All Blog
เมื่อต้องบินเดี่ยวครั้งแรก....กับการได้พบเนื้อคู่เป็นของแถม (ตอนที่ 1)
ตื่นเต้นมากคะที่จะมาเล่าประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกคนเดียวให้ฟังกัน และการเดินทางครั้งแรกนี้เองที่ทำให้ได้พบกับเนื้อคู่ อิอิอิ.....แต่เรื่องนี้อาจจะมีหลายตอนนิดนึงนะคะ คาดว่าน่าจะไม่เกิน 3 ตอน เพราะเรื่องมันยาวอะ ตั้ง 7 เดือนจะให้จบง่ายๆได้ไงเนอะ

ตอนที่ 1 นี้เป็นจุดเริ่มต้นว่าก้อยต้องบินเดี่ยวได้ไง เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อตอนเดือนมกราคมปี 2005 ผอ.กองที่ทำงานก้อยที่กทม. เรียกก้อยมาบอกว่าจะให้ก้อยไปอบรมที่ญี่ปุ่น 7 เดือน !!!!

หาาาาา 7 เดือน น๊าน นาน .....อบรมอะไรกันเนี่ย.....แต่ก็น่าสนุกนะ ในใจตอนแรกรู้สึกว่าไปม่อยากไปมาก เพราะมีเรื่องต้องจัดการหลายอย่าง เพราะก้อยเพิ่งเรียนจบโทมาได้ไม่นาน และระเบียบของราชการนั้นหากจะไปอบรมต่างประเทศ และเพิ่งหลับมาจากลาเรียนจะต้องกลับมาไม่ต่ำกว่า 10 เดือน นับไปนับมา กว่าจะเดินทางเดือน พฤษภาคม เราก็กลับมาทำงานครบ 10 เดือน พอดีแป๊ะ


ช่วงเวลานั้นก้อยรู้สึกว่าไม่อยากยุ่งยาก ขี้เกียจเดินเรื่อง เอาไว้คราวหน้าดีกว่า เพราะที่ทำงานก้อยมีทุนไปต่างประเทศเยอะ

........แต่แล้วจู๋ๆ วันนึงในช่วงนั้น นอนหลับอยู่ดีๆ ตกใจตื่นขึ้นมาและได้ยินเสียงในหัวตัวเองว่า "ฉันต้องไปญี่ปุ่นครั้งนี้ มันถึงเวลาของฉันแล้ว".........อืมมมมม เป็นลางบอกเหตุอะไรหนอ......

จริงๆ แล้วผอ. จะให้พี่อีกคนนึงไป แต่ติดที่ว่าต้องไปขออนุญาตจาก ผอ.สำนักด้วยตัวเองเพราะว่าเวลาที่จะไปอบรมมันนานมาก ที่ทำงานต้องขาดกำลังคนไป และพี่เค้าไม่กล้าไปเข้าขอผอ.สำนัก แต่ก้อยติดว่าหน้าหนากว่าพี่เค้านิดนึง บากหน้าไปขอเองก็ได้วะ ปรากฎว่าเข้าไปคุยกับท่าน ผอ. สำนัก ท่านอนุญาตให้ไปด้วยดี ผ่านฉลุย และแล้วคนที่ได้ไปอบรมที่ญี่ปุ่นก็เป็นเรา.......อิอิอิ

จากนั้นก็ต้องเตรียมตัวทั้งเรื่องวีซ่า ตรวจร่างกาย เอกสารทุกอย่างพร้อม เย้ .......

แต่ตอนจัดกระเป๋านี่ต้องเป็นระเบียบและมีสตินิดนึงคะ เพราะทางญี่ปุ่นระบุมาว่าให้จัดกระเป๋าเป็น 3 ใบนะจ๊ะท่านผู้เข้าร่วมอบรม
- ใบที่ 1 จะอยู่กับตัวเองที่โตเกียวตอนเดินทางไปถึงระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
- ใบที่ 2 จะถูกส่งไปที่จังหวัดชิกะ ซึ่งเป็นที่เรียนภาษาญี่ปุ่นจ้า ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง
- ใบที่ 3 จะถูกส่งไปที่เมืองคิตะคิวชิว ในจังหวัดฟูกูโอกะ ซึ่งเป็นเมืองที่จะต้องรับการอบรมจนจบคอร์ส

แล้วก้อยก็จัดการจัดกระเป๋าตามที่เค้าแนะนำมาคะ

ทุ้กอย่างเรียบร้อย พร้อมเดินทาง......

