่านี้เป็นภาคต่ออันสุดท้าย ฮ่าๆ


แต่ไนซ์จะพยายามหาอะไรใหม่ๆมารีวิว อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ ><


ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ที่ช่วยเป็นกำลังใจ


และขอบคุณทุกคนที่ชมบล็อคด้วยนะคะ^^



มาเริ่มกันด้วยสิ่งที่หลายๆคนรอคอย


'Lipstick' ค่า 


รวม




โชว์ตัว


เรียงตามตัวเลขเหมือนเคยค่ะ 




1. Dior Addict Lipstick สี 465 Singuliere


2. YSL Rouuge Volupte สี  3 Ultimate Beige


3. Mac Matte Lipstick สี Please Me


4. Bobbi Brown Rich Lip Color SPF12 สี Bare Pink


5. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 012 Sky Pink 


6. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 011 Stormy Pink


7. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 003 Mauve It Over


8. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 004 Pink About It



Swatchค่า




แยกแบบชัดๆนะคะ




1. Dior เป็นสีชมพูน่ารักๆ เนื้อลิปจะกึ่งกลอสนิดๆ ทำให้ทาได้ง่าย ไม่ตกร่อง


เป็นเนื้อ sheer เลยจะดูใสๆ เม็ดสีไม่แน่น ปิดสีปากได้ไม่หมดต้องย้ำหลายๆรอบ


แต่ทาแล้วจะดูกลอสซี่ แบบไม่ต้องทาลิปกลอสทับอีก


ขอบ่นหน่อย(ใครขี้เกียจอ่านข้ามไปตัวต่อไปเลยค่า) ตอนแรกไม่ได้จะเอาสีนี้ แต่อยากได้สีที่ Kate Mossทา


สิ่งที่ดึงดูดไนซ์ให้ไปลองลิปสติกของดิออร์ คือเรียวปากสีชมพูของKate Moss


ไนซ์ซื้อที่อเมริกานะคะ ครั้งแรกที่เข้าไปที่เคาน์เตอร์ มีคนมาดูแลอย่างดีเลยซื้อeye shadow


ที่รีวิวไปภาคก่อนๆ กับลิปสติกรุ่นเดียวกัน แต่คนละสี เพราะสีที่Kate Mossใช้หมด


ไนซ์ก็เออ ไม่เป็นไรใกล้ๆกับมาดูใหม่ พอไปอีกรอบไนซ์กับเพื่อนก็ตระเวณมันเกือบทุกเคาน์เตอร์


ไนซ์ก็เลยแวะดิออร์ซะหน่อย กะจะถามว่าสีที่Kate Moss ใช้สีอะไร ถ้ามีก็กะจะซื้อเลย


พอเดินไปที่เคาร์เตอร์ ก็มีคุณแม่คนนึงใช้บริการแต่งหน้ากับบีเออยู่ โดยที่มีคุณพ่อและลูกชายอีกสองยืนรออยู่ใกล้ๆ


ไนซ์ก็เดินเข้าไปคนเดียวก่อน ไปด้อมๆมองๆ บีเอไม่สนใจไนซ์เลย ตอนนั้นก็คิดว่าโอเคหาคนอื่นก็ได้


มองซ้าย ขวา ไม่มีใครอื่นเลย ไนซ์เลยเดินไปตามเพื่อนมา มองๆลิปติก เอาขึ้นมาปาดที่มือก็แล้ว


เจ๊บีเอก็ไม่สนใจ แต่คุณแม่ที่แต่งหน้าอยู่เหล่มามอง คือตอนนั้นไนซ์รีบด้วย แล้วจะแค่ถามว่า


สีนั้นคือสีอะไร มีรึเปล่า ไม่ทักทายเราซักคำ ไนซ์ก็เลยไม่สนใจหาเองเลยละกัน


หยิบสีโน้นสีนี้มาดู มาเทียบ ด้วยความที่อยากรู้ว่าสีที่เลือกใกล้เคียงกับที่Kate Mossทามั๊ย


ไนซ์เลยปาดลงไปที่ปากตรงๆเลยค่ะ เริ่มโมโหนิดๆแล้วตอนนั้น ฮ่าๆ


คุณพ่อและลูกชาย มองไนซ์ตาค้างเลยค่ะ ไนซ์ฏ็แบบปาด เช็ด ปาด เช็ด


ไม่กลัวปากพัง ฝรั่งมองเรางงเลย เพราะปกติถ้าจะลองบีเอจะเอาลิปไปจุ่มแอลกอฮอล์ แล้วปาดๆก่อนให้เราลอง


