ร้านซาลัง อยู่แถวๆพญาไท ถ้าจะเิดินทางให้สะดวกสุดคิดว่าน่าจะมาทางรถไฟฟ้า BTS แล้วมาลงที่ สถานีพญาไท ลงทางฝั่งประตู 2 เดินไปเรื่อยๆจะผ่านกรมปศุสัตว์ เดินไปอีกนิดจะเจอ ซอยนึงเป็นทางเข้าของคอนโดมีเนียมใหญ่ๆ ชื่อว่า ปทุมวันรีสอร์ท ซอยนี้แหละเดินเข้าไปเรื่อยๆซักร้อยเมตรได้ จะเจอร้านซาราง อยู่ฝั่งซ้ายมือ

ถ้าจะมาร้านนี้ดูเวลาดีๆนะ เพราะร้านเปิดขาย2 ช่วง รอบเที่ยงและรอบเย็น รอบเที่ยงเริ่มขาย 11โมงเช้า-บ่าย2 และรอบเย็นเริ่มขาย 5โมงเย็น-4ทุ่ม แต่หากมาวันเสาร์-อาทิตย์ก็เปิดทั้งวัน และไม่ต้องมาวันพฤหัสนะจ๊ะ เพราะร้านเค้าปิดทุกพฤหัส

 ร้านนี้เป็นร้านไม่ใหญ่นัก แต่มี 2 ชั้น เสาร์-อาทิตย์นี้คนเยอะเหมือนกันนะ

เมนูมาแล้ว มาดูว่าวันนี้จะสั่งอะไรดีน้าาา.... ปกติมาร้านนี้ หากมากันหลายคนสั่งแบบบุฟเฟ่ต์จะคุ้มมากๆ เพราะ 330 บาทแต่ทานได้ไม่อั้นและยังสั่งพวกข้าวยำbibimbub หรือบะหมี่ซาลังมากินได้ด้วย ซึ่งร้านจะไม่คิดเงินเพิ่มอีกถือว่าอยู่ในชุดบุฟเฟ่ต์

แต่ว่าวันนี้ขอสั่งแบบ A la carte มากินดีกว่า จานแรกเลย ข้าวยำเกาหลี Bibimbab ข้าวเม็ดสั้นๆ เคี้ยวหนุบๆ มีผักต่างๆหลากหลายชนิด ถั่วงอก แครอท เห็ดหูหนู ผักกาดหอม กะหล่ำ สีแดงๆที่เห็นเรียกว่่า "น้ำพริกโคชูแจง" เป็นน้ำพริกสารพัดประโยชน์ที่คนเกาหลีชอบนำมาผสมกับอาหาร

จานที่เห็นนี้เป็นข้าวยำเกาหลีใส่ชีส (ร้านนี้มี Bibimbap แบบ Original, แบบใส่ชีส, แบบใส่ไข่กุ้ง) อร่อยทีเดียวละ เวลากินก็คลุกๆๆๆๆๆ ผสมทุกอย่างที่เห็นให้เละ แล้วค่อยกิน ซึ่งเป็นธรรมเนียมการกินตามสไตล์เกาหลี เค้ามั่ง ชามที่มาเสริฟจะร้อนๆ แบบเพิ่งออกมาจากเตา เราก็คลุกๆๆ เสร็จก็กินกันร้อนๆเลย อร่อยมากครับ ราคาจะเริ่มตั้งแต่ 70-100 บาท

ส่วนชามนี้คือ บะหมี่ซาลัง (Salang Ramen) เป็นบะหมี่คล้ายๆเส้นราเม็งแบบญี่ปุ่น แต่สูตรของร้านนี้ น้ำซุปจะรสชาติกลมกล่อม ซดน้ำหมดชามทุกครั้ง บะหมี่ซาลังจะแบบเพิ่มกิมจิ, เพิ่มชีส , เพิ่มเกี๊ยว ก็ได้มีให้เลือกหลายแบบ ราคาอยู่ระหว่าง 50-70 บาท

 มาดูเครื่องเคียงกันบ้าง มีกิมจิ (Kimchi) อร่อยดีครับ ผักกรอบๆเผ็ดนิดๆ

และก็มีซุปกิมจิ (kimchi Soup) อันนี้จะประกอบด้วยเต้าหูนิ่มๆ รสชาติจะออกเค็มผสมเผ็ดนิดๆ เพราะใส่โคชูแจงด้วย ใครเคยกินกิมจิมาแล้ว แนะนำให้ลองชิมซุปกิมจิดูครับ

ส่วนอันนี้คือสลัดผัก สไตล์เกาหลีครับ ประกอบด้วยผักกาดหอม หอมใหญ่ กระหล่ำซอย คลุกกับเครื่องปรุงหลายอย่าง มีงาขาวโรยด้วยครับ

ลืมบอกไปที่ร้านนี้จะเสริฟเครื่องดื่มเป็นน้ำชาข้าว กลิ่นจะหอมๆของกลิ่นข้าวคั่ว ไม่หวาน แต่ออกรสฝาดนิดๆ

ทุกโต๊ะของร้านนี้จะมีปล่องสำหรับดูดควันไว้ด้วย ใช้ตอนมากินแบบบุฟเฟ่ต์ ปิ้ง-ย่าง เคยคุยกับเจ้าของร้านบอกว่า สั่งปล่องอันนี้นำเข้ามาจากเกาหลีเลย รับรองกินบาร์บีคิว ร้านนี้แล้วหัวไม่เหม็นครับ ฮาฮาฮา

ร้านนี้รู้สึกว่าเจ้าของเป็นคนเกาหลีหุ้นกับคนไทยมั่งครับ และเป็นพ่อครัวเองด้วย บางครั้งมากินบาร์บีคิวที่ร้านนี้ พ่อครัวชาวเกาหลีอาจออกมาช่วยท่านปิ้งเนื้อให้ถึงโต๊ะเลยก็มีครับ เรียกว่าเป็นกันเองกับลูกค้ามากๆ

ที่ร้านมีบัตรสะสมแต้มด้วยครับ เงื่อนไขคือ ทุกๆ 300 บาทจะแสตมป์ 1ดวง ครบ10ดวงรับ อาหารฟรี1จาน ครบ20ดวง รับอาหารฟรี3จาน

โดยรวม อาหารร้านนี้รสชาติจะเข้มข้น ไม่จืดแบบที่ชาวเกาหลีแท้ๆกินกัน เพราะร้านเค้าปรับสูตรอาหารให้เหมาะกับลิ้นของคนไทย
ข้อเสียที่เห็นก็คือ ที่ตั้งร้านไม่ได้อยู่บนถนนสายหลักหรือจุดที่คนทั่วไปจะเห็นได้ง่าย แต่ไปอยู่ในซอย คนเลยยังไม่ค่อยรู้จักร้านเท่าไรนัก