Sanook Drive : Chevrolet Cruze 2.0 Diesel LTZ สมรรถนะเหนือชั้น ใครจะเชื่อว่านี่ “ดีเซล“
ปัจจุบันราคาน้ำมันที่แพง ทำให้คนจำนวนมากอาจหาทางออกด้วยการหันไปหาพลังงานทางเลือกที่มีอยู่อย่างมากมาย แต่หนึ่งในหลายหนทางที่เป็นทางออกสำหรับคอประหยัด เครื่องยนต์ดีเซลก็ยังถือเป๋นหนึ่งในทางเลือกที่สำคัญ และปัจจุบันสมรรถนะของมัน ก็ไม่ได้ย่อหย่อนกว่าเครื่องยนต์เบนซินเลย ถ้าพูดถึงรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่มีมากหน้าหลายตาในปัจจุบัน Chevrolet Cruze ถือเป็นหนึ่งในรถที่มีการพูดถึงอย่างมาก ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นแล้แน่นอนมันยังเป็นเพียงไม่กี่รุ่นที่มาพร้อมกับความหรูหรา โดยไม่ใช่รถยนต์ยุโรปราคาแพง และหลังจากที่เราได้สัมผัสเครื่องเบนซิน 1.8 กันไปแล้ว มาวันนี้ เราก็ได้มีโอกาสในการขับขี่รุ่น diesel ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ และยังผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ด้วยล่ะ ภายนอก- ภายใน หรูทันสมัยเหมือนเดิม เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแปลกตาจากคู่แข่งที่พยายามนำเสนอความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและความสปอร์ตแล้ว Chevrolet Cruze จัดว่าเป็นรถที่ประสบความสำเร็จรุ่นหนึ่งด้วยการจับเอาความหรูหรามาผสานกับในส่วนของเทคโนโลยีชั้นนำ ที่ช่วยในการอำนวยความสะดวก ภายนอกเริ่มต้นการออกแบบจับเอาเส้นสายทันสมัยเข้ามาบรรจบในรถคันนี้ กระจังหน้าที่เบิกศักราชใหม่ของค่ายโบว์ไทน์ ด้วยกระจังแบบสองช่องหรือ Dual Port ให้การตอบโจทย์ที่แปลกตาผิดกับรุ่นเก่าอย่างชัดเจน มิติของตัวรถดูมีความเป็นอเมริกันขึ้นมาก แถมยังโดยใจใครหลายๆ คน โดยในรุ่น 2.0 ก็มีความแตกต่างจากรุ่นเบนซินเล็กน้อยเล็กน้อย เช่น ที่จับประตูคิ้วโครเมี่ยม หรือจะเป็นล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ที่จัดมาให้พร้อมสรรพ ภายในห้องโดยสารให้การออกแบบที่เน้นความทันสมัย ด้วยแนวคิดการออกแบบ Dual Cockpit เสริมความหรูหราเข้ามาชัดเจน โดยเฉพาะในรุ่น LTZ ที่ตบแต่งกันอย่างสุดชั้วในเรื่องความหรูหราด้วยหนังในแบบทูโทนน้ำตาล-ดำ ให้อารมณ์ในแบบหรูทันสมัยแอบสปอร์ต เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ตั้งแต่คอนโซลหน้า เบาะนั่งไปยันแผงประตู ตรงหน้าคนขับให้ไมล์เรืองแสงแสดงความสบายตาด้วยโทนแสงสีฟ้า Icy blue เข็มความเร็วสุดที่ 220 ก.ม. บ่งบอกถึงความทรงสมรรถนะของขุมพลังใต้ฝากระโปรงที่ดุดันเร้าใจในการขับขี่อย่างแน่นอน โดยไม่ต้องสงสัยส่วนระบบความบันเทิงก็จัดมาให้อย่างครบครัน ได้เวลาลองขับ สมรรถนะเครื่องดีเซล ต้องเรียกว่าเป็นครั้งแรกของเราในการลองรถเก๋งที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล เพราะส่วนใหญ่วัฒนธรรมบ้านเราก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องยนต์แบบนี้ที่อยู่ในกลุ่มรถนั่งมากนัก