ถ้าแค่บีเอหันมาบอกเราว่า รอก่อน แค่นั้นไนซ์ก็จะได้ไปที่อื่นก่อน แต่ชีก็ไม่สนใจ


จนไนซ์ลองจนได้สองสีสุดท้ายที่ใกล้เคียงมา ก็หันไปหาเจ๊แล้วบอกว่า


'ขอโทษนะคะ'เจ๊เหลือบตามามอง พร้อมคุณแม่และครอบครัว


'สีที่Kate Moss ใช้ใช่สีนี้มั๊ยคะ'ชีก็บอกว่าไม่ใช่แล้วหันกลับไป


ไนซ์ก็เลยบอกว่า'งั้นเอาสีนี้'ยื่นออกไปแท่งนึง ควักเงินจ่ายเลย


ชีก็รับเงินไปแล้วไปขออนุญาติคุณแม่มาทำรายการให้เรา แถมยังไม่บอกขอโทษที่ทำให้รอหรืออะไรเราซักอย่าง


 สรุปไนซ์ก็ไม่รู้จนถึงทุกวันนี้ว่าสีที่Kate Mossใช้ในรูปคือสีอะไร -_-''


ไนซ์แบบหงุดหงิดเล็กๆ เพราะบีเอคนอื่นที่นู่นบริการดีมากๆ สุภาพกับเรา ถึงเห็นว่าเป็นเด็ก เฮ้อออ...



2. YSL พูดถึงยี่ห้อนี้แล้ว ต้องพูดถึงแพคเกจจิ้งก่อน หรูหรา อลังการตามราคา


มีช่วงหนึ่งที่สาวๆห้องแป้งรีวิวลิปยี่ห้อนี้ ไนซ์เลยฝากคุณพ่อซื้อ(อีกแล้ว)


พอได้มาตื่นเต้มมาก แทบไม่กล้าปาด แต่ด้วยความอยากสัมผัสว่าเนื้อลิปจะเป็นยังไง


เลยปาดปืดใหญ่ไปที่ปากโดยตรง เนื้อลิปนุ่มมากค่ะ แต่หนา แล้วไม่รู้ไนซ์เป็นคนเดียวรึเปล่า


แต่มันจะมีเม็ดๆที่เนื้อลิปจากแท่งเลยค่ะ ซึ่งทำให้ดูน่าเกลียดเลย


ช็อคมาก! ไหนคนนู้นคนนี้บอกว่าเนื้อเนียน คุณภาพสมราคา แต่สำหรับไนซ์เฉยๆค่ะ


สีสวยจริงแต่ไนซ์ว่าเกลี่ยยากอ่ะ ไม่ค่อยทนด้วย แล้วแอบไม่ชอบกลิ่นด้วย


อ่อ เป็บคราบกระจายเลยค่า แต่ก็ยังไปถอยมาอีกสองแท่ง


เพราะอยากลองว่าเป็นเม็ดๆรึเปล่า สรุปเป็นเหมือนกันค่ะ


ไว้สองแท่งนั้นจะมารีวิวให้ดูวันหลังนะคะ




3. Mac Please Me สีนี้เป็นอีกสียอดฮิตของแมคเลยก็ว่าได้


เป็นชมพูนมเย็นเลยค่ะ ยิ่งทากลอสทับยิ่งสวย รุ่นนี้จะเป็นเนื้อแมท


ซึ่งบางคนบอกว่าแห้งไป แต่ไนซ์ว่าไนซ์ชอบนะคะ บำรุงปากก่อนทาให้ดีหน่อย


ก็จะทาแล้วสวย ติดทนดีค่ะ ไนซ์ทาแล้วไม่เคยตกร่อง ลอก เป็นคราบนะคะ 


พอทาไปมหาลัยแล้ว เพื่อนชอบแซวว่า ไปกินนมเย็นมาเหรอ ฮ่าๆๆ


ลิปแมคนี่แนะนำให้ไปลองที่เคาน์เตอร์จริงๆ เพราะบนปากแต่ละคนสีจะออกมาไม่เหมือนกัน


แล้วแต่สีพื้นของปาก บางสีดูswatchไปอย่างสวย ลองปาดปุ๊บไม่เข้ากับหน้าอย่างแรง


ไนซ์โชคดีที่ได้ไปเล่นที่เคาน์เตอร์ที่อเมริกา ถ้าของไทยคงไม่กล้าเข้าไปลองขนาดนี้ค่ะ เหอๆ



4. Bobbi Brown Bare Pink อยากจะบอกว่าไนซ์ไม่ค่อยมีproductของ bobbi brownเลย


ลิปสีนี้อยากได้เพราะเป็นรีวิวของคุณ Christine ณ Temtalia ทาไว้สวยมาก


เลยเอารูปปากของชี+ชื่อสีไปยื่นที่เคาน์เตอร์ ตอนนั้นขาดสติ ไม่ลองเลย


อยากได้มาก ฮ่าๆ จ่ายเงินไปแบบไม่รู้ตัว ดีนะสีสวย ฮ่าๆๆ


เนื้อตัวนี้ทาง่ายค่ะ ไม่เหลวไม่แมทเกินไป สีออกนู้ดๆ ชมพูค่ะ


ทาแล้วไม่ป่วย เป็นสีที่ทาได้กับการแต่งหน้าทุกแบบ ใสๆก็ได้ smokyก็ดี


ติดทนในระดับนึงเลยนะคะ ไนซ์พกสีนี้ติดกระเป๋าทุกวัน เพราะรักมากค่ะ


ตอนนี้เลยอยากลองสีอื่นของ bobbi brown เพื่อนๆแนะนำได้นะคะ ^^



สีที่เหลือค่า



 เป็นของ Revlonทั้งหมดนะคะ ไนซ์เคยลองรุ่นอื่นแต่ก็ไม่ชอบเลย


แต่อยู่ๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็อยากได้ลิปสีแดงแมทต์ๆ เลยไปเดินตามหาในแบบที่ราคาย่อมเยา