แต่ด้วยครั้งนั้นเป็นการเดินทางต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต เคยแต่ไปส่งคนอื่นขึ้นเครื่อง ไปขึ้นเครื่องเองนี่มันจะเป็นไงหนอ ใจตุ้มๆ ต่อมๆ เข้าเช๊คอิน สายการบินไทยทุกอย่างเรียบร้อย กระเป๋าหนักเกินพิกัดไปมากกกกกกก.......แต่เจ้าหน้าที่ใจดี เข้าใจว่าเราจะไปอยู่นาน ก็เลยผ่าน เข้าไปที่ ตม. ก็ฉลุย แล้วก็ไปรอขึ้นเครื่อง ขึ้นไปบนเครื่องก็นั่งไปกับผู้หญิงชาวพม่า เค้าก็น่ารักดีคะ

นั่งไปก็หลับๆ ตื่นๆ คะ พอเครื่องบินร่อนลงจอดไปที่สนามบินนาริตะ ก็ชักจะใจเสียอีกแล้ว นี่ถ้าเราออกไปแล้วไม่เจอเจ้าหน้าที่ที่จะมารับทำไงดีอะ......ฮือฮือ ชักอยากจะร้องไห้ คิดถึงพ่อคิดถึงแม่มาก ในเวลานั้นก็พยามยามทำตัวติดๆ ไปกับหญิงสาวชาวพม่าที่นั่งมาด้วยกัน เพราะเค้ามาญี่ปุ่นบ่อย ก็ใจชื่น เดินตามๆ เค้าไป ขึ้นรถรางเพื่อไปอาคารผู้โดยสารขาเข้า แล้วก็ผ่าน ตม. สบายๆ แล้วก็ไปรอรับกระเป๋าทั้ง 3 ใบ เฮ้อ.....ชีวิตน้อยๆ ต้องลำบากลำบนอะไรอย่างนี้หนอ กลัวก็กลัว

พอเดินออกไปจากประตู ก็ทำให้ได้ยิ้มหน้าบานเพราะเจ้าหน้าที่ทางญี่ปุ่นมารอรับ มีป้ายชื่อ Chalika Noonin Thailand อิอิอิ ดีใจจัง

แล้วเค้าก็พาพวกเราที่มาไฟล์เดียวกันขึ้นรถ Shuttle Bus เพื่อไปโรงแรมที่พัก

การอบรมที่ก้อยไปในครั้งนี้อยู่ในโปรแกรม Local Government Officials Training Program ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมมีทั้งหมดประมาณ 130 คน มาจากหลายประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ ไทย รัสเซีย แม๊กซิโก เยอรมันนี นิวซีแลนด์ มองโกเลีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย

ผู้เข้าอบรมทั้งหมดเป็นข้าราชการจากประเทศนั้นๆ และมีหลากหลายอาชีพคะ และแต่ละคนเมื่อเข้ารับการปฐมนิเทศที่โตเกียวแล้ว ก็จะไปเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันก่อน จากนั้นก็จะแยกย้ายไปอบรมในเมืองต่างๆ ที่เป็นโฮสต์ และในสาขาที่ตัวเองทำงาน เช่น คนที่เป็นหมอก็จะอบรมในโรงพยาบาล คนที่เป็นนักวิจัยในห้องแล็ปก็จะไปทำอยู่ในห้องแล๊ป คนที่เป็นนักดับเพลิงก็จะไปอบรมกับหน่วยงานดับเพลิง ส่วนก้อยทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ก็จะไปอบรมอยู่ที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศที่ศาลาว่าการเมืองคิตะคิวชิว

ไปถึงโรงแรมที่พักแล้วก็มีงานเลี้ยงรับรอง มีเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตไทยมาร่วมด้วยคะ ไปถึงที่ญี่ปุ่นก้อยเจอพี่คนไทยอีกคนนึงที่เข้าอบรมในครั้งนี้ด้วย