เว้นแต่ระอเนกประสงค์ หรือจะเป็นรถกระบะ ที่ใช้งานในเรื่องของการลุยมากกว่า หรือไม่ก็บรรทุกของหนักๆ หลังจากล่ำลา เชฟวี่เรียบร้อย บททดสอบเราก็เริ่มขึ้น กับสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลในรถเก๋ง ที่ใครหลายคนยังสามารถอาจเอื้อมเป็นเจ้าของได้และก็นับเป็นจุดเด่นที่สำคัญ ที่ทำให้ใครหลายคนมามอง Chevrolet Cruze ที่ยังให้ความสดใหม่กว่าคู่แข่ง เมื่อเปิดประตูขึ้นรถ Chevrolet Cruze ต้อนรับเราด้วย ฟังชั่นระบบสัมผัสที่ปลายนิ้ว Keyless Entry ที่ตอบสนองในการในการใช้งานอย่างง่ายดายสำหรับใครทีชื่นชอบความสะดวกสบาย และเมื่อเขาสู่ตัวรถตามโทนการออกแบบน้ำตาล-ดำ มันก็ให้ความรู้สึกที่เหมือนรถยนต์จากยุโรป แถมยังดูลงตัวพอสมควร แม้จะเกิดคำถามในใจว่าทำไมต้องเป็นสีโทนนี้ และไม่สามารถเลือกโทนอื่นได้ สำหรับคนที่ต้องการความแตกต่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันดูค่อนข้างจะสบายตามากพอสมควรเลยทีเดียว ได้เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ การเริ่มต้นการทำงานของ Chevrolet Cruze 2.0 นั้นค่อนข้างง่ายด้วยด้วยระบบปุ่ม push start จัดวางไว้ทางด้านซ้ายมือล่างตรงคนขับ และเพียงกดแล้วปล่อย ขุมพลังดีเซลต้อนรับเราด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากที่เคยได้สัมผัสในกระบะ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซล ใน Chevrolet Cruze ครั้งนี้ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมในแง่ของพละกำลัง ที่ให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 163 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดเองก็ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 360 นิวตันเมตรตอบสนองการขับ ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้การขับขี่สนองต่อความต้องการยิ่งขึ้น ในการพัฒนาเครื่องยนต์ให้สมรรถนะเพิ่มขึ้นมากถึง 10 % ตามคำบอกล่าของเชฟวี่นี้ มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆส่วน ตั้งแต่หัวเผา แรงดันน้ำมัน ไปจนถึงมีการทำการปรับแต่งพอร์ทของอากาศให้สามารถไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น ไปจนถึงถ่วงชุดเพลาเพิ่มความสมดุล ลดอาการสั่นสะเทือน สิ่งที่พูดมานี้คือประเด็นที่ทำให้เรารู้สึกสนใจอย่างมากในการนำ Chevrolet Cruze รุ่นนี้มาสัมผัสอีกครั้ง แต่อย่างที่เรากล่าวว่ารถรุ่นนี้ ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้ในยามรอบเดินเบา นิ่งเตะบนหน้าปัดราวๆ 800 รอบต่อนาที เราพอจะได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ VCDi อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถรับได้ เมื่อเริ่มเคลื่อนรถออกสู่ถนน แรงบิดที่น้อยในรอบต่ำตามนิสัยของเครื่องยนต์ดีเซล ก็เริ่มโชว์พลังด้วยอัตราความเร็วรอบเดินเบาหรือ Walking speed ที่ค่อนข้างเร็วพอสมควร หน้าปัดบ่งผ่านตัวเลขที่ราวๆ 10 ก.