เลยไปได้รุ่นนี้มาค่ะ พอมาแท่งนึงแล้วมันก็มาเรื่อยๆ เพราะชอบในความแมทต์และติดทน


สีแรกที่ไนซ์ซื้อไม่ได่อยู่ในสี่ตัวนี้ค่ะ เป็นสีแดงเข้มซึ่งทาตั้งแต่เช้า เย็นปากยังแดงอยู่เลยค่ะ


ผ่านการทานอาหาร ทานน้ำสารพัด แต่ติดทนมาก เลยได้ไปถอยสีอื่นมาด้วยตามนี้เลยค่ะ



5. Revlon 012 Sky Pink เป็นสีชมพูอ่อน สีนี้ไม่ค่อยได้ทาค่ะ หาโอกาสทายาก


เพราะจะดูซีดไปค่ะ ถ้าแต่งsmoky แล้วอยากได้ลิปโทนชมพูสีนี้เหมาะมากค่า



6. Revlon 011 Stormy Pink สีนี้ซื้อเพราะอยากเป็นปรุงฉัตรกับเค้าอีกคน ฮ่าๆ


ช่วงนั้นสีอะไรแรงๆ เห็นแล้วหยิบใส่ตระกร้าเลยค่า แต่สีนี้ทาแล้วทาแอบดูคล้ำค่ะ


ทำให้ดูฟันเหลืองด้วย >< แต่สวยค่ะ ไนซ์ต้องแต่งหน้าแบบเพื่อที่จะทาสีนี้โดยเฉพาะเลยค่า ฮ่าๆ



