Group Blog
 
All blogs
 
วิกฤติอสังหาฯสหรัฐอเมริกาไตรมาส 3 ยังทรุดต่อเนื่อง


เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุด ผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งระบุว่ายังคงตกต่ำต่อเนื่องในไตรมาส3

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า ผลการสำรวจล่าสุดของสหรัฐอเมริกา พบว่า ตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ยังคงตกต่ำต่อเนื่อง สะท้อนความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงตกต่ำ ทำให้เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวต่อไป ปรากฏการณ์อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

จากการติดตามสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐอเมริกา ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่าราคาบ้านลดลง 1.6% ในไตรมาสที่ 3 (กันยายน 2553) เทียบกับไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้เป็นผลการสำรวจของสำนักงานเคหะการแห่งสหรัฐอเมริกา

เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว หรือในรอบ 1 ปี ราคาบ้านลดลง 3.2% ซึ่งถือเป็นการลดลง 3 ปีต่อเนื่องกันในสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2551 ลดจาก ปี 2550 ถึง 6.9% ปี 2552 ลดจากปี 2551 อีก 4.0% ราคาบ้านที่ลดลง 3.2% ในปี 2553 นี้ ในความเป็นจริงลดลงถึง 5.2% ทั้งนี้เพราะว่าในกลุ่มสินค้าอื่นในสหรัฐอเมริกากลับเพิ่มขึ้นถึง 2.0% ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าราคาบ้านลดลงถึง 5.2%

สำหรับในรายละเอียดรายเดือนพบว่า ราคาบ้านในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ก็ลดลง 0.7% ส่วนในเดือนก่อนหน้า (กรกฎาคม - สิงหาคม) ราคายังคงที่คือ 0% ราคาบ้านในเดือนกันยายนที่ลดลงมากนั้น ลดลงทุกภูมิภาค ยกเว้นภูมิภาคเดียวคือ ราคาบ้านในเดือนกันยายนที่ลดลงมากนั้น ลดลงทุกภูมิภาค ยกเว้นภูมิภาคเดียว คือภูมิภาคตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ในมลรัฐอินดีแอนา เคนทักกี เทนเนสซี มิสซิสซิปปี และ จอร์เจีย

หากพิจารณาในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ก็จะพบว่ามลรัฐ เมน ออริกอน ไอดาโฮ เนวาดา แอริโซนา เซาท์แคโรไลนา จอร์เจีย ฟลอริดา และ ฮาวาย ราคายังคงตกต่ำประมาณ 6-10% ซึ่งอยู่ในสถานะย่ำแย่ที่สุด ส่วนที่แคลิฟอร์เนียที่ตกต่ำหนักสุดในช่วงก่อนหน้านี้ โดยบางเมืองในรัฐนี้ ราคาตกต่ำเกินครึ่ง กลับเริ่มอยู่ตัวแล้ว

สำหรับในรายละเอียดของแต่ละเมืองนั้น เมืองที่ยังตกต่ำหนักสุดในรอบปีได้แก่ นครแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย (ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของโค้ก) ตกต่ำถึง 10.12% รองลงมาคือนครฟีนิก มลรัฐแอริโซนา ตกต่ำถึง 8.3% และนครบัลติมอร์ ที่ตกต่ำถึง 7.0% จะเห็นได้ว่าในเมืองเหล่านี้ เป็นเมืองที่มีการเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์ และราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในอดีต

ในอดีตที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา มีการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านตั้งแต่ปี 2535 จนถึงเดือนเมษายน 2550 และจากนั้นราคาก็ตกต่ำหรือทรงตัวมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ในช่วงที่ราคาขึ้นไม่หยุดนั้น ปรากฏว่า สถาบันการเงิน ปล่อยสินเชื่อถึงอัตราเกือบ 100% ของมูลค่าบ้าน เช่น ที่กำลังดำเนินการกันอยู่ในประเทศไทย และต่อมายังให้กู้ถึง 110% จนถึง 120% จนเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ราคาบ้านตก สถาบันการเงินต่างๆ ก็มีปัญหาตามลำดับ ดังนั้นการปล่อยสินเชื่อกันอย่างประมาทเพียงเพื่อให้ได้ลูกค้าระยะสั้น อาจกระทบต่อสถานะของสถาบันการเงิน และผู้ถือหน่วยลงทุนรายย่อย ประเทศไทยจึงพึงสังวรเป็นพิเศษในประสบการณ์อันเลวร้ายที่ผ่านมาของสหรัฐอเมริกา

ในรายงานนี้ ดร.โสภณ ยังกล่าวว่า เมื่อปี 2531 สหรัฐอเมริกาก็เคยประสบปัญหา วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาครั้งหนึ่ง และใช้เวลาเยียวยาถึง 4-5 ปี ถ้าอ้างอิงจากเวลาดังกล่าว สหรัฐอเมริกา อาจยังต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปีนับจากนี้ในการผ่านพ้นวิกฤติในวันนี้ได้

แหล่งที่มา กรุงเทพธุรกิจ

อยากให้อ่านเรื่องนี้ด้วยครับ



 
ขอบคุณค่ะ


โดย: aree09 IP: 223.206.85.131 วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:8:54:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

girdpol
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




Friends' blogs
[Add girdpol's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.