ม./ช.ม. ในการเดินทางโดยที่ไม่ต้องเหยียบคันเร่งเหมาะมากสำหรับใครที่ต้องผจญรถติด ในช่วงแรกของการทดสอบเราเน้นในการขับขี่ในเมืองเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งก็มาจากรถยนต์กลุ่มนี้มักจะถูกนำมาใช้ในเมืองสลับกับต่างจังหวัด และเมื่อเราเริ่มเคลื่อนตัวไปผ่านป่าคอนกรีต Chevrolet Cruze ก็สำแดงสมรรถนะออกมาพอสมควร โดยเฉพาะการให้กำลังที่เหมาะสมจากเครื่องยนต์ดีเซล และเมื่อถนนว่างเราลองขับที่ความเร็วประหยัด ช่วยชาติ 90 ก.ม./ช.ม. ได้ รอบเครื่องที่ 1500 รอบต่อนาที่ ซึ่งค่อนข้างต่ำมาก แต่จากการสังเกตระหว่างขับขี่พบว่า กว่าจะขึ้นเกียร์สุดท้ายได้นั้น จะต้องใช้ช่วงเวลาที่นาน ทำให้เรามักพบว่าตัวเองอยู่ที่เกียร์ 5 มากกว่า และไล่อยู่ในช่วง 2-3-4-5 แบบนี้ไปเรื่อย ในเขตเมือง การเดินทางของเราในเมือง โดยส่วนใหญ่จะพบกับรถติดเสียมาก และเรามาสรุปสุดท้ายก่อนออกนอกเมืองที่ปั้มน้ำมันกดเต็มลองดูได้อัตราประหยัด 10.2 กิโลเมตร/ลิตรพอดิบพอดี สำหรับการขับขี่ในเมือง ได้เวลานอกเมือง ดีเซลจัดจ้านจริงๆ หากพูดถึงเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว เจ้าเครื่องยนต์ 2.0 ใน Cruze ดูเหมือนจะถูกปลุกปั้นมาให้กับการขับขี่นอกเมืองเสียมากกว่า ส่วนหนึ่งเนื่องจากพละกำลังที่ค่อนข้างมากของรถรุ่นนี้ทำให้มันทำเรานึกถึงเจ้า corolado 2.8 และ มันก็มีบุคลิกในลักษณะเดียวกัน การขับขี่นอกเมืองนั้นเราตัดสินใจในการเดินทางพาเจ้า Chevrolet Cruze มุ่งสู่ปลายทางราชบุรี เพื่อดูอัตราการขับขี่โดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง "สวนผึ้ง" ช่วงระหว่างทางเราทำความเร็วในการขบขี่ตามการใช้งานจริงในการขับขี่ต่างจังหวัด และที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. เราใช้รอบเพียง 1700 รอบต่อนาที และ ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. เราใช้รอบเครื่อง 1900 รอบต่อนาที เรียกว่าในความเร็วเดินทางจริงไม่ว่าอย่างไร คุณก็จะไม่มีทางทะลุไปที่ 2000 รอบต่อนาที ซึ่งมีส่วนสำคัญในการให้ความประหยัดน้ำมัน การขับขี่ของเราในช่วงทางหลวงนี้ ต้องยอมรับว่า สมรรถนะของ Chevrolet Cruze 2.0 เหลือเฟือ โดยเฉพาะกำลังแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร สามารรถเบ่งกล้าม โชว์สมรรถนะให้เราได้ใช้งานจริง เกือบตลอดการเดินทางยิ่งในช่วงถนน เลนสวนนี้ ยิ่งให้มั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทอร์โบทำงาน มันก็พาเราเร่งอย่างเราเร่งจี๋อย่างนิ่มนวลสู่เบื้องหน้า แต่ก็ไม่ได้พุ่งไปแบบน่ากลัว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดให้การตอบสนองที่ค่อนข้างดี และการมีเหมาะให้สับเปลี่ยนได้ดั่งใจมาให้เลือกเล่นช่วยให้มันตอบสนองได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อยากถนนสองเลน