7. Revlon 003 Mauve It Over เป็นสีนู้ดที่สวยมว๊ากอีกสี และติดกระเป๋าไนซ์ตลอด


คู่กับBobbi brownเลยค่ะ เพราะbobbi brownจะอมชมพู แต่ตัวนี้เป็นอมส้มค่ะ


จะทาได้ง่ายกว่า และติดทนกว่าค่ะ เพราะส่วนใหญ่ไนซ์แต่งหน้าโทนน้ำตาล


สีนี้จะขึ้นมากค่ะ นู้ดแต่ไม่ป่วย สวยไปอีกแบบค่า



8. Revlon 004 Pink About It นี่ก็อยากปรุงฉัตรอีกสีค่ะ


แต่ช่วงนี้ใช้แทบทุกวัน เพราะสีสวยมากค่ะ เป็นชมพูแดงที่ยังชมพูอยู่


ใครชอบสีสดๆ แนะนำเลยค่ะ ทาแล้วหน้าสว่าง ดูแรงแบบผู้ดีค่ะ ฮ่าๆ


 ทาครั้งนึงแล้วจะติดใจ >3<



ต่อไปเป็น Lip gloss กับ Lip Liner




1. No7 Line&Define Lip Pencil สี 05 Plum


2. Lifeford Paris Hi-Style Lip Liner สี LL 210


3. Lifeford Paris Hi-Style Lip Liner สี LL 280


4. Maybelline New York Colorsensational Lip stain สี 95 Touch of Toffee


5. Etude Apricot Stick สี 7


6. Mac Cremsheen Glass สี Right Image


7. Nars Lip Glass สี Deep Throat



swatch




1. No7 Plum ตัวนี้ซื้อเพราะไปซื้อสีที่พี่โมเมใช้ไม่ทัน แล้วอยากได้สีม่วงพลัมขึ้นมา ฮ่าๆ


สีชัดเจนค่ะ พลัมสวย ติดทนเพราะเป็นลิปไลเนอร์ ค่อนข้างแห้ง


แต่ไนซ์ชอบแบบแมทต์ๆอยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาค่ะ



2. Lifeford LL 210 หลายคนอาจจะไม่เคยใช้ลิปไลเนอร์ของยี่ห้อนี้


แต่ไนซืชอบไปด้อมๆมองๆ รออายไลน์เนอร์ของเขา เลยได้ตัวนี้มาลองค่ะ


ราคาไม่แพง คุณภาพดีเลยค่ะ เนื้อจะชุ่มชื่นกว่า No7 แห้งแล้วก็ติดทนพอๆกันค่า



3. Lifefordr สี LL 280 ตัวนี้ไนซ์ซื้อเพราะจะเอามาลงก่อนทาปากแดง


ให้ติดทนยิ่งขึ้น แบบทาเช้ายันดึก ฮ่าๆๆ



4. Maybelline New York Touch of Toffee เป็นลิปสเตนนะคะ


หัวเป็นแบบเมจิก เขียนแรกๆจะติดชัด แต่สีอ่อนค่ะ ต้องย้ำๆ พอแห้งแล้วสีจะเข้มกว่า


เลยแดงเกินจำเป็นทุกที่ -''- พอแห้งแล้วจะแห้งมาก ปากจะแห้ง แบบเป็นร่องเลยค่ะ


ถ้าไว้ทาเป็นทิ้นต์ก็จะเวิร์คกว่าค่ะ สวยเลย มีหลายสีให้เลือกนะคะ


เป็นอีกตัวที่ไม่มีขายในไทยค่า



5. Etude Apricot Stick สี 7 เป็นลิปแท่งแบบหมุนๆ เนื้อเหมือนลิปมันค่ะ


ทาเดี่ยวๆก็สวย แต่ไม่ติดทน ตอนทาจะชุ่มชื่นดี แต่ซักพักจะทำให้ปากแห้งค่ะ


มีให้เลือกหลายเฉด ไว้ทาในวันแต่งหน้าเบาๆ สวยค่า



6. Mac Right Image ไนซ์ไปได้ตัวนี้มาจากoutletเลยถูกกว่าปกติ


สีสวยมาก ทาคู่กับ please me ยิ่งสวยค่ะ


กลบสีปากได้มิด และติดทน เนื้อเหนียวๆค่ะ แต่รับได้


ทาแล้วปากน่าจุ๊บมาก



7. Nars Deep Throat เป็นสีชมพูมีกลิตเตอร์ทองวิ้งๆ สวยค่ะ


ทาเดี่ยวก็สวย ทาทับก็ยิ่งสวย ติดที่เนื้อเหนียวไปหน่อย หนึบๆ


ไนซ์เลยลงเฉพาะกึ่งกลางปากทั้งบนล่างแล้วเม้มให้ทั่วๆเอาค่ะ


ทาทั้งปากไม่ไหวค่ะหนึบไป 



ต่อกันที่ Brushนะคะ



เป็นของSigmaส่วนใหญ่ค่ะ set 12 Brush Kit - Make Me Crazy - Black ไปถึงอเมริกาพลาดได้ไงกัน อิอิ


ไนซ์สั่งตอนที่มีโปรเกิน $100 จะfree shipping เลยเสียแค่ค่า taxเพิ่มนิดหน่อย


แหะๆ มาแบบไม่ได้ล้างกันเลย ปกติไนซ์ล้างอาทิตย์ละสองครั้ง


แต่ไม่ทันได้ล้างก็ต้องอพยพซะก่อน เลยรวบมาทั้งกระบอกเลยค่ะ ฮ่าๆ 



ไนซ์แยกรีวิวเป็นแป้งสำหรับหน้าก่อนนะคะ



จากบน


Sigma Large Powder - F30


แปรงพุ่มใหญ่สุด ไนซ์ไว้ใช้ปัดแป้งฝุ่นค่ะ ไนซ์ว่าขนแปรงเขายังกระด้างไป


แอบบาดหน้านิดหน่อยค่ะ พออาบน้ำแล้วแห้งช้า เพราะขนแปรงหนา แอบมีกลิ่นสาบนิดหน่อย


เป็นตัวที่สีตกเยอะที่สุดค่ะ ตกทุกครั้งที่ล้างเลย



Sigma Duo Fibre - F50


แปรงสารพัดประโยชน์ค่ะ ไว้ลงรองพื้นก็ได้ ปัดแก้มก็ดี ไฮไลท์ก็ได้


ไนซ์เอาไว้ปัดแก้มค่ะ เพราะจิกบลัชได้ดี แต่สู้แมคไม่ได้ค่ะ



Mac 187


คุณสมบัติเหมือน Sigma F50 แต่คุณภาพดีกว่าค่ะ ขนแปรงนุ่มกว่า


จิกบลัชดีกว่า พุ่มเล็กกว่าทำให้ควบคุมได้ง่ายว่า


 ไนซ์ชื้อแมคมาก่อนเป็นปี ล้างไม่บ่อยเท่าซิกม่า แต่ขนแปรงแมคยังขาวสวยอยู่


แต่ซิกมาเพิ่งได้มาไม่นาน เริ่มล้างสีบลัชไม่ค่อยออกละค่ะ แต่ในภาพไม่ได้ล้างนะคะ แหะๆ 