และก็มีทริปเล็กๆ ในโตเกียว





เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ต้องเดินทางไปจังหวัดชิกะกันแล้ว พวกเราเดินทางไปด้วยชินกันเซ็นคะ รวดเร็วทันใจ จากโตเกียวแป๊ปเดียวก็มาถึงโอซาก้า จากโอซาก้าพวกเราก็ เดินทางต่อไปถึงที่เรียนภาษาญี่ปุ่นคะ มีชื่อว่า Japan Intercultural Academy of Municipalities (JIAM)

ที่ JIAM นี่บรรยากาศดีน่าเรียนมากเลยคะ อยู่ไม่ไกลกับทะสาป Biwa ซึ่งเป็นทะเลสาปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น




พอไปถึงวันแรกภาระกิจใหญ่ที่ต้องทำคือการทดสอบภาษาญี่ปุ่นเพื่อจัดห้องเรียน ผลออกมาว่าก้อยได้เรียนอยู่ในห้องรองบ๊วยคะ อิอิอิ.....ยังดีที่ไม่บ๊วย.....

หลังเลิกเรียนเกือบทุกวันก้อยก็ออกไปเดินเล่น หรือไม่ก็ปั่นจักรยานไปทั่วเลยคะ ไปเล่นกับเด็กๆ ญี่ปุ่น ได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วย





ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็ออกไปเที่ยวกันคะ ไปเกียวโตบ้าง โอซาก้าบ้าง เพราะอยู่ไม่ไกลกัน








อยู่ที่นี่เราได้รับเงินเดือนจากเมืองที่เป็นโฮสต์คะ และมีการ์ดเงินสดให้ใช้สำหรับกินข้าวที่โรงอาหารใน JIAM สำหรับทุกมื้อ ถ้ามื้อไหนไม่ได้กินเงินก็จะถูกเก็บสะสมไว้ เราก็เอาไปซื้อของอย่างอื่นในร้านค้าที่ JIAM ได้

ที่ JIAM เนี่ยเวลาอาบน้ำเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมาก เพราะห้องน้ำรวมคะ ผู้ชายอยู่ชั้นนึง ส่วนผู้หญิงอยู่อีกชั้นนึง ห้องน้ำเค้าไม่มีกลอนคะ เป็นประตูแบบบานพับ ต้องคอยเอาของมาแขวนไว้ที่ประตู ใครเข้ามาก็จะได้รู้ว่ามีคนอาบน้ำอยู่ ห้องอาบน้ำแบบนี้มีแค่ 3 ห้องเองคะ ต้องรอคิวยาวเหมือนกันกว่าจะได้อาบ แต่หากใจกล้าก็ไปอาบอีกห้องนึงซึ่งเป็นห้องอาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่น เข้าไปปุ๊บก็จะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วก็ต้องถอดออกให้หมดไม่ให้เหลือ แล้วก็เข้าไปในห้องอาบน้ำ ซึ่งต้องไปนั่งอาบน้ำให้สะอาดก่อนแล้วค่อยลงไปแช่ในอ่างน้ำร้อน เหมือนออนเซ็น แหละคะแต่อันนี้ไม่ใช่น้ำแร่ อิอิอิ

ตอนแรกก้อยก็ไม่กล้าไปอาบในห้องใจกล้าคะ แต่พี่คนลาวเค้าชวนไปกันสองคน ตอนนั้นดึกแล้วไม่มีใคร ก้อยก็เลยตกลงใจ ปรากฎว่าไปอาบแล้วติดใจคะ แช่น้ำอุ่นสบายมากกกกก ชอบสุดๆ จนได้ไปอาบในห้องใจกล้าหลายครั้งอยู่ ครั้งหลังๆ ก็ไป แบบเริ่มจะทำใจได้มากขึ้น ไปตอนที่มีคนด้วยน้า ก็เลยทำให้ได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นด้วย อาบน้ำกันไป คุยกันไป ผู้หญิงเหมือนกัน อะไรๆ ก็คล้ายๆ กันทั้งน้านนนน อิอิอิ

เรียนไปที่ JIAM ก็มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งออกไปสัมภาษณ์นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ทั้งแสดงละคร ห้องก้อยได้รางวัลจากการแสดงละครด้วยนะคะ เป็นรางวัลสาขา “ขำสุดๆ” 5555 ขอบอกว่าก้อยเป็นผู้กำกับละครด้วยนะค่า กำกับไปแบบมั่วๆ สไตล์ภาษาญี่ปุ่นห้องรองบ๊วย เพื่อนๆ ห้องก้อยแทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ส่วนใหญ่เป็นคนจีนกับมองโกเลีย ก็มีแต่สาวรัสเซียนี่แหละคะที่คุยกันรู้เรื่องหน่อย เอิ๊กๆๆ