อย่างที่ได้ขับขี่มาในเส้นทางมุ่งสวนผึ้ง แต่สำหรับขุมพลังบล็อคดีเซล เรากลับรู้สึกว่ามันแทบจะไม่จำเป็นเลย โดยเฉพาะเมื่อพละกำลังเครื่องเหลือเฟือเกินใช้งาน ทำให้น้อยครั้งมากที่เราจะผลักไปใช้ระบบ manual mode อย่างจริงจัง สิ่งที่น่าประทับใจใน Chevrolet Cruze อีกประการ คงต้องยกให้ระบบช่วงล่างแบ euro ride ที่ให้ความรู้สึกที่นิ่มนวลและยังให้ประสิทธิการเกาะถนนที่ค่อนข้างดีมาก ยิ่งในยามที่อยู่ถนนที่อุดมไปด้วยหลุมบ่อตามต่างจังหวัดนี้จะชัดเจนมาก เพราะช่วงล่างสามารถซับการกระเทือนของรถจากผิวถนน จนไม่คย่อนอาหารในล้ำไส้จนสำลอกออกมา และขณะเดียวกันในช่วงทางโค้งรถก็ยังสามารถควบคุมการทรงตัวได้ดี มีอาการโยนที่น้อยมาก แล้วด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้มันมีความคล้ายคลึงกับรถยุโรปในหลายๆรุ่น ช่วงระหว่างขับทดสอบเรามีโอกาสได้ทดลองในการขับขี่ความเร็วสูงดูบ้างเล็กน้อย เพื่อดูการตอบสนองของ Chevrolet Cruze ซึ่งในช่วงความเร็วสูงสุดเราสามารถกดได้ 195 ก.ม./ช.ม. และยังสามารถไปได้อีกถ้าถนนด้านหน้าไม่มีการจราจรคับคั่ง ซึ่งในระหว่างที่ทำความเร็งสูงนี้เราสังเกตว่า ช่วงล่างของ Chevrolet Cruze ยังให้ความมั่นใจได้ในการขับขี่ ไม่มีอาการลอยตัวหรือเบา ที่จะทำให้ให้รู้สึกไม่มั่นใจในการขับขี่ และส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าการให้ยางหน้ากว้างนี้ทำให้รถทรงตัวได้ดี และเบรกห้ามล้อได้อย่างมั่นใจ ในยามที่ต้องการ แม้จะใช้ความเร็วในการเดินทางพอสมควรก็ตาม หลังจากที่ได้ขับขี่รถยนต์ Chevrolet Cruze 2.0 ดีเซลมาตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราคงต้องยอมรับว่า นี่คือหนึ่งในรถคอมแพ็คซีดานที่น่าคบหา แต่หลายคนอาจจะมองข้ามมันไป ด้วยราคาที่เคาะขายที่ 1.248 ล้านบาท ซึ่งเทียบชั้นรถซีดานกลางได้หลายๆรุ่น แต่ถ้าคุณมองหาความหรูหราและสมรรถนะที่เปี่ยมในจิตวิญญาณ เราขอแนะนำว่านี่คือรถที่ไม่ควรพลาด..
สรุปผลการทดสอบ Chevrolet Cruze 2.0 ดีเซล (2012) การทำงานของเครื่องยนต์ ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1500 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1700 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1900 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุดระหว่างการทดสอบ 195 ก.ม./ช.ม. อัตราประหยัด ในเมือง 10.2 ก.ม./ลิตร อัตราประหยัด นอกเมือง 14.6 ก.ม./ลิตร ขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง ขอขอบคุร บริษัท เชฟโรเล็ต เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ chevrolet Cruze 2.0
-
- สนับสนุนเนื้อหา
Create Date : 25 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2555 8:34:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5448 Pageviews. |
|
|
|