ไนซ์เอาซิกม่ามาใช้เพราะราคาถูกกว่า และอยากถนอมแมคด้วย


ไนซ์ซื้อราคาเต็มที่เคาน์เตอร์พาราก้อนเลยค่ะ บีเอจะดุจะจิกไนซ์ไม่สน


เดินเข้าไปบอกเลยว่า จะเอา187ค่ะ เขาก็ไปหยิบ จ่ายเงิน จบ ฮ่าๆๆ



เปรียบเทียบขนาดให้ดูค่ะ




หน้าตัด



ของแมคจะเล็กกว่านะคะ และสังเกตได้ว่าขนแปรงจะแน่นกว่าด้วย ^^



Sigma Medium Angled Shading - E70


เป็นแปรงหัวเฉียง รับกับรูปหน้า ขนแปรงสีขาวเลยค่ะ


ไว้เฉดดิ้งหน้าให้ดูเรียวค่า



Sigma Foundation - F60


แปรงแบนใหญ่ ไว้ลงรองพื้นค่ะ ขนแปรงแน่น สปริงตัวได้ดี


ทำไงลงรองพื้นง่าย รวดเร็ว ไม่เปื้อนมือ แต่ไนซ์ก็ยังชอบใช้นิ้วลงรองพื้นมากกว่าอยู่ดีค่า^^



Sigma Concealer - F70


แปรงแบนขนาดเล็ก ใช้ลงคอนซีลเลอร์ในจุดเล็กได้ทั่วถึง


ทำความสะอาดง่ายค่ะ ใช้แล้วทาคอนซีลเลอร์ได้เนียนกว่าใช้นิ้วมือค่ะ




ตานะคะ




Sigma Tapered Blending - E40


แปรงทรงพุ่ม ไว้คัดเบ้าตา และเกลี่ยๆให้เข้ากันค่ะ



Large Shader - E60


แปรงทาตาขนาดใหญสุด ไว้ลงอาาโดว์ในพื้นที่กว้างเช่นเปลือกตา


ตัวนี้ไนซ์ไม่เคยใช้เลย ฮ่าๆ เดี๋ยวจะบอกทีหลังว่าใช้ตัวไหนค่า



Eye Shading - E55


แปรงทาตาตัวเฉียง ไว้คัดเบ้าก็สวยค่ะ ใช้ง่ายแต่ขนาดใหญ่ไปสำหรับสาวเอเชียอย่างเรา


ทำให้ได้เบ้าตาใหญ่ไปนิด ฮ่าๆ



Medium Angled Shading - E70


แปรงทาตาขนาดกลางค่ะ ขนแน่นที่สุด


ไนซ์ไว้ใช้แพคอายชาโดว์ในขั้นตอนแรกหลังจากลง eye primer เพื่อความติดทนด้วยค่ะ



Sivana เบอร์ 4


ตัวนี้ซื้อมานานจนจำไม่ได้ แต่ใช้มาตลอดตั้งแต่ยังแต่งตาไม่เป็นค่ะ


ซื้อมาในราคาถูกมากกกก ขนแปรงสปริงดี แน่นมาก


ล้างมาหลายรอบไม่มีร่วงค่ะ ถือว่าเป็นแปรงที่ทนมาก 



 และทุกวันนี้ก็ยังใช้ตัวนี้อยู่ค่ะ ช่วงที่ไม่มีsigma ก็ใช้ตัวนี้คัดเบ้าได้


สารพัดประโยชน์มาก รักมากๆค่ะ ใช้ทุกวัน ทุกครั้งจนตัวหนังสือเลือน



Sigma Small Angle - E65


แปรงตัวตัด แบนๆ เหมาะสำหรับใช้วาดอายไลนเนอร์ แต่ไนซ์ไม่ใช้อายไลน์เนอร์แบบครีม


เลยเอาอายชาโดว์ผสมน้ำแล้วใช้ตัวนี้วาดเป็นไลน์เนอร์แทนค่ะ


วาดได้เส้นเล็ก เรียว ขนนุ่มค่ะ


ตอนแรกจะเอาไปทำแปรงปัดคิ้ว แต่ขนนุ่มไป ปัดคิ้ดไม่ติดค่ะ



 Sigma Pencil - E30


แปรงทรงพุ่มเล็ก หรือแปรงปลายดินสอ ขนแปรงจะเป็นสีขาวล้วนค่ะ


ใช้คัดเบ้าก็ได้ เขียนอายชาโดว์ตรงlower lashก็สวย


ไนซ์จะใช้ในสองที่ที่กล่างมาค่ะ แต่ส่วนใหญ่ใช้แตะอายชาโดว์มาเขียนตรงlower lashค่ะ



Sigma Eyeliner - E05


 เป็นแปรงสำหรับอายไลนเนอร์ เป็นอีกตัวที่ไม่เคยใช้ค่ะ


เลยไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้



Sigma  Blending - E25


แปรงสำหรับเบลนอีกตัว ตัวนี้ได้แถมมาค่ะ ไนซืชอบตัวนี้มากว่าตัว E40 ในเซตเค้าอีกค่ะ