เล่ามาซะตั้งนาน ยังไม่เห็นวี่แววเจอเนื้อคู่เลยใช่ไม๊คะ ช่วงนั้นก้อยก็มีหนุ่มๆ มาแอบส่งตาหวานอยู่น้า มีทั้งหนุ่มแม๊กซิโกกับหนุ่มจีน แต่เรื่องราวจะเป็นไงต่อไปต้องติดตามคะ สนุกแน่ๆ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ รักทุกคนเลยยยยยยย



Create Date : 24 ธันวาคม 2553
Last Update : 4 มกราคม 2554 3:08:12 น.
Counter : 915 Pageviews.

8 comments
  
ตามมาเที่ยวต่อ..

ตอนนี้ญี่ปุ่นหนาวมั๊ยคะ

ดูแลสุขภาพนะคะน้องก้อย
โดย: ป้าลี (Dr.sab ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:3:16:36 น.
  
เข้ามาติดตามตลอด ๆ เลยค่ะ สนุกดี
อ่านตั้งแต่อันแรกเลย เดี๋ยวอ่านต่อ
ลุ้น ๆ อยากเจอเนื้อคู่ด้วย
โดย: หมูหวานน้อย วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:9:39:42 น.
  
แว๊บๆมาอ่านตอนที่ 1 ^^
โดย: wilasinee_kae วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:10:34:20 น.
  
ท่าทางสนุกค่ ได้ไปหลายที่เรยย
โดย: Junenaka1 วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:10:08:47 น.
  
โห พี่ก้อย สอบได้ที่ 1 แบบนี้ สมองล้วนๆ จากับเรื่องวิชาการแบบนี้ อยู่ใกล้กันไม่ได้เลยค่ะ จะหลับท่าเดียว พี่ก้อยใช้ชีวิตคุ้มจัง ได้เดินทาง ได้เจออะไรใหม่ๆ ท่าทางน่าสนุก ไม่จำเจ
โดย: javee วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:11:32:22 น.
  
แวะเข้ามาเยี่ยมนะคะ

โดย: jamaica วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:15:29:59 น.
  
แวะมาทักทายค่ะ และขอตามไปเที่ยวด้วยคน

ได้ไปหลายที่เลย ท่าทางน่าสนุกนะคะ แถมเจ้าของบล็อกยังทั้งน่ารักและเก่งอีกด้วย

ขอชื่นชมค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
โดย: แจ๊ก แม่น้องปลาวาฬ (Lilla bubben ) วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:6:22:27 น.
  
แวะมาอ่านจร้าขออนุญาตฝากเว็บไว้ในอ้อมกอดน้อยๆด้วยนะครับ|เข้าชมเว็บ บิ๊กอายขอบคุณครับ
โดย: bigeye (tewtor ) วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:3:41:45 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Adorable Corazon
Location :
Santiago  Chile

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



สวัสดีคะ ชื่อก้อยนะคะ เกิดปี พ.ศ.2520 คะ จะเรียกพี่เรียกน้องหรือป้าก็ได้นะคะ เพื่อความสนิทสนม อิอิ

ตอนนี้อยู่ที่ชิลีคะ เป็นประเทศที่ไกลจากเมืองไทยที่สุดก็ว่าได้ แต่ด้วยความรักที่คุณสามีมีให้เลยทำให้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ซะไกลขนาดนี้

ยินดีที่รู้จักทุกคนในบล๊อกแกงค์นะคะ เวปนี้มีประโยชน์มากจริงๆ ก้อยได้เรียนรู้หลายอย่างจากเพื่อนๆ ในนี้ ทั้งการทำอาหาร การเย็บผ้า รวมถึงเรื่องน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย รักบล๊อกแกงค์และทุกคนในนี้มากคะ

ขอบคุณจริงๆสำหรับมิตรภาพที่ทำให้อุ่นใจแม้จะอยู่ห่างกันไกลแสนไกล ^_^