|
ดร.นิเวศน์ เริ่มลดพอร์ตลงทุน เผยถือเงินสดมากสุดในรอบ 10 ปี
วันนี้ (29 พ.ค.)มหาวิทยาลัยชินวัตร ได้จัดสัมมนาในหัวข้อ”ทิศทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในครึ่งปีหลัง” อดีตผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์ มองหุ้นครึ่งหลังผูกชะตาไว้กับการเมือง ขณะที่ดร.นิเวศน์ เริ่มลดพอร์ตลงทุน เผยถือเงินสดมากสุดในรอบ 10 ปี
โดยดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดหุ้น ให้ความเห็นว่า ปัจจัยการเมืองถือเป็นตัวแปรสำคัญของการงทุนในตลาดหุ้น เพราะยังมีความไม่แน่นอน โดยส่วนตัวได้เพิ่มการถือครองเงินสด 5-6% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะโดยปกติตนจะลงทุนเต็ม 100% ทั้งที่ผ่านมาก็ได้มีการทยอยขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงไปบ้าง แต่ยังไม่ได้ซื้อกลับในช่วงนี้ คงต้องรอภาพการเมืองให้มีความชัดเจนก่อน “สิ่ง ที่ผมกลัวก็คือ เวลานี้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทย และระดับราคาหุ้นในตลาดก็ตอบรับกับความเชื่อ มั่นไปแล้ว แต่หากผลการเลือกตั้งหรือการจัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นไปอย่างที่เค้าเชื่อ ก็น่ากลัว โดยเฉพาะในช่วงใกล้เลือกตั้งและเลือกตั้งเสร็จแล้ว อาจมีเซอร์ไพร้ส์ทำให้คนขายหุ้นออกมาได้ ”
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ.ระนอง อธิการบดี มหาวิทยาลัยชินวัตร และอดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นครึ่งปีหลัง ตัวแปรที่สำคัญก็คือการเมืองในประเทศ ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมาปัจจัยที่ส่งผลกรทบต่อตลาดหุ้นจนมีรงขายออกมาหนักๆ จะมาจากปัจจัยภายนอก
โดยประเมินว่าหลังจากการเลือกตั้งไม่ว่าพรรคใดจะเป็นแกนนำในการจัดตั้ง รัฐบาล เชื่อว่าจะเริ่มเห็นจุดเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคการเมืองส่วนใหญ่จะเน้นการสร้างราย ได้ให้ประชาชน โดยเฉพาะนโยบายการเพิ่มค่าแรง ซึ่งจะทำให้กลุ่มแรงงานมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และก็จะส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศให้สูงขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการแต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ ประกอบกับพรรคการเมืองก็มีนโยบายลดภาษีนิติบุคคลมาเป็นตัวช่วย ซึ่งจะช่วยทุเลาต้นทุนของผู้ประกอบการได้ ทั้งนี้นโยบายลดภาษีก็จะช่วยกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนได้อีกด้วย แหล่งที่มา กรุงเทพธุรกิจ
อยากให้อ่านเรื่องนี้ด้วยครับ |
|
| |
|
|