ตัวนี้ที่จริงขนแปรงเป็นสีขาวล้วนนะคะ แต่ไนซ์ไม่ได้ล้าง ฮ่าๆ


ตัวนี้ใช้คัดเบ้าค่ะ พุ่มเขาจะเล็กกว่าตัวE40 จะเข้ากับสาวเอเชียที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีเบ้าตาชัดอย่างฝรั่งค่ะ


 แปรงตัวนี้เข้ากับเบ้าตาไนซ์เป๊ะ ทำให้การคัดเบ้าเป็นเรื่องง่ายและทำได้อย่างรวดเร็วค่า



เทียบให้ดูค่า



ไนซ์จะใช้ตัวสีขาวคัดเบ้า แล้วใช้ตัวสีดำใหญ่เบลนๆให้เข้ากันให้ทั่วค่า^^



 โฉมหน้าแปรงที่ใช้บ่อยนะคะ ใช้คู่กันทุกวัน><







ในที่สุดก็หมดแล้วค่า


ขอจบรีวิวซีรีย์หนีน้ำไว้เท่านี้ค่า








Free TextEditor



Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 20:33:58 น.
Counter : 5551 Pageviews.

3 comment
[Review]รีวิวหนีน้ำภาค 'ผลิตภัณฑ์Eye brow, Blush on' สั้นๆง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยสาระค่ะ(ฮา)

สวัสดียามดึกค่า ^^


ไนซ์อัพBlogเวลานี้ตลอดเลย ฮ่าๆ เพื่อนๆส่วนใหญ่ก็หลับกันไปหมดแล้ว


ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่เหงา T^T อัพBlog เงียบๆคนเดียวต่อไป



วันนี้ก็กลับมารีวิวซีรียส์หนีน้ำกันต่อนะคะ ยาวมากเลย ><


หลายๆคนรอคอยรีวิวลิปสติก เสียใจด้วค่ะ ฮ่าๆ วันนี้ไนซ์จะรีวิว ผลิตภัณฑ์Eye brow, Blush on


สั้นๆง่ายๆสั้นๆง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยสาระค่ะ ฮ่าๆ


พออัพหลายๆวันติด เริ่มไม่มีเรื่องจะเล่า -''- ไม่เป็นไร


เรารู้ว่าคุณไม่สนใจเรื่องเรา ไปดูรีวิวเลยดีกว่าค่ะ ^^ 



Eye brow นะคะ



1.  Kate Eyebrow color สี LB-1


2. Canmake  Eyebrow Liquid สี 02


3. Rimmel Professional Eyebrow Pencil สี 002 Hazel


4.,5.,6. Kate Designing Eyebrow N



Swatch




1.  Kate ตัวนี้เป็นแบบเจลมาสคาร่า สีออกทองๆ น้ำตาลแดง ตัวนี้ไนซ์ไม่ค่อยได้ใช้


ปัดไม่เป็น ฮ่าๆ ปัดทีไรเลอะทุกที ถ้าวันไหนเวลาเยอะถึงจะปัดค่า


ข้อดี: สามารถย้อมสีคิ้ว(ชั่วคราว)ให้เข้ากับสีผมได้ ติดทนทั้งวันกันน้ำกันเหงื่อและหาซื้อง่ายค่ะ


ข้อเสีย: ปัดยาก(สำหรับไนซ์) แอบเป็นก้อนเล็กๆ มีสีให้เลือกน้อยด้วยค่ะ มันทองไปสำหรับสีผมไนซ์ 



2. Canmake ตัวนี้เป็นปากกาเมจิก เวลาเขียนแรกๆสีจะเข้มค่ะ เขียนไปเขียนมาอ่อนลงเรื่อยๆ ฮ่าๆ


ข้อดี: ใช้ง่าย ติดทนทั้งวัน สะดวกในการพกพา


ข้อเสีย: ตรงปลายหัวจะเป็นขุยๆออกมาเวลาใช้ไปนานๆ ตอนแรกที่สีเข้มนั้น จะทำให้คิ้วดูแข็งค่ะ


แต่พอจางลงแล้วจะเป็นธรรมชาติมากขึ้น  



3. Rimmel ตัวนี้ไปพบรักกันที่อเมริกาค่ะ ตอนนั้นเพิ่งหัดเขียนคิ้ว อยากได้เป็นดินสอ


แล้วไปซื้อไลน์เนอร์ยี่ห้อเดียวกันพอดี เลยเอามาลองค่ะ พอใช้ไปถูกใจมากๆๆๆๆ


ก่อนกลับเราเลยไปซื้อมาตุนตั้ง 5-6แท่ง ฮ่าๆๆ แพคเกจจิ้งเป็นดินสอเหลาๆค่ะ


ตรงปลอกมีที่ปัดคิ้วให้ด้วย 


ข้อดี: ใช้ง่ายค่ะ เนิ้อนุ่ม ติดทนทั้งวัน มีแปรงไว้ให้เกลี่ยๆ ตอนหลังเขียนค่ะ


จะช่วยให้คิ้วดูไม่เป็นเส้นและเป็นธรรมชาตฺมากขึ้น มีให้เลือกหลายสีหลายโทนเลยค่ะ


อ่อ แท่งนึงใช้ได้นานมากค่ะ ไนซ์ใช้มาตั้งแต่ปลายมีนาตอนนี้ยังเหลาไปไม่ถึงครึ่งแท่งเลยค่ะ


จะบอกว่าใช้ทุกวันเลยจริงๆ แบบวันไหนไม่มีคิ้วออกข้างนอกก็ไม่ไหวน้า


ข้อเสีย: ไม่มีกบเหลามาให้ ไนซ์เดินตามหานานมากกว่าจะได้กบเหลา


ไปเจอของ oriental princess เลยซื้อมาสองเลยค่ะและไม่มีขายในไทยค่ะ


นอกจากนั้นหาข้อเสียไม่ได้จริงๆ รักมากกกกก ถ้าใช้หมดแล้วจะไปหาจากไหนได้เนี่ย ><



4.,5.,6. Kate ตัวพาเลทที่หลายๆคนรู้จักกันดี เป็นแบบฝุ่นนะคะ ตัวพาเลทมีสามสี


สามารถมิกซ์ได้ว่าจะเอาส่วนไหนสีอะไร มีแปรงให้ด้วยค่ะ แปรงมีสองหัวเหมาะสมสำหรับการใช้งาน


ข้อดี: หาซื้อได้ง่าย มีหลายสีในหนึ่งตลับ ทำให้controlได้ว่า ตรงไหนจะเอาสีอะไร


ไนซ์จะใช้สีเข้มตรงส่วนกลางไปถึงหางคิ้ว ช่วงหัวคิ้วจะใช้สีกลางค่ะ ส่วนสีอ่อนสุดจะใช้ไฮไลท์ใต้โหนกคิ้วค่ะ


แล้วเอาแปรงส่วนที่ฟูแตะสีที่หนึ่งทับๆเกลี่ยทั้งคิ้วอีกทีเพื่อความธรรมชาติค่ะ


 ไนซ์อยากจะบอกว่า พาเลทคิ้วนี้สารพัดประโยชน์มากค่ะ ใครไม่มีNaked Pallet


แต่อยากคัดเบ้าตาแบบพี่โมเม Kateพาเลทนี้จัดให้ค่ะ ไนซ์เอามาทำแทนอายชาโดว์เวลานึกอะไรไม่ออก


เนื่องจากทั้วสามสีเป็นเนื้อแมทต์ เลยให้ลุคธรรมชาติค่ะ เราสามารถเอามาคัดเบ้าเบาๆได้เลย


โดยที่ใช้สีอ่อนสุดลงทั้งเปลือกตา แล้วเอาสีกลางลงจากหางตาถึงกลางเปลือกตา


และสุดท้ายเอาสีเข้มสุดลงไปที่ Brow-boneค่ะ เสร็จแล้ว คัดเบ้าเบาๆง่ายๆเลยค่ะ


วันไหนไนซ์ขี้เกียจหยิบNaked มาใช้ ก็ใช้เจ้าตัวนี้ค่า อีกประโยชน์นึง ที่สาวๆไม่มีดั้งพลาดไม่ได้


คือเอามาไฮไลท์ดั้งค่า ไฮไลท์สีเข้มสุดตรงข้างจมูก แล้วเอาสีอ่อนสุดไฮไลท์ตรงกลาง


เราก็จะได้ดั้งที่ไม่ต้องศัลยกรรมแล้วค่า อ่อ แล้วยังมีกระจกในตัวด้วนนะคะ


แอร๊ย ข้อดีเยอะมาก มาต่อกันที่ข้อเสียเลยค่า


ข้อเสีย: ไม่ค่อยติดทนค่ะ เนื่องจากเป็นแบบฝุ่น เลยต้องพกไว้เติมค่า


เดินๆช้อปปิ้งอยู่ดีๆ คิ้วหายก็ไม่ไหวน้า >< นอกจากจะหามาสคาร่าใสมาปัดทับ ซึ่งไนซ์ไม่มี ฮา



มมต่อกันที่ Blush on ค่า


รวมนะคะ




เรียงตามตัวเลขนะคะ





1. Nars Blush สี Angelika


2. Mac Sheertone Blush สี Coygirl


3. Chanel Les Tissages de Chanel Blush Duo สี 17 Tweed Fuchsia


4. Chanel Joues COntraste สี 67 Rose Tourbillon


5. Nars Blush สี Deep Throat(From I'll survive set


 6. Mac Mineralize Blush สี Warm Soul



ไนซ์จะswatch แนกตามโทนสีนะคะ


เริ่มที่สีโทนชมพูก่อนเลย




1. Nars Angelika สีชมพูอ่อน สีสวยมากค่ะ มีกลิตเตอร์เงินเล็กๆ เป็นสีชมพูที่ทาแล้วได้ฟีลใสๆ เด็กๆ


ทาแล้วแอ๊บเด็กได้เลยค่า จะชมพูอมมางมากหน่อยนะคะ ความติดทนก็สไตล์Narsค่ะ


ติดทนนาน แต่หน้าไนซ์มันเร็วจึงต้องปัดตอนเช้าเข้มหน่อย ก็จะติดไปถึงเย็นค่า



2. Mac Coygirl จะเป็นสีชมพูหม่นๆ อมม่วงมากกว่า Angelika เนื้อด้านค่ะ


เป็นชมพูที่สุภาพ หม่นๆ ดูเป็นชมพูแบบผู้ใหญ่ค่ะ เรื่องความติดทน


ไนซ์ว่าหน้าไนซ์ Mac ติดทนกว่า Narsค่ะ แต่เม็ดสีนี่ให้เต็มทั้งสองแบรนด์เลยค่ะ



3. Chanel Tweed Fuchsia เป็นบลัชChanelอันแรกที่ได้มาครอบครอง ซื้อเคาน์เตอร์พารากอนเลยค่ะ


ใจกล้ามาก ฮ่าๆ ตอนแรกไม่ได้กะจะไปเอาตัวนี้ แต่อยากได้ลิปกรอสสีนึง เลยไปลองสีที่เคาน์เตอร์


ปรากฏว่าพี่บีเอคนนั้นดีมาก ลองแป้ง แต่งให้ไนซ์ใหม่หมดเลย แบบเดินไปอย่างโทรม


ขอลองลิปอย่างเดียว แต่แต่งให้ใหม่หมด ประทับใจมาก เลยเอาบลัชตัวนี้ที่เขาปัดให้มาด้วย


พี่เขาน่ารักจริงๆ ไนซ์เดินไปกับน้องชาย แบบงงๆ แต่งตัวก็เสื้อยืดขาสั้น เขาดูแลดีมากจริงๆ แถมเทสเตอร์ให้เยอะด้วย


มาพูดถึงบลัชดีกว่า ตัวนี้เม็ดสีแน่นมากๆ ปัดนิดเดียวก็ติดละค่ะ มือหนักหน่อยอาจจะเป็นตรูดลิงได้เน้อ


เป็นสีชมพูอมแดงค่ะ ปัดแล้วได้แก้มชมพูแดงๆ เนื้อแข็ง ต้องใช้แปรงที่จิกบลัชดีๆหน่อย


ติดทนมากๆๆๆๆ ทนกว่าNarsอีกค่ะ(สำหรับไนซ์) แถมยังมีแปรง มีกระจก มีซองกำมะหยี่ให้ เลิศค่า



4. Chanel Rose Tourbillon ตัวนี้ได้รีวิวไปรอบนึงแล้ว ครั้งนี้เอามาเทียบสีให้ดูค่ะ


สีจะอมแดงน้อยกว่า Tweed Fuchsia แต่รุ่นนี้เนื้อจะเนียนกว่าค่ะ ปัดง่ายกว่า


จิ้มนิดเดียวก็ติดละค่า เนื้อติดแปรงง่ายมาก ไนซืจิ้มแล้วปัดเบาๆก็ชมพูสวยละค่า


ตัวนี้ได้มาใหม่ ยังไม่ค่อยได้ใช้ ติดใจของเก่าอยู่ ฮ่าๆ



ต่อที่สีโทนส้มนะคะ




5. Nars Deep Throat(From I'll survive set) จะเป็นสีชมพูอมส้ม แบบพีชๆ


มีเหลือบทองเล็กๆ สีสวยมว๊าก แบบปัดได้ทุกวัน เพราะไนซ์ชอบแต่งตาสีน้ำตาล


สีพีชเลยเข้ากันได้ดีค่ะ ถ้าวันไหนแต่ง smokyละก็ ปัดสีนี้เกิดเลยค่า


ตอนนี้ปัดสีนี้บ่อยสุดแล้ว รักมาก รักกว่า Orgasmอีก >< 



 6. Mac Warm Soul ตัวนี้จะเป็นMineralize Blushค่ะ ปัดแล้วดูใสๆ


ธรรมชาติ ไม่หนักมาก แต่เม็ดสีแน่น ติดทนค่ะ จะเป็นสีส้มออกน้ำตาลหน่อยๆ


มีวิ้งทองประปราย ปัดตัวนี้แล้วไม่ต้องลงไฮไลท์เลยค่า วิ้งสวยแล้ว



จบภาคนี้เท่านี้ค่า นอนดึกทุกวันเลย เด๊๋ยวจะมาต่อภาคสุดท้าย อิอิ


รอติดตามกันนะคะ ^^ 








Free TextEditor



Create Date : 31 ตุลาคม 2554
Last Update : 31 ตุลาคม 2554 4:03:24 น.
Counter : 3648 Pageviews.

2 comment
1  2  3  

Niceiez
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



follow me on twitter : twitter.com/niceiez
or
Instragram : niceiez